เรื่องคือ เรารุ้สึกปลื้มและประทับใจพี่คนนึง ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน เราเข้าสมัครกู้ภัย จึงได้เจอเขา ซึ่งพี่เขาอยู่ในกู้ภัยอยู่แล้ว ที่ดีไปกว่านั้นคือได้รู้ว่าเขาเรียนที่เดียวกันสาขาเดียวกัน เราปี1 พี่เขาปี3ค้ะ
พี่สอนอะไรต่างๆให้คำแนะนำดีมาก โดยสอนเราละเอียด ก็แอบดีใจอยู่นะ กับเพื่อนคนอื่นเขาจะแค่พูดให้ฟัง บางครั้งมีอะไรไม่ค่อยไม่สบายใจ ส่วนมากเราเป็นคนนิ่งๆเฉยๆ พี่เขาก็จะเข้ามาถามตลอด "เป็นไรรึป่าวน้อง ดูไม่ค่อยสดใสเลย ไม่สบายใจอะไรบอกพี่ได้นะ" ยิ่งทำให้เรารู้สึกดี กดรักรูปข้อความในเฟส พี่เขา@มาค่ะ บางทีเราก็แอบหันไปมองนะ พอหันไปไม่รุ้บังเอิน รึว่าอะไร เขาก็มองอยู่เกือบทุกที
มาวันนึงเขาพาผญ.คนนึงเข้ามา ก็ได้รุ้ว่าคือแฟนเขา
ที่พึ่งคบกัน 2-3เดือน ตอนนั้นเราเหมือนชาไปทั้งตัว คิดอะไรไม่ถูกทำอะไรไม่ถูก พี่เขาก็หันมามองเราในสายตาที่ไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ใช่สายตาที่ไม่ดีนะ
ตั้งแต่นั้นมา เราก็ออกห่าง เจอกันจากที่ยิ้มให้กันทุกที ทักทาย เราก็เลือกที่จะเฉยๆ ไม่หันไปมอง ไม่ได้ยิ้ม และยกเลิกเพื่อนในเฟส เราคิดว่าการไม่ต้องรับรู้อะไรจากเขาดีที่สุด จนเจอกันอีกทีตอนประชุมสาขา พี่เขามองตลอด แล้วเรียกเราไป ได้คุยกันเป็นครึ่งชม. เขาถามว่าน้องเป้นอะไร เราไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟสแล้ว น้องลบพี่ทำไม เราก็ตอบเหตุผลไปตรงๆ เพราะอะไร เขาก็ขอให้รับเป็นเพื่อนเหมือนเดิม และเล่าถึงปัญหาที่เขาเจออยู่ตอนนี้กับแฟน ให้เราฟัง
เราก็รับฟังให้คำแนะนำอะไรไปหลายๆอย่าง คุยเรื่องการใช้ชีวิตการปรับตัวต่างๆ ในชีวิตมหาลัย พี่เขากแนะนำดีมาก เรารักษาระยะห่างตอนยืนคุยกัน พี่เขาก็ขยับเข้ามาเรื่อย เราถอยออก เรารุ้ถ้ามองหน้าเราอาจน้ำตาซึม เรายืนหันข้างแต่ก้ฟังสิ่งที่พี่เขาพูดตลอด ยอมรับว่าอ่อนไหวเรื่องแบบนี้มาก ก็ไม่อยากให้เห็นน้ำตา กลัวว่าเขาจะมองว่าอ่อนแอ ตลก ไร้สาระ แค่เรื่องแบบนี้ เอามากๆ ตั้งแต่ที่รุ้ว่าพี่เขามีเจ้าของ เราก้ไม่ได้เข้ากุ้ภัยอีกเลย พูดตรงๆคือไม่อยากเห็นเขาทั้ง2 เขาก็บอกให้เข้าไป เราก้ไม่เข้า เราตัดสินใจว่าออกจนถึงวันนี้
