สรุปรวม​สิ่งที่เกิดขึ้นที่​สหกรณ์​โรงพยาบาลตำรวจ

กระทู้สนทนา
ผมได้รับมอบหมายให้ชี้แจงและตอบข้อคำถามแก่สมาชิก​ จะขออนุญาตโพส​ แต่เนื่องจากเรื่องยาว​ จึงขอแบ่งเป็นหลายๆตอน​ ท่านที่มีข้อสงสัย​ ต้องการสอบถามหรือขอข้อมูล​ ผมจะพยายามหามาให้นะครับ

1 เริ่มมีข่าวเกี่ยวสหกรณ์​จำนวนหนึ่งที่ถือหุ้นกู้การบินไทย​ รวมถึงสอ​รพ​ ตร.​ ซึ่งมีหุ้นกู้​ 700​+ล้าน​ เป็นอันดับที่​13
จริงๆแล้วข้อมูลเพจดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน​พอสมควรทั้งสาระและตัวเลข​ แต่ขอไม่เขียนถึงเพราะจะยาวเกินไป
เราลงทุนในหุ้นกู้การบินไทยมาหลายปีพอควร​ ครั้งแรกน่าจะเกือบ​10 ปีแล้ว​ ด้วยเหตุว่า​ การบินไท​ยเป็น​1 ในรัฐวิสาหกิจ​ ซึ่งงกฏหมายอนุญาต​ให้สหกรณ์ลงทุนได้​ ในขณะที่หุ้นกู้เอกชนอื่น​ ลงทุนได้จากประกาศกระทรวง​ เพราะ​กฏหมายมองว่ารัฐวิสาหกิจมีความมั่นคงเพราะเป็นกิจการรัฐ  ไม่สามารถปล่อยให้ล้มละลายโดยผิดนัดชำระหนี้ได้​ ซึ่งจะส่งความเสียหายต่อภาพลักษณ์​รัฐบาล​ ตัวอย่างรัฐวิสาหกิจ​ที่ผลประกอบการไม่ดี​ เช่น​ขสมก​ รฟท. เป็นต้น​ รัฐก็ช่วยเหลือ​แม้กระทั่งค้ำประกันเงินกู้​  คณะกรรมการในอดีต​จึงลงทุนในหุ้นกู้การบินไทย​ โดยมีการซื้อสะสมหลายครั้ง​ ที่ผ่านมา​ก็ไม่เคยเกิดปัญหา​ ได้รับดอกเบี้ยและเงินต้นมาตลอด
เรามีแนวคิดอย่างนึงว่า​ สินทรัพย์​ที่เราไปลงทุน​ จะไม่เกินทุนสำรอง​ เข่นหุ้นกู้บริษัทใดบริษัทหนึ่ง​ หรือเงินให้สหกรณ์ที่ใดที่หนึ่ง​ เพราะหากคิดแบบเลวร้ายที่สุดเกิดสูญเงิน​  ความเสียหายจะถูกรับไว้ด้วยทุนสำรองซึ่งเป็นเงินกองกลาง​ ไม่ใช่เงินหุ้นหรือเงินฝากซึ่งเป็นของสมาชิก

