เอาสูตร “แกงเหลือง” ปลากะพง สับปะรด มาฝากนะคะ จากคุณยายของโอเองค่ะ อายุ 79 ปี
ตอนนี้คุณยายทำแฟนเพจอยู่ โดยมีหลาน ๆ ช่วยกันดูแลค่ะ

คลิปวิดิโออยู่ด้านล่างค่า

พูดถึง “แกงเหลือง” หรือ “แกงส้มปักษ์ใต้” ในน้ำแกง จะมีการใส่วัตถุดิบที่ให้รสชาติเปรี้ยวลงไป เช่น มะขามเปียก, มะม่วงเบา, น้ำส้มโตนด, น้ำมะนาว เป็นต้น ซึ่งวัตถุดิบเหล่านี้ คนใต้บางคน บางจังหวัด จะเรียกวัตถุดิบเปรี้ยว ๆ เหล่านี้ว่า “ส้ม” เช่น ส้มแขก น้ำส้มโหนด และอีกมากมาย แล้วแต่ภาษาท้องถิ่น ซึ่งแกงเหลืองก็มีหลายสูตร แล้วแต่คนทำ แล้วแต่คนชอบ โดยจากประสบการณ์ของทวด เนื้อปลาแต่ละชนิด หรือแม้แต่กุ้ง หมู ไก่ หากนำมาทำแกงเหลือง ก็จะเหมาะกับส้มที่ต่างกัน

วันนี้ทวดเอาสูตรแกงเหลืองปลากะพง ใส่น้ำส้มสายชูหมัก (ใช้แทนน้ำส้มโตนด เพราะว่าหมดจ้ะ) และน้ำมะนาว เปรี้ยว ๆ จี๊ดจ๊าด มาฝากจ้ะ ปลากะพงควรใช้ปลาที่มีน้ำหนักตัวละ 2 กิโลกรัมขึ้นไป เนื้อจะแน่น กินอร่อย ยิ่งถ้าเป็นปลาทะเลสาบสงขลา เมือง 2 ทะเลนะ รสชาติจะมันอร่อยมาก

ส่วนสับปะรดนั้น ใช้สับปะรดแก่ หรือ สับปะรดเปรี้ยว จะอร่อยเข้ากับน้ำแกงเหลืองใส่น้ำส้มตาลโตนด เป็นอย่างยิ่ง

เครื่องแกง “แกงเหลือง”

เครื่องแกงเหลือง สามารถตำกับครก หรือ ปั่นกับเครื่องปั่นก็ได้ หากตำละเอียดจะได้กลิ่นที่หอมมาก แต่ถ้าตำไม่ไหว อย่างเช่นทวด อายุ 79 แล้ว ก็ยกสากไม่ไหว เลยใช้เครื่องปั่นแทน ก็จะต้องใส่น้ำเปล่าไปในเครื่องปั่นด้วย แต่ถ้าหากตำในครก ก็ไม่จำเป็นต้องใส่น้ำเปล่า
เครื่องแกงเหลือง ประกอบด้วย

1. พริกขี้หนู 30 – 50 เม็ด (แล้วแต่เลเวลความเผ็ดที่ชอบ)
2. ขมิ้นหั่น 1 หัว
3. กระเทียม 10 – 15 กลีบ
4. หอมแดง 5 – 7 กลีบ
5. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ “แกงเหลือง” ปลากะพง สับปะรด

1. เตรียมพริกขี้หนูเด็ดก้าน ล้างน้ำให้สะอาด ขมิ้นหั่นสำหรับบดตำหรือปั่นในเครื่อง ปอกเปลือก กระเทียมและหอมแดง และเตรียมกะปิหอม ๆ 1 ช้อนโต๊ะ

2. นำเครื่องไปตำในครก หรือ ปั่นรวมกัน ถ้าหากใช้วิธีปั่น ก็จะต้องใส่น้ำเปล่าในเครื่องปั่นด้วย มิฉะนั้นจะปั่นไม่ได้ กรณีที่ปั่นเครื่อง ให้ปั่นพริก กระเทียม ขมิ้น หอมแดง และน้ำเปล่าด้วยกันก่อน พอเริ่มละเอียดแล้วจึงค่อยใส่กะปิไปปั่นต่อทีหลัง

3. ตั้งไฟแรง ใส่น้ำส้มสายชูหมัก ผสมน้ำเปล่าลงไป วันนี้ทวดใช้น้ำส้มสายชูหมักแทนน้ำส้มตาลโตนด

4. เมื่อน้ำและน้ำส้มสายชูหมักเริ่มเดือด เทเครื่องแกงไปต้มให้เดือดอีกครั้ง

5. รอเครื่องแกงเดือด ใส่ปลากะพง ลงไป ปรุงรสด้วยเกลือ ซอสปรุงรส และ น้ำตาลมะพร้าว ถ้าไม่มีน้ำตาลมะพร้าวก็ใช้น้ำตาลทรายก็ได้ ทวดบอกให้เอาที่สะดวก

6. รอปลาสุกและน้ำแกงเดือด ใส่สับปะรดตามลงไปและปิดไฟ

7. ปรุงรสตามใจชอบ หากเปรี้ยวไม่พอ ใส่น้ำมะนาวคั้นลงไปเพิ่ม หากไม่เข้มข้นให้ใส่กะปิลงไปเพิ่ม แต่อย่าเยอะเดี๋ยวเค็ม

แค่นี้ก็หอมทั่วบ้าน ทานคู่กับปลาแห้งทอด ฟินอย่าบอกใครเลยจ้า เอ้า รีบ ๆ ไปตลาดซื้อปลา กลับบ้านหุงข้าวทำแกงกินกันเลย แล้วอย่าลืมช่วยติดตามทวดใน Facebook, Youtube, Instagram กันด้วยนะคะ เป็นแฟนเพจ ที่หลาน ๆ ทวดร่วมด้วยช่วยกันทำ และทวดทำอาหารในคลิปค่ะ

Facebook: Cooking with Tuad
Youtube: Cooking with Tuad
Instagram: @CookingWithTuad