สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
สวัสดีค่ะ
ร้านเราได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนขนส่งจาก lazada เหมือนกันค่ะ ขนส่งที่ Lazada เลือกให้คือ dhl-> lex เปลี่ยนอัตโนมัติโดยเราไม่ได้ยินยอม เมื่อวันที่ 29 ซึ่งเราไล่แคนเซิลออเดอร์ลูกค้า และแจ้งลูกค้าว่าช้า รอเป็นอาทิตย์กว่าๆเลยนะหากไม่รอให้ลูกค้าแคนเซิลไปเลย ซึ่งหลังจากที่เราทราบ เราก็ปิดโหมดพักร้อนยาวๆค่ะ และเน้นไปทำการขายกับอีกค่ายนึงแทน แต่มีลูกค้าประมาณ 6 ท่าน ยืนยันว่าจะรอ ซึ่งทุกคนกดออเดอร์มาประมาณวันที่ 29-30 เมษายน ก่อนหน้าที่เราตัดสินค้าจะปิดร้านไป จนถึงวันนี้ วันที่ 10 พฤษภาคม เป็นเวลา 10 วันแล้ว สินค้ายังไม่ถึงลูกค้าเลย ซักราย ที่เป็นขนส่งของ lex ซึ่งติดตามสถานะสินค้ายากมาก ไม่สามารถบอกลูกค้าได้เลยว่าตอนนี้สินค้าถึงจุดไหนแล้ว
ลูกค้าหลายๆคนรอไม่ไหวถามและตามเข้ามาทุกๆวัน เนื่องจากสินค้าที่เราขาย เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้งานค่ะ บางทีไม่สามารถรอได้ และลูกค้าต้องการที่จะคืนเงินและคืนสินค้า ซึ่งเราก็เข้าใจ แต่สินค้าเรา เป็นสินค้าที่ขนส่งค่อนข้างยาก หากตีไปและตีกลับ จะเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหรือไม่อยู่ในสภาพเดิมค่อนข้างสูง ทำให้ไม่สามารถนำไปขายต่อได้ หากเจ้าหน้าที่ขนส่งหรือบริษัทขนส่งนั้น ไม่มีความชำนาญและเป็นมืออาชีพพอ
ทุกวันนี้เครียดค่ะ เพราะไม่ทราบว่าจะตอบคำถามลูกค้ายังไงแล้ว ของจะถูกตีกลับมั้ย และหากตีกลับคืนมาสภาพเป็นยังไง และต้องรอนานแค่ไหน ซึ่งสินค้าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงค่ะ หากเกิดเคสศูนย์หาย ใครจะรับผิดชอบ และระหว่างที่สินค้าตีกลับจะใช้เวลานานแค่ไหน? เพราะนั่นหมายถึง “ เงิน “ และ “ค่าเสียโอกาส” ล้วนๆเลยค่ะ คิดง่ายๆคือหากเราต้องเสียเวลาไปกับสินค้าที่ขายไม่สำเร็จอยู่หลายอาทิตย์ หรือ หลายเดือน จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสามารถนำไปขายที่อื่นและได้เงินมาหมุนต่อได้?
Lazada เรื่องการประสานงานติดต่อ เรามองว่าด้อยประสิทธิภาพกว่าค่ายส้มค่ะ แชทบางทีรอเป็นร้อยๆกว่าคิว หรือ call center ที่ติดต่อยากมาก โทรไปบางทีตัดสาย ไม่ติด หรือรอเกินกว่า 30 นาที
ผู้บริหารของ Lzd ควรคำนึงถึงผลที่จะตามมามากกว่านี้ค่ะ ส่วนตัวคิดว่ายังอ่านเกมส์ไม่ขาด หากอยากได้ผลประโยชน์ในระยะยาวไม่ควรบีบ partner ขนาดนี้ค่ะ ในเรื่องการเปลี่ยนขนส่ง ควรรอให้พร้อมกว่านี้ก่อน ไม่ใช่ให้คู่ค้าเป็นหนูทดลองกับระบบอะไรที่ยังไม่เข้าที่ หากสมรรถภาพยังไม่มากพอ ควรจะถยอยเปลี่ยนเป็นจำนวนเล็กๆ ไปก่อน และควรถามถึงความสมัครใจด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว LZD ในความคิดเราเคยยืนหนึ่งค่ะ แต่ อีกค่ายตีตื้นมาและ มีโอกาสจะแซงได้ง่ายมาก ด้วยระบบอะไรที่เอื้อประโยชน์กับคู่ค้า และง่ายต่อคู่ค้ามากกว่า รวมไปถึงฐานลูกค้าที่มีคุณภาพกว่า
