สวัสดีค่ะ หลังจากที่โดนแฮกบัตรเครดิต SCB ไปเมื่อเดือนธันวาคม 2562 เหตุการณ์จบด้วยดีค่ะ SCB คืนวงเงินมา ไม่เป็นหนี้ที่ไม่ได้ก่อ
แต่รอบนี้เป็นบัตรเครดิตร่วม กรุงเทพ-แอร์เอเชีย ค่ะ (ที่กระทู้ก่อนอุตส่าห์ชมว่าไม่เคยโดนแฮก ตอนนี้โดนแล้วค่ะ)
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2563 เวลา 01.05 น. คราวนี้โชคดีที่เล่นโทรศัพท์อยู่ยังไม่นอนค่ะ ก็วิ่งไปหยิบบัตรแล้วโทรหาเบอร์หลังบัตร สำหรับอายัดบัตรก่อนเลยค่ะ เราโทรไปเบอร์ 02-638-4000 จะมีให้กด 3 เพื่ออายัดบัตรเลยค่ะ จังหวะนี้ไม่ต้องฟังเยอะค่ะ ประสบการณ์มีแล้ว มันรูดได้ครั้งนึง มันไม่หยุดหรอกค่ะ ตามรูปด้านล่าง จะเห็นได้ว่าเราโทรไปอายัดบัตรตอน 01:06 น. ห่างกันแค่ไม่ถึง 1 นาที ใช้เวลาราวๆ 4 นาทีก็อายัดบัตรเสร็จ พร้อมทำปฏิเสธรายการตามยอดที่เห็น จนท.แจ้งว่าใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ในการตรวจสอบ และจะพักยอดไว้ให้
(อย่าสนใจเวลาด้านบนนะคะ บางรูปเพิ่งย้อนไปแคปหน้าจอค่ะ)
ซึ่งก่อนหน้านี้คือวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563 เราใช้บัตรใบนี้จ่ายค่าประกันสังคมผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมค่ะ
โดยปกติเราจะใช้จ่ายภาษีและประกันสังคมทุกเดือนอยู่แล้ว และทุกครั้งจะมี OTP มาให้ตลอดค่ะ (ตามรูปด้านล่าง)
และจะเห็นว่าเรามีวงเงินเหลือ 13,075 บาทค่ะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้ที่อื่นอีกจนกระทั่งเกิดเหตุค่ะ
หลังจากอายัดบัตรและปฏิเสธรายการแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เพราะยังไงก็ต้องรอบัตรใหม่ส่งมา
ระหว่างนี้คือบัตรเก่าถูกลบออกจากแอพ Bualuang M Banking ไปแล้วค่ะโดยอัตโนมัติ
พอมาวันนี้ 5 มีนาคม 2563 เราได้ SMS ว่าบัตรใหม่กำลังจะส่งมาให้ค่ะ
แล้วก็เข้าไปเช็คในแอพ Bualuang M Banking บัตรใหม่ก็โดนแอดกลับเข้ามาแล้วโดยอัตโนมัติ รอให้เปิดใช้เฉยๆ
แต่ที่ติดปัญหาคือ ยอดเงินคงเหลือมันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น (ควรมี 13,075 แต่มีแค่ 10,512)
เราก็ตกใจว่ายอดที่โดนแฮกโดนเหมารวมไปยังไงอะไรบ้าง
ครั้งแรกที่โทรไปสอบถาม Callcenter คือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปฏิเสธรายการให้แล้วใช่มั้ย ไม่ต้องมีใบปฏิเสธรายการให้เซ็นต์ใช่มั้ย ไม่ต้องแจ้งความใช่มั้ย
