มิตรรัก นักแฟนตาซี : EP 43 รัฐไฟเขียว พรีเมียร์พร้อมเตะ เจาะรายละเอียดครบที่นี่!

ถือเป็นช่วงสัปดาห์ที่มีความคืบหน้าเรื่องการกลับมาเตะเป็นอย่างมากสำหรับศึกพรีเมียร์ลีกซีซัน 2019/20 ที่ค้างคาอยู่ แม้จะยังมีข้อกังวลในบางเรื่อง ซึ่งต้องหาทางออกกัน แต่นับถึงจุดนี้ โอกาสที่จะกลับมาแข่งต่อ ถือว่าสูงลิบแล้ว

รายละเอียดต่างๆ กับการกลับมาเตะมีอะไรกันบ้าง เราจะพาคุณย้อนไปสรุปกันครบถ้วนตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ

ประกาศรัฐบาลอังกฤษ

หลังมาตรการล็อคดาวน์กำหนดการแรกใกล้หมดลง ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษ นำโดยนายกรัฐมนตรี “บอริส จอห์นสัน” ออกมาประกาศ “สเต็ป 2” ของมาตรการเมื่อวันที่ 10 พ.ค. โดยมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับพรีเมียร์ลีก ประมาณนี้

รัฐบาลอังกฤษ ออกมาแถลงมาตรการผ่อนปรนสเต็ป 2 ที่กีฬาพร้อมกลับมาแข่ง มิ.ย. นี้

รัฐบาลประกาศว่า จะไม่มีการแข่งขันกีฬาใดๆ จนกว่าจะถึง 1 มิ.ย. ซึ่งจะเริ่มมาตรการผ่อนปรนสเต็ปที่ 2 อนุญาตให้กีฬากลับมาแข่งขันกันได้ ภายใต้สถานที่ปิด ไม่มีผู้ชมเข้ามามีส่วนร่วม

การประกาศนี้ เป็นไปตามที่คาดการณ์ของสื่อก่อนหน้านี้ เพราะพรีเมียร์ลีกได้เตรียมการกลับมาเตะกันในเดือน มิ.ย. กันเบื้องหลังอยู่แล้ว เมื่อมีการยืนยันเป็นทางการ พวกเขาก็สามารถหารือกับสมาชิก และกำหนดรายละเอียดขั้นต่อไปสู่สาธารณชนได้ทันที

การประชุมพรีเมียร์ลีก 11 พ.ค.

หลังมีการประกาศมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาล พรีเมียร์ลีกเรียกสมาชิกประชุมทันที และมีรายละเอียดเปิดเผยออกมาซึ่งเห็นความคืบหน้าชัดเจนยิ่งขึ้น ตามนี้

แนวทางซีซัน 2019/20

สมาชิกมีความเห็นตรงกันว่าจะกลับมาแข่งขันต่อให้จบ โดยไม่มีการ “โมฆะ” อย่างแน่นอน และไม่มีการพูดถึงการแข่งขันที่ไม่มี “เลื่อนชั้น-ตกชั้น” ในบั้นปลาย อย่างที่หลายสื่ออ้างว่าทีมที่ไม่เห็นด้วยในการเล่นสนามกลาง จะยอมอ่อนข้อ หากไม่มีการตัดสินเรื่องตกชั้น

สมาชิกพรีเมียร์ลีก ต่างเห็นตรงกันว่าจะกลับมาแข่งขันต่อให้จบ ไม่มีโมฆะ และมีเลื่อนชั้น-ตกชั้น

นอกจากนั้น พรีเมียร์ลีกยังยอมรับว่ามีการพูดคุยถึงประเด็นการ “ตัดจบ” ด้วย เพียงแต่จะไม่ถูกนำมาใช้แน่นอน หากไม่ถึงทางตันจนไม่สามารถกลับมาเตะซีซันนี้ต่อให้จบ

โดยหากวิธีการตัดจบต้องถูกนำมาใช้จริงๆ พรีเมียร์ลีกจะหาวิธีที่แฟร์ที่สุด ในการตัดสินอันดับ, โควตา และการเลื่อนชั้น-ตกชั้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อทีมที่เกี่ยวข้อง และการเลือกใช้วิธีต้องสอดคล้องกับสิ่งที่ยูฟ่ามีแม่แบบไว้ อีกด้วย

ศึกหนีตาย คงต้องแข่งขันกันจนจบโปรแกรม ให้รู้ผลกันไป

พรีเมียร์ลีกมีเวลาถึง 25 พ.ค. เพื่อยืนยันกับทางยูฟ่าเกี่ยวกับการสรุปซีซัน 2019/20 ว่าจะแข่งขันต่อ หรือจะตัดจบ แล้วมีมาตรการตัดสินอันดับต่างๆ อย่างไร

การลงเล่นสนามกลาง

ยังไม่มีการโหวตลงเสียงในการประชุมครั้งนี้ แต่พรีเมียร์ลีกก็เปิดช่องว่าพวกเขาจะเป็นสื่อกลาง ในการเตรียมความพร้อม และวิธีการ ที่จะนำเสนอกับรัฐบาล หากสมาชิกมีมติไม่เห็นด้วยกับการแข่งขันในสนามกลางที่กำหนด