ร้านเราได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนขนส่งจาก lazada เหมือนกันค่ะ ขนส่งที่ Lazada เลือกให้คือ dhl-> lex เปลี่ยนอัตโนมัติโดยเราไม่ได้ยินยอม เมื่อวันที่ 29 ซึ่งเราไล่แคนเซิลออเดอร์ลูกค้า และแจ้งลูกค้าว่าช้า รอเป็นอาทิตย์กว่าๆเลยนะหากไม่รอให้ลูกค้าแคนเซิลไปเลย ซึ่งหลังจากที่เราทราบ เราก็ปิดโหมดพักร้อนยาวๆค่ะ และเน้นไปทำการขายกับอีกค่ายนึงแทน แต่มีลูกค้าประมาณ 6 ท่าน ยืนยันว่าจะรอ ซึ่งทุกคนกดออเดอร์มาประมาณวันที่ 29-30 เมษายน ก่อนหน้าที่เราตัดสินค้าจะปิดร้านไป จนถึงวันนี้ วันที่ 10 พฤษภาคม เป็นเวลา 10 วันแล้ว สินค้ายังไม่ถึงลูกค้าเลย ซักราย ที่เป็นขนส่งของ lex ซึ่งติดตามสถานะสินค้ายากมาก ไม่สามารถบอกลูกค้าได้เลยว่าตอนนี้สินค้าถึงจุดไหนแล้ว
ลูกค้าหลายๆคนรอไม่ไหวถามและตามเข้ามาทุกๆวัน เนื่องจากสินค้าที่เราขาย เป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการใช้งานค่ะ บางทีไม่สามารถรอได้ และลูกค้าต้องการที่จะคืนเงินและคืนสินค้า ซึ่งเราก็เข้าใจ แต่สินค้าเรา เป็นสินค้าที่ขนส่งค่อนข้างยาก หากตีไปและตีกลับ จะเสี่ยงที่สินค้าจะเสียหรือไม่อยู่ในสภาพเดิมค่อนข้างสูง ทำให้ไม่สามารถนำไปขายต่อได้ หากเจ้าหน้าที่ขนส่งหรือบริษัทขนส่งนั้น ไม่มีความชำนาญและเป็นมืออาชีพพอ
ทุกวันนี้เครียดค่ะ เพราะไม่ทราบว่าจะตอบคำถามลูกค้ายังไงแล้ว ของจะถูกตีกลับมั้ย และหากตีกลับคืนมาสภาพเป็นยังไง และต้องรอนานแค่ไหน ซึ่งสินค้าเป็นสินค้าที่มีมูลค่าค่อนข้างสูงค่ะ หากเกิดเคสศูนย์หาย ใครจะรับผิดชอบ และระหว่างที่สินค้าตีกลับจะใช้เวลานานแค่ไหน? เพราะนั่นหมายถึง “ เงิน “ และ “ค่าเสียโอกาส” ล้วนๆเลยค่ะ คิดง่ายๆคือหากเราต้องเสียเวลาไปกับสินค้าที่ขายไม่สำเร็จอยู่หลายอาทิตย์ หรือ หลายเดือน จะดีกว่ามั้ยถ้าเราสามารถนำไปขายที่อื่นและได้เงินมาหมุนต่อได้?
Lazada เรื่องการประสานงานติดต่อ เรามองว่าด้อยประสิทธิภาพกว่าค่ายส้มค่ะ แชทบางทีรอเป็นร้อยๆกว่าคิว หรือ call center ที่ติดต่อยากมาก โทรไปบางทีตัดสาย ไม่ติด หรือรอเกินกว่า 30 นาที
ผู้บริหารของ Lzd ควรคำนึงถึงผลที่จะตามมามากกว่านี้ค่ะ ส่วนตัวคิดว่ายังอ่านเกมส์ไม่ขาด หากอยากได้ผลประโยชน์ในระยะยาวไม่ควรบีบ partner ขนาดนี้ค่ะ ในเรื่องการเปลี่ยนขนส่ง ควรรอให้พร้อมกว่านี้ก่อน ไม่ใช่ให้คู่ค้าเป็นหนูทดลองกับระบบอะไรที่ยังไม่เข้าที่ หากสมรรถภาพยังไม่มากพอ ควรจะถยอยเปลี่ยนเป็นจำนวนเล็กๆ ไปก่อน และควรถามถึงความสมัครใจด้วย
ท้ายที่สุดแล้ว LZD ในความคิดเราเคยยืนหนึ่งค่ะ แต่ อีกค่ายตีตื้นมาและ มีโอกาสจะแซงได้ง่ายมาก ด้วยระบบอะไรที่เอื้อประโยชน์กับคู่ค้า และง่ายต่อคู่ค้ามากกว่า รวมไปถึงฐานลูกค้าที่มีคุณภาพกว่า
ความคิดเห็นที่ 5
เป็นทั้งผู้ขาย และ ผู้ซื้อ
