วันนี้เราจะมาแนะนำที่พักในโอซาก้า ตั้งอยู่ในเมืองฟุเสะ เมืองชนบทท่ามกลางวิถีชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น โรงแรมชื่อว่า SEKAI HOTEL Fuse เป็นโรงแรมรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากโรงแรมโดยทั่วไป จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
ลิงค์เว็บไซต์ของโรงแรม >>
https://www.sekaihotel.jp/area/fuse/
เนื่องจากฟร้อนท์ของโรงแรมและห้องพักจะแยกออกไปตามจุดต่างๆ ซึ่งห้องพักเป็นการปรับปรุงจากอาคารบ้านเรือน หรือโรงงานภายในเมือง เปลี่ยนให้เป็นห้องพักมีสไตล์
ก่อนอื่นๆ ก็ไปเช็คอินที่ฟร้อนท์ก่อนเลย จากนั้นพนักงานก็จะให้บริการพาไปถึงห้องที่พักอยู่เลย ไม่ต้องเดินหาเองให้วุ่นวาย แค่หาฟร้อนของโรมแรมให้เจอเท่านั้น
ระหว่างทางเราจะเดินผ่านย่านชุมชนทั่วไป ตอนแรกที่เดินตามกันไปคือตื่นเต้นมาก ระหว่างทางเดินมาก็ชวนพนักงานคุยนู่นนั่นนี่ เหมือนได้เพิ่มมาอีกคน เป็นกันเองสุดๆ เราว่าที่นี่เป็นที่ที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างๆ ชาติมากๆ ยิ่งดูจากเว็บไซต์แล้วดู Global แต่คงคอนเซ็ปต์ให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชนบทได้อย่างแท้จริง
ถึงหน้าห้องแล้ว!! แค่ทางเข้าก็เก๋แล้ว สไตล์ของโรงแรมจะคล้ายๆ กับที่พักแบบใน Airbnb ไม่ใช่โรงแรมที่เป็นตึกสูง แต่ละห้องจะแยกห่างต่างจุดต่างๆ แบบนี้
ป้ายชื่อโรงแรม สังกะสีเกาะสนิมนี้ เป็นคอนเซ็ปต์ของการตกแต่งของที่นี่รวมไปถึงภายในห้องพัก กับสไตล์แบบ Modern Industrial คือการดึงเสน่ห์ของความเป็นโรงงาน มาใช้ในการออกแบบ เพราะว่าบริเวณเมืองฟุเสะ ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม เป็นเมืองโรงงาน ที่มีโรงงานอยู่มากมายตั้งแต่สมัยโบราณ
ไปดูข้างในกันเลย ซึ่งที่พักที่เราเลือกพักครั้งนี้ก็คือห้องพักแบบส่วนตัว นอนได้ 4 คน มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำส่วนตัว ส่วนโต๊ะอาหาร และส่วนครัว
ลายละเอียดการตกตกแต่งภายในห้องที่เป็นการตกแต่งแบบ Modern Industrial ผนังบางส่วนจะเป็นสังกสี ตัดกับผนังไม้แบบนี้
และไฟที่ถูกใช้ภายในโรงงานตกแต่งให้เข้ากับห้องพัก กับโต๊ะและเก้าอี้
ไปดูส่วนใช้สอยอื่นๆ ภายในห้องกันเลย เริ่มจากส่วนครัวที่ประกอบไปด้วยตู้เย็น อ่างล้างจาน ไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน ฯลฯ ที่มีอำนวยความสะดวกให้พร้อม นั่งทานอาหารสังสรรค์กันที่ห้องก็สะดวก
ส่วนอ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ และห้องน้ำชักโครกจะแยกออกจากกัน ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน พักกกับเพื่อนๆ ก็แบ่งกันใช้แต่ละส่วนได้ จุดนี้สะดวกมากๆ ห้องน้ำก็เป็นชักโครกอเนกประสงค์ แบบอัติโนมัติของญี่ปุ่น
ส่วนอ่างล้างหน้าก็มีแก้วแปรงฟันยาสีฟันให้ฟรีแบบโรงแรมทั่วไป รวมไปถึงไดร์เป่าผม และผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว
ภายในห้องอาบน้ำ มีทั้งอ่างอาบน้ำ และฝักบัว พร้อมกับสบู่ ครีมนวด แชมพู
จากห้องพักหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวด้านนอกได้ชัด ทั้งวิวชนบทที่มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา และ...
