คุณคิดว่าชีวิตของคนเรานั้น มันถูกห่อหุ้มด้วยอะไร? ความสุข ความทุกข์ ความรัก ความเชื่อ ความโลภ โกรธ หลง หรือความดี ความชั่ว!!
เมื่อเราทุกคนเกิดมาบนโลกใบนี้ เราต่างถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกแห่งความบริสุทธิ์ที่พ่อและแม่ของเราต่างช่วยกันสร้างมันขึ้นมา มันเป็นความบริสุทธิ์ทั้งร่างกาย และจิตใจ มันบริสุทธิ์ในความคิด และการมองโลก บริสุทธิ์ในความอิสระไม่ยึดติด ไร้ซึ่งความมีตัวตน ปราศจากมายาต่าง ๆ ซึ่งเปลือกแห่งความบริสุทธิ์นี้ จะคอยปกป้องพวกเราไว้จากสิ่งไม่ดีทั้งทางร่ายกาย และจิตใจ
อยู่มาวันหนึ่ง เราต่างเติบใหญ่ใช้ชีวิตที่เติบโตขึ้น เปลือกแห่งความบริสุทธิ์ที่พ่อแม่เราสร้างเอาไว้ ก็เริ่มกะเทาะแตกออกไปทีละน้อย ทีละนิด ตามชีวิตที่ดำเนินไปของพวกเรา แน่นอนเปลือกแห่งความบริสุทธิ์นี้ มันห่อหุ้มตัวเรามานานตั้งแต่เด็กจนเราเติบโต ระหว่างนั้นมันได้สร้างความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ติดกับจิตใจของเรา ซึ่งขอเรียกมันว่า ความรู้สึกปลอดภัย
เรารู้สึกปลอดภัยจากการปกป้องของพ่อแม่เรา เรารู้สึกปลอดภัยจากการอยู่ภายในครอบครัวที่อบอุ่น มีพี่น้องคอยดูแลซึ่งกันและกัน เมื่อวันหนึ่งความรู้สึกปลอดภัยภายในจิตใจที่ว่านี้ ถูกกะเทาะหลุดออกไปจากชีวิต ความรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงเข้ามาแทนที่ พวกเราจึงต้องดิ้นรนหาเปลือกอันใหม่มาห่อหุ้มตัวเอง เพื่อให้เรารู้สึกปลอดภัยเช่นเดิม
แต่เปลือกที่เราพยายามดิ้นรนหามาใหม่นี้ มันเป็นเปลือกที่ไม่มีความบริสุทธิ์หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อยนิด หากเพียงเราคิดว่ามันเหมาะสมกับเราในช่วงวัยนั้น ๆ บางช่วงในวัยที่เราเปลี่ยนจากด.ช. ไปเป็นนาย(ในช่วงเริ่มต้น) เราเรียกช่วงนี้ว่าช่วงวัยรุ่น
แน่นอนวัยรุ่นส่วนใหญ่นั้น จะห่อหุ้มตัวเองด้วยเปลือกแห่งความกล้า แต่ออกจะเป็นความกล้าที่ขาดซึ่งการยั้งคิดในการกระทำไปสักหน่อย แม้ว่าผลกระทบจากความกล้าเช่นนี้ บางทีอาจแปรเปลี่ยนชีวิตวัยรุ่นหลาย ๆ คน ให้ชีวิตต้องพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายแบบไม่คาดฝัน สำหรับตัวเอง และพ่อแม่
กระนั้น เหล่าวัยรุ่นทั้งหลายก็ยังคงแสดงความกล้าแบบแปลก ๆ นี้อยู่เป็นเนือง ๆ เหตุเพราะเขารู้สึกปลอดภัยในหมู่เพื่อน ๆ อยากเป็นที่ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมา
ภายหลังจากที่พวกเราเดินทางผ่านช่วงวัยรุ่นแสนวุ่นนี้มาได้ เราต่างก็ก้าวเข้าสู่วัยทำงานเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว และอีกเช่นกัน เปลือกแห่งความกล้าที่เคยห่อหุ้มชีวิตเราไว้ในช่วงวัยรุ่น มันก็เริ่มกะเทาะออกไปตามบริบทของชีวิต ความรู้สึกปลอดภัยก็เริ่มหดหายไป เนื่องเพราะเราเปลี่ยนช่วงชีวิตอีกครั้ง มันก็เป็นสัญชาตญานของการเอาตัวรอดของเราทุกคน เราจึงเริ่มหาเปลือกอันใหม่มาทดแทนเปลือกอันเก่าที่มันใช้ไม่ได้แล้ว
แต่ในครั้งนี้มันเป็นเปลือกที่เราอาจจะไม่คิดว่า เราจะได้พบเจอกับมัน นอกจากจะไม่หลงเหลือความบริสุทธิ์แล้ว มันยังเต็มไปด้วยความรัก โลภ โกรธ หลง เราเรียกเปลือกของช่วงชีวิตนี้ ว่า “เปลือกแห่งมายา” เราอาจยังจะไม่รู้ว่าเปลือกแห่งมายาอันนี้มันดี หรือไม่ดีอย่างไร หรือมันจะทำให้เรารู้สึกปลอดภัยเหมือนเปลือกเก่า ๆ ของเราหรือไม่ แต่เรารู้ว่าบางทีมันอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ เราจึงเต็มใจที่จะห่อหุ้มชีวิตด้วยเปลือกแห่งมายานี้
ต่อเมื่อเราได้ดำเนินชีวิตไปได้สักพักใหญ่ เราจึงเริ่มรับรู้ว่า เปลือกแห่งมายานี้มันมีทั้งคุณและโทษ มันสามารถทำลายชีวิตเรา และผู้อื่นได้โดยง่าย หากเราขาดสติในการยั้งคิด และดำเนินชีวิตไปด้วยภาพมายาเหล่านี้มากจนเกินไป
เราจึงกลับมาหวนคิด ใคร่ครวญกระบวนชีวิตที่ผ่านมา เรากลับค้นพบว่า แท้จริงแล้ว มันไม่มีเปลือกอันไหนเลย ที่จะทำให้เรามีความสุขในบั้นปลายชีวิตได้ จึงทำให้เรากลับไปรำลึกถึงเปลือกแห่งความบริสุทธิ์ที่พ่อแม่ของเราให้ไว้ในตอนต้นของชีวิต ทั้งยังคิดต่อไปว่า เราจะทำอย่างไร เพื่อให้เราได้กลับไปมีเปลือกแห่งความบริสุทธิ์มาห่อหุ้มชีวิตของเราอีกครั้ง
คำถามคงไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะนำมันหวนย้อนกลับคืนมาได้อย่างไร?
เพราะมันคงไม่สามารถย้อนวนกลับมาหาเราได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่เราควรถามตัวเอง ก็คือ เราจะทำอย่างไรกับเปลือกที่ห่อหุ้มชีวิตเราในปัจจุบันนี้ ให้กลับมาเป็นเปลือกแห่งความสุข ความสงบทางจิตใจ เสียมากกว่า!
เราจะยอมสละเปลือกต่าง ๆ ที่ห่อหุ้มชีวิตเรามาเป็นเวลานานนับแรมปีเช่นนี้ได้อย่างไร?
