เกลียดญาติมากๆ

กระทู้คำถาม
คือเราเกิดมาบนครอบครัวฝั่งพ่อและฝั่งแม่ไม่ถูกกันและพ่อแม่ก็เลิกลากันตั้งแต่เรายังแบบเบาะ เราได้มาอยู่ครอบครัวฝั่งแม่ซึ่งถือว่าโชคดีที่สุด มีตามียายที่รักเรามาก พอเราโตขึ้นเราก็ไปมาหาสู่ญาติทางพ่อเด็กๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ความรู้สึกไม่อยากไปหาทางนั้นไปหาได้แต่ไม่อยากอยู่นาน เพราะติดตากับยายมาก และแล้วเราก็ได้ไปอยู่ที่นั้นจำได้ว่าตอนป1ต้องไปเข้าโรงเรียน เพราะตายายแกต้องทำงานก่อสร้างและที่นั้นไม่มีโรงเรียน เราจึงต้องไปอยู่กับพวกเขา ลืมบอกไปว่าทางนั้นมีหลานอีกคนเป็นลูกของอาน้องชายของพ่อเกิดห่างกันไม่กี่ปี ซึ่งแน่นอนว่าเขาต้องรักหลานฝั่งเขามากกว่าเราแน่นอน ช่วงเวลาที่ไปอยู่เป็นอะไรที่ทรมานมากต้องนอนร้องไห้ทุกคืนเพราะคิดถึงตายาย ไปอยู่ได้ปีเดียวก็กลับมาแต่เหมือนไปหลายๆปีเลยเพราะเหมือนต้องนับวันรอ และกลับมาเรียนอยู่กับยายเฒ่าที่บ้านเกิดเป็นอะไรที่ดีใจมากแต่ไม่ได้อยู่กับตายายหรอกนะเพราะตายายไปทำงานทีกทม.ส่งเงินมา แต่ก็ดีกว่าไปอยู่ฝั่งนั้น ตอนเด็กอะเนาะก็ไม่ได้คิดอะไรหรอกแค่อยู่กับเขาไม่สนิทใจไม่สบายใจและไม่อยากอยู่มากๆ ลืมบอกอีกว่าบ้านพ่อและแม่อยู่ใกล้ๆกัน เดินไม่กี่ก้าวก็ถึง พอโตขึ้นเราก็ไปเล่นบ้านพ่อบ้างไปๆมาๆเหมือนย่าแม่ของพ่อเริ่มแซะเราในความรู้สึกเราเหมือนเขากำลังบอกว่าเขาไม่ชอบเรา เราทำไรก็ผิดไปหมดสู้หลานเขาไม่ได้ทำนองนี้ แต่ในความคิดก็แย้งกันไม่หรอกเขาเป็นย่าเราหนิเขาจะไม่ชอบเราไปทำไม เป็นไปไม่ได้หรอก อืมจ้ะเป็นเด็กที่คิดบวกหัวอ่อนอะเนาะ  พอโตขึ้นมาอีกมันก็เริ่มเชื่อมานิดๆละนะเขาไม่ชอบเราหนิ และพอรู้มาอีกว่าต่อหน้าเขาพูดดีแต่ลับหลังนี้สิ ก็รู้เพราะน้องได้มาบอกว่าวันนั้นที่ย่าพูดกับพี่แต่พอพี่ไม่อยู่ย่าไม่ได้พูดแบบนั้น เราก็หรอ ไม่เป็นไรหรอกปล่อยมันไป เราก็ยังไปเล่นด้วยอยู่เรื่อยๆเวลาผ่านไปจนหนักเข้าหนักเข้า เขาทำให้เรารู้สึกเจ็บกับการพูดแซะๆของเขา และเราก็เจ็บน้ำตาคลอและวิ่งมาร้องไห้ที่บ้าน เราเก็บน้ำตาไม่อยู่จนร้องไห้ต่อหน้าตากับยาย ตากับยายก็โมโหแทนแต่ไม่ได้เป็นเรื่องให้โตจนไปด่าย่าหรอกนะ แต่เราก็ยังไปหาเขาอยู่นะแต่นานๆเดินไปที วันนั้นเราขอเงินพ่อ พ่อส่งมาทางย่าแล้วเราไปขอย่า แต่ย่าให้แค่300แต่ที่จริงพ่อส่งมาให้2พัน เราก็บอกมันไม่ใช่แค่นี้เราถกเถียงกันอยู่หน้าบ้านแต่เราเถียงไปร้องไห้ไปเสียงเราสั่น เราอ่อนไหวมากเลยนะกับคนรอบครัวเราไม่คิดว่าเขาจะคิดเขาจะไม่ชอบเรา เราเป็นหลานต้องเอ็นดูเราเหมือนตากับยายเราสิ และไม่นานพ่อก็โทรมาด่าเราย่าบอกพ่อว่าเราด่าย่า แท้ที่จริงเราอธิบายว่ามันไม่ใช่แบบนี้เราไม่ได้ด่า พ่อก็ไม่ฟังพ่อด่าว่าเราจนเราร้องไห้ บอกแล้วเราอ่อนไหวกับครอบครัวใครด่าเรา เราไม่เสียงใจเท่าครอบครอบด่า