ถ้ำธารน้ำแข็งที่สวยงามสุดตระการตา

Crystal Ice Cave



ICE CAVE หรือเรียกกันอีกอย่างว่า ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล หรือ ถ้ำคริสตัล (Crystal Ice Cave) คือ ถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามตระการตาในเมืองสตัฟทาเฟล (Skaftafell) เป็นถ้ำที่เกิดในทะเลสาบแช่แข็งทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull Glacier) โดยถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต แต่เนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย รูปแบบของถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ค่อยแน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ในช่วงฤดูหนาวสภาพภูมิอากาศที่ ไอซ์แลนด์ จะอยู่ที่อุณหภูมิประมาณลบ 25 ถึง 30 องศาเซลเซียส ด้วยสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างหนาวเย็น โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ลักษณะของภูมิประเทศจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล จะได้พบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เรียกกันว่า ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) นับว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งสีฟ้าครามสุดอลังการแห่งหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์

ความโดดเด่นของถ้ำคือ ผนังน้ำแข็งคือก้อนน้ำแข็งสีฟ้าอ่อนเหมือนกับก้อนคริสตัล ที่สามารถมองเห็นได้ภายใต้ผนังถ้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนเราท่องไปในดินแดนพิศวง ธารน้ำแข็งแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำฉากดาวเคราะห์น้ำแข็งในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่อง อินเตอร์สเตลลาร์ ทะยานดาวกู้โลก (Interstellar) ของผู้กำกับสุดแนว คริสโตเฟอร์ โนแลน

เรียบเรียงโดย นางสาวพนัชกร มณีกอง
ขอบคุณภาพจาก shutterstock.com
Cr.https://www.greenlandholidaytour.com/travel-info/ice-cave-ถ้ำน้ำแข็งสุดตระการตา/

Mendenhall Ice Caves


ถ้ำน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ (Mendenhall Ice Caves) ตั้งอยู่ที่เมืองจูโน อลาสก้า สหรัฐอเมริกา เป็นถ้ำที่เต็มไปด้วยธารน้ำแข็งที่สวยงาม ทอดตัวยาวประมาณ 12 ไมล์ เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 1,000 ปีมาแล้วจากน้ำที่ไหลผ่านธารน้ำแข็ง จนทำให้น้ำแข็งบางส่วนละลายสร้างธารน้ำไหลลอดลงสู่โตรกหินข้างล่าง  จุดที่กว้างที่สุดของถ้ำมีความยาวมากกว่าครึ่งไมล์ มีความลึก 300-1,800 ฟุต 

ถ้ำน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ประกอบด้วยก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่ประมาณ 38 ก้อน และขนาดเล็กมากกว่า 100 ก้อน  สถานที่แห่งนี้ยังได้รับการคุ้มครองจากรัฐบาลกลางและเป็นส่วนหนึ่งของธารน้ำแข็ง Mendenhall ในพื้นที่ท่องเที่ยวของ The Tongass National Forest  

สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตระการตานี้ดึงดูดนักเที่ยวนับพันคนต่อปีที่มาเที่ยวชม โดยมีกิจกรรมหลักๆ คือการพายเรือแคนู และเรือคายัค และยังเป็นสถานที่ที่คู่บ่าวสาวจูงมือกันมาเพื่อเก็บภาพที่ระลึกอีกด้วย

แต่น่าเสียดายการเปลี่ยนไปของโลก ทำให้น้ำแข็งในถ้ำแห่งนี้เกิดการละลาย ทำให้ขนาดของน้ำแข็งเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียง 1 ปีถ้ำน้ำแข็งเมนเดนฮอลล์ค่อยๆ ทรุดตัวลงทีละน้อย จนมีขนาดเหลือเพียง 1 ใน 3 ของขนาดเดิม นอกจากนี้สีของน้ำแข็งก็ค่อยๆ เปลี่ยนจากสีน้ำเงินเข้มอมเขียว เป็นสีที่อ่อนลง จนตอนนี้กลายเป็นฟ้า
Cr.ภาพ MTravel 
Cr.http://u-magzz.blogspot.com/2015/03/mendenhall-ice-caves.html / By  happyonholiday