ในแง่ผู้ขาย พยายามมากๆที่จะส่งให้เร็ว เพื่อถึงลูกค้าให้เร็ว และ จะได้รับเงินเร็ว เพื่อให้เงินมาจัดการธุรกิจคล่องตัว
ในแง่ผู้ซื้อการคาดหวังว่า หลังจากสั่งซื้อก็อยากได้รับของเร็วๆภายใน 1 ถึง 3 วัน
แต่ Lazada กลับทำให้ทุกอย่างช้าลง เลือกขนส่งที่เป็น Partner โดยไม่มองถึงศักยภาพ และการใช้ขนส่ง LEX เป็นตัวกลาง ยิ่งทำให้ช้าลง
ลูกค้าสั่งซื้อ->ร้านค้าจัดเตรียมแพ็คสินค้า-> ร้านค้ารอขนส่ง LEX เข้ารับ หรือไปดรอปที่ Lotus Express-> LEX เข้ารับสินค้า เอาของไปกองไว้ที่คลัง-> LEX กระจายสินค้าไปยังขนส่ง Partner อื่นๆ -> ขนส่งคัดแยกสินค้าไปยังจุดคัดแยก -> จัดส่งให้ลูกค้า
ส่วน Flash Express ก่อนเข้า Lazada ก็ยังดีอยู่ ตอนนี้เจอปริมาณสินค้ามากๆ ก็รับไม่ไหว ปรับตัวไม่ทัน
กว่าลูกค้าจะได้รับสินค้า เสียเวลาไปอีกเท่าไหร่
ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สั่งของได้รับเร็ว เวลาอยากจะซื้ออะไรก็ยังนึกถึง Lazada
ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ Lazada คงถอยหลังลงเหวแน่ๆ
ในแง่ผู้ขาย พยายามมากๆที่จะส่งให้เร็ว เพื่อถึงลูกค้าให้เร็ว และ จะได้รับเงินเร็ว เพื่อให้เงินมาจัดการธุรกิจคล่องตัว
ในแง่ผู้ซื้อการคาดหวังว่า หลังจากสั่งซื้อก็อยากได้รับของเร็วๆภายใน 1 ถึง 3 วัน
แต่ Lazada กลับทำให้ทุกอย่างช้าลง เลือกขนส่งที่เป็น Partner โดยไม่มองถึงศักยภาพ และการใช้ขนส่ง LEX เป็นตัวกลาง ยิ่งทำให้ช้าลง
ลูกค้าสั่งซื้อ->ร้านค้าจัดเตรียมแพ็คสินค้า-> ร้านค้ารอขนส่ง LEX เข้ารับ หรือไปดรอปที่ Lotus Express-> LEX เข้ารับสินค้า เอาของไปกองไว้ที่คลัง-> LEX กระจายสินค้าไปยังขนส่ง Partner อื่นๆ -> ขนส่งคัดแยกสินค้าไปยังจุดคัดแยก -> จัดส่งให้ลูกค้า
ส่วน Flash Express ก่อนเข้า Lazada ก็ยังดีอยู่ ตอนนี้เจอปริมาณสินค้ามากๆ ก็รับไม่ไหว ปรับตัวไม่ทัน
กว่าลูกค้าจะได้รับสินค้า เสียเวลาไปอีกเท่าไหร่
ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สั่งของได้รับเร็ว เวลาอยากจะซื้ออะไรก็ยังนึกถึง Lazada
ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ Lazada คงถอยหลังลงเหวแน่ๆ
แสดงความคิดเห็น
LAZADA Lose-Lose-Lose situation อย่าทำร้าย partner ของคุณแบบนี้เลยครับ
ผมเป็นร้านค้าเล็กๆใน lazada ครับ ยิ่งช่วงโควิดยอดไม่ค่อยดี ความลำบากคนข้างหลังที่ต้องดูแลไม่เล่าเพิ่มนะครับหลายๆท่านเข้าใจกันดี
ตอนนี้ร้านค้า หรือ partner ของ Lazada หลายๆท่านคงเจอเหตุการณ์เดียวกันคือจาก kerry pick up โดนเปลี่ยนเป็น flashบ้าง Lex บ้าง โดยเป็นการมัดมือชกไม่ถามความเห็นหรือขออนุญาติร้านแต่อย่างใด
สิ่งที่เกิดขึ้นจากการมัดมือชกเปลี่ยนขนส่งคือ
1.ของไปถึงผู้รับช้ามาก ปกติ 1-2วัน ตอนนี้กลายเป็น 3-10 วัน เพราะ ระบบการทำงานคือ Lex มารับของและ outsource หลายๆออเดอร์ส่งต่อไปยัง flash best kerry DHL ซึ่งขั้นตอนนี้กินเวลาเลยทันที่ 1-2 วัน กว่าจะเข้าระบบของขนส่งที่ส่งต่อ และกว่าจะถึงปลายทางลูกค้า +2ถึง6 วัน
