วันเดินทาง  : 4-10 ธค. 2019  5 วัน 4 คืน
สายการบิน  : Thai Lion Air  ไปกลับ เฉิงตู 5,880 บาท รวมน้ำหนัก ไม่เลือกที่นั่ง จองสิ้นเดือนกันยายน
ที่พัก          :  คืนวันที่ 5 และ 6 ธค พักที่เมือง Rilong ถ้าจะเที่ยว Siguniangshan ต้องพักเมือง Rilong 
                    ชื่อที่พัก Mt. Four girl a lee ben hostel   ราคาคืนละ เกือบ 1 พันบาท  จองผ่าน app TRIP 
                    ห้องแบบ Double Window วิวดีมาก สะอาดและสวยมาก
                    คืนวันที่ 7 และ 8 ธค. พักที่เมืองเฉิงตู ชื่อ Lee Den Hotel  ราคาคืนละ เกือบ 8 ร้อยบาท จองผ่าน agoda
                    ห้องพักดีมาก มีอุปกรณ์ครบ การเดินทางก็สะดวกมากๆ 

ภายในห้องพักที่เมือง Rilong ห้องมีแผ่นทำความร้อนอยูที่พื้น และในห้องอาบน้ำมีเครื่องทำความร้อน
เปิดได้ระหว่างอาบน้ำจะทำให้ไม่หนาว มีเครื่องทำน้ำอุ่น ส้วมเป็นแบบชักโครกญี่ปุ่นและน้ำอุ่น 
เตียงไม่มีแผ่นทำความร้อน แต่นอนหลับได้สบายไม่หนาวเลย

ห้องแบบ Double Window 


วิวมองจากกระจกห้องพัก 

แพลนการเที่ยว
4 ธค บินออกจากดอนเมือง 
5 ธค ประมาณ ตีสองครึ่ง ถึงเมืองเฉิงตู เดินทางไป Rilong พัก Rilong  
6 ธค เที่ยวชม เขาสี่ดรุณี โดยเลือกเที่ยวใน shuangqiao valley  1 วัน  คืนนี้ พัก Rilong  
7 ธค  ออกจาก Rilong เช้า กลับเข้าเมือง เฉิงตู เที่ยวถนนคนเดิน Jinli  คืนนี้ พักในเมืองเฉิงตู
8 ธค  ออกแต่เช้าไปพระใหญ่ Leshan เย็นกลับมาเที่ยว เดินเล่นย่าน IFS  คืนนี้ พักในเมืองเฉิงตู
9 ธค  Check Out แล้วฝากกระเป๋า เดินเล่นในเมือง ออกไปตามล่า ถ่ายรุปใบแปะก๊วยที่ University of Electronic Science and Technology of China - UESTC, Chengdu.  Shahe Campus
10 ธค  บินกลับไฟลท์ 03.30 (ตีสามของวันที่ 10 ถึงไทยตี 5 โดยประมาณ) 

❄️อุณหภูมิที่ Siguniangshan ต่ำสุด-17 ตอนดึกและเช้ามืด(ซึ่งเราอยู่ในห้อง) ส่วนช่วงเช้า -13 ไปเรื่อยๆ ทั้งวันจะไม่สูงกว่า -2
❄️อุณหภูมิที่ เมืองเฉิงตู 9-15 องศา
❄️จังหวะช่วงที่ไปในเมืองเฉิงตูต้นแปะก๊วยกำลังเหลืองสวยทั้งเมือง 