ทางจนท. ก็ตอบว่าไม่ต้องทำอะไรแล้วให้รอติดต่อกลับ ใช้เวลาตรวจสอบ 15 วัน แล้วก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ มากไปกว่านี้
ครั้งที่ 2 เราโทรไปเพื่อเช็ครายการใช้บัตรเราค่ะ หลังจากวางสายครั้งแรก เราฉุกใจว่าต่อให้เค้าเอายอดโดนแฮกมาคิด ก็ไม่ควรหายไปเยอะขนาดนั้น
ยอดที่โดนแฮก 34.90 Euro คิดเรทแพงสุดก็ไม่ควรเกิน 1,500 บาท ปรากฏว่าเช็คผ่านระบบอัตโนมัติไม่ได้
เราก็พยายามมาเปิดเช็คผ่าน Ibanking ก่อน ก็ไม่ได้
เลยตัดสินใจโทรครั้งที่ 3 เพื่อสอบถามว่าทำไมวงเงินคงเหลือเราเหลือแค่นี้ และเพิ่งได้ทราบจาก จนท. ว่า มีการปฏิเสธรายการให้ 4 รายการ เป็นรายการเวลาใกล้กันหมด ร้านค้าเดียวกันหมด ทางจนท. ที่ทำเรื่องอายัดบัตรเลยปฏิเสธให้หมดแล้วทั้ง 4 รายการ ยอด 2,500 กว่าบาท เราก็เอ้า ไม่รู้มาก่อน งงไปอีกว่า SMS แจ้งเตือนครั้งเดียว (ซึ่งยอดอื่นอาจจะมูลค่าไม่เยอะหรือเปล่าเลยไม่เด้ง) แล้วก็ไม่แน่ใจว่ายอดที่เด้งเป็นยอดแรกหรือยอดสุดท้ายแล้ว
ตอนนี้เลยทำได้แค่รอบัตรใหม่มาแล้วเปิดใช้ค่ะ จะเลิกใช้ก็ยังเสียดายเพราะบัตรกรุงเทพอนุมัติยากเหลือเกิน วงเงินก็น้อยนิดเท่าที่เห็น
หลังจากโดนแฮกบัตร SCB ครั้งแรก เรามีมาตราการป้องกันตัวเองมากขึ้นค่ะ ฟังจากเพื่อนๆ ใน Pantip นี่แหละค่ะ
- ปิดรหัสหลังบัตรทุกใบ จดไว้ที่อื่นแล้วล็อกเอาค่ะ หลายๆ ชั้น ลำบากหน่อยแต่ปลอดภัย
- ไม่ผูกบัตรกับที่ใดๆ ก็ตาม เราถอดออกหมดเลยค่ะ จากเดิมที่ก็ไม่ผูกอยู่แล้วด้วยซ้ำ เสียเวลากรอกเลขบัตรเถอะค่ะ
- บัตรกรุงเทพใบนี้เราใช้เฉพาะจ่ายภาษีและประกันสังคมค่ะ วันที่ใช้งานก็จะใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน รายการที่ใช้ตรวจสอบย้อนไปก็จะซ้ำๆ กันในทุกเดือนค่ะ นานๆ ทีจะเอามาซื้อตั๋วเครื่องบินให้ตัวเองบ้างให้น้องสาวบ้าง เพราะวงเงินน้อยนิดค่ะ
- ปกติระบบประกันสังคมก็มี OTP ตลอดนะคะ แล้วย้อนหลังกลับไปการใช้งานบัตรก็คือกำหนดจ่ายประกันสังคมเดือน กพ. คือไม่ได้เอาไปใช้ในเลย เก็บใส่ตู้ล็อกกุญแจ
รอบนี้ยังไม่ได้ไปแจ้งความนะคะ แต่หวังว่าจะได้วงเงินคืนมาไวๆ เพราะยังไงก็ต้องใช้
ไม่แน่ใจว่ามาตราการของธ.กรุงเทพ จะเป็นยังไงบ้าง หวังว่าจะไม่ต้องจ่ายในหนี้ที่ไม่ได้ก่อนะคะ
สุดท้ายนี้อยากบอกทุกคนว่า SMS แจ้งเตือนสำคัญมากค่ะ หลักร้อย หลักพันก็เงินค่ะ ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ อย่าปล่อยให้มิจฉาชีพได้ใจนะคะ
