จิ่วไจ้โกว หลังแผ่นดินไหว จะสวยขนาดไหนน๊า

เราได้ไปอุทยานแห่งชาติจิ่วไจ้โกวกับหวงหลงมาเมื่อตุลาคม ปี 2562 เป็นฤดูใบไม้ร่วงที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆ
ถ้าโควิดหายแล้ว ตุลาคมปีนี้ลองไปเที่ยวกันดูนะคะ


ข้อมูลทั่วไปของจิ่วไจ้โกว
จิ่วไจ้โกว เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ A5 ของจีน ขึ้นชื่อว่าเป็นสวรรค์บนดินเลยทีเดียว ว่ากันว่าถ้าใครมาเห็นน้ำที่นี่แล้ว น้ำที่ไหนก็จะไม่สวยอีกเลย
มณฑลเสฉวน เป็นที่ตั้งของจิ่วไจ้โกว เคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อปี 2560 ทำให้ทางการจีนปิดอุทยานเพื่อซ่อมแซมถึง 2 ปี เพิ่งมาเปิดเมื่อเดือนตุลาคมปี 62 นี้เอง ซึ่งเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ช่วงท่องเที่ยวของจิ่วไจ้โกวพอดี พอเราได้ข่าวปุ๊ปก็ไม่รอช้ารีบไปทันทีเลยค่ะ
การเปิดอุทยานครั้งนี้ เราตามข่าวระเบียบต่างๆที่ website ทางการของจิ่วไจ้โกวอันนี้เลย https://www.jiuzhai.com/ แต่เป็นภาษาจีนนะ อาจต้องใช้ google translate นิดหน่อย จริงๆแล้วเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษก็มี แต่จะไม่ค่อยอัพเดทอ่ะค่า
ตอนเดือนตุลาคม ทางการจีนเค้า limit คนเข้าแค่ 5,000 คนต่อวัน ต้องมีการจองตั๋วล่วงหน้าใน website www.abatour.com และต้องมากับทัวร์เท่านั้น เที่ยวเองไม่ได้ เราเลยตัดสินใจไปกับทัวร์ค่ะ เราเลือกทัวร์ของ Panda Holiday ค่ะ ที่เลือกทัวร์นี้เพราะเค้าเป็นทัวร์ท่องเที่ยวจีนอย่างเดียว มีความเชี่ยวชาญสูง และบริการค่อนข้างพรีเมี่ยม (ราคาก็พรีเมี่ยมตามไปด้วยนะคะ😅) 

🐼 ตารางการเดินทาง วันที่ 18 - 23 ต.ค. 62
Day 1 : เมืองเฉิงตู, วังแพะเขียว, โชว์เปลี่ยนหน้ากาก
Day 2 : เมืองโบราณซงพาน
Day 3 : อุทยานจิ่วไจ้โกว
Day 4 : อุทยานหวงหลง
Day 5 : อุทยานซงผิงโกว
Day 6 : ถนนคนเดินจินลี่

ก่อนจะไปที่รายละเอียดการเดินทาง ขอฝาก Facebook page : Summerkissed ด้วยน้า
ถ้าชอบก็กด like ให้หน่อยจ้า มีอัพเดททริปเรื่อยๆ ทั้งในและนอกประเทศ คาเฟ่ งานอาร์ต https://www.facebook.com/summerkissed 

รีวิวเรื่องทั่วไป
การเดินทาง : เราเดินทางโดยการบินไทยนะคะ ทั้งขาไปขากลับ ส่วนการเดินทางระหว่างเมืองก็จะเป็นรถบัสคันใหญ่ตลอด สะดวกสบายเลยค่ะ
โรงแรม : โรงแรมที่นอนจะเป็นห้าดาวทุกคืน ส่วนใหญ่นอน Hilton ค่ะ อาหารเช้ากับบุฟเฟ่โรงแรม Hilton นี่สวรรค์มากๆ อร่อยทุกอย่างโดยเฉพาะขนมหวาน
อาหาร : ส่วนใหญ่จะทางภัตตาคาร อาหารเยอะมากๆ อาหารเสฉวนที่ขึ้นชื่อก็คือหมาล่า ถ้าไม่ใส่หมาล่าก็จะแนวผัดแห้งๆเค็มๆ แต่ปลาจะเป็นปลาน้ำจืด ก้างเยอะมาก 
ห้องน้ำ : หลายๆคนคงกลัวห้องน้ำที่จีนกัน แต่ตอนี้ห้องน้ำที่อุทยานดีมากๆ ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ แต่ระหว่างเมืองนั้น บอกได้เลยว่าสยอง ห้องน้ำที่เจอคือไม่มีประตูค่ะ นั่งกันเป็นคอกๆ 
ค่าเงิน : 1 หยวน ประมาณ 4.5 บาทค่ะ แล้วตอนนี้จีนจะนิยมจ่ายผ่าน app ซึ่วตอนเราไป app นี้คนต่างชาติยังใช้ไม่ได้ค่ะ อดกินไปหลายอย่าง แต่ตอนนี้เห็นว่ามี app ที่เข้าไปสมัครได้แล้วนะ