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงซากุระบานพอดี ถนนสายต้นซากุระอยู่หน้าห้องพักห้องนี้ของเราพอดี
โดยรวมภายในห้องพักเป็นโทนส้มอบอุ่น ตกแต่งเรียบง่ายแบบมีสไตล์ ซึ่งเพื่อน และเราถูกใจกันมากๆ และเพราะว่าห้องพักแต่ละห้องของที่นี่จะแยกออกไปตามจุดต่างๆ ภายในเมืองฟุเสะ ดังนั้นจะให้ความเป็นส่วนมากๆ ไม่ต้องกังวลห้องข้างๆ เหมือนได้พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองจริงๆ
ออกจากห้องพักกันดูบ้าง ซึ่งนอกจากนี้ถ้าเดินไปตามย่านร้านค้าในส่วนต่างๆ ก็จะเห็นโรงแรม SEKAI HOTEL Fuse กระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกห้องหนึ่งของโรงแรม
ระหว่างเดินอยู่ในย่านร้านค้าก็ให้ความรู้สึกได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นแบบใกล้ชิด เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของคนในเมือง ถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรวมจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ แต่สำหรับคนที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตที่แท้จริงของคนญี่ปุ่นแล้วละก็ เราแนะนำที่พักที่นี่มากๆ
นอกจากห้องพักที่ปรับปรุงตกแต่งจากอาคารบ้านเรือนหรือโรงงานในเมืองแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้สัมผัสวิธีชีวิตขของคนในเมืองอีกด้วย
ซึ่งนั่นก็คือบริการ SEKAI PASS เป็นพาสสุดคุ้มที่สามารถจองแพ็กเกจ หรือซื้อเพิ่มได้ในราคา 1,000 เยน ซึ่งพาสนี้ สามารถใช้เป็นส่วนลดตามร้านค้าต่างๆ ภายในย่านร้านค้าบริเวณรอบๆ โรงแรม หรือรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ มากมายสำหรับผู้เข้าพัก SEKAI HOTEL Fuse ลิสต์รายการร้านที่ร่วมรายการบริการ SEKAI PASS จะได้จากพนักงานตอนเช็คอินค่ะ หรือสามารถสังเหตุได้จากสติ้กเกอร์สัญลักษณ์ของโรงแรม (ในภาพ สติ้กเกอร์สีฟ้าที่ติดยอยู่ที่ตราชั่งค่ะ)
ยกตัวอย่างเช่น ส่วนลดร้านขนมปัง ส่วนลดอาหารทานเล่นตามร้านต่างๆ อย่างเช่นร้านนี้ในภาพคือร้านลูกชิ้นทอดแบบญี่ปุ่นรสชาติต่างๆ กลิ่นหอมโฉยมาแต่ไกล
หรือร้านกาแฟนี้ สำหรับส่วนลดอาหารเช้า ประจำท้องถิ่น
ร้านกาแฟเล็กๆ แบบ Local ที่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ซึ่งนอกจากร้านเหล่านี้แล้วยังมีร้านอื่นๆ ที่ร่วมรายการกับ SEKAI PASS ถามรายละเอียดได้จากพนักงานเลย
เห็นพนักงานบอกว่ามีกิจกรรมพิเศษๆ อีกเพียบอย่างเช่น สอนทำทาโกยากิ ฯลฯ อีกด้วย
ไปเดินดูๆ บรรยากาศรอบๆ ที่พักกันเลยว่านอกจากนี้มีร้านอะไรน่าสนใจบ้าง
อย่างร้านนี้เป็นร้านขายขนมปังแบบปอนด์ หอมน่าทานมากๆ
ร้านชานมไข่มุก Black Tiger ร้านดัง ไปไกลจากห้องพักเราด้วย แวะทานเกือบทุกวันที่พักอยู่เลย ระหว่างที่เราไปร้านกำลังจัดโปรเจคบังทันด้วย แทๆ อยู่หน้าร้านนนน >.<