โอกาสที่จะไปเตะกันในสนามกลางอย่างเวมบลีย์ น่าจะไม่ผ่านเสียงโหวตซะแล้ว

โดยการโหวตของพรีเมียร์ลีก หากมติสำคัญจะผ่านที่ประชุม ต้องการเสียง 14 จาก 20 เสียง เพื่อทำให้โหวตนั้นเป็นเอกฉันท์

ซึ่งกระแสข่าวก่อนหน้านี้ มีทีมในโซนล่างประมาณ 6 ทีม ที่ไม่เห็นด้วยกับการแข่งขันสนามกลางตั้งแต่แรก และในระยะหลัง มีข่าวว่าจำนวนทีมที่ไม่เห็นด้วย เพิ่มจำนวนขึ้นกว่าเดิม ซึ่งนั่นจะทำให้มตินี้ไม่ผ่านค่อนข้างแน่

สัญญานักเตะที่สิ้นสุด มิ.ย.

อีกประเด็นสำคัญที่หลายทีมกังวล พรีเมียร์ลีกไม่ได้มีแนวทางที่แตกต่างจากฟีฟ่านัก โดยพรีเมียร์ลีกอนุญาตให้มีการเจรจาขยายสัญญาระยะสั้น (เช่น จนกว่าซีซัน 2019/20 จะแข่งจบ) ระหว่างสโมสร และนักเตะที่จะหมดสัญญาเดือน มิ.ย. ได้ ซึ่งหากยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย ก็ไม่มีปัญหา (ไม่สามารถบีบบังคับได้)

ซิลบา, อิกาโล่, วิลเลี่ยน, แฟร์ทองเก้น 4 ตัวอย่างที่สัญญากับทีมจะหมดลง มิ.ย. นี้

โดยสโมสรต้องดำเนินการในส่วนนี้ ภายใน 25 มิ.ย. ทั้งในเรื่องการตกลงสัญญา, เซ็นสัญญา และแจ้งให้พรีเมียร์ลีกทราบ เหมือนเป็นการลงทะเบียนให้ถูกต้อง

ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด

ประเด็นนี้ ถูกหยิบยกมาพูดตั้งแต่ต้นในเรื่องการไม่กลับมาเตะ จะกระทบอะไรบ้างต่อพรีเมียร์ลีก หรือสโมสร ซึ่งล่าสุดพรีเมียร์ลีกก็ได้แจ้งต่อสมาชิกอย่างเป็นทางการ ว่าถึงกลับมาเตะครบตามโปรแกรม ก็ต้องเสียค่าชดเชยในระดับยอดรวมประมาณ 340 ล้านปอนด์

ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในและนอกประเทศอังกฤษ เป็นเม็ดเงินสำคัญที่กระทบรายได้ทุกทีม

แต่หากไม่สามารถกลับมาแข่งต่อจนต้องตัดจบ เม็ดเงินที่ต้องชดเชยจะสูงขึ้นไปเกินกว่า 750 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นความเสียหายใหญ่ขึ้นของทุกสโมสร อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ซึ่งการระบุตัวเลขกันชัดเจนแบบนี้ ก็เป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้ ว่าพรีเมียร์ลีกมีการขู่ฮึ่มๆ ต่อสมาชิกที่ออกอาการงอแงไม่อยากกลับมาแข่งต่อ ซึ่งการเปิดทางจะกลับมาเตะแบบเหย้า-เยือนปกติ และการพูดถึงตัวเลข น่าจะเป็นเครื่องการันตีว่าอยากให้กลับมาเตะให้จบไปซะดีกว่า

กำหนดการต่อจากนี้

ถึงการประชุมวันที่ 11 พ.ค. จะยังไม่มีการฟันธงรายละเอียด แต่ก็มีกรอบแนวคิดหลักออกมาชัดเจนแล้ว กำหนดการต่อไป จึงเป็นเรื่องของรายละเอียดที่จะเวิร์คให้มันได้อย่างที่คาดหวัง

ความปลอดภัย และลดความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโควิด-19 เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องหารือละเอียด

13-14 พ.ค.​
สมาคมนักเตะอาชีพ และสมาคมผู้จัดการทีม จะหารือสมาชิกในสังกัด เกี่ยวกับมาตรการทางการแพทย์ เพื่อป้องกันสวัสดิภาพ สุขภาพ และลดความเสี่ยง ก่อนจะไปหารือต่อกับพรีเมียร์ลีก

14 พ.ค.
การพูดคุยระหว่างผู้อำนาจฝั่งรัฐบาล และด้านฟุตบอล เกี่ยวกับการกลับมาเตะ และมาตรการ

18 พ.ค.
การประชุมสมาชิก 20 ทีมของพรีเมียร์ลีก ครั้งต่อไป ซึ่งจะเห็นอะไรเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น

18 พ.ค.
กำหนดการเร็วที่สุด ที่ทีมต่างๆ จะให้นักเตะกลับมารวมทีมซ้อม โดยยังคำนึงถึงมาตรการ Social Distancing