Day 1 : เครื่องการบินไทยออก 10 โมงเช้า ถึงเมืองเฉิงตูตอนบ่าย 2 ค่ะ ไปถึงก็แวะวังแพะเขียวก่อน
วังแพะเขียว หรือ Qingyang Palace ถือว่าเป็นสำนักที่ใหญ่ที่สุดของลัทธิเต๋าในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีนเลย
https://goo.gl/maps/ZfDL9xoQczB5qSnV9
 
ตำหนักซานเซิน มีแพะทองเหลืองที่ศักดิ์สิทธิ์สองตัวตั้งอยู่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์เชง ว่ากันว่าอวัยวะส่วนต่างๆ ของแพะ จะมีความเกี่ยวข้องกับสัตว์สิบสองราศี เช่น มีหูเหมือนหนู ตาเหมือนไก่ ซึ่งคนจีนมีเชื่อว่าถ้าหากเจ็บป่วยไม่สบายอวัยวะส่วนไดของร่างกายให้นำมือไปลูบจับส่วนนั้นของแพะแล้วจะหายจากอาการป่วยทันที 

จากนั้นทางทัวร์ก็พาไปทานอาหารค่ำและดูโชว์เปลี่ยนหน้ากาก ซึ่งโชว์นี้ถือว่าเป็นโชว์ขึ้นชื่อของเมืองเฉิงตู คนแสดงจะเปลี่ยนหน้ากากเร็วมาก มองแทบไม่ทัน โชว์นี้ใช้เวลาแค่ 20 นาที แต่เราอยู่เป็นชั่วโมงเพราะมีโชว์อื่นด้วย ซึ่งโชว์อื่นไม่น่าสนใจเลย ถ้ามาเอง ก็ข้ามโชว์นี้ไปเลยค่ะ

หลังจบโชว์เวลายังเหลือ เลยมาช็อปปิ้งกันต่อที่ Chunxi road เป็นย่านช็อปปิ้งใหญ่มากในเมืองเฉินตู มีห้างใหญ่ๆเพียบ

ถนนคนเดินก็มีพวกอาหาร ที่พลาดไม่ได้คือหมาล่า อันนี้เป็นปลาหมึกปิ้งหมาล่า แซ่บมากกกก เราลองชานมไข่มุกด้วย ชาหอมมาก แต่แบบสั่งชาเย็น ได้ชาร้อนอ่ะ

Day 2 : เดินทางไปเมืองโบราณซงพาน ระหว่างทางตรงจุดพักรถ บริเวณทะเลสาบ Shanghaizi จะมีจามรีสีขาวขนฟูให้ถ่ายรูปด้วย เค้าบอกว่าจามรีสีขาวนี่หายากมาก ส่วนใหญ่ที่นำมากินคือจามรีสีดำ ค่าถ่ายรูป 10 หยวน ถ่ายกี่แอ็คก็ได้

ว่าแล้วก็กินเนื้อจามรีย่างหมาล่าซะหน่อย อร่อยมากๆ คล้ายๆเนื้อวัวแต่ไม่เหนียวเลย

เมืองโบราณซงพาน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. ถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว จริงๆเมืองนี้ก็คือแวะเที่ยวก่อนถึงจิ่วไจ้โกว จะได้ปรับระดับความสูงด้วย แล้วก็ได้ยืดแข้งยืดขากันหน่อย
📌 https://goo.gl/maps/c3x3qnUVGJ9uNgxD8

 
เมืองโบราณซงพาน เมืองชายแดนจีน-ทิเบตในสมัยโบราณเป็นเมืองที่ใช้แลกเปลี่ยนสินค้าชาวฮั่นและชาวทิเบต 
ผ่านกำแพงเข้าไปจะเป็นร้านค้าขายของของชาวทิเบต ส่วนใหญ่เป็นพวกขนสัตว์ หนังสัตว์