 Eisriesenwelt ice caves


 Eisriesenwelt ice caves ถ้ำน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในภูเขา Hochkogel เมือง Werfen ประเทศออสเตรีย ชื่อของถ้ำแปลว่า โลกของน้ำแข็งยักษ์ ”World of the Ice Giants” และได้ชื่อว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งที่ยาวที่สุดในโลก ด้วยความยาวรวมกว่า 42 กิโลเมตร ซึ่งลัดเลาะไปทั่วหุบเขา

Eisriesenwelt  ในช่วงต้นเกิดจากรอยร้าวเล็กในหินปูนเมื่อกว่า 100 ล้านปี เมื่อช่วงเวลาที่ ภูเขาเกิดการยกตัว จากรอยร้าวเล็กเมื่อถูกขบวนการกัดกร่อนจากน้ำ ปฏิกริยาทางเคมี ทำให้รอยร้าวขยายเป็นถ้ำขนาดใหญ่ และสาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำแข็งภายในถ้ำ เนื่องจาก ภายในถ้ำอากาศสามารถเคลื่อนย้ายหมุนเวียนได้ จาก ปลายถ้ำด้านล่างมีทางเข้าของอากาศ และปลายถ้ำอีกด้านที่อยู่ในระดับสูงระบายอากาศออก (คล้ายผลจากขบวนการที่เกิด กับ ปล่องไฟ ที่อากาศเย็นไหลเข้าด้านล่าง อากาศร้อนไหลออกที่ปลายปล่องไฟด้านบน)

ในฤดูหนาวเมื่ออากาศด้านนอกถ้ำ Eisriesenwelt เย็นกว่าในถ้ำ อากาศเย็นจะไหลเข้าสู่ในถ้ำทำให้อุณหภูมิในถ้ำลดต่ำลงกว่าจะเยือกแข็ง เมื่อถึงฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อนหิมะภายนอกถ้ำจะละลายไหลลงมาตามรอยแยกต่างภาย ในถ้ำเมื่อพบกับอุณหภูมิที่เย็นภายในถ้ำหยดน้ำเหล่านั้นจะค่อยๆก่อตัวเป็น น้ำแข็งงอก น้ำแข็งย้อยภายในถ้ำอย่างงดงาม 

ในปี 1879  Anton Posselt นักธรรมชาติวิทยา ผู้ค้นพบถ้ำแห่งนี้อย่างเป็นทางการและได้นำผลงานการค้นพบและสำรวจของเขาตีพิมพ์ใน Mountaineering ทำให้คนทั่วโลกรู้จักถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม มีนักท่องเที่ยวมาเยือนประมาณถึงปีละ 2 แสนคน
ถ้ำแห่งนี้มีช่วงเวลาที่สามารถเยี่ยมชมได้ตั้งแต่ 1 พฤษภาคม – 26 ตุลาคมของทุกปี  ในแต่ละเที่ยวที่เข้าชมจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
 
ที่มา : สำรวจโลก, kirandulastippek
ภาพจาก eisriesenwelt.at
Cr.http://realmetro.com/eisriesenwelt-ice-caves/
Cr.https://travel.mthai.com/world-travel/47063.html / เรียบเรียงโดย : Travel Mthai

Vatnajokull Glacier


ธารน้ำแข็ง Vatnajokull Glacier  วาตนาเยอคูตล์  ตั้งอยู่ในประเทศไอซ์แลนด์ เป็นธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ใน Vatnajökull มีถ้ำน้ำแข็งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ลักษณะเหมือนคลื่นขนาดยักษ์ ซึ่งเกิดจากความร้อนของน้ำพุร้อนใต้พิภพที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 1000 ฟุต ทำให้ธารน้ำแข็งส่วนล่างละลาย กลายเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ 
 
สำหรับธารน้ำแข็ง Vatnajokull Glacier นั้นเป็นมวลธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่มีขนาดราวๆ 8,200 ตารางกิโลกเมตร และหนาถึง 1,000 เมตร ซ่อนความสวยงามที่สุดในโลกไว้ภายใน ถ้ำน้ำแข็งสุดตระการตานี้เป็นหนึ่งในแหล่งมรดกแห่งชาติของประเทศไอซ์แลนด์ 