นอกจากนี้ก็มีทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน ห้างอีออน ร้านอิซากายะ(ร้านนั่งดื่มสไตล์ญี่ปุ่น) ฯลฯ อีกมากมาย
และที่นี่ยังมีศาลเจ้าชื่อดัง “ศาลเจ้าฟุเสะเอบิสุ” เป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพเอบิสุที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่จัดงาน “โทกะเอบิสุ” คือเทศกาลกราบไหว้ “เทพเอบิสุ” จัดขึ้นทุกๆ ปีในวันที่ 9 มกราคม ถึงวันที่ 11 มกราคม เป็นเวลา 3 วัน งานเทศกาลจะมีทั้งร้านค้าแผงลอย บรรยากาศคักคึก
ลิงค์คอนเท้นท์เทศกาลโทกะเอบิสุจาก SEKAI HOTEL Fuse
https://www.sekaihotel.jp/en/articles/toka-ebisu-festival-2020/
ซึ่ง “เทพเอบิสุ” นั้นถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 ที่ผู้คนศรัทธาในฐานะเทพแห่งการประมง เทพแห่งการเกษตร เทพแห่งการค้าขาย และเทพแห่งโชคลาภ ในพื้นที่บริเวณตะวันตกของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบคันไซ นับถือท่านในเรื่องการค้าขายเจริญรุ่งเรือง และเทพแห่งโชคลาภ เพราะฉะนั้นหากใครได้พักมาที่นี่ก็อย่าลืมมากราบไหว้ขอโชคการค้าขายเจริญรุ่งเรืองกันนะคะ
ภายในศาลเจ้ามีอาคารกราบไหว้ และจุดบูชาเครื่องราง ของขลัง
หรือเขียนแผ่นไม้ “เอมะ” แผ่นไม้ขอพรของญี่ปุ่น เพียงเขียนพรลงบนไม้และนำไปแขวนไว้เท่านั้น แผ่นไม้เป็นลายท่านเทพเอบิสุด้วย
การเดินทางและที่ตั้งของ SEKAI HOTEL Fuse
ที่ตั้งของโรงแรม SEKAI HOTEL Fuse นี้ตั้งอยู่ในเมืองฟุเสะ การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งสถานีที่ใกล้โรงแรมมากที่สุด คือ สถานีรถไฟของบริษัทรถไฟคินเท็ตสึ “สถานีฟุเสะ” เดินเท้าจากฟร้อนท์โรงแรมเพียง 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งสะดวกมากๆ
และที่สถานีก็มีรถบัสที่มุ่งหน้าไปเกียวโต หรือนารา ฯลฯ อีกด้วย
เราจะมาแนะนำว่า จากที่พักนี้สามารถเดินทางไปที่ไหนได้บ้าง
เริ่มจากการเดินทางไปยัง "ย่านโดทงโบริ นัมบะ หรือป้ายกูลิโกะ"
สถานีที่ใกล้ย่านนี้จะมีอยู่ 2 สถานีที่สะดวกก็คือ “สถานีนัมบะ” และ “สถานีนิปปอนบาชิ”
ซึ่งจากสถานีฟุเสะใกล้ที่พักสามารถนั่งรถไฟคินเท็ตสึ ตรงมาลงที่ “สถานีนัมบะ”
คือ นั่งรถไฟสายคินเท็ตสึ-นารา จาก “สถานีฟุเสะ” ไป 4 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 9 นาที เพื่อลงที่ “สถานีนัมบะ” จากนั้นเดินไปยังสะพานเอบิสุที่เป็นที่ตั้งของป้ายกุลิโกะโดยใช้เวลาเดินเท้าไปอีกเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
เนื่องจากพื้นที่บริเวณปราสาทโอซาก้านั้นกว้างมากๆ ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะ และลานกิจกรรมต่างๆ มากมาย ดังนั้นจึงสามารถเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้าได้จากหลายทาง และมีหลายสถานีที่อยู่ใกล้เคียง
