Portrait of a Lady on Fire (2019) - Céline Sciamma
Cast : Noémie Merlant and Adèle Haenel
"If you look at me, who do I look at?"
.
Marianne (Noémie Merlant) จิตกรสาวฝรั่งเศสที่ได้รับการว่าจ้างให้มาวาดภาพ Portrait ของ Héloïse (Adèle Haenel) หญิงสาวที่อยู่ในหมู่เกาะหนึ่งของฝรั่งเศส เพื่อนำภาพวาดนั้นส่งต่อให้กับชายชาวอิตาเลียน ผู้ที่จะเป็นว่าที่สามีของเธอในอนาคต แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิด เมื่อ Héloïse ไม่ต้องการแต่งงานและปฏิเสธที่จะเป็นแบบวาดให้กับจิตกรทุกคน ดังนั้น Marianne จะต้องวาดภาพของเธอผ่านความทรงจำ โดยต้องไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงการมีอยู่ของผลงานชิ้นนี้
.
เมื่อพูดถึงงานศิลปะ เรามักจะถึงภาพวาด ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละภาพนั้นก็มีแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังแตกต่างกันไป บางภาพอาจสื่อถึงตัวตนของผู้วาด บางภาพอาจสื่อถึงสังคมในยุคสมัยนั้น และบางภาพก็อาจซุกซ่อนความทรงจำไว้มากมายภายใต้ฝีแปรงที่กวัดแกว่งไปมา ซึ่งแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้รวมทุกสิ่งอย่างไว้ในผืนผ้าใบนั้นเพียงใบเดียว
.
สำหรับการวาดภาพ Portrait เราอาจคุ้นชินกับการเห็นจิตกรที่เพ่งมองผู้ที่มาเป็นแบบให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแววตา ท่าทาง และลักษณะต่างๆ ทุกรายละเอียดเหล่านั้นต่างก็ซึมซับและอยู่ในสายตายามที่มือของจิตกรจับดินสอและฝีแปรงอยู่เสมอ แต่เราเคยกลับมาตั้งคำถามกับตัวเราเองบ้างไหม ว่าในขณะที่จิตกรกำลังจ้องมองและร่างภาพของคนตรงหน้า คนที่อยู่ตรงนั้นเค้าจะจ้องมองไปในทิศทางไหน - เราชอบการตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมกันในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ให้หรือผู้รับเพียงอย่างเดียว แต่ทั้งสองสามารถมอบสิ่งที่ตัวเองมีและรับในสิ่งที่ตัวเองขาดได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหน หรือมองจากที่ใด ทั้งสองจะอยู่ในระนาบของความสัมพันธ์เดียวกัน นั่นคือรูปแบบของความรักในมุมมองที่หนังต้องการจะสื่อกับเรา
.
เช่นเดียวกัน เมื่อพูดถึงงานศิลปะ ผู้คนอาจหมายรวมถึงภาพวาด บทกวี และดนตรีด้วยเช่นเดียวกัน เราชอบที่หนังเรื่องนี้สื่อถึงการมองงานศิลปะเปรียบได้กับความเป็นนิรันดร์ ทุกลวดลาย เสียงดนตรี และตัวหนังสือที่อยู่ตรงนั้นจะคงอยู่ตลอดไปไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เหมือนความทรงจำของ Marianne กับ Héloïse ที่อยู่ในภาพวาด ในบทเพลง ในทุกหนทุกแห่ง มันคือการฉกฉวยความเป็นนิรันดร์ ความรู้สึก และความเป็นไป ณ ขณะนั้นผ่านงานศิลปะได้อย่างงดงามที่สุด
.
สำหรับเรา หนังเรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้กำกับเท่านั้น ไม่ได้เป็นหนังที่ร้อยเรียงมาเพื่อให้คนดูเป็นฝ่ายจ้องมองเพียงอย่างเดียว แต่ในขณะที่เรากำลังซึมซับไปกับมัน เราเอาความรู้สึกของเราเข้าไปอยู่ในนั้น หนังเรื่องนี้เองก็กำลังจ้องมองและตั้งคำถามกลับมาที่ตัวเราเช่นเดียวกัน
.
ในหลายปีที่ผ่านมา มีหนังดีมากมายที่ได้ดู แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ติดอยู่ในความทรงจำและความรู้สึกเรามากเท่าที่ Portrait of a Lady on Fire ทำได้เลย ทุกอย่างมันงดงามและพริ้วไหวอยู่ในหัวไปมาราวกับภาพวาดไม่มีผิด และหากหนังเรื่องนี้คือภาพวาดชิ้นเอก ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เราจะปล่อยให้มันตั้งวางอยู่ตรงนั้น คงดีไม่น้อยหากคนดูอย่างเราๆได้ซึมซับและเป็นส่วนหนึ่งไปกับมัน หากรอบมาประดับภาพวาดผืนนี้ให้สมกับความงาม แขวนมันไว้บนผนังบ้าน และเฝ้ามองมันให้นานเท่าที่จะทำได้ เพราะความทรงจำ ความรู้สึก และความรักที่เรามีต่อผลงานชิ้นนี้ได้ถูกฝีแปรงวาดทับลงบนผืนผ้าใบเดียวกันเรียบร้อยแล้ว
- Portrait of a Lady on Fire (2019) -
[CR] [Review] Portrait of a Lady on Fire (2019) - ฉกฉวยความเป็นนิรันดร์ผ่านงานศิลปะ
Cast : Noémie Merlant and Adèle Haenel
.