หรือหากเรายอมสละเปลือกต่าง ๆ นี้ได้จริง ชีวิตของเราจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร? และการหล่นหายไปของความรู้สึกปลอดภัยนี้ จะทำให้เราสามารถดำรงอยู่บนโลกใบนี้ได้หรือไม่? มันก็จะมีคำถามตามมาอีกมากมายให้เราได้ขบคิด ตราบใดที่เรายังอยู่ในวังวนของการมีตัวตนในปัจจุบันนี้อยู่
หลังจากที่เราใคร่ครวญความคิด พินิจชีวิตใหม่แล้ว เราก็จะพบว่าเมื่อเราได้ถอดเอาเปลือกต่าง ๆ ที่ห่อหุ้มชีวิตของเราออกไปแล้ว สิ่งที่เราเหลืออยู่ก็คือ “ความว่างเปล่า” ซึ่งมันอาจเป็นคำตอบที่เราเฝ้าค้นหามาตลอดชีวิตของเราก็เป็นไปได้ มันอาจเป็นความว่างเปล่าจากจิตภายในสู่โลกภายนอก ว่างเปล่าจากความสงบร่มเย็ม ไม่ทุกข์ร้อน ว่างเปล่าจากภาพมายาสู่ปัญญา
จึงพอสรุปได้ว่า ชีวิตไร้เปลือก คือชีวิตแห่งความว่างเปล่า ชีวิตแห่งความว่างเปล่า คือชีวิตที่เรียบง่าย ชีวิตที่เรียบง่าย คือชีวิตที่มีแต่ความสงบภายในจิตใจ ชีวิตที่มีแต่ความสงบภายในจิตใจ คือชีวิตที่พร้อมเดินจากโลกนี้ไป ด้วยใจที่ว่างเปล่า เช่นกัน
Cr. เปลือกชีวิต The Series (Series ที่จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น) By ดช.จุ่น
ติดตามบทความอื่น
มุมมองแห่งความสุข!!!
https://ppantip.com/topic/39280633
ปัญญา...มืด
https://ppantip.com/topic/39307577
เรือ…/เกาะร้าง..../ปัญญา!!
https://ppantip.com/topic/39337326
เมื่อรัก....จ..า.....ง!!!
https://ppantip.com/topic/39360619
ยา.../..รักษา../อารมณ์
https://ppantip.com/topic/39540873
ความรักอัน..บริสุทธิ์
https://ppantip.com/topic/39558608
ความเข้าใจ ที่ลวงหลอก
https://ppantip.com/topic/39601635
ต้นกล้า...ปัญญา และชีวิต
https://ppantip.com/topic/39688815
เปลือกชีวิต++
เมื่อเราทุกคนเกิดมาบนโลกใบนี้ เราต่างถูกห่อหุ้มด้วยเปลือกแห่งความบริสุทธิ์ที่พ่อและแม่ของเราต่างช่วยกันสร้างมันขึ้นมา มันเป็นความบริสุทธิ์ทั้งร่างกาย และจิตใจ มันบริสุทธิ์ในความคิด และการมองโลก บริสุทธิ์ในความอิสระไม่ยึดติด ไร้ซึ่งความมีตัวตน ปราศจากมายาต่าง ๆ ซึ่งเปลือกแห่งความบริสุทธิ์นี้ จะคอยปกป้องพวกเราไว้จากสิ่งไม่ดีทั้งทางร่ายกาย และจิตใจ
อยู่มาวันหนึ่ง เราต่างเติบใหญ่ใช้ชีวิตที่เติบโตขึ้น เปลือกแห่งความบริสุทธิ์ที่พ่อแม่เราสร้างเอาไว้ ก็เริ่มกะเทาะแตกออกไปทีละน้อย ทีละนิด ตามชีวิตที่ดำเนินไปของพวกเรา แน่นอนเปลือกแห่งความบริสุทธิ์นี้ มันห่อหุ้มตัวเรามานานตั้งแต่เด็กจนเราเติบโต ระหว่างนั้นมันได้สร้างความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ติดกับจิตใจของเรา ซึ่งขอเรียกมันว่า ความรู้สึกปลอดภัย