ก่อนจะไปหันหลังเดินกลับพี่เขาก็เดินตาม แล้วลูบหัวเราบอกว่าขับรถกลับดีๆล่ะ เราก็หันไปยิ้ม ทั้งๆที่ข้างในมันสุดๆ😢 หลังจากนั้น4-5เดือนก้ไม่ได้คุยกันอีกเลย จนถึงวันงานบายเนียร์เพื่อนชวนเรามางาน ใจจริงก็ไม่อยากมา แต่ก้ตัดสินใจมาเพราะเพื่อนมันเช่าชุดให้ทุกอย่างแล้ว เดินขึ้นบันไดมาถึงก็บังเอินได้เจอพี่เขาเลย ได้เจอกันอีกครั้ง แต่4-5เดือนนั้น เรายังนึกถึงเขาตลอดนะ เป้นความรุ้สึกที่ทั้งดีใจ ลึกๆก้เสียใจ มันหน่วงไปหมด ไหว้พี่เขา พี่เขามองแล้วยิ้มแล้วเราก้รีบเดินไปกับเพื่อน ไปยืนอยุ่กับเพื่อน มีคนจับแขนเราข้างหลังก้ตกใจ พอหันไปก็ยิ่งตกใจเพราะเป็นพี่เขา ความรุ้สึกเดิมๆกลับมา น้ำตาซึมๆโดยที่เราก็พยายามห้ามตัวเองไว้ พี่เขาพูดว่า ไม่ได้เจอน้องนานเลย สบายดีไหม ไม่เคยเห็นน้องแต่งตัวแบบนี้เลยนะ ส้นสูงเดินเจ็บเท้ามั้ย เราก็ตอบไม่เคยแต่งแบบนี่เลยค่ะ ส้นสูงก็ครั้งแรก ก้โอเคดีค่ะ แล้วพี่เขาก็ถามเรื่องการเรียน พอดีเขาเป็นตากล้องเลยต้องไปถ่ายรุปในงานต่อ ก้ต่างแยกย้าย ในงานเราก้มองพี่เขาอยุ่ตลอด ในใจรู้สึกแบบบอกไม่ถูกจริงๆ แอบดีใจแหละที่ได้คุยกัน เราเดินออกไปข้างนอกไปถ่ายรูปกับเพื่อน ก้เจอพี่เขาพอดี เขาเดินมาแล้วบอกว่าถ่ายรูปคู่มั้ยกับพี่ วันนั้นก็ได้ถ่ายรูปกัน ตอนพี่เขาจะกลับก้มาหาเราที่โต้ะ จับแขนเหมือนเดิม พี่กลับแล้วนะ น้องอย่ากลับดึกล่ะ พอดีพี่ต้องไปงานแต่งอีก อยู่ไกลใช้ได้ เราก็บอกค้ะขับรถดีๆนะคะ เดินทางปลอดภัยค่ะ เรารู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างในวันนั้นเป็นอย่างมาก ถ้าเราตัดสินใจไม่มา ก้คงไม่ได้เจอเรื่องราวแบบนี้ พอกลับบ้านพี่เขาอินบ็อกมา แต้ไม่ได้เป้นเพื่อนกัน ตั้งแต่ที่เราลบไป ตัดสินใจว่าไม่รับ ดีใจที่เขายังไม่ลืมชื่อเฟสเรา ทักมาบอกว่า น้องส่งรูปที่ถ่ายกันให้พี่ด้วยนะ ทุกรูปเลย น้องจะโพสมั้ย หรือเก็บเอาไว้ เราตอบว่า เก็บไว้ดีกว่าค้ะ โพสเดี่ยวจะมีปัญหา พี่เขาบอกว่า ปีหน้าพี่จบน้องมานะ
แต่งตัวสวยๆนะ เราก็ตอบแค่ค่ะ พี่เขาบอกว่าทุกรูปพี่จะเก็บไว้อย่างดี ซึ่งมันตรงกับที่เราจะพิมพ์พอดี
ทุกอย่างที่ผ่านมามันคืออะไร หมายความว่าอะไร
เราจะตัดความรุ้สึกนี้ได้อย่างไร?