2.ลูกค้าไม่พอใจ แน่นอนเพราะของถึงช้ามาก นำมาซึ่งเรตติ้งแย่ๆ ที่ลูกค้าให้มา
ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่แคร์หรอกครับ ว่าช้าที่ขนส่งหรือช้าที่ผู้ขาย ช้าคือช้า คนที่โดนผลกระทบคือ ร้านค้าเต็มๆ ลูกค้าจะมาเรตติ้งแย่ๆใส่หน้าร้านค้าครับ
LAZADA กำลังสร้าง lose-lose-lose situation เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไล่มา 1-2
lose 1 ต้องยอมรับว่าหลายๆร้านสินค้าเหมือนกันครับ ต่างกันแค่ที่ราคาเล็กน้อยที่แข่งกันอยู่ตลอด ลูกค้าจะไม่อยากซื้อของซ้ำร้านพวกเราอีก จะเปลี่ยนไปร้านอื่นแทน เพราะเจอประสบการณ์ที่ของถึงช้าครับ และจะเรตติ้งแย่ๆใส่ร้านเรา
lose 2 ลูกค้าจะเสียความรู้สึกที่ของถึงช้า-ช้ามาก ลูกค้าจะสลับไปใช้ค่ายสีส้มซึ่งระบบการขนส่งมีให้เลือกเยอะและถึงเร็วกว่าแน่ๆ อันนี้ทุกคุนทราบดีไม่อธิบายเพิ่มครับ
lose 3 Lex ที่เป็นบริษัทขนส่งลูกหม้อของLazadaเอง จะได้รับ imageที่แย่อยู่แล้วแย่ลงไปอีก
lose 4 เมื่อของถึงช้าแล้ว ลูกค้าที่สั่ง COD หรือเก็บเงินปลายทาง มีโอกาสเปลี่ยนใจสูงมากเพราะอาจจะไปซื้อที่อื่นแล้ว หรือ ไปเจอเว็บอื่นที่ขายถูกกว่าและซื้อมาแล้ว สุดท้ายจะเกิดการปฎิเสธการรับสินค้า cost ที่เกิดขึ้นจากข้อ 4 ข้อ คือ
-costขนส่งของ Lex และบรรดาoutsourceต่างๆ
-costกล่องและอุปกรณ์แพคของร้านค้า ซึ่งไม่สามารถกลับเอามาใช้ได้อีก
-costค่าเสียโอกาสเองของทั้ง lazada ร้านค้า และขนส่ง
จากที่ผมได้พยายามโทรไป call center ของlazada ติดบ้าง ไม่ติดบ้าง โดนตัดสายบ้าง รอนานเกินครึ่งชม.บ้าง โทรไปหลายครั้ง
คำตอบที่ได้คือ
1.เป็นprocessการทำงานของเรา ซึ่งคนคิดนโยบายนี้เป็นคนภายในlazadaหน่วยงานหลัก เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ร้านค้าต้องก้มหน้ารับชตากรรมไป
สามารถเปลียนขนส่งได้อีกทีคือ 31พฤษภาคม
2.พยายามสอบถามถึงวิธีเยียวยา ถ้าหากร้านค้าโดนเรตติ้งของถึงช้าจากลูกค้า ที่ส่งช้าโดย Lex ว่าสามารถลบหรือแก้ เรตติ้งนั้นๆให้ได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ได้ ร้านค้าต้องรับชตากรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อไปอีกเหมือนเดิม
อยากให้ท่านผู้บริหารภายในlazada ลองนึกภาพตัวท่านเอง สั่งสินค้าออนไลน์ แล้วรอ 8 วันถึงได้รับของ
ขอร้องเถอะครับ อย่าทำให้ lose lose lose situation นี้ยาวไปถึงสิ้นเดือนแล้วค่อยพิจารณาให้ร้านค้าเปลี่ยนขนส่งเลย
เริ่มเปลี่ยนได้เลยเถอะครับ
ผมยินดีให้ข้อมูลเพิ่มเติมรวมถึงร่วมแก้ไขอะไรเท่าที่ทำได้ครับ
เราเป็นpartnerกันนะครับlazada อย่าทำกับpartner ที่พยามยามสร้างร้าน และ ร่วมกันสร้างแบรนด์lazadaของคุณแบบนี้เลยครับ
เรามาช่วยเปลี่ยนสถาณการณ์ให้กลายเป็น win win winกันนะครับ ขอร้องครับ
จากร้านค้าตัวเล็กๆ : )