เรารู้สึกปลอดภัยจากการปกป้องของพ่อแม่เรา เรารู้สึกปลอดภัยจากการอยู่ภายในครอบครัวที่อบอุ่น มีพี่น้องคอยดูแลซึ่งกันและกัน เมื่อวันหนึ่งความรู้สึกปลอดภัยภายในจิตใจที่ว่านี้ ถูกกะเทาะหลุดออกไปจากชีวิต ความรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงเข้ามาแทนที่ พวกเราจึงต้องดิ้นรนหาเปลือกอันใหม่มาห่อหุ้มตัวเอง เพื่อให้เรารู้สึกปลอดภัยเช่นเดิม
แต่เปลือกที่เราพยายามดิ้นรนหามาใหม่นี้ มันเป็นเปลือกที่ไม่มีความบริสุทธิ์หลงเหลืออยู่เลยแม้แต่น้อยนิด หากเพียงเราคิดว่ามันเหมาะสมกับเราในช่วงวัยนั้น ๆ บางช่วงในวัยที่เราเปลี่ยนจากด.ช. ไปเป็นนาย(ในช่วงเริ่มต้น) เราเรียกช่วงนี้ว่าช่วงวัยรุ่น
แน่นอนวัยรุ่นส่วนใหญ่นั้น จะห่อหุ้มตัวเองด้วยเปลือกแห่งความกล้า แต่ออกจะเป็นความกล้าที่ขาดซึ่งการยั้งคิดในการกระทำไปสักหน่อย แม้ว่าผลกระทบจากความกล้าเช่นนี้ บางทีอาจแปรเปลี่ยนชีวิตวัยรุ่นหลาย ๆ คน ให้ชีวิตต้องพบเจอกับสิ่งที่เลวร้ายแบบไม่คาดฝัน สำหรับตัวเอง และพ่อแม่
กระนั้น เหล่าวัยรุ่นทั้งหลายก็ยังคงแสดงความกล้าแบบแปลก ๆ นี้อยู่เป็นเนือง ๆ เหตุเพราะเขารู้สึกปลอดภัยในหมู่เพื่อน ๆ อยากเป็นที่ยอมรับในสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมา
ภายหลังจากที่พวกเราเดินทางผ่านช่วงวัยรุ่นแสนวุ่นนี้มาได้ เราต่างก็ก้าวเข้าสู่วัยทำงานเพื่อสร้างเนื้อสร้างตัว และอีกเช่นกัน เปลือกแห่งความกล้าที่เคยห่อหุ้มชีวิตเราไว้ในช่วงวัยรุ่น มันก็เริ่มกะเทาะออกไปตามบริบทของชีวิต ความรู้สึกปลอดภัยก็เริ่มหดหายไป เนื่องเพราะเราเปลี่ยนช่วงชีวิตอีกครั้ง มันก็เป็นสัญชาตญานของการเอาตัวรอดของเราทุกคน เราจึงเริ่มหาเปลือกอันใหม่มาทดแทนเปลือกอันเก่าที่มันใช้ไม่ได้แล้ว
แต่ในครั้งนี้มันเป็นเปลือกที่เราอาจจะไม่คิดว่า เราจะได้พบเจอกับมัน นอกจากจะไม่หลงเหลือความบริสุทธิ์แล้ว มันยังเต็มไปด้วยความรัก โลภ โกรธ หลง เราเรียกเปลือกของช่วงชีวิตนี้ ว่า “เปลือกแห่งมายา” เราอาจยังจะไม่รู้ว่าเปลือกแห่งมายาอันนี้มันดี หรือไม่ดีอย่างไร หรือมันจะทำให้เรารู้สึกปลอดภัยเหมือนเปลือกเก่า ๆ ของเราหรือไม่ แต่เรารู้ว่าบางทีมันอาจจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราได้ เราจึงเต็มใจที่จะห่อหุ้มชีวิตด้วยเปลือกแห่งมายานี้
ต่อเมื่อเราได้ดำเนินชีวิตไปได้สักพักใหญ่ เราจึงเริ่มรับรู้ว่า เปลือกแห่งมายานี้มันมีทั้งคุณและโทษ มันสามารถทำลายชีวิตเรา และผู้อื่นได้โดยง่าย หากเราขาดสติในการยั้งคิด และดำเนินชีวิตไปด้วยภาพมายาเหล่านี้มากจนเกินไป
เราจึงกลับมาหวนคิด ใคร่ครวญกระบวนชีวิตที่ผ่านมา เรากลับค้นพบว่า แท้จริงแล้ว มันไม่มีเปลือกอันไหนเลย ที่จะทำให้เรามีความสุขในบั้นปลายชีวิตได้ จึงทำให้เรากลับไปรำลึกถึงเปลือกแห่งความบริสุทธิ์ที่พ่อแม่ของเราให้ไว้ในตอนต้นของชีวิต ทั้งยังคิดต่อไปว่า เราจะทำอย่างไร เพื่อให้เราได้กลับไปมีเปลือกแห่งความบริสุทธิ์มาห่อหุ้มชีวิตของเราอีกครั้ง
คำถามคงไม่ได้อยู่ที่ว่า เราจะนำมันหวนย้อนกลับคืนมาได้อย่างไร?
