โอ้ว สื่ออินโดนีเซียฟันธงเลยว่าเวียดนามจะคว้าแชมป์ AFF 2024 แน่นอน

บุยวิห่าว (ซ้าย) และเจื่องเตียนอันห์ (ขวา) ฉลองประตูของ เหงียนกวางไฮ (กลาง) ในเกมชนะเมียนมาร์ 5-0 ที่สนามเวียตตรี จังหวัดฟู้เถาะ ในตอนเย็นของวันที่ 21 ธันวาคม 2567 ภาพถ่าย: “Hieu Luong”

CNN อินโดนีเซีย: 'มีเพียงเวียดนามเท่านั้นที่ใช้ทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในฟุตบอลอาเซียนคราวนี้'

บทความข้างต้นของ CNN อินโดนีเซีย เชื่อว่าเวียดนามมีโอกาสมากที่สุดที่จะคว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2024 เพราะเป็นทีมเดียวที่ส่งผู้เล่นที่ดีที่สุดเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์

ในบทวิเคราะห์ของ CNN อินโดได้บรรยายต่อเกี่ยวกับเลกแรกรอบรองชนะเลิศระหว่างสิงคโปร์และเวียดนามที่สนามจาลัน เบซาร์ ต่อไปอีกว่า

“จาลัน เบซาร์เป็นสนามหญ้าเทียม ดังนั้นเวียดนามอาจประสบปัญหาในการเจอกับสิงคโปร์แน่นอน นอกจากนี้ สิงคโปร์ก็ประมาทไม่ได้เพราะมีประสบการณ์มาแล้ว ด้วยการออกนำไทยถึง 2-0 แต่กลับแพ้ 2-4 ซึ่งทีมของโค้ชซึโตมุ โอกุระยังเล่นได้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยผลงานล่าสุดสามารถยันเสมอมาเลเซีย 0-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม A ช่วยให้ทีมเข้ารอบมาได้แบบพลิกล็อก”

เวียดนามซึ่งใช้สนามหญ้าธรรมชาติสำหรับฟุตบอล 11 คนเป็นหลักมาโดยตลอด แต่สนามหญ้าเทียมนั้นมีพื้นผิวหญ้าที่หนาและลื่นกว่าสนามหญ้าจริง  ทีมของโค้ชคิม ซังซิก (โค้ชเวียดนาม) ก็ประสบปัญหาในการเล่นบนสนามหญ้าเทียมริซาล เมโมเรียลในมะลิลา ในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว โดยทำได้แค่เสมอกับฟิลิปปินส์ 1-1

ถึงแม้จะยกย่องสิงคโปร์ แต่หนังสือพิมพ์ของอินโดนีเซียยังคงให้เครดิตโค้ชคิมและนักเตะของเขามากกว่าคู่ต่อสู้รายนี้ “ทีมเวียดนามมีโอกาสสูงที่สุดในการคว้าแชมป์อาเซียนคัพ 2024 คราวนี้ เพราะอุดมไปด้วยผู้เล่นที่เก่งที่สุดในปัจจุบัน ไม่เหมือนทีมอื่นๆ ที่ต้องรวมตัวด้วยข้อจำกัดหลายอย่างกับปัจจัยมีผู้เล่นอายุน้อย” CNN  อินโดนีเซียกล่าวเสริม “และที่สำคัญโค้ชคิมยังได้รับอาวุธใหม่จากเหงียน ซวน เซิน กองหน้าที่โอนสัญชาติมา ที่เพิ่งฉายแววได้โดดเด่นสุดๆ ในนัดที่เวียดนามเอาชนะเมียนมาร์ได้ถึง 5-0”

ขณะที่การแข่งขันฟุตบอลอาเซียน 2024 เริ่มต้น แต่การแข่งขันฟุตบอลลีกของไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ยังคงแข่งขันต่อทำให้ทีมเหล่านี้ไม่มีขุมกำลังนักเตะที่แข็งแกร่งที่สุดมาด้วย แต่การแข่งขันฟุตบอลลีกของสิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ถูกเลื่อนออกไป ช่วยให้ทั้ง 3 ทีมนั้นเตรียมตัวได้ดีและทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ขณะที่อินโดนีเซียและมาเลเซีย ทั้งคู่ต้องหยุดเส้นทางแค่รอบแบ่งกลุ่มด้วยกันเป็นครั้งแรก แต่สิงคโปร์ เวียดนาม และฟิลิปปินส์ต่างก็ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศพร้อมกับไทย

โค้ชคิมไม่มีผู้รักษาประตู ดัง วัน ลัม และกองหน้า เหงียนคองเฟือง ในทัวร์นาเมนต์นี้ เนื่องจากอาการบาดเจ็บ เขายังไม่ได้เรียกผู้เล่นที่คุ้นเคยในทีมเช่น Que Ngoc Hai, Nguyen Phong Hong Duy, Do Hung Dung หรือ Nguyen Tuan Anh

อายุเฉลี่ยของ ผู้เล่น เวียดนาม 26 คน ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้คือ 27.1 ปี ซึ่งอายุน้อยกว่าสิงคโปร์เท่านั้น (อายุ 28.2 ปี) ขณะที่อินโดนีเซียนำทีมที่อายุน้อยที่สุดโดยมีอายุเฉลี่ย 20.3 ปี รวมถึงผู้เล่น 24 คนจากกลุ่ม U21 เท่านั้น

อีกบทความหนึ่ง หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ประเมินว่า เวียดนาม และ ไทย ยังคงน่าจะเป็นคู่ชิงแชมป์ และคาดการณ์ว่า 2 ทีมนี้จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้ไม่ยาก โดยทั้ง 2 ทีมได้พบกันถึง 2 ครั้งในรอบชิงชนะเลิศมาแล้ว โดยเวียดนามชนะในปี 2008 แต่แพ้ในปี 2022/23

Cr.CNN Indonesia,Vnexpress

หมายเหตุ : CNNเป็นสื่อหลักในสหรัฐอเมริกา แต่มีเวอร์ชันภาษาอินโดนีเซียโดย CNN Indonesia ยังเป็นเว็บไซต์หนังสือพิมพ์รายใหญ่ในประเทศนี้ โดยมีผู้เข้าชมหลายสิบล้านครั้งในแต่ละเดือน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่