ทุกอย่างคือพังมากกลับมาคิดทบทวนสิ่งที่แย้งในสมองเมื่อก่อนว่าเป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาไม่ชอบเรา มันเป็นไปได้ แล้วที่เขาทำดีละไม่จริงหรอมันแฝงไปด้วยคำพูดที่ทิ่มแทงเรามาตลอด ความคิดสีชมพูของฉันมันไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อ เเล้วเราก็ไม่ไปยุ่งกับเขาอีก  จนเวลาผ่านไปอยู่ๆเหมือนเขาอยากคืนดีรึยังไงไม่รู้เขายื่นเงินให้เรา แล้วเขาก็พูดดีกับเราจนเราใจอ่อน เราจบมอปลายแล้วต่อไปเราก็เข้ามาหาลัยเราอายุ18ทุกงานเขาก็รับแล้วสิ เราคิดว่าจะทำงานหาเงินเข้ามาหาลัยแล้วย่าก็เลยแนะนำให้ไปอยู่กับพี่ของย่าซึ่งฉันก็รุ้จัก ลูกของแกซึ่งเราเรียกว่าป้าแกจะเป็นคนห้าวๆหน่อย ย่าบอกว่าไปอยู่กับเขาทำงานโรงงานซึ่งแฟนของป้าเป็นหัวหน้าอยู่ที่นั้น แฟนของป้าก็เป็นผญเหมือนกัน ย่าบอกว่าอยู่กับเขาข้าวก็ไม่ต้องซื้อห้องก็ไม่ต้องเช่า แล้วตายายเราก็โอเค เราดีใจที่จะได้ทำงานครั้งแรกเราตื่นเต้นมากเมื่อเราไปถึงที่นั้นทุกอย่างก็ปกติดีพี่สาวย่ามีครอบครัวลูกหลานหลายคน เราสมัครงานโดยมีแฟนป้าพาไปสมัคร เราเริ่มทำงานเป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆเลยงานโรงงานเนี่ย แต่ฉันก็ไม่ถอยหรอกเพราะอยากได้ตังมาเข้ามหาลัยเวลาผ่านไปครอบครัวพี่สาวย่าก็ปกติดี เรากลับมาจากที่ทำงานก็ร่างกายอ่อนเพลียอยากนอนเอามากๆยิ่งกะดึกยิ่งหนักยิ่งเป็นคนตัวผอมๆยิ่งไม่มีแรงไปกันใหญ่แต่ไม่เคยถอยสักวันเราทำโอทุกวันเลยละ มันได้เงินเพิ่มนี่นะ จนมาถึงวันเงินเดือนออก เป็นวันที่เรารอคอยมากเงินเดือนก้อนแรกในชีวิต คิดว่าจะเอาให้ตายายใช้ด้วยคนละครึ่งอีกครึ่งก็เก็บไว้ นี้แหละเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราว พี่สาวย่าเริ่มว่าเราทำไมไม่ซื้อของกินมาฝากพวกเขาเลยว่าเราแรงมากประมาณว่าไปอยู่ไหนก็จะมีคนรังเกียจถ้าเป็นแบบนี้ ไม่เห็นหรอน้องๆหลานๆมันเยอะทำกับข้าวทีก็เป็นหม้อ เหมือนกับว่าเรามาเป็นภาระเพิ่มอีก เรานี้หน้าหวอเลยเราพึ่งเงินเดือนออกวันแรกนะแต่ก็ชั่งเหอะ แต่ก็เคืองๆอยู่ วันหลังไปตลาดค่อยซื้อผลไม้มาให้ละกัน เรานี้คิดถึงตากับยายมากอยากกับแล้วอะ แต่เราก็อยากได้เงินอดทนสู้ทำแค่ไม่กี่เดือนก็เราก็มีเงินไปเข้ามหาลัยแล้ว แล้วพวกเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปจากฉันทั้งป้าและแฟนป้าและพี่สาวย่า เราเริมอึดอัด เลยไม่สนใจกลับมาจากทำงานฉันก็คุยด้วยนิดหน่อยแล้วก็นอน
เขาก็น่าจะเข้าใจ เราบอกแฟนป้าว่าเดือนหน้าก็ต้องไปสมัครเรียนละนะแล้วแฟนป้าก็บอกเราว่ามีอะไรทำไมไม่ไปบอกป้าเธอมาบอกเขาทำไมแทนที่จะไปบอกป้า เรานี้งงเลย เราคิดว่าเขาสองคนเป็นแฟนกันก็เหมือนคนๆเดียวกันนั้นแหละ เราก็บอกเขาไปแบบนั้นเราก็เลยโดนว่ากลับมา เราก็เลยต้องเออ ออ ไปก่อนเพราะเราไม่อยากมีปัญหากันเรายังอยากทำงานต่อ แล้วเวลาผ่านมาจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์ เรากำลังจะแต่งตัวไปทำงานตามปกติแฟนป้าบอกว่าวันนี้ไม่ต้องไม่ทำงานนะ เราก็งง ทำไมถึงไม่ให้ไปทำงาน เราก็เลยถามออกไปทำไมคะ แกก็บอกไม่ต้องไปแล้วแกก็บอกว่าเราทำไมไม่คุยกับป้ากับพี่สาวย่าบ้าง เราบอกเราคุยอยู่นะกับย่าแต่เราเหนื่อยทำงานเลยคุยด้วยได้นิดหน่อยแล้วขึ้นมานอน แต่กับป้าเราไม่เห็นเลยเราก็คุยแต่ป้าเหมือนไม่อยากคุยด้วยเราเหนื่อยเราเลยไม่ค่อยสนใจ แล้วแฟนก็บอกเราว่าเธอไม่ได้คุย เธอไม่ได้คุยๆ เราก็บอกว่าคุยค่ะคุย แล้วเขาว่าเราเถียงใส่เขา เราก็บอกไม่ได้เถียงค่ะ อธิบาย เขาโมโหเลยลงไปบอกป้า แล้วป้าก็ขึ้นมาว่าเราทำไมไปเถียงแฟนป้าแบบนั่นแล้วป้าก็บอกอีกว่าคงอยู่ด้วยกันไม่ได้แล้วแหละ เราก็ยกมือขอโทษแล้วขอร้องให้เราอยู่ต่อเถอะนะเราอยากทำงานจริงๆเราอยากได้ตัง แต่แกก็ว่าไม่ได้เพราะเราทำแบบนี้ ในความคิดเราไม่ได้ทำไรผิดเลยนะเรสงงมากมันเกิดอะไรขึ้น เราร้องไห้ไปด้วยพูดไปด้วยเราอยากทำงานจริงๆนะให้เรากราบก็ได้นะป้า แกบอกว่าพรุ่งนี้เช้าให้เก็บข้าวของไป เรานี้ร้องไห้หนักมาก แล้วเราโทรหายายเล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมดยายโมโหมากบอกเราให้โทรหาแม่เพราะแม่อยู่น่าจะอยู่ใกล้เรา เราโทรหาแม่บอกแม่ว่าเขาบอกมาแบบนี้ให้เก็บกระเป๋ากลับแล้วเราก็ร้องไห้บอกแม่ไปว่าเราอยากทำงาน เราเล่าสิ่งที่เขาทำให้แม่ฟังทั้งหมดทุกอย่างเป็นความจริง ใครฟังก็ต้องบอกว่าเราถูกรังแก แล้วก็ป้าก็ตะโกนใส่เราเอามาจะคุยกับแม่เราเองแล้วบอกแม่เราว่าอย่าไปฟังลูกตัวเองเยอะ เรางงในงงเลย เราพูดความจริงทั้งหมดเขาบอกเราโกหกได้ไง ป้าเลยเอาโทรศัพท์ให้เราแล้วโกรธเราใหญ่เลยส่วนเราเอามือปาดน้ำตา แล้วร้องไห้ออกมาเป็นสายไม่หยุด แล้วป้าก็ไล่ออกจากบ้านตอนกลางคืนเที่ยงคืนจริงๆให้เก็บข้าวของเลย มืดๆเราคิดในใจเราจะออกไปยังไง เราก็เลยบอกว่ารอเช้าก่อนได้ไหม คงจะรู้แล้วแหละ ไม่ แล้วป้าก็ลงไปแล้วพี่สาวย่าก็ขึ้นมาพร้อม รวมหัวกันด่าเราแล้วย่าก็สาบแช่งเราให้เราตายห่าตายหงตายไปก็จะไม่เผา ให้เราทำอะไรก็ไม่ขึ้น มีแฟนก็ขอให้บ้านแตกสแหกขาด สารพัดเลย แกบอกว่ากุไม่เคยเจอคนแบบ ลูกหลานแกไม่เคยมี ไม่มีใครเถียงแบบ เราคิดในใจเราไม่ผิดนะ เราคิดทบทวนตอนนั้นเราแน่ใจนะว่าเราไม่ได้ทำไงผิดจริง แล้วเขาจะวิ่งเข้ามาจะตีเราแต่ป้าห้ามไว้ เราคิดในใจพร้อมปาดน้ำตาแล้วคิดว่าควรหยุดร้องไห้ได้แล้วเขาไม่ใช่ญาติพี่น้องเราหรอก ถ้าญาติจริงเขาต้องรักเราไม่ใช่มาสาบเเช่งหักกระดูกเราแบบนี้ แล้วเขาก็ด่าเราเรื่อยๆจนเรายิ้มหัวเราะ  เราเริ่มดื้อขึ้นมาจนเขาหยุดด่า  เขาบอกสวรรค์มีตาประตูมีหู เทวดาฟ้าดินเขารู้ เดียวก็จะได้รับกรรม 
เราคิดใช้สวรรค์เขารู้ เขารู้ ว่าใครเป็นยังไงทำไรไว้กับเราบ้าง เราคิดในใจเขาจะพูดให้ตัวเองมีศรีธรรม ทำไม ทั้งที่เขาทำกับเราเขาไม่ใช่คน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่