เพราะมันคงไม่สามารถย้อนวนกลับมาหาเราได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่เราควรถามตัวเอง ก็คือ เราจะทำอย่างไรกับเปลือกที่ห่อหุ้มชีวิตเราในปัจจุบันนี้ ให้กลับมาเป็นเปลือกแห่งความสุข ความสงบทางจิตใจ เสียมากกว่า!
เราจะยอมสละเปลือกต่าง ๆ ที่ห่อหุ้มชีวิตเรามาเป็นเวลานานนับแรมปีเช่นนี้ได้อย่างไร?
หรือหากเรายอมสละเปลือกต่าง ๆ นี้ได้จริง ชีวิตของเราจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร? และการหล่นหายไปของความรู้สึกปลอดภัยนี้ จะทำให้เราสามารถดำรงอยู่บนโลกใบนี้ได้หรือไม่? มันก็จะมีคำถามตามมาอีกมากมายให้เราได้ขบคิด ตราบใดที่เรายังอยู่ในวังวนของการมีตัวตนในปัจจุบันนี้อยู่
หลังจากที่เราใคร่ครวญความคิด พินิจชีวิตใหม่แล้ว เราก็จะพบว่าเมื่อเราได้ถอดเอาเปลือกต่าง ๆ ที่ห่อหุ้มชีวิตของเราออกไปแล้ว สิ่งที่เราเหลืออยู่ก็คือ “ความว่างเปล่า” ซึ่งมันอาจเป็นคำตอบที่เราเฝ้าค้นหามาตลอดชีวิตของเราก็เป็นไปได้ มันอาจเป็นความว่างเปล่าจากจิตภายในสู่โลกภายนอก ว่างเปล่าจากความสงบร่มเย็ม ไม่ทุกข์ร้อน ว่างเปล่าจากภาพมายาสู่ปัญญา
จึงพอสรุปได้ว่า ชีวิตไร้เปลือก คือชีวิตแห่งความว่างเปล่า ชีวิตแห่งความว่างเปล่า คือชีวิตที่เรียบง่าย ชีวิตที่เรียบง่าย คือชีวิตที่มีแต่ความสงบภายในจิตใจ ชีวิตที่มีแต่ความสงบภายในจิตใจ คือชีวิตที่พร้อมเดินจากโลกนี้ไป ด้วยใจที่ว่างเปล่า เช่นกัน
Cr. เปลือกชีวิต The Series (Series ที่จะทำให้คุณเข้าใจชีวิตมากขึ้น) By ดช.จุ่น
ติดตามบทความอื่น
มุมมองแห่งความสุข!!! https://ppantip.com/topic/39280633
ปัญญา...มืด https://ppantip.com/topic/39307577
เรือ…/เกาะร้าง..../ปัญญา!! https://ppantip.com/topic/39337326
เมื่อรัก....จ..า.....ง!!! https://ppantip.com/topic/39360619
ยา.../..รักษา../อารมณ์ https://ppantip.com/topic/39540873
ความรักอัน..บริสุทธิ์ https://ppantip.com/topic/39558608
ความเข้าใจ ที่ลวงหลอก https://ppantip.com/topic/39601635
ต้นกล้า...ปัญญา และชีวิต https://ppantip.com/topic/39688815