JJNY : พิชัยโวยตู่แกล้งไม่เลิก/ทวียกกรณีผู้พิพากษา/ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อเดินทางด้วยสายการบินไทย/ชี้รัฐแก้ปมโควิดผิดจุด

พิชัย โวย บิ๊กตู่ แกล้งไม่เลิก! ปมถูกเรียก คดีกบต้ม ถามปัจจุบันยังไม่ชัดอีกหรือ?
https://www.khaosod.co.th/politics/news_3712744


พิชัย โวย บิ๊กตู่ แกล้งไม่เลิก! ให้ ปอท. ส่งจดหมายเรียก คดีกบต้ม ถามปัจจุบันยังไม่ชัดอีกหรือ? แนะอย่าโง่เขลา ให้ใช้สมองไปแก้เศรษฐกิจ
 
วันที่ 8 มี.ค. นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับหนังสือ ที่ตช. 0026(12)3/580 จากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญกรรมทางเทคโนโลยี (บก. ปอท.) ลงวันที่ 2 มี.ค.2563 เรื่อง แจ้งให้เชิญพยามมาให้ถ้อยคำประกอบสำนวนการสอบสวน ครั้งที่ 1 ลงนามโดย ว่าที่พันตำรวจเอก พิเชษฐ์ คำภีรานนท์ ผู้กำกับการ 3 บก.ปอท. ซึ่งเป็นคดีเรื่อง "ทฤษฎีกบต้ม" ที่ตนได้เคยเตือน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไว้นานแล้ว
 
นายพิชัย กล่าวต่อว่า แต่พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้คนมาฟ้องตน โดยไม่รู้ว่า ทฏษฏีกบต้มนี้มีอยู่จริง เป็นทฤษฎีของต่างประเทศ โดยทฤษฎีนี้พูดถึงประเทศและรวมถึงบริษัทที่ปล่อยให้ตัวเองเสื่อมถอยลงไปเรื่อย ๆ ทีละน้อยจนเจ๊งและเสียหายหมด เหมือนกับกบที่อยู่ในหม้อต้มน้ำถูกที่ค่อย ๆ เร่งไฟสุดท้ายกบก็ถูกต้มตายโดยไม่ทันรู้ตัว
 
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ซึ่งเหตุการณ์นี้กำลังเกิดขึ้นจริงกับประเทศไทย แต่ตนเตือนมาหลายปีแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่เข้าใจสภาวะเศรษฐกิจไทยที่กำลังเป็นกบต้มอยู่ใช่หรือไม่ ถึงได้ยังคงให้ตำรวจส่งจดหมายมาเร่งรัดให้ตนนำพยานไปพบ บก.ปอท. ซึ่งปกติต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจเองใช่หรือไม่ ที่ต้องเรียกพยาน
 
"ดังนั้นจึงอยากถามพล.อ.ประยุทธ์ว่า เหตุใดถึงได้มีจดหมายนี้ส่งมาถึงผม ตั้งใจจะกลั่นแกล้งผมใช่หรือไม่ อีกทั้งอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ไปอ่านบทความทฏษฏีกบต้ม ที่เขียนโดย อาจารย์โกร่ง ดร.วีรพงษ์ รามางกูร เพื่อจะได้เข้าใจทฤษฎีนี้ และ ดร.วีรพงษ์เองก็เพิ่งจะปาฐกถาพูดถึงพล.อ.ประยุทธ์ว่าเป็นผู้นำที่โง่เขลา อ่านแล้วอาจจะทำให้พล.อ.ประยุทธ์ได้ฉลาดขึ้นแล้วจะได้เลิกกลั่นแกล้งผม" นายพิชัย กล่าว
 
นายพิชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ได้พิจารณาผลงานของตัวเองว่า ตลอดเวลาที่บริหารประเทศมาได้สร้างความเสียหายให้ประเทศมากมายขนาดไหน คนไทยกำลังเข้าสู่ภาวะกบต้มใช่หรือไม่ ธนาคารโลกเองยังบอกว่า ตั้งแต่ปี 2558-2561 ที่อยู่ในช่วงการปฏิวัติประเทศไทยมีคนจนเพิ่มมากขึ้นเกือบ 2 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์
 
อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า อีกทั้ง ธนาคารโลกยังบอกว่า เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำ รายได้ประชาชนลดลง ซึ่งก็เป็นจริง โดยธนาคารโลกคงไม่มากล่าวหารัฐบาลแบบมั่ว ๆ หรือตั้งใจให้ร้ายรัฐบาล ถ้าหากไม่เป็นความจริง และสภาวะปัจจุบันที่โรงงานปิดแล้วเป็นหมื่นโรงงาน คนตกงานเพิ่มหลายแสนคน หนี้ครัวเรือนพุ่งสูง หนี้เสียเพิ่มมาก คนฆ่าตัวตายเพราะพิษเศรษฐกิจเกือบทุกวัน และเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปีนี้จะติดลบ และอาจจะถึงกับติดลบทั้งปีได้ โดยรัฐบาลยังไม่มีทิศทางที่จะฟื้นเศรษฐกิจได้เลย แบบนี้ไม่เรียกภาวะกบต้มแล้ว จะให้เรียกภาวะกบสุกหรืออย่างไร
 