เราจะยกตัวอย่างการเดินทางไปปราสาทโอซาก้าจากเส้นทางดังนี้
1. เดินทางจาก “สถานีฟุเสะ” ใกล้ที่พัก
2.เดินทางจาก “สถานีนิปปอนบาชิ” ใกล้ย่านโดทงโบริ นัมบะ ป้ายกูลิโกะ
1. เดินทางไป ปราสาทโอซาก้า จาก ที่พัก SEKAI HOTEL Fuse
“สถานีฟุเสะ” ไปยัง “สถานีโมริโนะมิยะ”
ก่อนอื่นก็นั่งรถไฟคินเท็ตสึ สายนารา (Kintetsu-Nara Line) ไป 1 สถานี ไปลงที่ “สถานีซึรุฮาชิ (Tsuruhashi Station) >> จากนั้น ต่อรถไฟเปลี่ยนเป็นรถไฟ JR สายโอซาก้าลูปไลน์ (Osaka Loop Line) นั่งไป 2 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที เพื่อมาลงที่สถานีโมริโนมิยะ (Morinomiya Station) >> และเดินเท้าจากสถานีโมริโนมิยะไปอีกประมาณ 20 นาที
อาจจะไกลแต่ก็ไกลจริงๆ ค่ะ เพราะว่าเขตปราสาทกว้างมาก ระหว่างทางมีรถรางบริการให้ค่ะ ถ้าไม่อยากเดินก็ขึ้นรถรางต่อไปได้
ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที ค่าเดินทาง 270 เยน
หากเดินทางมาลงที่สถานีโมริโนะมิยะ จะได้เดินผ่านสวนสาธารณะ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เดินไปหอคอยปราสาทโอซาก้าท่ามกลางเส้นทางสายต้นซากุระแบบนี้
มีต่อนะคะ
[CR] แนะนำที่พักโอซาก้า SEKAI HOTEL Fuse สัมผัสวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน พร้อมตารางเที่ยวแลนด์มาร์กเด็ดในโอซาก้า
วันนี้เราจะมาแนะนำที่พักในโอซาก้า ตั้งอยู่ในเมืองฟุเสะ เมืองชนบทท่ามกลางวิถีชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่น โรงแรมชื่อว่า SEKAI HOTEL Fuse เป็นโรงแรมรูปแบบใหม่ ที่แตกต่างจากโรงแรมโดยทั่วไป จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
ลิงค์เว็บไซต์ของโรงแรม >> https://www.sekaihotel.jp/area/fuse/
เนื่องจากฟร้อนท์ของโรงแรมและห้องพักจะแยกออกไปตามจุดต่างๆ ซึ่งห้องพักเป็นการปรับปรุงจากอาคารบ้านเรือน หรือโรงงานภายในเมือง เปลี่ยนให้เป็นห้องพักมีสไตล์
ก่อนอื่นๆ ก็ไปเช็คอินที่ฟร้อนท์ก่อนเลย จากนั้นพนักงานก็จะให้บริการพาไปถึงห้องที่พักอยู่เลย ไม่ต้องเดินหาเองให้วุ่นวาย แค่หาฟร้อนของโรมแรมให้เจอเท่านั้น
ระหว่างทางเราจะเดินผ่านย่านชุมชนทั่วไป ตอนแรกที่เดินตามกันไปคือตื่นเต้นมาก ระหว่างทางเดินมาก็ชวนพนักงานคุยนู่นนั่นนี่ เหมือนได้เพิ่มมาอีกคน เป็นกันเองสุดๆ เราว่าที่นี่เป็นที่ที่สะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวต่างๆ ชาติมากๆ ยิ่งดูจากเว็บไซต์แล้วดู Global แต่คงคอนเซ็ปต์ให้แขกผู้เข้าพักได้สัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชนบทได้อย่างแท้จริง
ถึงหน้าห้องแล้ว!! แค่ทางเข้าก็เก๋แล้ว สไตล์ของโรงแรมจะคล้ายๆ กับที่พักแบบใน Airbnb ไม่ใช่โรงแรมที่เป็นตึกสูง แต่ละห้องจะแยกห่างต่างจุดต่างๆ แบบนี้
