ทุกๆคนในที่นี้คงมีประสบการณ์ในการฝากเงินกับธนาคารมา มากบ้าง น้อยบ้าง บางท่านอาจเคยได้ลิ้มรสกับ อัตราดอกเบี้ยอันหอมหวานเมื่อสมัยที่ผู้เขียนยังเยาว์วัย(จะบอกว่ายังไม่แก่นะเนี่ย) และ อีกเช่นกัน ทุกๆคนคงถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่เยาว์วัยว่า ต้องเรียนสูงๆ จะได้ทำงานดีๆ มั่นคง มีเงินใช้ มีเงินเก็บ ไม่ต้องคอยลำบากในภายภาคหน้า ใช่ครับ ผู้เขียนไม่ได้ปฏิเสธว่าคำสอนเหล่านั้นไม่ดี แต่จะบอกว่าดีไม่พอ ไม่พอตรงไหนนะเหรอครับ ก็เพราะเราแทบเกือบทุกคนไม่เคยได้เรียนวิชาการเงินจากโรงเรียนเลย ใกล้เคียงที่สุดก็คงวิชาคณิตศาตร์(ฮา...)
                ถามว่าทำไมผมต้องเริ่มต้นคุยกับเพื่อนๆแบบนี้ก็เพราะว่า หลังจากวันนี้ เราจะมาปลดล็อคทัศนะคติทางด้านการเงินของพวกเรากันใหม่ เริ่มกันเลยดีกว่านะครับ
                ในชีวิตประจำวันของเรา สิ่งที่เราลงแรงทำงาน หรือทำอะไรก็ตามแต่ สุดท้ายก็เพื่อให้ได้นำเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัว มากบ้างน้อยตาม ก็ตามอัตภาพกันไป คำถามคือ เราเคยมีความรู้สึกสักครั้งไหมว่าเงินที่เรามีอยู่มันเพียงพอแล้วสำหรับการอยู่อาศัย สำหรับค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉิน ไม่นับรวมถึงเพื่อการดูแลคนในครอบครัว ยังไม่นับไปถึงการที่เราต้องเก็บออมบางส่วนไว้เพื่อสำหรับใช้ในยามชรา(ซึ่งเข้าใจนะครับ ว่าอย่าให้มองถึงว่าตอนแก่จะมีอะไรกินไหม เอาอนาคตตรงหน้า ให้พ่อแม่ลูกกินอิ่มนอนหลับก็ดีถมแล้ว ใช่ไหมครับ
                เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว แล้วเราจะเอาเงินตรงไหนไปเก็บ จะเอาเงินตรงไหนกันสำรองไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน ไม่ต้องไปพูดถึงเก็บไว้ใช้ยามแก่เฒ่า ซึ่งปัญหาหนักอกของทุกท่านก็เหมือนจะมีคนมองเห็นมากมายอยู่นะครับ จึงได้มีหนังสือประเภท how to  ออกมาเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมด ซึ่งส่วนใหญ่ก็พูดไปทางเดียวกันคือ เก็บออมบ้าง ออมก่อนใช้บ้าง  ใช้แล้วค่อยออมบ้าง ซึ่งวิธีที่เค้าบอก มันก็เป็นวิธีซึ่งผู้เขียนเค้าใช้ได้จริง ไม่ใช่ทุกคนใช้ได้จริง แต่ก็ถูกที่เค้าบอกนะครับ ผมไม่ได้บอกว่าหนังสือเค้าไม่ดีนะ แต่จะบอกว่าเราเองต่างที่เข้าไม่ถึงวิธีของเค้า อ้าวแล้วยังไงละ เราก็อยากจะหลุดจากบ่วงนี้ แล้วจะให้ยังไง
                แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นจริงละคืออะไร คือเวลาเรามีเงินเราก็จับจ่ายใช้สอย ออมบ้างไม่ออมบ้าง เวลาจำป็นต้องใช้เงิน เราก็ต้องเอามาจากเงินเก็บบ้าง เงินยืมบ้าง ส่วนเรื่องการทำประกันนะเหรอ หลายๆคนก็จะบอกว่า อยากจะทำอยู่นะ แต่ไม่ไหวหรอก ลำพังกินอยู่ก็จะแย่แล้ว ไว้มีเงินมากกว่านี้หน่อยค่อยทำ เรื่องเงินเก็บไม่ต้องพูดถึง นี่ยังไม่นับถึงการเก็บเงินยังไงให้เงินงอกเงย(นั่นไงเริ่มพูดแบบหนังสือ how toแล้วเรา) 
                จะดีไหม ถ้าเราจะมาร่วมสร้างความมั่นคงทางการเงินไปด้วยกัน  ที่พูดนี่หมายถึง เราทุกคนนะครับ ไม่ได้หมายถึงคนมี หรือคนไม่มี คนอยากหรือคนไม่อยาก เอาเป็นว่าสำหรับคนที่มีความตั้งใจจะมีความมั่นคงทางการเงินแล้วกัน แต่ก็นั่นแหละครับ อยากสบายภายหลังมันก็ไม่ง่ายหรอกนะ มันก็ต้องมีการสูญเสีย(ความสุขสบายกันบ้าง) พูดให้สวยๆอย่างที่เค้าชอบพูดกันก็คือ เรามาสร้าง weath กันนะครับ
              ถามว่าสร้างยังไง ก็จะบอกว่า ผ่านการเก็บออมผ่านการลงทุน พูดถึงการลงทุน หลายๆคนเริ่มเบือนหน้าหนี ฉันไม่มีตังบ้างแหละ ฉันไม่มีความรู้บ้างแหละ บลาๆๆๆ ซึ่งทั้งหมดคือกำแพงที่เราสร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นความสำเร็จของเราเอง. เชื่อไหม มีเงิน 1000 ก็ลงทุนได้แล้ว  สำคัญกว่าความคิดที่ปิดกั้นเรา คือ ทัศนะคติ ของเรา ที่ต้องเปิดรับ โลกไปไกลแล้ว เครื่องมือทางการเงินก็มีหลากลายที่พร้อมจะสรา้งความปลอดภัยทางการเงินให้กับเรา ทำไมเราจะต้องเอาชีวิตของเราไปแขวนกับเงินฝากเพียงอย่างเดียว จริงไหมครับ
              สำคัญยิ่งกว่าสำคัญคือ ความตั้งใจของผมนั้นที่ตั้งใจที่สุดคือ อยากให้น้องๆ หรือลูกๆเจน อัลฟ่า หรือเจน ใหม่ๆ เริ่มหันมาสนใจทางด้านการเงิน เพราะอะไรนะหรือ เพราะว่าโรงเรียนไม่เคยสอนเรื่องพูดนี้ เพราะพ่อแม่ไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้ให้ เราฟัง จะบอกแต่ว่ายังเล็กเกินไป. ถ้าจะบอกว่าโตไปก็สายเสียแล้วก็ออกจะดูรุนแรงเกินไป ขอใช้คำว่า กว่าจะโตไปเราก็พลาดสิ่งดีๆสำหรับชีวิตไปเยอะแล้ว น่าจะดีกว่า 
แต่นั่นแหละ ไม่ใช่ว่ารุ่นลุงๆป้า. หรือ วัยทำงานจะสายเสียแล้ว ยังทันครับ เรามาเริ่มด้วยกันนะครับ
สำคัญอันดับแรกเลย.  ปรับทัศนะคติทางด้านการเงินของตนเอง เปิดกว้างเพื่อรับโอกาสใหม่ทางการเงิน และมาสรา้งความมั่นคงทางการเงิน หรือชื่อสวยๆคือ. มาสร้าง weath ไปด้วยกันครับ

Link
EP1 โลกการเงินของทุกคน Ep.1 ปฐมบทการเงิน
EP 3 โลกการเงินของทุกคน Ep.3 รายได้คืออะไร

www.pongsan.info/wealth