คาดว่าหลังจาก 18 พ.ค. ทุกทีมจะกลับมาซ้อมแบบกลุ่ม เพื่อเรียกความฟิตให้พร้อมแข่ง

25 พ.ค.
กำหนดการที่ลีกประเทศต่างๆ ต้องแจ้งต่อยูฟ่า ในการหาทางออกของซีซัน 2019/20

12 มิ.ย.
หลังเข้าสู่เดือน มิ.ย. ซึ่งรัฐบาลเปิดไฟเขียว และระยะเวลาการกลับมาซ้อมเรียกความฟิต 12 มิ.ย. จึงน่าเป็นกำหนดการที่กลับมาแข่งขันโปรแกรมที่เหลืออีก 9-10 นัด

แวะดูลีกอื่น

ลีกเยอรมันดูจะเป็นลีกแรกในบรรดาลีกชั้นนำ ที่กลับมาเตะเป็นรูปเป็นร่าง โดยกำหนดการที่บุนเดสลีก้า และลีก้า 2 จะกลับมาเตะคือสุดสัปดาห์นี้ โปรแกรมแข่งขัน และโปรแกรมถ่ายทอดสดถูกเตรียมไว้หมดแล้ว

“ดินาโม เดรสเด้น” ทีมในลีก้า 2 ซึ่งทำให้การกลับมาเตะในเยอรมันเสียวๆ อยู่

อย่างไรก็ดี มีเรื่องหวาดเสียวเล็กน้อย เมื่อมี 2 นักเตะดินาโม เดรสเด้น ทีมในลีก้า 2 พบผลตรวจเป็นบวก หลังกลับมาซ้อมร่วมทีมได้ 2 เซสชั่น ส่งผลให้นักเตะเดรสเด้นต้องถูกกักตัว 14 วันทันที และกระทบต่อตารางกลับมาเตะของพวกเขา

ข้ามไปฝั่งสเปน พวกเขาเตรียมกลับมาแข่งขันโปรแกรมลา ลีก้า และเซกุนด้า กันในเดือน มิ.ย. โดยตอนนี้มีการเริ่มมาตรการตรวจคัดกรองก่อนที่จะเริ่มกำหนดการซ้อม และแข่งขันต่อไป ซึ่งผลปรากฏว่ารวมกัน 2 ลีก พบนักเตะติดเชื้อ 5 ราย ซึ่งต้องกักตัวกันต่อไป

ในสเปน เริ่มมีมาตรการตรวจเชื้อนักเตะ และผู้เกี่ยวข้องในลา ลีก้า และเซกุนด้า ลีกรอง

ด้านอิตาลี ก็เริ่มกลับมาซ้อมที่ศูนย์ฝึกของสโมสรกันแล้วหลายทีม โดยยังยึดมาตรการ Social Distancing ไว้ คาดว่ากัลโช่ เซเรีย อา จะกลับมาเตะ มิ.ย. เช่นกัน

วิเคราะห์นักเตะทีเด็ด

ผู้รักษาประตู
เกปา อาร์ริซาบาลาก้า (เชลซี / 5.4 ล้านปอนด์)


เดดไลน์สุดท้ายที่ถูกกำหนดจากโปรแกรมเดิม (หลังจากนี้ต้องติดตามประกาศ FPL) ขอส่งท้ายแนะนำนายด่านกระทิงดุ ซึ่งแม้ซีซันนี้ฟอร์มจะดร็อปลงไป และมีช่วงถูกเบียดเป็นสำรอง แต่จังหวะการเซฟก็ยังพอไปวัดไปวาได้ ยิ่งกับโปรแกรมที่เหลือไม่โหดเกินไป ถือว่าน่าสนใจ

กองหลัง
วิลลี่ โบลี่ (วูล์ฟ / 4.8 ล้านปอนด์)

เซ็นเตอร์ตัวเก๋า กลับมายึดตัวจริงได้ทันทีหลังจากบาดเจ็บไปพักใหญ่ และสามารถทำให้ “หมาป่า” เก็บคลีนชีต 4 ครั้งจาก 5 นัด ฟอร์มที่แข็งแกร่ง บวกกับการมีลุ้นขึ้นมากดดันลูกตั้งเตะตลอด ทำให้โปรแกรมที่เหลืออยู่ โบลี่ราคาสมเหตุสมผล น่ามีไว้ติดทีม

กองกลาง
อัลแล็ง แซ็งต์-แม็กซิแม็งต์ (นิวคาสเซิล / 5.4 ล้านปอนด์)

ตัวรุกความเร็วปรู๊ดปร๊าด มีปัญหากับความคงเส้นคงวากับซีซันแรกบนเกาะอังกฤษอยู่บ้าง แต่ทุกอย่างดูเข้าที่เข้าทางขึ้นเยอะในระยะหลัง ความเข้าขากับเพื่อนร่วมทีม และประตูก็เริ่มมา กับโปรแกรมช่วงท้ายที่ไม่ถึงกับหนักมาก บวกกับราคาที่ไม่สูง เขาถือเป็นแหวกแนวที่น่าเลือก

(ขอต่อที่คอมเมนท์จ้า)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่