ป้ายชื่อโรงแรม สังกะสีเกาะสนิมนี้ เป็นคอนเซ็ปต์ของการตกแต่งของที่นี่รวมไปถึงภายในห้องพัก กับสไตล์แบบ Modern Industrial คือการดึงเสน่ห์ของความเป็นโรงงาน มาใช้ในการออกแบบ เพราะว่าบริเวณเมืองฟุเสะ ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรม เป็นเมืองโรงงาน ที่มีโรงงานอยู่มากมายตั้งแต่สมัยโบราณ
ไปดูข้างในกันเลย ซึ่งที่พักที่เราเลือกพักครั้งนี้ก็คือห้องพักแบบส่วนตัว นอนได้ 4 คน มีห้องน้ำและห้องอาบน้ำส่วนตัว ส่วนโต๊ะอาหาร และส่วนครัว
ลายละเอียดการตกตกแต่งภายในห้องที่เป็นการตกแต่งแบบ Modern Industrial ผนังบางส่วนจะเป็นสังกสี ตัดกับผนังไม้แบบนี้
และไฟที่ถูกใช้ภายในโรงงานตกแต่งให้เข้ากับห้องพัก กับโต๊ะและเก้าอี้
ไปดูส่วนใช้สอยอื่นๆ ภายในห้องกันเลย เริ่มจากส่วนครัวที่ประกอบไปด้วยตู้เย็น อ่างล้างจาน ไมโครเวฟ กาต้มน้ำร้อน ฯลฯ ที่มีอำนวยความสะดวกให้พร้อม นั่งทานอาหารสังสรรค์กันที่ห้องก็สะดวก
ส่วนอ่างล้างหน้า ห้องอาบน้ำ และห้องน้ำชักโครกจะแยกออกจากกัน ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน พักกกับเพื่อนๆ ก็แบ่งกันใช้แต่ละส่วนได้ จุดนี้สะดวกมากๆ ห้องน้ำก็เป็นชักโครกอเนกประสงค์ แบบอัติโนมัติของญี่ปุ่น
ส่วนอ่างล้างหน้าก็มีแก้วแปรงฟันยาสีฟันให้ฟรีแบบโรงแรมทั่วไป รวมไปถึงไดร์เป่าผม และผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว
ภายในห้องอาบน้ำ มีทั้งอ่างอาบน้ำ และฝักบัว พร้อมกับสบู่ ครีมนวด แชมพู
จากห้องพักหน้าต่างบานใหญ่ มองเห็นวิวด้านนอกได้ชัด ทั้งวิวชนบทที่มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา และ...
ช่วงที่เราไปเป็นช่วงซากุระบานพอดี ถนนสายต้นซากุระอยู่หน้าห้องพักห้องนี้ของเราพอดี
โดยรวมภายในห้องพักเป็นโทนส้มอบอุ่น ตกแต่งเรียบง่ายแบบมีสไตล์ ซึ่งเพื่อน และเราถูกใจกันมากๆ และเพราะว่าห้องพักแต่ละห้องของที่นี่จะแยกออกไปตามจุดต่างๆ ภายในเมืองฟุเสะ ดังนั้นจะให้ความเป็นส่วนมากๆ ไม่ต้องกังวลห้องข้างๆ เหมือนได้พื้นที่ส่วนตัวของตัวเองจริงๆ
ออกจากห้องพักกันดูบ้าง ซึ่งนอกจากนี้ถ้าเดินไปตามย่านร้านค้าในส่วนต่างๆ ก็จะเห็นโรงแรม SEKAI HOTEL Fuse กระจายอยู่ตามส่วนต่างๆ ซึ่งที่นี่ก็เป็นอีกห้องหนึ่งของโรงแรม
ระหว่างเดินอยู่ในย่านร้านค้าก็ให้ความรู้สึกได้สัมผัสวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นแบบใกล้ชิด เหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของคนในเมือง ถึงแม้ว่าบรรยากาศโดยรวมจะไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ แต่สำหรับคนที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศวิถีชีวิตที่แท้จริงของคนญี่ปุ่นแล้วละก็ เราแนะนำที่พักที่นี่มากๆ