"ดังนั้น แทนที่พล.อ.ประยุทธ์จะเสียเวลากับผมในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ควรใช้เวลาไปแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ทรุดหนักจะดีกว่ามาก ทั้งนี้ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์เข้าใจว่า แฟลชม็อบของนิสิต นักศึกษา และ นักเรียน คือ ความพยายามที่จะกระโดดออกจากภาวะกบต้มนี้ เพราะหากทุกคนอยู่เฉย คนทั้งประเทศจะเดือดร้อนกันหมด" นายพิชัย กล่าว
 
นายพิชัย กล่าวด้วยว่า ตนได้ขอให้ทนายของตน นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย นัดหมายกับ บก.ปอท. โดยจะพาพยานคนแรกคือ นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง ที่ได้เคยออกมาคัดค้านการดำเนินคดีกับตนในคดีกบต้มนี้ตั้งแต่สมัยนั้น เข้าพบ บก.ปอท. เพื่อเป็นพยานให้ตน ซึ่งตนเชื่อว่า ประชาชนอีกหลายล้านคน คงอยากเป็นพยานให้ตนเช่นกัน เพื่อบอกว่า ประเทศไทยกำลังเป็นกบต้มกันแล้วใช่หรือไม่
  

 
'ทวี'ยกกรณีผู้พิพากษา‘คณากร’ยิงตัวตายสะท้อนรธน.60 บ่อเกิดแทรกแซงความเป็นธรรม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2036333
 
พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Tawee Sodsong – พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ว่า 
 
รธน 60 เป็นบ่อเกิดการ “แทรกแซงความเป็นธรรม” ข้อความตอนหนึ่งของจดหมายลาตาย ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของท่านผู้พิพากษา คณากร ตุลาคม ก่อนตัดสินใจใช้อาวุธยิงเข้าหัวใจที่บ้านพักส่วนตัวใน อ.ดอยสะเก็ต จ.เชียงใหม่ คือ
 
“…ในอดีตที่เราใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ที่ถูกร่างขึ้นโดย สสร. ประชาชนและนักวิชาการทั้งหลายต่างยอมรับว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดเท่าที่ประเทศเราเคยมีมา ท่านคงสงสัยว่าขณะใช้รัฐธรรมนูญดังกล่าวทำไมจึงไม่ให้มีการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้นเพราะอะไรหรือ สสร.รู้ว่าการตรวจร่างคำพิพากษาในศาลชั้นต้นอาจเปิดโอกาสให้มีการแทรกแซงผลคำพิพากษาโดยอธิบดีผู้พิพากษาภาค…”
 
รธน ปี 60 เปิดโอกาสให้มีการ “แทรกแซงคำพิพากษา” ขึ้นได้ เพราะตัดถ้อยคำที่บัญญัติไว้ใน รธน ปี 40 ในส่วน ศาลยุติธรรม ตามมาตรา 249 วรรคสอง สาม สี่ และ ห้า ที่ป้องกันการแทรกแซงผลคำพิพากษาจากผู้บังคับบัญชาและเหตุอื่น ได้ถูกตัดทิ้งไปไม่มีบัญญัติไว้ใน รธน ปี 60 กล่าวคือ
 
“มาตรา 249 ผู้พิพากษาและตุลาการมีอิสระในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย
 
วรรคสอง การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของผู้พิพากษาและตุลาการไม่อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาตามลำดับชั้น
 
วรรคสาม การจ่ายสำนวนคดีให้ผู้พิพากษาและตุลาการ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติ
 
วรรคสี่ การเรียกคืนสำนวนคดีหรือการโอนสำนวนคดี จะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นกรณีที่จะกระทบกระเทือนต่อความยุติธรรมในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี
 
วรรคห้า การโยกย้ายผู้พิพากษาและตุลาการโดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้พิพากษาและตุลาการนั้น จะกระทำมิได้ เว้นแต่เป็นการโยกย้ายตามวาระตามที่กฎหมายบัญญัติ เป็นการเลื่อนตำแหน่งให้สูงขึ้น เป็นกรณีที่อยู่ในระหว่างถูกดำเนินการทางวินัย หรือตกเป็นจำเลยในคดีอาญา”
 
คำกล่าวว่า รธน ปี 60 เกิดจากเป้าประสงค์หลักเพื่อสืบทอดอำนาจของ “นักปฏิวัติรัฐประหาร” จึงทำให้เนื้อหาที่จะปกป้องคุ้มครองสิทธิ เสรีภาพ ความยุติธรรมและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ด้อยค่าต่ำกว่า รธน ปี 40 ที่ร่างขึ้นโดย “สภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือ สสร” ที่ถูกขนานนามว่า “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน”
 
การสละชีวิตของผู้พิพากษาคณากร ขอแสดงความเสียใจกับภรรยา บุตรและครอบครัว แต่ท่านคณากรฯได้ผดุงความยุติธรรมซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง แม้วาระสุดท้าย “จดหมายลาตาย” ของท่านได้ประกาศให้สังคมรู้ว่าคุณค่าและประโยชน์ของ รธน ปี 40 ที่ร่างโดยประชาชนว่า “เป็นประชาธิปไตยมากที่สุด” เพราะเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย รวมทั้งไม่เปิดโอกาสให้แทรกแซงความยุติธรรมจากคำพิพากษายังมีบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
 
https://www.facebook.com/TaweeSodsongOfficial/photos/a.2640485059300453/3438262639522687/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่