บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ (ตอน 26)


ตอน 26
เพรียกหา
 
          รุ่งเช้าผมไปทำงานในสภาพอิดโรย นอกจากจะจมอยู่กับความทุกข์ ผมยังต้องเจอกับความหวาดกลัวเป็นคืนที่สอง ผมแทบไม่มีสมาธิในการทำงาน เหม่อลอย เหมือนสมองไม่ทำงาน จิตใจครุ่นคิดเพียงแต่เรื่องของเธอ หลายวันมานี้เราแทบไม่ได้คุยกันเลย ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นยังไงบ้าง
          และเมื่อค่ำคืนมาถึง ผมใช้เวลาอ่านหนังสือไปเรื่อยๆ เปิดโทรทัศน์ทิ้งเอาไว้เพื่อคลายเหงา จนได้เวลาตีสองที่จะต้องเข้านอน ผมปิดไฟล้มตัวลงนอน และหลับลงอย่างรวดเร็ว
          แล้วคืนที่สามก็กลายเป็นคืนที่น่าสยดสยองกว่าสองคืนที่ผ่านมา
 
          ผมไม่แน่ใจว่าผมกำลังหลับหรือว่าตื่นอยู่กันแน่ รู้สึกว่าตนเองกำลังนั่งอยู่ที่ขอบเตียง เงาดำตนเดิมนั่งอยู่ด้านหลังผม ใช้มือทั้งสองข้างโอบกอดรัดผมเอาไว้จนแน่น ผมไม่สามารถดิ้นรนไปไหนได้
          หญิงสาว!
 
          ใช่แล้ว วันนี้ผมเห็นได้ชัดเจนว่าเงาดำทะมึนนั้นเป็นหญิงสาว และยังเป็นหญิงสาวที่อยู่ในสภาพเปลือยกาย แท้ที่จริงแล้วหญิงสาวตนนี้ไม่ใช่เงาดำ แต่ทุกส่วนของร่างกายถูกชโลมไปด้วยสีดำต่างหาก เหมือนกับคนที่กำลังพอกโคลนไปทั้งตัว แต่สิ่งที่เปื้อนอยู่ตามร่างกายของหญิงสาวนั้นกลับไม่ใช่โคลน แต่เป็นเหมือนของเหลวสีดำ ไม่ต่างจากน้ำมันดิบ เหนียวข้นดำสนิททั่วทั้งร่าง ไม่เว้นแม้แต่ใบหน้า และเส้นผม
          หญิงสาวคนนี้ผมยาว!
 
          การกอดรัดทำให้ผมรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกที ไม่สามารถขยับตัวได้ ไม่ต่างกับสภาวะที่ถูกผีอำเมื่อสองคืนก่อน การถูกกอดรัดในลักษณะใกล้ชิดแบบนี้ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวอยู่ที่ไหล่ด้านขวาของผม เพียงแค่เหลือบมองก็จะเห็นใบหน้าของหญิงสาวที่แนบชิดติดกับใบหน้าของผม และกำลังจ้องเขม็งมาที่ผมอย่างไม่ละสายตา
          ผมมองเห็นดวงตาสีดำสนิทที่ถูกชโลมด้วยของเหลวสีดำ ภายในดวงตาไม่มีสีขาวให้เห็น ทุกอย่างดำสนิท
          ผมไม่รู้ว่าหญิงสาวต้องการอะไรกันแน่ ไม่มีเสียงพูดอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างเงียบ เต็มไปด้วยความสยองขวัญ ไม่รู้ว่าคืนนี้จะสิ้นสุดลงเมื่อใด เวลายังคงเดินไปอย่างเชื่องช้าเช่นเดิม ความอึดอัดมีมากขึ้นทุกขณะ การกอดรัดแน่นราวกับว่าหญิงสาวกำลังจะเข้ามาอยู่ในตัวของผม
          ผมกำลังถูกผีสิง!
 
