เมื่อช่วงกลางปี 2561 หลังจากเรียนจบ เราก็ได้ไปทำงานที่บริษัทจีนแห่งหนึ่งซึ่งผลิตแผ่นโซลาร์เซลล์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา แล้วเราก็ได้ไปชอบหนุ่มจีนคนหนึ่งอายุแก่กว่าเราประมาณ 3 ปี เขาเป็นหัวหน้าช่างซ่อมเครื่องในไลน์ผลิต แล้วตำแหน่งที่เราทำงานเป็นตำแหน่งควบคุมคุณภาพการผลิตในไลน์เช่นกัน ดังนั้นเราก็มักจะเห็นเขาอยู่เรื่อยๆ ซึ่งช่วงแรกๆเราก็ไม่ได้รู้สึกชอบเขาอะไรหรอก จนผ่านไปซักเดือนสองเดือนต่อมา เรารู้สึกได้ว่าเขาชอบขำเวลาเราเล่นกับพี่หรือเพื่อนในแผนก ซึ่งโดยพื้นฐานเราเป็นคนค่อนข้างที่จะเฮฮา ดังนั้นเวลาเล่นกับใครเรามักจะทำอะไรตลกๆ (ไม่รู้ว่าเราคิดไปเองหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างงั้นนี่ก็คงคิดไปเองมาปีกว่าน่าจะได้ 55555 ^^) นั่นแหล่ะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เริ่มชอบเขา เพราะเราเริ่มสังเกตเขา สนใจในตัวเขามากขึ้น แล้วมันทำให้เราเห็นมุมน่ารักๆของเขามากขึ้น ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเขาไม่ได้หน้าตาหล่อเป็นเทพบุตร หรือหุ่นดีจนสาวกรี๊ดแตกไรหรอก แต่เขาแค่รูปร่างผอมบาง(บางม๊ากกกกก) ใส่แว่น หน้าเหมือนการ์ตูนชายญี่ปุ่นบุคลิกเขินๆ เนิร์ดๆ แล้วเราก็แค่แพ้คนแบบนี้แค่นั้นเอ๊งงงงงง (บ้าจริง.....ทำไมเราเขิน ไม่ไหวแล้วววววว >///<)
ต่อมาเราก็ไปขอเขาเป็นเพื่อนใน wechat ซึ่งรูปโปรไฟล์เขาเป็นรูปปิกาจูใส่แว่นตากันแดด(
!!!! มาสายการ์ตูนด้วยยย กูก็แพ้เข้าไปใหญ่) และไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากขอเขาเป็นเพื่อน เขาก็ส่งข้อความมาหาเราว่า(อย่าเรียกว่าข้อความเลยดีกว่า555)
เขา : ?
เรา : ..........(ไม่ตอบ)
ตกเย็นวันนั้นเขาก็ได้โพสต์รูปการ์ตูนผู้หญิงญี่ปุ่นใส่หน้ากาก ซึ่งเราก็มโนว่าต้องเป็นเราแน่ๆ ก็เลยไปกดไลค์ หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาดันลบโพสต์นั้น ตอนนั้นคือแบบเราแอบเสียใจนะ แต่มาคิดในมุมเขา เขาคงกลัว 5555
วันต่อมาเราก็แกล้งโทรผิดใน wechat ไปหาเขา แล้วเราก็ตัดสาย
เรา : โทรหาเขาแล้วก็วางสาย
เขา : ?
เรา : I am sorry , I just call wrong
เขา : ….(ไม่ตอบ)
เฟลเลยเราเขาไม่ตอบ แต่เราก็ยังไม่กล้าจีบเขาตรงๆ และหลังจากนั้นเราก็มักจะให้พี่ เพื่อนที่แผนกถ่ายรูปให้ เพราะจริงๆแล้วในส่วนงานเรามันคนละโซนกับเขาเลย ดังนั้นเราก็จะเห็นเขาแค่ทางเดินเข้าเดินออกในไลน์เท่านั้น ซึ่งตอนนี้เรามีรูปเข้าเยอะมากกกกกกกกกกก แล้วเราก็ให้เพื่อนถ่ายรูปมาให้เรื่อยๆ โดยที่เราก็คิดว่าเขาคงไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร(เราคิดว่าอย่างงั้นนะ)
จนมาถึงช่วงต้นปี 2562 ทางบริษัทมีจัดเลี้ยงปีใหม่ เราได้นั่งโต๊ะใกล้โต๊ะเขาด้วยยยแหล่ะ แบบมันเหมือนโต๊ะจีนกลมๆ แล้วเรานั่งหันหน้าเข้าเวที โดยเขานั่งโต๊ะข้างหลังถัดไป โดยที่เขานั่งหันหลังให้เวที ซึ่งนั่นหมายความว่าเรานั่งใกล้เขามาก ซึ่งเราก็ยิ้มตลอดทั้งงานเลยจ้า แต่เราก็รู้สึกได้นะว่าเขาชอบหันเก้าอี้เข้าหันหน้าเวที ดังนั้นองศาการมองของเขามันอาจจะเห็นเราก็ได้(งานมโนก็มา) ซึ่งทำบ่อยมากสลับกับเขาก็ไปหาเพื่อนของเขาโต๊ะนู้นโต๊ะนี่บ้าง(เราก็มองเขาบ่อยเช่นกัน อิอิ) ซึ่งนั่นมันก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเขาคงรู้แล้วแหล่ะ
เดี๋ยวมาต่อ....