2.  ทันทีที่มีข่าว​เรารู้แล้วว่าจะมีเรื่องของความตื่นตระหนกและการถอนเงิน​ ขึ้นกับว่าความชัดเจนของการบินไทยจะเป็นอย่างไร​  ยิ่งเร็วเรื่องก็จบเร็ว
ขอพูดเรื่องการบินไทยก่อน​ บทสรุปจริงๆ​มี​ 3 ทาง
1เลิกกิจการ​ ผู้ถือหุ้นกู้จะต้องไปขอเฉลี่ยทรัพย์​ ซึ่งคงได้น้อยมาก​ หรือไม่ได้เลย​ อันนี้คือแย่สุด​ แต่อย่างที่เรียนตอนต้นคือลงทุนไม่เกินทุนสำรอง​ ดังนั้นผู้ฝากผู้กู้​ไม่เดือดร้อน
2 เข้ากระบวนการล้มละลาย​ ล้มละลายไม่ใช่เจ๊ง​ แต่เป็นกระบวนการที่เขาเอาบริษัท​ผู้ถือหุ้น​เจ้าหนี้มาคุยกัน​ ว่า​ขอปรับแก้อะไรได้ไหม​เพราะถ้าไม่ปรับมันจะไม่รอด​กลายเป็น​ข้อ1คือเลิกกิจการ​ สิ่งที่ต้องไปคุยกัน  เช่น​ เจ้าหนี้ลดดอกเบี้ยได้ไหม​ ผู้ถือหุ้นเพิ่มทุนได้ไหม​ บริษัทลดคนลดเงินเดือน​ ปรับแผนได้ไหม​ วิธีนี้​ เจ้าหนี้กระทบบ้าง​ แต่ไม่มาก​ เช่น​อาจไม่ได้ดอกเบี้ยซัก​ 2 ปี​ แต่เงินต้นได้คืนครบ​ สมมุติไม่ได้ดอกเบี้ย​ 2 ปี​ ก็รายได้ลด​ปีละ​20​ล้น​ซึ่งไม่กระทบปันผลเลยด้วยซ้ำ​( ปีที่แล้วเรากำไรประมาณ​ 260​ ล้าน​จ่ายปันผล​ 100 ล้าน)​
แบบ3  คือ​รัฐอุ้ม​ ค้ำเงินกู้​ เพิ่มทุน​ อันนี้ไม่เดือดร้อนเจ้าหนี้เลย
ดูแล้วอะไรก็ไม่ได้แย่​ สิ่งที่แย่ที่สุดคือความไม่แน่นอน​ ว่าจะเอายังไง​ ซึ่งเรากลัวสุด
ตอนที่ไม่รู้ว่าจะเป็นแบบไหนนี่ยากสุด​ เราก็ต้องเตรียมรับความตระหนก​ สหกรณ์​มีสินทรัพย์สภาพคล่อง​ เงินสด​  เงินpn  การลงทุนที่เปลี่ยนเป็นเงินสดได้​มากพอควร​ ที่เปลี่ยนไม่ได้เลยน่าจะมีอย่างเดียวคือเงินให้สมาชิกกู้​ เพราะเราคงไม่เรียกเงินกู้สมาชิกคืน
สินทรัพย์อื่นเปลี่ยนเป็นเงินมารับการถอนได้หมดทั้ง​18000​ล้านบาท​ โดยทฤษฎีจึงไม่น่ามีอะไรต้องกังวล​ แต่ในทางปฏิบัติ​ การเปลี่ยนเป็นเงินสดของสินทรัพย์​บางอย่างใช้เวลา​ ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่สำคัญ
ทันทีที่มีข่าว​ เราประเมินว่า​ เรามีเงินให้ถอนได้เรื่อยๆ​ แต่เงินก้อนใหญ่ที่จะมา​ก็คือประมาณสัปดาห์สุดท้ายของเดือน  ถ้าไม่ตื่นตระหนกมาก​ ถึงตอนนั้นก็สบายขึ้นแล้ว​ หรือถ้าแนวทางการบินไทยชัดเจน​ ก็น่าจะดีขึ้น
เราประเมินและวิเคราะห์​สถานการณ์​ทุกวัน​ และพบว่ามีประเด็นปัญหาสำคัญ​ 2อย่าง​ที่ทำให้เราต้องมีมาตรการที่ไม่เคยใช้มาก่อน​ และคงต้องมาอธิบายในที่นี้

3. การปิดระบบเงินatm  แต่เดิมเรามีเงินฝาก​ATMคือ​สมาชิกไปถอนได้ที่ตู้​ ระบบคือสหกรณ์​จะใส่เงินไว้ในบัญชีธนาคาร​ พอสมาชิกกดเงินก็จะตัดบัญชีไปเรื่อยๆ​
ปัญหาคือ​ นอกเวลาทำการหรือเสาร์อาทิตย์​ เมื่อมีคนถอนมากขึ้น​หากเงินหมด​  ก็จะกดเงินไม่ได้​ จะทำให้สมาชิกตื่นตระหนกและเป็นเวลากลางคืน​ไม่มีใครอธิบายตอบคำถาม ซึ่งเราเจอเหตุการณ์​ดังกล่าว​ และคิดว่า​ คงต้องปิดระบบแล้วมาใช้บริการที่เคาน์เตอร์​สหกรณ์​แทน