ถ้าเลือกได้ขอไม่รุ้จักกันตั้งแต่แรกมันคงดีกว่า ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตแบบพยายามไม่นึกถึงค้ะ แต่ก็ยังอยู้ในหัวอยู่ดี เราไม่รุ้ว่าควรทำอย่างไร พี่เขายังไลค์อยู่ บางรุปบางข้อความยังไลค์ได้ แต่เราก้พยายามไม่เพิ่มเพื่อน เมื่อเช้านี้เขามาติดตามไอจี ไลค์รูปในไอจี4-5 รูป ก้ยังสงสัยว่าเขาเอาไอจีเรามาจากไหน ในเฟสก็ไม่เคยโพสเลย ในสตอรี่เราก้ไม่เคยลงไอจี แต่เราก้ตัดสินใจไม่ติดตามกลับ ตอนนี้ฉันคิดเพียงว่าเวลาอาจช่วยเยียวยาทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อพี่เขาจบไปเราก้ไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว มันคงอาจจะดีขึ้น ถึงแม้ยังนึกถึงอยู่ก็ตาม สักวันจะลืมได้เองใช่ไหมคะ
คนๆนึงสามารถลืมคนๆนึงไปเลยได้ไหม #ขอบคุณมากๆเลยค่ะถ้าอ่านจนจบ
ตัดความรู้สึกให้เลิกนึกถึงเขาอย่างไร
พี่สอนอะไรต่างๆให้คำแนะนำดีมาก โดยสอนเราละเอียด ก็แอบดีใจอยู่นะ กับเพื่อนคนอื่นเขาจะแค่พูดให้ฟัง บางครั้งมีอะไรไม่ค่อยไม่สบายใจ ส่วนมากเราเป็นคนนิ่งๆเฉยๆ พี่เขาก็จะเข้ามาถามตลอด "เป็นไรรึป่าวน้อง ดูไม่ค่อยสดใสเลย ไม่สบายใจอะไรบอกพี่ได้นะ" ยิ่งทำให้เรารู้สึกดี กดรักรูปข้อความในเฟส พี่เขา@มาค่ะ บางทีเราก็แอบหันไปมองนะ พอหันไปไม่รุ้บังเอิน รึว่าอะไร เขาก็มองอยู่เกือบทุกที
มาวันนึงเขาพาผญ.คนนึงเข้ามา ก็ได้รุ้ว่าคือแฟนเขา
ที่พึ่งคบกัน 2-3เดือน ตอนนั้นเราเหมือนชาไปทั้งตัว คิดอะไรไม่ถูกทำอะไรไม่ถูก พี่เขาก็หันมามองเราในสายตาที่ไม่เหมือนเดิม แต่ไม่ใช่สายตาที่ไม่ดีนะ
ตั้งแต่นั้นมา เราก็ออกห่าง เจอกันจากที่ยิ้มให้กันทุกที ทักทาย เราก็เลือกที่จะเฉยๆ ไม่หันไปมอง ไม่ได้ยิ้ม และยกเลิกเพื่อนในเฟส เราคิดว่าการไม่ต้องรับรู้อะไรจากเขาดีที่สุด จนเจอกันอีกทีตอนประชุมสาขา พี่เขามองตลอด แล้วเรียกเราไป ได้คุยกันเป็นครึ่งชม. เขาถามว่าน้องเป้นอะไร เราไม่ได้เป็นเพื่อนในเฟสแล้ว น้องลบพี่ทำไม เราก็ตอบเหตุผลไปตรงๆ เพราะอะไร เขาก็ขอให้รับเป็นเพื่อนเหมือนเดิม และเล่าถึงปัญหาที่เขาเจออยู่ตอนนี้กับแฟน ให้เราฟัง
เราก็รับฟังให้คำแนะนำอะไรไปหลายๆอย่าง คุยเรื่องการใช้ชีวิตการปรับตัวต่างๆ ในชีวิตมหาลัย พี่เขากแนะนำดีมาก เรารักษาระยะห่างตอนยืนคุยกัน พี่เขาก็ขยับเข้ามาเรื่อย เราถอยออก เรารุ้ถ้ามองหน้าเราอาจน้ำตาซึม เรายืนหันข้างแต่ก้ฟังสิ่งที่พี่เขาพูดตลอด ยอมรับว่าอ่อนไหวเรื่องแบบนี้มาก ก็ไม่อยากให้เห็นน้ำตา กลัวว่าเขาจะมองว่าอ่อนแอ ตลก ไร้สาระ แค่เรื่องแบบนี้ เอามากๆ ตั้งแต่ที่รุ้ว่าพี่เขามีเจ้าของ เราก้ไม่ได้เข้ากุ้ภัยอีกเลย พูดตรงๆคือไม่อยากเห็นเขาทั้ง2 เขาก็บอกให้เข้าไป เราก้ไม่เข้า เราตัดสินใจว่าออกจนถึงวันนี้