แอบชอบหนุ่มจีน(ตอนนี้ก็ยังชอบอยู่>///<)
ต่อมาเราก็ไปขอเขาเป็นเพื่อนใน wechat ซึ่งรูปโปรไฟล์เขาเป็นรูปปิกาจูใส่แว่นตากันแดด(!!!! มาสายการ์ตูนด้วยยย กูก็แพ้เข้าไปใหญ่) และไม่กี่นาทีต่อมาหลังจากขอเขาเป็นเพื่อน เขาก็ส่งข้อความมาหาเราว่า(อย่าเรียกว่าข้อความเลยดีกว่า555)
เขา : ?
เรา : ..........(ไม่ตอบ)
ตกเย็นวันนั้นเขาก็ได้โพสต์รูปการ์ตูนผู้หญิงญี่ปุ่นใส่หน้ากาก ซึ่งเราก็มโนว่าต้องเป็นเราแน่ๆ ก็เลยไปกดไลค์ หลังจากนั้นไม่กี่นาที เขาดันลบโพสต์นั้น ตอนนั้นคือแบบเราแอบเสียใจนะ แต่มาคิดในมุมเขา เขาคงกลัว 5555
วันต่อมาเราก็แกล้งโทรผิดใน wechat ไปหาเขา แล้วเราก็ตัดสาย
เรา : โทรหาเขาแล้วก็วางสาย
เขา : ?
เรา : I am sorry , I just call wrong
เขา : ….(ไม่ตอบ)
เฟลเลยเราเขาไม่ตอบ แต่เราก็ยังไม่กล้าจีบเขาตรงๆ และหลังจากนั้นเราก็มักจะให้พี่ เพื่อนที่แผนกถ่ายรูปให้ เพราะจริงๆแล้วในส่วนงานเรามันคนละโซนกับเขาเลย ดังนั้นเราก็จะเห็นเขาแค่ทางเดินเข้าเดินออกในไลน์เท่านั้น ซึ่งตอนนี้เรามีรูปเข้าเยอะมากกกกกกกกกกก แล้วเราก็ให้เพื่อนถ่ายรูปมาให้เรื่อยๆ โดยที่เราก็คิดว่าเขาคงไม่รู้หรอกว่าเราเป็นใคร(เราคิดว่าอย่างงั้นนะ)
จนมาถึงช่วงต้นปี 2562 ทางบริษัทมีจัดเลี้ยงปีใหม่ เราได้นั่งโต๊ะใกล้โต๊ะเขาด้วยยยแหล่ะ แบบมันเหมือนโต๊ะจีนกลมๆ แล้วเรานั่งหันหน้าเข้าเวที โดยเขานั่งโต๊ะข้างหลังถัดไป โดยที่เขานั่งหันหลังให้เวที ซึ่งนั่นหมายความว่าเรานั่งใกล้เขามาก ซึ่งเราก็ยิ้มตลอดทั้งงานเลยจ้า แต่เราก็รู้สึกได้นะว่าเขาชอบหันเก้าอี้เข้าหันหน้าเวที ดังนั้นองศาการมองของเขามันอาจจะเห็นเราก็ได้(งานมโนก็มา) ซึ่งทำบ่อยมากสลับกับเขาก็ไปหาเพื่อนของเขาโต๊ะนู้นโต๊ะนี่บ้าง(เราก็มองเขาบ่อยเช่นกัน อิอิ) ซึ่งนั่นมันก็ทำให้เรามั่นใจได้ว่าเขาคงรู้แล้วแหล่ะ
เดี๋ยวมาต่อ....