 Cr.ภาพ przegladislandzki.p
ที่มา : designyoutrust / dailymail
ขอบคุณที่มา: http://www.xn--12c1bij4d1a0fza6gi5c.com/frozen-beauty-the-look-inside-europes-largest-glacier.html
Cr.https://board.postjung.com/1005020 /  โพสท์โดย ิทาสแมว

"ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี"



ทางตะวันออกของหมู่บ้านหมาตี้โกว ภูเขาหลูหยา มณฑลซานซีของจีน ที่สูงเหนือระดับน้ำทะเล 2,300 เมตร มีถ้ำน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของจีน ประชาชนท้องที่เรียกว่าเป็น "ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี"
ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี ลึกกว่า 100 เมตร ทั้งปีมีอุณหภูมิระหว่างลบ 4-10 องศาเซลเซียส น้ำแข็งจึงไม่เคยละลาย ทำให้ต่างจากโลกภายนอก เวลาที่ภายนอกดอกไม้บานสะพรั่ง นกร้องขับขาน ในถ้ำน้ำแข็งยังเป็นฤดูหนาว น้ำแข็งในถ้ำมีรูปแบบหลาหลาย มีรูปเหมือนเสา เหมือนอหงุ่น เหมือนหน่อไม้ เป็นต้น

ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันวิจัยทางธรณีวิทยาของสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีนกล่าวว่า ถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้ก่อตัวตั้งแต่ช่วงยุคน้ำแข็ง เมื่อประมาณ 3 ล้านปีก่อน จึงถูกขนานนามว่า “ถ้ำน้ำแข็งหมื่นปี”
แม้ว่ามีนักวิทยาศาสตร์มากมายเคยมาสำรวจสาเหตุที่เกิดถ้ำน้ำแข็งนี้ แต่ยังไม่สามารถไขความลับได้ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งก็คือ ระยะทางเพียงไม่กี่ร้อยเมตรจากถ้ำน้ำแข็ง มีสภาพที่ถ่านหินเผาไหม้เอง มีอุณหภูมิสูงกว่า 300 องศาเซลเซียส เหมือนกับเตาธรรมชาติขนาดใหญ่ การที่มีทั้ง "ถ้ำน้ำแข็ง" และ "เตาธรรมชาติขนาดใหญ่" อยู่ใกล้กันขนาดนี้เป็นสภาพทางธรรมชาติที่หายากจริงๆ
Cr.ภาพ /kr.xinhuanet.com/
Cr.http://thai.cri.cn/247/2016/04/10/234s241316.htm

 Kamchatka


 ถ้ำคัมชัตคา (Kamchatka Cave) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรคัมชัตคา คาบสมุทรทางภาคตะวันออก ของประเทศรัสเซีย
คัมชัตคา เป็นถ้ำน้ำแข็งที่มีลักษณะเป็นอุโมงค์ยาวใต้เขตภูเขาไฟ โดยถ้ำตั้งอยู่ระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean) กับทะเลโอค็อตสค์ (Sea of Okhotsk) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งหนึ่งของมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก นับเป็นอีกหนึ่งถ้ำน้ำแข็งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
 
จุดเด่นของที่นี่คือ “อุโมงค์น้ำแข็ง” มีความยาวเกือบ 1 กิโลเมตร เกิดขึ้นจากความร้อนใต้พิภพของน้ำพุร้อนที่ไหลผ่านทุ่งน้ำแข็ง ซึ่งอยู่ใกล้กับภูเขาไฟมัทโนฟสกี หลอมละลายธารน้ำแข็งในบริเวณดังกล่าว จนทำให้ให้เกิดโพรงหรืออุโมงค์ที่มีผนังเพดานถ้ำที่บางเฉียบ จนแสงสามารถทะลุผ่านเข้ามาได้ เกิดเป็นการกระจายแสงที่ให้สีสันต่างกัน ดูเผินๆเหมือนเหล่าก้อนเมฆนิ่มๆที่ถูกย้อมสีให้เป็นสีม่วงฟ้าหรือแดง แต่ความจริงแล้วก็เป็นผนังน้ำแข็งๆทั่วไป ซึ่งในฤดูร้อนน้ำแข็งจะละลาย กลายเป็นถ้ำที่มีน้ำจากทะเลสาบไหลพัดผ่าน

