วันนี้ภูเก็ตเริ่มเปิดเกาะให้แรงงาน 5000 คน ออกจากจังหวัด แล้วจะทยอยออกจากภูเก็ตอีกเรื่อยๆ เพราะยอดรวมผู้ลงทะเบียนไว้สูงถึง 40000 คน 
           ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มียอดผู้ติดเชื้อ covid-19 สูงเป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพ และสูงเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร แถมตัวเลขผู้ติดเชื้อก็ยังไม่นิ่ง ถ้าแรงงานซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการชาวต่างชาติ 40000 คน ออกมา ก็น่าจะทำให้เกิดเหตุการณ์แบบเดียวกับที่กรุงเทพปิดห้าง เดือนมีนาคม ส่งผลให้แรงงานในกรุงเทพออกไปต่างจังหวัด จนระบาดกลายเป็นพื้นที่สีแดงเกือบหมดทั้งประเทศ
           เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทุกจังหวัด นั่งยัน นอนยัน ด้วยความยากลำบาก ปิดโน่นปิดนี่ จนหลายจังหวัดส่วนใหญ่ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม มากกว่า 14 วัน หรือรักษาหายหมดเกลี้ยงงง จนจะเปิดสถานบริการบางประเภทได้อยู่แล้ว แต่หยาดเหงื่อและความยากลำบากกำลังจะกลายเป็นความสูญเปล่าทันทีหรือไม่
            ภูเก็ตได้ลงทะเบียนคนออกไว้ แล้ว จะ แจ้งต่อจังหวัดปลายทาง แต่เหล่าแรงงานก็เดินทางกลับแบบตัวใครตัวมัน ก็ไม่แน่ว่าจะไปจังหวัดปลายทางตามที่บอกไว้หรือไม่ เพราะส่วนใหญ่ก็คงออกแนว แวะไหว้ปู่ย่าตายาย สักสองสามวัน ก่อนจะลาก่อน...เพื่อเวียนเทียนหางานที่จังหวัดอื่นและอื่นๆ ไปเรื่อยๆ
            สมมติว่าแรงงานได้เดินทางกลับบ้านจริง จะเป็นอย่างไร จังหวัดทางผ่าน หรือ จังหวัดปลายทาง ก็คงวัดไข้ และ จดที่อยู่ ที่อยู่จริงบ้างไม่จริงบ้าง แค่นี้ใช่ปะ เจ้าหน้าที่ไปหาที่บ้านเจอปู่ย่าตายายก็แจ้งว่า มากินข้าวด้วยสองสามวัน  แล้วก็ไปไหนไม่รู้แล้วประมาณนี้ปะ
             สำหรับผู้เดินทางมาจากต่างจังหวัด จขกท.ไม่เอามาตรการปัจจุบันที่เป็น thai home quarantine หรือ family meeting quarantine หรือ เรียก สิงค์โปร์ โฮม quarantine ก็คงได้ เพราะแนวทางก็คล้ายๆกัน
            จขกท.ว่าคงต้องเอารถไปส่งแรงงาน ห้ามแวะ และเมื่อถึงจังหวัดที่เป็นจุดหมายปลายทางก็ต้องส่งแรงงานเข้าสู่ state quarantine สถานเดียว ถ้ารัฐ มีใจ อยากควบคุมโรคจริงนะ แล้วนับแยกยอดผู้ติดเชื้อที่อยู่ใน state quarantine ออกจากยอดของจังหวัดนั้นๆ ไม่มานับรวมกัน เช่นน่านไม่เคยมีผู้ติดเชื้อ ถ้าจะมีแรงงานกลับบ้านที่น่าน ก็ต้องเข้าสู่ state quarantine จนครบ 14 วัน ตรวจเสร็จแล้วค่อยเข้าบ้าน
             แล้วก็ห้ามแรงงานเวียนเทียนหางานตามจังหวัดต่างๆ กลับบ้านได้ แต่ต้องเข้าสู่ state quarantine ทุกครั้ง