จขกท.ยอมรับเลยว่าเพิ่งมาคิดได้ตอนจบมหา'ลัยทำงานสัก 1-2 ปี กว่าจะคิดได้ก็คงสายไปแล้วกับไขมันสะสมที่ต้นขา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เนื่องด้วยความขี้เกียจ ความไม่สม่ำเสมอ ฝนตก และความปวดเข่าบางครั้งบางคราว ทำให้ไม่สามารถวิ่งได้เป็นวินัย แม้จะมีหลายช่วงที่น้ำหนักลดจาก 70 มันลดลงทีละนิดเหลือ 63 คือช่วงที่ตกงานนานๆ กับ ช่วงที่จขกท.ทำงาน กลับถึงบ้านดึก เหนื่อย ไม่กินข้าวเย็น ช่วงตอนบ่ายๆของการทำงานก็ไม่กินจุบจิบ บางวันก็ออกมาวิ่ง บางวันโยคะง่ายๆแต่ไม่ทำทุกวัน แต่เพิ่งมาสังเกตต้นขาตอนเริ่มทำงานแรกๆค่ะ แต่ก็ชะล่าใจอีก จนมาเป็นแบบนี้
ถ้าอ่านกระทู้ย้อนหลัง จะเห็นว่า จขกท.หันมาเริ่มใส่ใจสุขภาพตัวเอง 🥵แทบตายในแต่ละวันของการวิ่ง ตีแบดฯก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรแค่เหนื่อยน้อยกว่าวิ่ง แต่พอไม่ได้วิ่งมาแค่ 2 วัน😟...
เรารู้สึกมันๆ...ดูอุบาท และอนาถใจกับต้นขาตัวเองจริงๆ แต่เราก็ยังจะวิ่งต่อไปนะคะ
จึงมาถามว่า
เราต้องวิ่งเพิ่มอีกเท่าไหร่ดีคะ, และเรากลัวว่าไอ้ส่วนที่เราทำลูกศรชี้ มันจะกลายเป็นอะไรที่ร้ายแรง ถ้าตามปกติเมื่อคนเราวิ่งบ่อยๆจะมีกล้ามเนื้อขึ้นมา?
แต่ไอ้ตรงที่เราชี้ไป มันจะสลายได้เยอะมั้ย หรือ มันจะกลายเป็นพังพืดซะก่อน หรือกลายเป็นกล้ามเนื้อแข็ง แบบที่ใหญ่อยู่อย่างนั้น กำจัดออกไม่ได้แล้ว?
ทู้นี้อาจจะถือได้ว่า เป็นกระทู้ประจานตัวเอง, ใครก็ได้มาช่วยชี้ทางให้หน่อยค่ะ
ถ้าอ่านกระทู้ย้อนหลัง จะเห็นว่า จขกท.หันมาเริ่มใส่ใจสุขภาพตัวเอง 🥵แทบตายในแต่ละวันของการวิ่ง ตีแบดฯก็ไม่ค่อยได้ช่วยอะไรแค่เหนื่อยน้อยกว่าวิ่ง แต่พอไม่ได้วิ่งมาแค่ 2 วัน😟...
เรารู้สึกมันๆ...ดูอุบาท และอนาถใจกับต้นขาตัวเองจริงๆ แต่เราก็ยังจะวิ่งต่อไปนะคะ
จึงมาถามว่า เราต้องวิ่งเพิ่มอีกเท่าไหร่ดีคะ, และเรากลัวว่าไอ้ส่วนที่เราทำลูกศรชี้ มันจะกลายเป็นอะไรที่ร้ายแรง ถ้าตามปกติเมื่อคนเราวิ่งบ่อยๆจะมีกล้ามเนื้อขึ้นมา?
แต่ไอ้ตรงที่เราชี้ไป มันจะสลายได้เยอะมั้ย หรือ มันจะกลายเป็นพังพืดซะก่อน หรือกลายเป็นกล้ามเนื้อแข็ง แบบที่ใหญ่อยู่อย่างนั้น กำจัดออกไม่ได้แล้ว?