ขบวนการนักศึกษามาแล้ว!! ตั้งคนป. ขยี้ผลซักฟอก บี้ต่อรัฐบาลประยุทธ์
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4098012
เครือข่ายนักศึกษาออกแถลงการณ์ประกาศตั้ง เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนป.) ขยายผลซักฟอกรัฐบาลบิ๊กตู่
วันที่ 9 พ.ค.
เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ การก่อตั้ง
เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนป.)
เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากกระแสการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันทั่วประเทศ ที่เกิดจากความอัดอั้นต่อการดำเนินงานอย่างไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัยจากการกระทำของรัฐบาล เช่น กรณี ปฏิบัติการข่าวสาร หรือ Information Operation (IO) จากกระทรวงกลาโหม ป่ารอยต่อ การบุกรุกพื้นที่ป่า ที่มาของวุฒิสภา ข้อครหาของรัฐธรรมนูญ 2560 การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และกรณีการบริหารประเทศในช่วงของการระบาดของไวรัส Covid-19 ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนอย่างร้ายแรงจนเกิดกรณีสะเทือนใจที่ผ่านมา
เหตุที่กล่าวมาข้างต้นนี้จึงทำให้กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่มีหลากหลายองค์กรจากภาคส่วนต่าง ๆ มาร่วมกันสร้างเครือข่ายที่มีชื่อว่า
เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายของเครือข่ายเพื่อเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวด้วยความหลากหลายจากหลายองค์กรที่มีแนวทางการเคลื่อนไหวของตนเองแต่มีแนวทางในการเดินทางร่วมกัน โดยการดำเนินงานจะเน้นความเป็นอิสระในองค์กรของตน ซึ่งผู้ร่วมแนวทางของเครือข่ายเรานั้นมีความหลากหลายในการดำเนินงานทั้งในด้านสวัสดิการ ด้านชาติพันธุ์ ศาสนา ด้านความเท่าเทียม ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านสิทธิเสรีภาพ เป็นต้น เรายินดีที่จะเคลื่อนไหวร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ที่มีอุดมการณ์ร่วมกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม
เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะดำเนินงานตามหลักเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนตามกรอบของระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทางเครือข่ายไม่สนับสนุนความรุนแรงที่จะกระทำต่อประชาชนทุกประการ
จิรายุ ไล่ หม่อมเต่า ทำไม่ได้ลาออก ปมเงินประกันสังคมจ่ายแรงงาน ต้องจ่าย 80%
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4097491
เพื่อไทย ไล่ส่ง หม่อมเต่า ทำไม่ได้ควรลาออก หากไม่คืนเงินประกันตนลูกจ้าง ลั่นอย่าดึงเวลา อย่างน้อยต้องจ่ายแรงงานอย่างน้อยร้อยละ 80 ของค่าจ้าง
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นาย
จิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระองค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน กล่าวถึงกรณี ม.ร.ว.
จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีที่จะเพิ่มเงินว่างงานให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในสถานการณ์โควิด-19 จากร้อยละ 62 ให้เป็นร้อยละ 75 ว่า การคืนเงินบางส่วนที่เป็นของลูกจ้างเองควรคืนอย่างน้อยร้อยละ 80 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 3 เดือนทันที
รัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด อย่าดึงเวลา เพราะความเดือดร้อน ความเป็นความตายของประชาชนมีทุกวินาที ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาตนทำหนังสือถึงเลขาฯ กองทุนประกันสังคมให้ชี้แจงถึงสถานการณ์เงินและการนำเงินไปลงทุนต่างๆ ที่ประชาชนควรทราบ
โดยกองทุนชี้แจง ณ วันที่ 8 พ.ค. มีเงินที่ใช้ได้ตอนนี้เพียงแค่ประมาณ 16,000 ล้านบาทเท่านั้น ส่วน 2.2 ล้านล้านบาทถูกนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและอื่นๆร้อยละ 82 หรือประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท ส่วนอีก 18% ไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่มีความเสี่ยง อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำประมาณ 80,000 ล้านบาท ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าวันนี้รมว.แรงงานต้องตัดสินใจในฐานะผู้นำสูงสุด เพื่อผู้ประกันตนที่กำลังเดือดร้อนสูงสุดเช่นกัน
นาย
จิรายุ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ ม.ร.ว.
จัตุมงคลเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าให้สำนักงานประกันสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ให้ได้รับเงินทดแทนจากร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวันไม่เกิน 90 วัน เป็นร้อยละ 75 แต่ไม่เกินเพดาน 15,000 บาท ซึ่งมีประมาณ 9.9 แสนคนเศษนั้น ต้องเร่งดำเนินการก่อน หากทำไม่ได้ควรลาออกไป และหากมีผู้ประกันตนฆ่าตัวตายอีกรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ที้งนี้ การประชุม ครม.จะเป็นการพิสูจน์ว่ารมว.แรงงานมีน้ำยา กล้าตัดสินใจที่จะช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ทั้งๆที่เป็นเงินของประชาชน
JJNY : 4in1 ตั้งคนป.ขยี้ผลซักฟอก บี้ต่อประยุทธ์/จิรายุไล่หม่อมเต่า/จาตุรนต์จวก เลิกขู่รายวันได้แล้ว/หมอเผยเกณฑ์ระบาดรอบ2
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4098012
วันที่ 9 พ.ค. เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ การก่อตั้งเครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (คนป.)
เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจากกระแสการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาจากหลากหลายสถาบันทั่วประเทศ ที่เกิดจากความอัดอั้นต่อการดำเนินงานอย่างไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจในคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 26-28 กุมภาพันธ์ 2563 ที่แสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมที่น่าสงสัยจากการกระทำของรัฐบาล เช่น กรณี ปฏิบัติการข่าวสาร หรือ Information Operation (IO) จากกระทรวงกลาโหม ป่ารอยต่อ การบุกรุกพื้นที่ป่า ที่มาของวุฒิสภา ข้อครหาของรัฐธรรมนูญ 2560 การลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน และกรณีการบริหารประเทศในช่วงของการระบาดของไวรัส Covid-19 ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือนร้อนอย่างร้ายแรงจนเกิดกรณีสะเทือนใจที่ผ่านมา
เหตุที่กล่าวมาข้างต้นนี้จึงทำให้กลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่มีหลากหลายองค์กรจากภาคส่วนต่าง ๆ มาร่วมกันสร้างเครือข่ายที่มีชื่อว่า เครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีเป้าหมายของเครือข่ายเพื่อเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวด้วยความหลากหลายจากหลายองค์กรที่มีแนวทางการเคลื่อนไหวของตนเองแต่มีแนวทางในการเดินทางร่วมกัน โดยการดำเนินงานจะเน้นความเป็นอิสระในองค์กรของตน ซึ่งผู้ร่วมแนวทางของเครือข่ายเรานั้นมีความหลากหลายในการดำเนินงานทั้งในด้านสวัสดิการ ด้านชาติพันธุ์ ศาสนา ด้านความเท่าเทียม ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านสิทธิเสรีภาพ เป็นต้น เรายินดีที่จะเคลื่อนไหวร่วมกับองค์กรอื่น ๆ ที่มีอุดมการณ์ร่วมกันเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตามเครือข่ายนักเรียน นิสิต นักศึกษาเคียงข้างประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจะดำเนินงานตามหลักเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนตามกรอบของระบอบประชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทางเครือข่ายไม่สนับสนุนความรุนแรงที่จะกระทำต่อประชาชนทุกประการ
จิรายุ ไล่ หม่อมเต่า ทำไม่ได้ลาออก ปมเงินประกันสังคมจ่ายแรงงาน ต้องจ่าย 80%
https://www.khaosod.co.th/politics/news_4097491
เพื่อไทย ไล่ส่ง หม่อมเต่า ทำไม่ได้ควรลาออก หากไม่คืนเงินประกันตนลูกจ้าง ลั่นอย่าดึงเวลา อย่างน้อยต้องจ่ายแรงงานอย่างน้อยร้อยละ 80 ของค่าจ้าง
เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระองค์กร อัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน กล่าวถึงกรณี ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีที่จะเพิ่มเงินว่างงานให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในสถานการณ์โควิด-19 จากร้อยละ 62 ให้เป็นร้อยละ 75 ว่า การคืนเงินบางส่วนที่เป็นของลูกจ้างเองควรคืนอย่างน้อยร้อยละ 80 ของค่าจ้างเป็นระยะเวลา 3 เดือนทันที
รัฐบาลต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาด อย่าดึงเวลา เพราะความเดือดร้อน ความเป็นความตายของประชาชนมีทุกวินาที ทั้งนี้ สัปดาห์ที่ผ่านมาตนทำหนังสือถึงเลขาฯ กองทุนประกันสังคมให้ชี้แจงถึงสถานการณ์เงินและการนำเงินไปลงทุนต่างๆ ที่ประชาชนควรทราบ
โดยกองทุนชี้แจง ณ วันที่ 8 พ.ค. มีเงินที่ใช้ได้ตอนนี้เพียงแค่ประมาณ 16,000 ล้านบาทเท่านั้น ส่วน 2.2 ล้านล้านบาทถูกนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและอื่นๆร้อยละ 82 หรือประมาณ 1.67 ล้านล้านบาท ส่วนอีก 18% ไปลงทุนในธุรกิจอื่นๆที่มีความเสี่ยง อาทิ อสังหาริมทรัพย์ ทองคำประมาณ 80,000 ล้านบาท ทั้งในและต่างประเทศ ทำให้เห็นว่าวันนี้รมว.แรงงานต้องตัดสินใจในฐานะผู้นำสูงสุด เพื่อผู้ประกันตนที่กำลังเดือดร้อนสูงสุดเช่นกัน
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ ม.ร.ว.จัตุมงคลเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าให้สำนักงานประกันสังคม เพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนมาตรา 33 กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 ให้ได้รับเงินทดแทนจากร้อยละ 62 ของค่าจ้างรายวันไม่เกิน 90 วัน เป็นร้อยละ 75 แต่ไม่เกินเพดาน 15,000 บาท ซึ่งมีประมาณ 9.9 แสนคนเศษนั้น ต้องเร่งดำเนินการก่อน หากทำไม่ได้ควรลาออกไป และหากมีผู้ประกันตนฆ่าตัวตายอีกรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ที้งนี้ การประชุม ครม.จะเป็นการพิสูจน์ว่ารมว.แรงงานมีน้ำยา กล้าตัดสินใจที่จะช่วยเหลือประชาชนหรือไม่ทั้งๆที่เป็นเงินของประชาชน