ก่อนจะไปหันหลังเดินกลับพี่เขาก็เดินตาม แล้วลูบหัวเราบอกว่าขับรถกลับดีๆล่ะ เราก็หันไปยิ้ม ทั้งๆที่ข้างในมันสุดๆ😢 หลังจากนั้น4-5เดือนก้ไม่ได้คุยกันอีกเลย จนถึงวันงานบายเนียร์เพื่อนชวนเรามางาน ใจจริงก็ไม่อยากมา แต่ก้ตัดสินใจมาเพราะเพื่อนมันเช่าชุดให้ทุกอย่างแล้ว เดินขึ้นบันไดมาถึงก็บังเอินได้เจอพี่เขาเลย ได้เจอกันอีกครั้ง แต่4-5เดือนนั้น เรายังนึกถึงเขาตลอดนะ เป้นความรุ้สึกที่ทั้งดีใจ ลึกๆก้เสียใจ มันหน่วงไปหมด ไหว้พี่เขา พี่เขามองแล้วยิ้มแล้วเราก้รีบเดินไปกับเพื่อน ไปยืนอยุ่กับเพื่อน มีคนจับแขนเราข้างหลังก้ตกใจ พอหันไปก็ยิ่งตกใจเพราะเป็นพี่เขา ความรุ้สึกเดิมๆกลับมา น้ำตาซึมๆโดยที่เราก็พยายามห้ามตัวเองไว้ พี่เขาพูดว่า ไม่ได้เจอน้องนานเลย สบายดีไหม ไม่เคยเห็นน้องแต่งตัวแบบนี้เลยนะ ส้นสูงเดินเจ็บเท้ามั้ย เราก็ตอบไม่เคยแต่งแบบนี่เลยค่ะ ส้นสูงก็ครั้งแรก ก้โอเคดีค่ะ แล้วพี่เขาก็ถามเรื่องการเรียน พอดีเขาเป็นตากล้องเลยต้องไปถ่ายรุปในงานต่อ ก้ต่างแยกย้าย ในงานเราก้มองพี่เขาอยุ่ตลอด ในใจรู้สึกแบบบอกไม่ถูกจริงๆ แอบดีใจแหละที่ได้คุยกัน เราเดินออกไปข้างนอกไปถ่ายรูปกับเพื่อน ก้เจอพี่เขาพอดี เขาเดินมาแล้วบอกว่าถ่ายรูปคู่มั้ยกับพี่ วันนั้นก็ได้ถ่ายรูปกัน ตอนพี่เขาจะกลับก้มาหาเราที่โต้ะ จับแขนเหมือนเดิม พี่กลับแล้วนะ น้องอย่ากลับดึกล่ะ พอดีพี่ต้องไปงานแต่งอีก อยู่ไกลใช้ได้ เราก็บอกค้ะขับรถดีๆนะคะ เดินทางปลอดภัยค่ะ เรารู้สึกขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างในวันนั้นเป็นอย่างมาก ถ้าเราตัดสินใจไม่มา ก้คงไม่ได้เจอเรื่องราวแบบนี้ พอกลับบ้านพี่เขาอินบ็อกมา แต้ไม่ได้เป้นเพื่อนกัน ตั้งแต่ที่เราลบไป ตัดสินใจว่าไม่รับ ดีใจที่เขายังไม่ลืมชื่อเฟสเรา ทักมาบอกว่า น้องส่งรูปที่ถ่ายกันให้พี่ด้วยนะ ทุกรูปเลย น้องจะโพสมั้ย หรือเก็บเอาไว้ เราตอบว่า เก็บไว้ดีกว่าค้ะ โพสเดี่ยวจะมีปัญหา พี่เขาบอกว่า ปีหน้าพี่จบน้องมานะ
แต่งตัวสวยๆนะ เราก็ตอบแค่ค่ะ พี่เขาบอกว่าทุกรูปพี่จะเก็บไว้อย่างดี ซึ่งมันตรงกับที่เราจะพิมพ์พอดี
ทุกอย่างที่ผ่านมามันคืออะไร หมายความว่าอะไร
เราจะตัดความรุ้สึกนี้ได้อย่างไร?
ถ้าเลือกได้ขอไม่รุ้จักกันตั้งแต่แรกมันคงดีกว่า ทุกวันนี้ก็ใช้ชีวิตแบบพยายามไม่นึกถึงค้ะ แต่ก็ยังอยู้ในหัวอยู่ดี เราไม่รุ้ว่าควรทำอย่างไร พี่เขายังไลค์อยู่ บางรุปบางข้อความยังไลค์ได้ แต่เราก้พยายามไม่เพิ่มเพื่อน เมื่อเช้านี้เขามาติดตามไอจี ไลค์รูปในไอจี4-5 รูป ก้ยังสงสัยว่าเขาเอาไอจีเรามาจากไหน ในเฟสก็ไม่เคยโพสเลย ในสตอรี่เราก้ไม่เคยลงไอจี แต่เราก้ตัดสินใจไม่ติดตามกลับ ตอนนี้ฉันคิดเพียงว่าเวลาอาจช่วยเยียวยาทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อพี่เขาจบไปเราก้ไม่ได้เจอเขาอีกแล้ว มันคงอาจจะดีขึ้น ถึงแม้ยังนึกถึงอยู่ก็ตาม สักวันจะลืมได้เองใช่ไหมคะ
คนๆนึงสามารถลืมคนๆนึงไปเลยได้ไหม #ขอบคุณมากๆเลยค่ะถ้าอ่านจนจบ