          ผมกลัวมาก พยายามสวดมนต์แต่ไม่เป็นผล เธอกำลังเข้ามาในร่างของผมอย่างช้าๆ 
          และแล้ว! ทุกอย่างก็หยุดลง ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมสะดุ้งตื่น กระโดดขึ้นนั่งไม่ต่างกับสองคืนที่ผ่านมา มองไปรอบๆ ไม่มีหญิงสาว ไม่มีเงาดำ ที่ผ่านมาผมอยู่ในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น แต่ตอนนี้ผมตื่นแล้ว จากนั้นรีบเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง นั่งอยู่บนเตียงอาการเหน็ดเหนื่อย เหงื่อออกเต็มตัว ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่วันนี้ผมเหนื่อยมาก จากนั้นก็เหลียวไปมองนาฬิกา
          อีกแล้ว! ผมหลับไปได้ 15 นาที
 
          เกิดอะไรขึ้น เป็นคืนที่สามติดต่อกัน สิ่งที่น่ากลัวที่อยู่หลังห้องพยายามเล่มงานผมทุกคืน มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ คืนนี้ไม่เหมือนสองคืนที่ผ่านมา น่ากลัวสยดสยองกว่ามาก แล้วคืนพรุ่งนี้และคืนต่อๆ ไปล่ะ จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกหรือไม่ แต่สำหรับคืนนี้แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยมากขนาดไหน ผมก็ไม่สามารถข่มตาหลับได้เหมือนคืนที่ผ่านมา แม้จะปิดไฟก็ยังไม่กล้า
          ผมกลัวมากจริงๆ 
 
          รุ่งเช้าผมไปทำงานในสภาพอิดโรยอย่างหนัก ไม่ได้นอนทั้งคืน หวาดกลัวจนไม่สามารถหลับได้ กว่าจะได้นอนก็ฟ้าสาง ผมตัดสินใจว่าช่วงบ่ายจะโทรไปเล่าถึงเหตุการณ์ที่น่ากลัวทั้งสามคืนให้อาฟัง เผื่อจะได้รับคำแนะนำอะไรจากอาบ้าง
          หลังจากที่การทำพิธีของอา และการตักบาตรเป็นเวลาเจ็ดวันไม่ได้ผล ผมกับอาก็ไม่ได้คุยกันเลยเป็นเวลาเกือบเดือน ในขณะที่ผมก็ยังไม่สามารถทำตามคำแนะนำของอาด้วยการเลิกรากับเธอได้เสียที
          อาเริ่มต้นด้วยการสอบถามอาการของเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อรู้ว่าผมยังไม่ได้เลิกรากับเธอ และพอรู้ว่าทุกอย่างไม่ดีขึ้น ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด อาไม่ได้ต่อว่าที่ผมไม่ยอมทำตามคำแนะนำ แต่คงเข้าใจความรู้สึกของผม การจะเลิกรากับใครสักคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และคงต้องใช้เวลา
          ผมเริ่มเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสามคืนที่ผ่านมาให้อาฟัง อาฟังและซักถามรายละเอียดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งเครียด เมื่อฟังเรื่องราวทุกอย่างแล้ว อาก็พูดสั้นๆ ว่า
 
          “จำเธอไม่ได้หรือไง”
 
-----------------
 
ต้องขออภัยท่านผู้อ่านที่ได้ติดตามเรื่องราวของ บันทึกลับ เมื่อแฟนผม ...ต้องมนตร์ดำ ด้วยนะครับ เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาผมต้องเดินทางไปต่างจังหวัด และหลังจากเดินทางกลับมาแล้ว ผมรู้สึกสับสนในใจอยู่หลายเรื่อง นั่งคิดทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหนังสือแต่ละช่วงเวลา โดยบุคคลสำคัญที่เป็นทั้งที่ปรึกษาคอยให้ความช่วยเหลือผมด้วยความห่วงใยเสมอมา ก็คงไม่พ้นอา แต่หลังจากที่เรื่องราวของผมและเธอจบลง ผมไม่มีโอกาสได้คุยกับอาอีกเลย จนเวลาล่วงเลยมาหลายปี ทราบข่าวจากแม่ว่ามีอยู่ช่วงหนึ่งอาป่วยหนักต้องนอนพักอยู่ที่ห้องไอซียูเป็นเวลาหลายวัน แต่หลังจากนั้นก็หายดี มีสุขภาพที่แข็งแรงดังเดิม เวลาผ่านไปจนแล้วจนรอดผมก็ไม่เคยได้ไปเยี่ยมเยียนอาเลยสักครั้ง
 