แล้วเหตุโดนแฮกมักจะเกิดช่วงดึกๆ ค่ะ ช่วงที่เหมือนรู้ว่าเราต้องนอน เซฟตัวเองกันด้วยนะคะทุกคน
บัตรเครดิตร่วม กรุงเทพ-แอร์เอเชีย โดนแฮกไปใช้ซื้อของออนไลน์ ไม่มี OTP บัตรอยู่กับตัว
แต่รอบนี้เป็นบัตรเครดิตร่วม กรุงเทพ-แอร์เอเชีย ค่ะ (ที่กระทู้ก่อนอุตส่าห์ชมว่าไม่เคยโดนแฮก ตอนนี้โดนแล้วค่ะ)
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ 3 มีนาคม 2563 เวลา 01.05 น. คราวนี้โชคดีที่เล่นโทรศัพท์อยู่ยังไม่นอนค่ะ ก็วิ่งไปหยิบบัตรแล้วโทรหาเบอร์หลังบัตร สำหรับอายัดบัตรก่อนเลยค่ะ เราโทรไปเบอร์ 02-638-4000 จะมีให้กด 3 เพื่ออายัดบัตรเลยค่ะ จังหวะนี้ไม่ต้องฟังเยอะค่ะ ประสบการณ์มีแล้ว มันรูดได้ครั้งนึง มันไม่หยุดหรอกค่ะ ตามรูปด้านล่าง จะเห็นได้ว่าเราโทรไปอายัดบัตรตอน 01:06 น. ห่างกันแค่ไม่ถึง 1 นาที ใช้เวลาราวๆ 4 นาทีก็อายัดบัตรเสร็จ พร้อมทำปฏิเสธรายการตามยอดที่เห็น จนท.แจ้งว่าใช้เวลา 1-2 อาทิตย์ในการตรวจสอบ และจะพักยอดไว้ให้
(อย่าสนใจเวลาด้านบนนะคะ บางรูปเพิ่งย้อนไปแคปหน้าจอค่ะ)
ซึ่งก่อนหน้านี้คือวันจันทร์ที่ 2 มีนาคม 2563 เราใช้บัตรใบนี้จ่ายค่าประกันสังคมผ่านเว็บไซต์ประกันสังคมค่ะ
โดยปกติเราจะใช้จ่ายภาษีและประกันสังคมทุกเดือนอยู่แล้ว และทุกครั้งจะมี OTP มาให้ตลอดค่ะ (ตามรูปด้านล่าง)
และจะเห็นว่าเรามีวงเงินเหลือ 13,075 บาทค่ะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ใช้ที่อื่นอีกจนกระทั่งเกิดเหตุค่ะ
หลังจากอายัดบัตรและปฏิเสธรายการแล้วก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ เพราะยังไงก็ต้องรอบัตรใหม่ส่งมา
ระหว่างนี้คือบัตรเก่าถูกลบออกจากแอพ Bualuang M Banking ไปแล้วค่ะโดยอัตโนมัติ
พอมาวันนี้ 5 มีนาคม 2563 เราได้ SMS ว่าบัตรใหม่กำลังจะส่งมาให้ค่ะ
แล้วก็เข้าไปเช็คในแอพ Bualuang M Banking บัตรใหม่ก็โดนแอดกลับเข้ามาแล้วโดยอัตโนมัติ รอให้เปิดใช้เฉยๆ
แต่ที่ติดปัญหาคือ ยอดเงินคงเหลือมันน้อยกว่าที่ควรจะเป็น (ควรมี 13,075 แต่มีแค่ 10,512)
เราก็ตกใจว่ายอดที่โดนแฮกโดนเหมารวมไปยังไงอะไรบ้าง
ครั้งแรกที่โทรไปสอบถาม Callcenter คือ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปฏิเสธรายการให้แล้วใช่มั้ย ไม่ต้องมีใบปฏิเสธรายการให้เซ็นต์ใช่มั้ย ไม่ต้องแจ้งความใช่มั้ย