4.มาตรการจำกัดการถอน​ แม้ว่าเราจะเตรียมเงินพอสมควร​ แต่เราไม่สามารถคาดเดาปริมาณการถอนได้​ หากเกิดมีการถอนมากขึ้น​ และเงินที่เตรียมไว้หมดก่อนปลายเดือน​ซึ่งสินทรัพย์ก้อนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นเงินสดหลักพันล้าน
เรากลัวว่า​ถ้าเงินหมดแล้วหากมีสมาชิกต้องการใช้เงิน​ ก็จะเดือดร้อน​ จึงออกมาตรการว่า  เราจ่ายให้คนละ​3 แสนทุกวันจนครบยอดถอน​ เพื่อที่จะมีเงินพอจนถึงสิ้นเดือน​และคนที่จำเป็นต้องถอนจริงๆ​ ไม่ใช่เพราะตื่นตระหนก​ จะไม่ต้องเสียหายจากการนี้
ท่านที่มาถอนในสัปดาห์ที่แล้วจะทราบว่า​ เจ้าหน้าที่จะถามว่ามีเรื่องเร่งด่วนไหม​ ถ้ามี​ และมีหลักฐานเราก็ยืนดีที่จะให้ถอน​ เราตรวจหลักฐานอย่างละเอียด​และประเมินว่า​ถ้าเขาไม่ได้เงินก้อนนี้เขาจะเดือดร้อนจริงๆ​ ซึ่งมีไม่กี่ราย
การตื่นตระหนกถอนเงินเป็นเรื่องปกติ​ เรามีหน้าที่ที่ต้องหาเงินมาให้สมาชิกถอน​ แต่ถ้ามีความเดือดร้อนจำเป็นจริงๆ​ เราก็คงไม่สามารถดูดายได้

5.ในภาพข่าว​จะเห็นว่ามีคนมาถอนมากพอควร​ แต่ในข้อเท็จจริง​คือ​ มีสมาชิกหลายรายที่ฟังคำชี้แจงก็เปลี่ยนใจ​ บางรายตั้งใจมาถอน​ ฟังเสร็จ​ไปโอนเงินมาฝากสหกรณ์​อีกเป็นหลักล้านบาท​ซึ่งเราก็ไม่คิดว่าจะมีน้ำใจในช่วงนี้​ (น้องเจ้าหน้าที่น้ำตาซึมเลย)​
คณะกรรมการเข้าใจดีถึงความตื่นตระหนกและสิ่งที่เกิดขึ้น​ แต่หลายๆคน​ ทั้งในและนอกรพ.​ยังให้กำลังใจสหกรณ์​อย่างล้นหลาม​ สิ่งที่กรรมการจะทำให้คนที่ยังมั่นคงและไม่หวั่นไหวคือ​การตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก​ประเภทATMและออมทรัพย์​พิเศษ​ เป็น​3.75% โดยมีผลวันจันทร์นี้
เราไม่ได้หวังว่าเอาดอกเบี้ยมาล่อคนที่ถอนไปแล้ว​ แต่กับคนที่เชื่อมั่นกับเราในวันที่ฝนตก​ เราก็มีให้ได้เท่านี้ครับ​ (เดี๋ยวรอประกาศจากประธานจะเอามาแปะครับ)

6 พูดมาเยอะมาก​ คือเพื่ออธิบายปรากฏการณ์​ที่เกิดขึ้น​  ที่นี้จะแจ้งว่า​ เราจะทำอะไรต่อไป​
จริงๆ​แล้ว​ช่วงเวลาที่สำคัญที่พยายามบอกคือต้นเดือน​ เพราะว่า​ เราได้เรียกคืนเงินกู้จากสหกรณ์​ต่างๆ​ กว่า​60​ สหกรณ์​ที่กู้ยืมเรา​ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดี​ ค่าดว่าเงินจะกลับมาในล้อตแรก​ 1-2​ พัน​ล้านบาท​ และตามมาเรื่อยๆ​ จนครบ​ 7​ พันล้านบาท​(จริงๆเราขึ้นดอกเบี้ยด้วยเพื่อเร่งการตัดสินใจ)
เรายังมีตราสารหนี้อีกในportประมาณ​1000​ล้านบาท​ที่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้​ (วันศุกร์มีสมาชิกหลายท่านก็สนใจซื้อ​ เพราะrating​ Aขึ้นไปทั้งนั้น)
ในส่วนของสมาชิกในรพ.​ ทุกคนที่ทราบข่าวก็ยินดีที่จะช่วยเหลือ​ เราเลยเปิดโครงการซื้อหุ้นคนละ​7แสนบาท​ (ปกติเราไม่ได้เปิดโครงการบ่อยนัก)
พอประเมินตัวเลขอละแนวโน้มแล้ว​ ก็เลยไปปรับมาตรการ​ ที่เราทำไว้ดังต่อไปนี้​ (ต่อ)