เหมือนกับที่หลายคนเคยบอกเอาไว้ไม่มีผิด เราจะนึกถึงใครบางคน ก็ต่อเมื่อเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่เมื่อทุกอย่างผ่านไปแล้ว เรากลับลืมเลือนคนที่คอยให้ความช่วยเหลือเราไปอย่างไม่น่าให้อภัย 
          จนเมื่อวันหนึ่ง ผมได้รับโทรศัพท์จากแม่
          อาเสียชีวิตแล้ว!
          อาจากไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ก่อนหน้านี้ผมนั่งตรวจต้นฉบับหนังสือก่อนตีพิมพ์ อ่านแล้วอ่านอีกอยู่หลายรอบ และได้คัดย่อเรื่องราวเผยแพร่ลงในเว็บไซด์พันทิป ผมยอมรับเลยว่า เรื่องราวที่เล่าผ่านตัวอักษรทุกตอน ทุกช่วงเวลา ล้วนแล้วแต่มีเรื่องราวของอาอยู่ในนั้นทั้งสิ้น ผมเริ่มตระหนักได้ว่าในช่วงเวลาที่ยากลำบากขณะนั้น อาได้ช่วยเหลือผมมากเพียงใด จนในที่สุดผมก็สามารถหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานมาได้ 
          ผมระลึกนึกถึงสิ่งที่อาได้ช่วยเหลืออย่างสุดซึ้ง และขอให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างที่หลายคนได้กล่าวเอาไว้ อาเสียชีวิตทั้งที่อายุยังไม่มาก ทุกอย่างเป็นไปอย่างรวดเร็วจนหลายคนตกใจ 
          อาไปสบายแล้ว
 
          หลังจากทราบข่าวผมเดินทางไปร่วมงานศพของอาเป็นคืนสุดท้าย และอยู่ร่วมพิธีปลงศพในวันถัดไป
          ผมค่อนข้างแปลกใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา ได้ทราบข่าวจากแม่ว่ามีผู้คนมากหน้าหลายตาต่างมารอขอให้อาช่วยเหลือไม่เว้นแต่ละวัน บางคนต้องรอนานเกือบครึ่งค่อนวันกว่าจะถึงคิวเข้าพบกับอา อาให้ความช่วยเหลือทุกคนที่ก้าวเข้ามาในบ้าน ไม่ว่าจะยากดีมีจนอย่างไร อาจะคอยช่วยเหลือปลดเปลื้องความทุกข์ร้อน โดยไม่ได้เรียกร้องทรัพย์สินใดๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาอาไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไรนัก ยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายสมถะเช่นเดิม จนเมื่ออาจากไปมีทรัพย์สินบางส่วนเป็นบ้านที่อาได้ซื้อเอาไว้จากเงินกู้ตั้งแต่สมัยที่ยังรับราชการอยู่ จากนั้นก็ปล่อยให้เช่า และก็นำค่าเช่ามาใช้เป็นเงินส่งค่างวดกับธนาคาร ถึงวันนี้หนี้สินบ้านหลังนั้นใกล้จะหมดเต็มที หลังจากนั้นก็คงจะมีเงินบางส่วนจากค่าเช่าที่จะช่วยให้อาผู้หญิงสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไม่ลำบากนัก นี่คือสิ่งที่อาได้ทิ้งเอาไว้ให้
          และวันที่อาจากไปงานศพของอาที่ผมได้ไปร่วมงานทั้งสองวัน คนไปร่วมงานน้อยมาก มีเพียงญาติ เพื่อน และคนที่เคยรู้จักกันเท่านั้น ทุกอย่างเป็นไปอย่างเงียบเหงา คนที่อาคอยให้ความช่วยเหลือมาตลอดหลายสิบปีเหล่านั้นหายไปไหนหมด จะทราบข่าวการจากไปของอาหรือไม่ 
          หรือว่าทุกอย่างเป็นเพียงแค่สัจธรรมที่จะต้องยอมรับ  
          “เราจะนึกถึงใครบางคน ก็ต่อเมื่อเรากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก แต่เมื่อทุกอย่างผ่านไปแล้ว เรากลับลืมเลือนเขาไปอย่างไม่น่าให้อภัย”
 
          อาช่วยเหลือคนอื่นมาเยอะ เหน็ดเหนื่อยไม่ใช่น้อย ถึงเวลาที่อาจะต้องพักแล้ว
          ผมขอให้อาจงไปสู่สุขติ 
          และผมจะระลึกนึกถึงสิ่งที่อาได้ช่วยเหลือผมเอาไว้ ...ตลอดไป

สำนึกจากเบื้องลึกของหัวใจ
พรนับพัน

by พรนับพัน
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับการติดตามครับ
หนังสือ บันทึกลับ เมื่อแฟนผม... ต้องมนตร์ดำ
โดย พรนับพัน
สำนักพิมพ์คุณหนูชูใจ
ตอนนี้หนังสือพร้อมส่งแล้วนะครับ
หากสนใจ inbox ได้ทาง Facebook Page : สำนักพิมพ์ คุณหนูชูใจ 
ได้เลยนะครับ 
หนังสือไม่มีวางจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่