นอกจากห้องพักที่ปรับปรุงตกแต่งจากอาคารบ้านเรือนหรือโรงงานในเมืองแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้สัมผัสวิธีชีวิตขของคนในเมืองอีกด้วย
ซึ่งนั่นก็คือบริการ SEKAI PASS เป็นพาสสุดคุ้มที่สามารถจองแพ็กเกจ หรือซื้อเพิ่มได้ในราคา 1,000 เยน ซึ่งพาสนี้ สามารถใช้เป็นส่วนลดตามร้านค้าต่างๆ ภายในย่านร้านค้าบริเวณรอบๆ โรงแรม หรือรับสิทธิ์พิเศษต่างๆ มากมายสำหรับผู้เข้าพัก SEKAI HOTEL Fuse ลิสต์รายการร้านที่ร่วมรายการบริการ SEKAI PASS จะได้จากพนักงานตอนเช็คอินค่ะ หรือสามารถสังเหตุได้จากสติ้กเกอร์สัญลักษณ์ของโรงแรม (ในภาพ สติ้กเกอร์สีฟ้าที่ติดยอยู่ที่ตราชั่งค่ะ)
ยกตัวอย่างเช่น ส่วนลดร้านขนมปัง ส่วนลดอาหารทานเล่นตามร้านต่างๆ อย่างเช่นร้านนี้ในภาพคือร้านลูกชิ้นทอดแบบญี่ปุ่นรสชาติต่างๆ กลิ่นหอมโฉยมาแต่ไกล
หรือร้านกาแฟนี้ สำหรับส่วนลดอาหารเช้า ประจำท้องถิ่น
ร้านกาแฟเล็กๆ แบบ Local ที่มีเสน่ห์ไปอีกแบบ
ซึ่งนอกจากร้านเหล่านี้แล้วยังมีร้านอื่นๆ ที่ร่วมรายการกับ SEKAI PASS ถามรายละเอียดได้จากพนักงานเลย
เห็นพนักงานบอกว่ามีกิจกรรมพิเศษๆ อีกเพียบอย่างเช่น สอนทำทาโกยากิ ฯลฯ อีกด้วย
ไปเดินดูๆ บรรยากาศรอบๆ ที่พักกันเลยว่านอกจากนี้มีร้านอะไรน่าสนใจบ้าง
อย่างร้านนี้เป็นร้านขายขนมปังแบบปอนด์ หอมน่าทานมากๆ
ร้านชานมไข่มุก Black Tiger ร้านดัง ไปไกลจากห้องพักเราด้วย แวะทานเกือบทุกวันที่พักอยู่เลย ระหว่างที่เราไปร้านกำลังจัดโปรเจคบังทันด้วย แทๆ อยู่หน้าร้านนนน >.<
นอกจากนี้ก็มีทั้งร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน ห้างอีออน ร้านอิซากายะ(ร้านนั่งดื่มสไตล์ญี่ปุ่น) ฯลฯ อีกมากมาย
และที่นี่ยังมีศาลเจ้าชื่อดัง “ศาลเจ้าฟุเสะเอบิสุ” เป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพเอบิสุที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่จัดงาน “โทกะเอบิสุ” คือเทศกาลกราบไหว้ “เทพเอบิสุ” จัดขึ้นทุกๆ ปีในวันที่ 9 มกราคม ถึงวันที่ 11 มกราคม เป็นเวลา 3 วัน งานเทศกาลจะมีทั้งร้านค้าแผงลอย บรรยากาศคักคึก
ลิงค์คอนเท้นท์เทศกาลโทกะเอบิสุจาก SEKAI HOTEL Fuse https://www.sekaihotel.jp/en/articles/toka-ebisu-festival-2020/
ซึ่ง “เทพเอบิสุ” นั้นถือเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งโชคลาภทั้ง 7 ที่ผู้คนศรัทธาในฐานะเทพแห่งการประมง เทพแห่งการเกษตร เทพแห่งการค้าขาย และเทพแห่งโชคลาภ ในพื้นที่บริเวณตะวันตกของญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบคันไซ นับถือท่านในเรื่องการค้าขายเจริญรุ่งเรือง และเทพแห่งโชคลาภ เพราะฉะนั้นหากใครได้พักมาที่นี่ก็อย่าลืมมากราบไหว้ขอโชคการค้าขายเจริญรุ่งเรืองกันนะคะ