เริ่มเตรียมตัวก่อนเดินทาง
1. ทำวีซ่า ต้นเดือน พฤศจิกายน โดยจ้างทำค่ะไม่ได้ไปเอง (ค่าวีซ่า 1,650 ค่าจ้างทำ 350 รวม 2,000 บาท)
2. จองรถไฟความเร็วสูง Chengdu-leshan First Class ผ่าน AppTrip ไป-กลับ 911.48 บาท ที่จองล่วงหน้าเพราะเห็นว่าตรงกับวันอาทิตย์กลัวได้ตั๋วยืน
3. โหลดรูปภาพแผนที่รถไฟ Metro เมืองเฉิงตูไว้ก่อน แล้ว Mark ไว้เลยว่าแต่ละที่ๆจะไปอยู่สถานีอะไร
4. โหลดแอพ map.me เอาไว้ใช้เผื่อต้องการไปสถานที่ๆไม่มีรีวิว เพราะที่เฉิงตูใช้ Google map ดูวิธีเดินทางโดยรถไฟMetroไม่ได้ค่ะไม่เหมือนญี่ปุ่นนะ
5. ซื้อหนังสือพูดจีนติดตัวไว้เผื่ออินเตอร์เน็ตใช้ไม่ได้
6. สมัครบัตร SCB PLANET เอาไว้ใช้เติมเงิน Alipay สมัครง่ายได้เร็วภายใน 1 สัปดาห์
7. โหลดแอพ Alipay ตอนนี้มีแบบ tour pass เปิดให้นักท่องเที่ยวใช้ได้แล้ว โดยใช้ได้ 90 วัน เติมเงินผ่าน app ได้เลย เราใช้วิธีผูกกับบัตร SCB Planet เราลองเติมเงินเริ่มต้น 100 หยวนก่อนเพราะเผื่อใช้แอพไม่ได้ค่ะ  ซึ่งเราใช้แอพนี้ที่จีนได้นะคะ  โดยเราจะค่อยๆทยอยเติมเงินครั้งละ 100 หยวนไม่เติมทีเยอะๆค่ะ ซึ่ง alipay สะดวกมากกกกก  จบทริปแทบไม่มีเหรียญเหลือกลับมาเลยค่ะ เงินใน alipay เหลือ 0.00 เลยทีเดียว
Update : ตั้งแต่ เดือน มกราคม 2020  เสียค่าธรรมเนียมการเติมเงิน 5% แล้ว
8. แลกเงินสดไปสบายใจสุด ยังไงพี่จีนก็รับเงินสด ซึ่งเราใช้เงินสดเฉพาะตอนจ่ายเงินที่เกือบๆ 100 หยวน
9. โหลดแอพ Weibo พร้อมสมัครด้วยค่ะ เอาไว้ดูสถานที่ๆเราจะไปว่าปัจจุบันวิวเป็นยังไง เราเอาไว้ดู Siguniangshan ว่ามีหิมะหรือยัง Xiling Snow Mountain เปิดหรือยัง แล้วก็เอาไว้ดูว่าต้นแปะก๊วยตอนนี้ที่ไหนสวย
10. โหลด Wechat  อันนี้วุ่นวายมาก ตอนแรกเราสมัครได้แล้วแต่ไม่ได้ใช้คุยแค่ 2 วัน โดนบล๊อกเลย ทีนี้หาคนสแกนให้กี่คนๆก็ไม่ผ่าน เราเลยให้แฟนสมัครใหม่เลย ทีนี้ใช้คุยทุกวัน😛 กลัวโดนบล๊อค ซึ่งก็ไม่โดนค่ะ  โดยหลักๆ เราใช้ Wechat ไว้คุยกับ รร.ที่เมือง Rilong ให้เขามารับที่สถานที่ลงรถบัสค่ะ กับนัดรับที่อุทยาน
11. อาหารที่จีนไม่ค่อยถูกปากเรา เราเตรียมมาม่าไป 6 ถ้วย 4 ห่อ ข้าวสวย 2 แพ็ค ปลากระป๋อง 5 กป น้ำพริกด้วยจ้ะ ใครไม่ชอบน้ำมันหมาล่าแดงๆ ไม่ชอบอาหารมัน ๆ เตรียมไปก็ดีค่ะ
12. ปริ้นเอกสาร ที่พัก ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ แพลนเที่ยว เก็บไว้คนละชุดกับแฟน เผื่อฉุกเฉิน
13. ชุดกันหนาว 3 ชั้น  1. heattech uniclo รุ่นที่หนาสุด 2. เสื้อแขนยาวอย่างหนา 3. เสื้อหนาวขนเป็ด  ส่วนกางเกงใส่สองชั้นข้างในกางเกงฮีทเทคยูนิโคล่ ข้างนอกกางเกงบุขน อุปกรณ์อื่นๆ หมวกไหมพรม ถุงมือกันหนาว ผ้าพันคอหนาๆ ผ้าบัฟไว้ปิดปาก  ถุงร้อนที่เอาไว้กำมือ ใส่ในกระเป๋าเสื้อค่ะเวลาถอดถุงมือแล้วจะหนาวมากๆ ก็เอาไว้กำก็จะช่วยได้ค่ะ รองเท้าเดินป่าข้อสูงๆ แบบกันน้ำ แต่ไม่ใช่แบบลุยหิมะนะคะ  ซื้อจาก Decathlon คู่ละพันกว่านิดๆ ใช้ดีมาก กันน้ำดี ใส่คู่กับถุงเท้าฮีทเทคซื้อจากDecathlonเหมือนกัน  รอดค่ะ