คืนนี้เราพักโรงแรม Hilton ตรงอุทยานจิ่วไจ้โกวเลย พรุ่งนี้จะได้เข้าอุทยานแต่เช้าเลยค่ะ 
Day 3 : เข้าอุทยานจิ่วไจ้โกวแต่เช้าเลยค่า ค่าเข้า 169 หยวน รูปนี้อยู่บริเวณหน้าทางเข้า คนเยอะมากๆๆๆๆ
📌 https://goo.gl/maps/5YFdyNgX4CsCDucE6


รถบัสที่จะพานำเที่ยวตามรูทของอุทยาน แต่ทัวร์ของเราเหมารถ เลยไปไม่เหมือนรถบัสอุทยานปกติค่ะ

อุทยานจะแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งซ้ายกับขวา เราชอบฝั่งขวามากกว่า ถ้าได้เที่ยว 2 วันในอุทยานจะดีมากเลย แต่ตอนนี้รัฐบาลจีนให้เข้าแค่ 1 วัน ต่อ 6 เดือน หมายถึงถ้าจะเอาอีกครั้งคือต้อง 6 เดือนถัดไปจ้า โหดป่ะล่ะ แต่ยังไงต้องอัพเดทข่าวเรื่อยๆนะ เพราะเข้าเปลี่ยนกติกาตลอดเวลาเลย
ทัวร์เราเริ่มไปทางซ้ายก่อน เริ่มที่จุดที่จะแยกไปทางซ้าย คือ Nuo Ri Lang Waterfall เป็นน้ำตกธารหินปูนขนาดใหญ่ที่สุดในจิ่วจ้ายโกว ยาวถึง 310 เมตร สวยมากจริงๆค่ะ



Check point ที่ 2 คือ Long lake อยู่ด้านซ้ายบนสุดของอุทยาน เค้าทำเป็นทางเดินไม้เดินรอบทะเลสาบ สวยมากๆ เมื่อก่อนสามารถล่องเรือชมทะเลสาบได้เลย เพราะใหญ่และยาวมาก แต่ตอนนี้งดบริการนั้นไปแล้วจ้า เพราะกลัวทะเลสาบสกปรก


Check point ที่ 3 : Five Coloured Pool หรือ ทะเลสาบ 5 สี คือต้องมองให้ได้ 5 สีอ่ะ สีสวยมากจริงๆ แต่เรามาถึงตอนเที่ยงๆ ถ่ายรูปมาเลยสะท้อนแสงไปหน่อย

Check point ที่ 4 : Mirror lake จุดนี้จะอยู่ฝั่งขวาของอุทยานแล้ว เป็นทะเลสาบที่น้ำนิ่งมาก จนสะท้อนเหมือนกระจกเลย

Check point ที่ 5 : เป็นจุดที่เราชอบมากที่สุดในอุทยานเลย อยู่ฝั่งขวาของอุทยานเหมือนกัน คือ Five Flower Lake สวยมากๆ น้ำกับใบไม้เปลี่ยนสีคือเข้ากันมาก ช่วงที่เราไปใบไม้ยังเปลี่ยนสีไม่มาก ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าถ้าไปช้ากว่านี้ จะสวยกว่านี้มั้ย

Check point ที่ 6 : Arrow Bamboo Waterfall
น้ำตกนี้คืออลังการ สวยมากๆ รูปที่เห็นคือเมือเดินลงมาสุดแล้วจะเจอน้ำตกนี้ แต่ระหว่างทางที่เดินลงมาคือยอดน้ำตก เป็นชั้นๆเยอะมาก สวยมาก ขอโทษด้วยที่ไม่มีรูปจริงๆ กล้องแบตหมด อยากจะร้องไห้

Check point ที่ 7 คือ Rhino Lake หรือทะเลสาบแรด เราไม่มีรูปจ้า มีแต่รูปหมู่บ้านทิเบต ตรงข้ามทะเลสาบแรด หมู่บ้านเค้าสีสวยมากจริงๆ

สำหรับ Day 4-6 อุทยานหวงหลง, อุทยานซงผิงโกว และถนนคนเดินจินลี่
ช่วยติดตามกันต่อที่โพสนี้นะคะ https://www.facebook.com/294948984663514/posts/574273776731032/?d=n
หวงหลงเป็นอุทยานที่สวยมากๆ จริงๆเราชอบมากกว่าจิ่วไจ้โกวอีกเพราะเราเดินชมธรรมชาติไปเรื่อยๆได้ แต่จิ่วไจ้โกวจะใช้นั่งรถไปจุดต่างๆแทน
เอารูปไปเป็นน้ำจิ้มก่อนน้า
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่