ปัจจุบันถ้ำคัมชัตคา ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในทุกๆปีจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศเดินทางมาท่องเที่ยวผจญภัยในถ้ำน้ำแข็งแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย
ที่มา : tnnthailand
ข้อมูลและภาพ : wiki / travel.thaiza.com / mymodernmet.com / snowaddiction.org  / 2.bp.blogspot.com/
เรียบเรียงโดย Travel MThai 

Cr.https://news.tlcthai.com/world/925308.html
Cr.https://travel.mthai.com/world-travel/90986.html

ถ้ำน้ำแข็ง“แก้วโกมล”



(เพริศแพร้วมณีบุปผา)
ถ้ำแก้วโกมล เป็นถ้ำที่ค้นพบด้วยความบังเอิญโดยวิศวกรชาวไทย เป็นถ้ำผลึกแคลไซต์ ที่ประกอบด้วยหินในตระกูลคาร์บอเนต ชนิดแอนไฮดรัสคาร์บอเนต ที่มีความใสกาวบริสุทธิ์มีรูปลักษณ์หลากหลายลักษณะ มีรูปผลึกอยู่ในระบบสามแกนราบ ส่วนใหญ่เป็นรูปหกเหลี่ยมยาวยอดแหลมหรือรูปสี่แหลมขนมเปียกปูน มีแนวแตกเรียบที่สมบูรณ์ 3 แนว

เป็นสิ่งที่พบได้ยากในธรรมชาติ เพราะต้องมีองค์ประกอบที่ครบทั้ง หินปูน ไอน้ำร้อนที่ได้จะน้ำพูร้อนธรรมชาติ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ไอสารละลายแคลเซียมไบคาร์บอเนตที่กลั่นตัวในอุณหภูมิสูงสุดและต้องอิ่มตัวในอุณหภูมิที่ต่ำสุด  ภายในถ้ำจะมีผลึกแร่แคลไซค์ที่มีลักษณะคล้ายเกล็ดหิมะ มีที่มาว่า ถ้ำน้ำแข็ง ภายในถ้ำจะแบ่งเป็นหลายห้องแต่ละห้องจะอยู่ถัดกันไปตามความลึกของถ้ำภายในถ้ำจะค่อนข้างชัน

ถ้ำแก้วโกมลนี่จัดว่าเป็นถ้ำที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในถ้ำผลึกแร่แคลไซต์ที่ค้นพบเพียง 3 แห่งทั่วโลก คือพบที่ ประเทศจีน ประเทศออสเตรเลียและประเทศไทย  
เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2544 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรและได้พระราชทานนามว่า "ถ้ำแก้วโกมล" นอกจากนี้ยังพระราชทานนามให้กับถ้ำย่อยๆ ทั้ง 5 ห้องที่อยู่ภายในด้วย โดยมีชื่อเรียกว่า ห้องพระทัยธาร, ห้องวิมานเมฆ, ห้องเฉกหิมพานต์, ห้องม่านผาแก้ว และห้องสุดท้ายที่งดงามที่สุดคือ ห้องเพริศแพร้วมณีบุปผา

ม่านผาแก้ว


เฉกหิมพานต์


วิมานเมฆ


ถ้ำแก้วโกมลโด่งดังเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็วในชื่อ "ถ้ำน้ำแข็ง" เมื่อทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดให้เป็นหนึ่งในอันซีนไทยแลนด์ (ชุด2) 

ขอบคุณที่มา : emaginfo.com , ภาพจาก : atcloud.com, thainorthtour, tourismthailand 
Cr.https://travel.mthai.com/blog/115878.ht
Cr.ภาพ https://www.scimath.org/image-earthscience/item/11006-2019-10-29-04-19-21
Cr.https://mgronline.com/travel/detail/9500000126712 /  โดย: MGR Online
 

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่