7. เรื่องการถอนเงิน
เรานับจำนวน​ การคาดการณ์​เรื่องเงินเข้าเงินออกแล้ว​ ขออนุญาตเป็นดังนี้นะครับ
ผู้ที่ถอนสัปดาห์หน้า​ (25พค....)จะได้เงินวันละ​5 แสน​จนครบยอด
ผู้ที่ถอนวันที่​ 1 มิถุนายน​ จะได้ยอดเต็มจำนวน​ตามปกติ​ (เดี๋ยวเอาประกาศมาแปะครับ)​ ขออนุญาต​ให้ทนนิดนึงนะครับ​ อย่างที่บอก​ว่าเราอยากมีเงินพอจนถึงต้นเดือนให้คนที่เดือดร้อน

8. เงินฝากATM  เราจะเริ่มกลับมาใช้ระบบอีกครั้งต้นเดือนมิถุนายนครับ​  ก็เหมือนเดิมทุกอย่าง​
ต้องขอโทษจริงๆครับ​คือเงินฝากATMเนี่ย​ ทำให้สหกรณ์​สะดวกมาก​ ไม่ต้องใช้เจ้าหน้าที่​ พอปิดระบบเลยวุ่นวายไปหมด​ เลยขอเพิ่มดอกเบี้ยเป็น​3.75%  เพื่อเป็นคำขอโทษครับ

มีเพื่อนสมาชิกถามว่าขึ้นดอกเบี้ยช่วงนี้ดีเหรอ
1 คนที่อยู่​ ไม่ถอน​บางคนเขาให้กำลังใจว่า​พี่เชื่อ​ ยังไงก็ไม่ถอน​ คือถ้าสหกรณ์​ไม่ตอบแทนอะไรให้นี่​ ผมจะรู้สึกผิดมาก
2  ผลกำไรเรา​ ปีนี​ผ่านไป​7​เดือน​ ได้​ 170 ล้าน​ น่าจะพอตามเป้าแล้ว​ คิดว่าตอบแทนผู้ฝากบ้างก็ดีครับ

9. ตกไปข้อนึง​ มีสมาชิกผู้ฝากเงินบางส่วนที่อยู่กับเรา​เพราะฝากประจำ​  ถอนไม่ได้​อยู่แล้ว เราเลยจัดโครงการเงินฝาก​ ดอกเบี้ย​4.5%ระยะเวลา​6 เดือนให้​ รายละเอียด​ คนที่ฝากเงินอยู่เดี๋ยวรอประกาศครับ

โพสต์​สุดท้าย​ (แต่ยังตอบคำถามอยู่นะครับ​ และจะเข้ามาทุกวัน)
ผมขอโทษจริงๆ​ที่เกิดความขลุกขลัก​ และลำบากให้สมาชิกทุกท่าน​  พวกเราระลึกเสมอว่าเงินของสมาชิก​ๆ​ ต้องได้รับความมั่นคงและสะดวกสบาย​ มันเป็นเหตุการณ์​ที่ไม่คาดฝัน​ และ​ สิ่งที่เราเตรียมไว้เพื่อรับมือ​ มันยังไม่ดีพอจึงทำให้เกิดความยุ่งยาก​ สมาชิกที่ถอนเงินหรือลาออก​ เราไม่เคยโกรธหรือน้อยใจเลย​ แค่รู้สึกว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่านี้​  ส่วนทานที่ยังอยู่​ เราก็คงดูแลกันไป
ถ้าจะบอกว่าอีก​2 อาทิตย์​ไม่มีอะไรแล้ว​ คงไม่ใช่​ มันยังคงอาจจะขลุกขลัก​อยู่บ้าง​ แต่เดือนหน้าเมื่อไหร่​ เราพร้อมที่จะให้บริการเต็มที่เหมือนที่ทำมาตลอด​17​ปีครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่