จากการไปเที่ยวมามีคำแนะนำประมาณนี้ค่ะ 
1. ทุกครั้งที่ได้ตั๋วรถบัส รถไฟ มาแล้ว ไปถึงให้ถามเจ้าหน้าที่ตรงนั้นหาช่องทางเข้าเพื่อความชัวร์ที่สุดค่ะ เพราะตั๋วแต่ละรีวิว หน้าตาไม่เหมือนกัน ถามเอาชัวร์สุดแล้ว เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาหลงค่ะ คนจีนถามทางไปเขาช่วยเหลือเต็มที่ค่ะ ไม่ต่างจากเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นเลย 
2. สถานีรถไฟความเร็วสูงที่เฉิงตู ใหญ่มากๆ อย่างกับสนามบิน รถไฟออกตรงเวลา ควรเผื่อเวลาไปถึงก่อน1 ชั่วโมง เผื่อหลง😅 สำหรับใครที่เดินทางช่วงเช้าๆ เรื่องอาหารเช้า บริเวณด้านในมีร้านอาหารเยอะมาก มีสตาร์บัคด้วย ไปทานที่นั่นได้ค่ะ และอยากแนะนำว่าควรไปเอาตั๋วจริงก่อนเดินทาง 1 วัน
3. คนเฉิงตูใจดี ชอบคนไทย ถ้าเราถามทางเขา หรือขอความช่วยเหลือ เขาจะยินดีช่วยเหลือเราค่ะ ทริปนี้เจอคนใจดีด้วย ประทับใจมากๆ
4. รถไฟ Metro ที่เฉิงตู เดินทางง่ายและถูกมั่กๆๆๆๆๆๆ จากสนามบินเข้าเมืองระยะเวลาเดินทางเกือบ 1 ชั่วโมง ราคาไม่ถึง30฿  และทุกๆทางเข้าสถานีรถไฟ รถบัส subway ต้องสแกนกระเป๋าทุกครั้ง อยู่ไปสักพักก็ชิน
5. เมืองเฉิงตูค่าฝุ่นละอองสูงมาก ต้องใช้แมสกันฝุ่น
6. ห้องน้ำตามอุทยานสะอาดมาก อาจจะเพราะคนน้อยด้วย ตามสถานีรถไฟพอเข้าได้ไม่สกปรก ส่วนห้องน้ำในตำนาน ทริปนี้เราไม่เจอ
7. รถเมลล์ที่นี่เท่าที่ขึ้นมา ไม่รับจ่ายด้วย Alipay ต้องจ่ายด้วยเหรียญ ค่ารถ 2 หยวน ก็ต้องเตรียมเหรียญไว้บ้างเวลาขึ้นรถเมลล์ค่ะ ให้หยอดที่ทางขึ้นข้างๆคนขับก่อนเข้าไปนั่งด้านใน 
8. อาหารที่เฉิงตู .... เรากินไม่เป็นเลย T_T ไม่ชอบที่ใส่น้ำมันหมาล่าทุกอย่าง เจอ KFC วันท้ายๆ อร่อยม้ากกกกกกก อยู่ไทยเราไม่เคยกินเลยฮาาา 

สรุปค่าใช้จ่ายทริปนี้ค่ะ โดยไม่รวมค่าอาหาร ค่า Metro นะคะ ขึ้นอยู่กับขึ้นลงเยอะไหม
มีค่าวีซ่าอีกคนละ 2,000  บาทนะคะที่ต้องบวกเข้าไป

เดี๋ยวมาต่อ รีวิวการเดินทางไป สี่ดรุณี นะคะ แบบละเอียดเลยค่ะ ^_^