ผมว่าผู้กองก็คนดีนะสอนธรรมอะไรหลายๆอย่างสำหรับคนที่ไม่รู้ อย่าไปคิดถึงความไม่มีดีเค้าเลย  ความดีเค้ามีเยอะกว่า ฉะไหนเค้าไม่ดีแต่ครงเดียวถึงกลบความดีเค้าไปหมด ตรงตามหลักพุทธบุคคลที่หาได้ยาก  คือบุคคลที่สำนึกบุญคุณคนเอาละมาดูว่าข้อธรรมไหน
วาจาสุภาษิต 5
1. กล่าวในกาลอันสมควร เพราะว่าถ้อยคำแม้จะดีปานใด ถ้าหากกล่าวผิดเวลาก็เป็นโทษได้
2. กล่าวแต่คำสัตย์จริงไม่กล่าวคำเท็จ เพเราะว่าคำสัตย์ย่อมเป็นที่สรรเสริญแก่บัญฑิตทั้งหลาย มีพระพุทธเจ้าเป็นต้น
3. กล่าวคำอ่อนหวานสุขุมละเอียดไม่หยาบคายให้เคืองใจผู้อื่น คือ สามารถประดิดประดอยถ้อยคำให้นุ่มนวลไม่ทิ่มแทงใจผู้ฟัง ใช้ถ้อยคำชาวเมืองที่สุภาพเรียบร้อย มีกุศโลบายในการใช้ถ้อยคำมิให้ออกไปทิ่มแทงจิตใจผู้ฟัง แม้จำเป็นจะต้องพูดเรื่องรุนแรงก็รู้จักใช้ถ้อยคำนุ่มนวลมิให้ผู้ฟังต้องเคืองใจ
4. กล่าวคำที่มีประโยชน์ในชาตินี้และชาติหน้า ที่มีประโยชน์ในชาตินี้ เช่น ถ้อยคำที่แนะนำให้รู้จักปฏิบัติตัวให้ถูกแบบแผนของสังคม ถ้อยคำที่แนะนำให้ปฏิบัติให้สุขภาพแข็งแรง และถ้อยคำแนะนำการทำมาหากินดำรงชีวิต เป็นต้น ที่มีประโยชน์ในชาติหน้า เช่น ถ้อยคำที่แนะนำเรื่องบาปเรื่องบุญ สิ่งใดควรเว้นสิ่งใดควรกระทำ และเรื่องความไม่เที่ยงแท้แน่นอนของชีวิต เป็นต้น
5. กล่าวคำที่ประกอบไปด้วยจิตเมตตาไม่มีความโกรธอิจฉาริษยาพยาบาท ประสงค์ให้เกิดความเดือดเนื้อร้อนใจแก่ผู้ฟัง
เวลาผมฟังผู้กองมันรู้สึก ติดๆ ขัดๆ ครึงๆ กลางๆ รู้สึกไม่เต็ม
ผมว่าผู้กองขาด 1,3,5 แต่มีข้อ 2,4 
เอาละผมว่าเมื่อเรารู้แล้วก็ปฎิบัติตามหลักพุทธศาสนาโดนมีศีล 5 เป็นรากฐาน

“คนฉลาดไม่ใช่เป็นแต่พูดเท่านั้น ต้องนิ่งเป็นด้วย
คนที่พูดเป็นนั้น ต้องรู้ในสิ่งที่ไม่ควรพูดให้ยิ่งกว่าสิ่งที่ควรพูด