ทางจนท. ก็ตอบว่าไม่ต้องทำอะไรแล้วให้รอติดต่อกลับ ใช้เวลาตรวจสอบ 15 วัน แล้วก็ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ มากไปกว่านี้
ครั้งที่ 2 เราโทรไปเพื่อเช็ครายการใช้บัตรเราค่ะ หลังจากวางสายครั้งแรก เราฉุกใจว่าต่อให้เค้าเอายอดโดนแฮกมาคิด ก็ไม่ควรหายไปเยอะขนาดนั้น
ยอดที่โดนแฮก 34.90 Euro คิดเรทแพงสุดก็ไม่ควรเกิน 1,500 บาท ปรากฏว่าเช็คผ่านระบบอัตโนมัติไม่ได้
เราก็พยายามมาเปิดเช็คผ่าน Ibanking ก่อน ก็ไม่ได้
เลยตัดสินใจโทรครั้งที่ 3 เพื่อสอบถามว่าทำไมวงเงินคงเหลือเราเหลือแค่นี้ และเพิ่งได้ทราบจาก จนท. ว่า มีการปฏิเสธรายการให้ 4 รายการ เป็นรายการเวลาใกล้กันหมด ร้านค้าเดียวกันหมด ทางจนท. ที่ทำเรื่องอายัดบัตรเลยปฏิเสธให้หมดแล้วทั้ง 4 รายการ ยอด 2,500 กว่าบาท เราก็เอ้า ไม่รู้มาก่อน งงไปอีกว่า SMS แจ้งเตือนครั้งเดียว (ซึ่งยอดอื่นอาจจะมูลค่าไม่เยอะหรือเปล่าเลยไม่เด้ง) แล้วก็ไม่แน่ใจว่ายอดที่เด้งเป็นยอดแรกหรือยอดสุดท้ายแล้ว
ตอนนี้เลยทำได้แค่รอบัตรใหม่มาแล้วเปิดใช้ค่ะ จะเลิกใช้ก็ยังเสียดายเพราะบัตรกรุงเทพอนุมัติยากเหลือเกิน วงเงินก็น้อยนิดเท่าที่เห็น
หลังจากโดนแฮกบัตร SCB ครั้งแรก เรามีมาตราการป้องกันตัวเองมากขึ้นค่ะ ฟังจากเพื่อนๆ ใน Pantip นี่แหละค่ะ
- ปิดรหัสหลังบัตรทุกใบ จดไว้ที่อื่นแล้วล็อกเอาค่ะ หลายๆ ชั้น ลำบากหน่อยแต่ปลอดภัย
- ไม่ผูกบัตรกับที่ใดๆ ก็ตาม เราถอดออกหมดเลยค่ะ จากเดิมที่ก็ไม่ผูกอยู่แล้วด้วยซ้ำ เสียเวลากรอกเลขบัตรเถอะค่ะ
- บัตรกรุงเทพใบนี้เราใช้เฉพาะจ่ายภาษีและประกันสังคมค่ะ วันที่ใช้งานก็จะใกล้เคียงกันในทุกๆ เดือน รายการที่ใช้ตรวจสอบย้อนไปก็จะซ้ำๆ กันในทุกเดือนค่ะ นานๆ ทีจะเอามาซื้อตั๋วเครื่องบินให้ตัวเองบ้างให้น้องสาวบ้าง เพราะวงเงินน้อยนิดค่ะ
- ปกติระบบประกันสังคมก็มี OTP ตลอดนะคะ แล้วย้อนหลังกลับไปการใช้งานบัตรก็คือกำหนดจ่ายประกันสังคมเดือน กพ. คือไม่ได้เอาไปใช้ในเลย เก็บใส่ตู้ล็อกกุญแจ
รอบนี้ยังไม่ได้ไปแจ้งความนะคะ แต่หวังว่าจะได้วงเงินคืนมาไวๆ เพราะยังไงก็ต้องใช้
ไม่แน่ใจว่ามาตราการของธ.กรุงเทพ จะเป็นยังไงบ้าง หวังว่าจะไม่ต้องจ่ายในหนี้ที่ไม่ได้ก่อนะคะ
สุดท้ายนี้อยากบอกทุกคนว่า SMS แจ้งเตือนสำคัญมากค่ะ หลักร้อย หลักพันก็เงินค่ะ ยุคเศรษฐกิจแบบนี้ อย่าปล่อยให้มิจฉาชีพได้ใจนะคะ
แล้วเหตุโดนแฮกมักจะเกิดช่วงดึกๆ ค่ะ ช่วงที่เหมือนรู้ว่าเราต้องนอน เซฟตัวเองกันด้วยนะคะทุกคน