Marianne (Noémie Merlant) จิตกรสาวฝรั่งเศสที่ได้รับการว่าจ้างให้มาวาดภาพ Portrait ของ Héloïse (Adèle Haenel) หญิงสาวที่อยู่ในหมู่เกาะหนึ่งของฝรั่งเศส เพื่อนำภาพวาดนั้นส่งต่อให้กับชายชาวอิตาเลียน ผู้ที่จะเป็นว่าที่สามีของเธอในอนาคต แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายดายอย่างที่คิด เมื่อ Héloïse ไม่ต้องการแต่งงานและปฏิเสธที่จะเป็นแบบวาดให้กับจิตกรทุกคน ดังนั้น Marianne จะต้องวาดภาพของเธอผ่านความทรงจำ โดยต้องไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงการมีอยู่ของผลงานชิ้นนี้
.
เมื่อพูดถึงงานศิลปะ เรามักจะถึงภาพวาด ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละภาพนั้นก็มีแรงบันดาลใจที่อยู่เบื้องหลังแตกต่างกันไป บางภาพอาจสื่อถึงตัวตนของผู้วาด บางภาพอาจสื่อถึงสังคมในยุคสมัยนั้น และบางภาพก็อาจซุกซ่อนความทรงจำไว้มากมายภายใต้ฝีแปรงที่กวัดแกว่งไปมา ซึ่งแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้รวมทุกสิ่งอย่างไว้ในผืนผ้าใบนั้นเพียงใบเดียว
.
สำหรับการวาดภาพ Portrait เราอาจคุ้นชินกับการเห็นจิตกรที่เพ่งมองผู้ที่มาเป็นแบบให้กับตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแววตา ท่าทาง และลักษณะต่างๆ ทุกรายละเอียดเหล่านั้นต่างก็ซึมซับและอยู่ในสายตายามที่มือของจิตกรจับดินสอและฝีแปรงอยู่เสมอ แต่เราเคยกลับมาตั้งคำถามกับตัวเราเองบ้างไหม ว่าในขณะที่จิตกรกำลังจ้องมองและร่างภาพของคนตรงหน้า คนที่อยู่ตรงนั้นเค้าจะจ้องมองไปในทิศทางไหน - เราชอบการตั้งคำถามถึงความเท่าเทียมกันในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นผู้ให้หรือผู้รับเพียงอย่างเดียว แต่ทั้งสองสามารถมอบสิ่งที่ตัวเองมีและรับในสิ่งที่ตัวเองขาดได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหน หรือมองจากที่ใด ทั้งสองจะอยู่ในระนาบของความสัมพันธ์เดียวกัน นั่นคือรูปแบบของความรักในมุมมองที่หนังต้องการจะสื่อกับเรา
.
เช่นเดียวกัน เมื่อพูดถึงงานศิลปะ ผู้คนอาจหมายรวมถึงภาพวาด บทกวี และดนตรีด้วยเช่นเดียวกัน เราชอบที่หนังเรื่องนี้สื่อถึงการมองงานศิลปะเปรียบได้กับความเป็นนิรันดร์ ทุกลวดลาย เสียงดนตรี และตัวหนังสือที่อยู่ตรงนั้นจะคงอยู่ตลอดไปไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เหมือนความทรงจำของ Marianne กับ Héloïse ที่อยู่ในภาพวาด ในบทเพลง ในทุกหนทุกแห่ง มันคือการฉกฉวยความเป็นนิรันดร์ ความรู้สึก และความเป็นไป ณ ขณะนั้นผ่านงานศิลปะได้อย่างงดงามที่สุด
สำหรับเรา หนังเรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา ไม่ใช่เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้กำกับเท่านั้น ไม่ได้เป็นหนังที่ร้อยเรียงมาเพื่อให้คนดูเป็นฝ่ายจ้องมองเพียงอย่างเดียว แต่ในขณะที่เรากำลังซึมซับไปกับมัน เราเอาความรู้สึกของเราเข้าไปอยู่ในนั้น หนังเรื่องนี้เองก็กำลังจ้องมองและตั้งคำถามกลับมาที่ตัวเราเช่นเดียวกัน
.
ในหลายปีที่ผ่านมา มีหนังดีมากมายที่ได้ดู แต่ไม่มีเรื่องไหนที่ติดอยู่ในความทรงจำและความรู้สึกเรามากเท่าที่ Portrait of a Lady on Fire ทำได้เลย ทุกอย่างมันงดงามและพริ้วไหวอยู่ในหัวไปมาราวกับภาพวาดไม่มีผิด และหากหนังเรื่องนี้คือภาพวาดชิ้นเอก ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เราจะปล่อยให้มันตั้งวางอยู่ตรงนั้น คงดีไม่น้อยหากคนดูอย่างเราๆได้ซึมซับและเป็นส่วนหนึ่งไปกับมัน หากรอบมาประดับภาพวาดผืนนี้ให้สมกับความงาม แขวนมันไว้บนผนังบ้าน และเฝ้ามองมันให้นานเท่าที่จะทำได้ เพราะความทรงจำ ความรู้สึก และความรักที่เรามีต่อผลงานชิ้นนี้ได้ถูกฝีแปรงวาดทับลงบนผืนผ้าใบเดียวกันเรียบร้อยแล้ว
ภวังค์หนัง https://www.facebook.com/iLostinfilms/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้