ภายในศาลเจ้ามีอาคารกราบไหว้ และจุดบูชาเครื่องราง ของขลัง
หรือเขียนแผ่นไม้ “เอมะ” แผ่นไม้ขอพรของญี่ปุ่น เพียงเขียนพรลงบนไม้และนำไปแขวนไว้เท่านั้น แผ่นไม้เป็นลายท่านเทพเอบิสุด้วย
การเดินทางและที่ตั้งของ SEKAI HOTEL Fuse
ที่ตั้งของโรงแรม SEKAI HOTEL Fuse นี้ตั้งอยู่ในเมืองฟุเสะ การเดินทางที่สะดวกที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟ ซึ่งสถานีที่ใกล้โรงแรมมากที่สุด คือ สถานีรถไฟของบริษัทรถไฟคินเท็ตสึ “สถานีฟุเสะ” เดินเท้าจากฟร้อนท์โรงแรมเพียง 3 นาทีเท่านั้น ซึ่งสะดวกมากๆ
และที่สถานีก็มีรถบัสที่มุ่งหน้าไปเกียวโต หรือนารา ฯลฯ อีกด้วย
เราจะมาแนะนำว่า จากที่พักนี้สามารถเดินทางไปที่ไหนได้บ้าง
เริ่มจากการเดินทางไปยัง "ย่านโดทงโบริ นัมบะ หรือป้ายกูลิโกะ"
สถานีที่ใกล้ย่านนี้จะมีอยู่ 2 สถานีที่สะดวกก็คือ “สถานีนัมบะ” และ “สถานีนิปปอนบาชิ”
ซึ่งจากสถานีฟุเสะใกล้ที่พักสามารถนั่งรถไฟคินเท็ตสึ ตรงมาลงที่ “สถานีนัมบะ”
คือ นั่งรถไฟสายคินเท็ตสึ-นารา จาก “สถานีฟุเสะ” ไป 4 สถานี ใช้เวลาเดินทาง 9 นาที เพื่อลงที่ “สถานีนัมบะ” จากนั้นเดินไปยังสะพานเอบิสุที่เป็นที่ตั้งของป้ายกุลิโกะโดยใช้เวลาเดินเท้าไปอีกเพียง 5 นาทีเท่านั้น
ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle)
เนื่องจากพื้นที่บริเวณปราสาทโอซาก้านั้นกว้างมากๆ ล้อมรอบไปด้วยสวนสาธารณะ และลานกิจกรรมต่างๆ มากมาย ดังนั้นจึงสามารถเดินทางไปยังปราสาทโอซาก้าได้จากหลายทาง และมีหลายสถานีที่อยู่ใกล้เคียง
เราจะยกตัวอย่างการเดินทางไปปราสาทโอซาก้าจากเส้นทางดังนี้
1. เดินทางจาก “สถานีฟุเสะ” ใกล้ที่พัก
2.เดินทางจาก “สถานีนิปปอนบาชิ” ใกล้ย่านโดทงโบริ นัมบะ ป้ายกูลิโกะ
1. เดินทางไป ปราสาทโอซาก้า จาก ที่พัก SEKAI HOTEL Fuse
“สถานีฟุเสะ” ไปยัง “สถานีโมริโนะมิยะ”
ก่อนอื่นก็นั่งรถไฟคินเท็ตสึ สายนารา (Kintetsu-Nara Line) ไป 1 สถานี ไปลงที่ “สถานีซึรุฮาชิ (Tsuruhashi Station) >> จากนั้น ต่อรถไฟเปลี่ยนเป็นรถไฟ JR สายโอซาก้าลูปไลน์ (Osaka Loop Line) นั่งไป 2 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 นาที เพื่อมาลงที่สถานีโมริโนมิยะ (Morinomiya Station) >> และเดินเท้าจากสถานีโมริโนมิยะไปอีกประมาณ 20 นาที
อาจจะไกลแต่ก็ไกลจริงๆ ค่ะ เพราะว่าเขตปราสาทกว้างมาก ระหว่างทางมีรถรางบริการให้ค่ะ ถ้าไม่อยากเดินก็ขึ้นรถรางต่อไปได้
ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที ค่าเดินทาง 270 เยน
หากเดินทางมาลงที่สถานีโมริโนะมิยะ จะได้เดินผ่านสวนสาธารณะ เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิก็จะได้เดินไปหอคอยปราสาทโอซาก้าท่ามกลางเส้นทางสายต้นซากุระแบบนี้
มีต่อนะคะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้