ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มเลยจ้า
เนื่องจากเราเป็นโรค ไทรอยด์เป็นพิษหรือ hyper thyriod
อาการก็คือตาโปน กินเยอะแต่ผอม หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ คอบวม มือสั่น
เราไปหาหมอ จึงได้ยาต้านฮอร์โมนไทรอยด์มากิน กินมา3ปีค่ะ ร่างกายไม่ตอบสนองต่อยา กินยาเยอะ ค่าไทรอยด์ก็ปกติ แต่ถ้ากินน้อย ค่าไทรอยด์ก็สูงเหมือนเดิม หมอจึงให้เรา กลืนรังสีไอโอดีน จะดีกว่า
ก่อนกลืนงดอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเล และเกลือที่เสริมไอโอดีน และยาต้านไทรอยด์1สัปดาห์ค่ะ ที่ให้งดไอโอดีน เพราะถ้ากินเข้าไป มันจะไปเกาะที่ต่อมไทรอยด์ของเรา ทำให้ไม่เหลือพื้นที่ให้รังสีอยู่นั่นเอง
เรื่องอาหารไม่เป็นปัญหาสำหรับเราเลย กินปกติแค่งดอาหารทะเล เราใช้เกลือสินเธาว์ ,โชยุของทาคูมิอายิ แทนน้ำปลา รสชาติไม่ต่างค่ะ ทำปลานึ่งมะนาว ยำ ส้มตำ อร่อยเหมือนกัน เราเคยอ่านมาจากบางกระทู้ว่าหักดิบ กินจืดๆไปเลย มันจะทำให้เรากินอะไรไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นมีเครื่องปรุงพวกนี้ ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวนี้มีเยอะนะคะลองเดินดู ยี่ห้อทาคูมิ เกลือสินเธาว์ หรือ คิวพี น้ำสลัดญี่ปุ่นก็ทานได้หาอะไรที่เขียนว่า"สำหรับผู้ที่ต้องจำกัดการบริโภคไอโอดีน"แค่นี้เลยค่ะง่ายๆ
เราไปกินข้าวนอกบ้านด้วยซ้ำ สั่งเค้าไม่ใส่น้ำปลา เรามาใส่ซอสของเราเอง กินส้มตำก็ใส่เกลือเอาค่ะ อยากกินมาก5555
ออ แล้วก็มีอกไก่ในเซเว่นช่วยชีวิตได้นะคะ ถ้าเราไม่สะดวกทำกับข้าวเอง
มาถึงวันกลืนรังสี ทุกอย่างไม่น่ากลัวเลย ขอย้ำว่าไม่น่ากลัวเลยย เรางดอาหารและยา7วันครบแล้ว งดอาหารก่อนตรวจ 3ชั่วโมง
วันแรก ที่ชั้นใต้ดินของรพ.แห่งหนึ่ง คุณหมอให้กลืนรังสีในปริมาณที่ต่ำมากๆๆๆๆๆมาในรูปแบบแคปซูล ในขวดแก้ว2เม็ด แล้วรอมาตรวจอีกที อันนี้คือการเทสค่ะ ว่ารังสีจับที่ต่อมไทรอยด์ของเรากี่% ถ้าไม่จับจะไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ ของเรา 66%ค่ะ
รูปนี้คือบรรจุภัณฑ์ของยาค่ะช
กินยาเสร็จ รอ2ชั่วโมง คุณหมอใช้เครื่องอะไรไม่รู้มาวัดที่ต้นขาและคอของเรา เพื่อนำไปคำนวณหาค่ารังสีที่เหมาะกับเรา เสร็จแล้วกลับบ้านได้
วันที่2 เป็นวันที่มากลืนจริงๆค่ะ จะเริ่มต้นจากคุยกับคุณหมอ เกี่ยวกับคำแนะนำต่างๆเรื่องโรค เรื่องการปฏิบัติตัว เราอ่านมาเยอะค่ะ ทำให้เรากลัว แต่พอเจอหมอจริงๆ อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่อ่านมาเลยนี่นาาา ได้ข้อสรุปมาว่า
1.ผมไม่ร่วงนะคะ ไม่มีผล
2.การไม่ให้เข้าใกล้คน7วัน มันไม่ได้อันตรายต่อคนใกล้ตัวค่ะ แค่เค้าจะได้รับรังสีไปทั้งๆที่ไม่จำเป็นเฉยๆ มันแค่1ส่วนในร่างกายของเราเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นอันตรายใดใดค่ะ จึงอยากให้ห่าง1-2เมตร เพราะเหตุนี้ หลายคนกังวลมากจนไม่กล้าออกจากบ้าน หมอบอกว่าถ้าอันตรายจริงเค้ากักตัวให้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
3.รังสีขับออกมาจากสารคัดหลั่ง เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ นั้นมีมาก ส่วนน้ำลาย ลองเทสดูแล้วจากการที่กินข้าว แล้วตรวจรังสีที่ช้อน แทบไม่มีหลงเหลืออยู่เลย
4.หลังจากที่กลืนแล้วในทางทฤษฎี ไม่ได้ห้ามกินไอโอดีนใดใด แต่ในทางปฏิบัติ หมออยากให้งดไป3วันค่ะ ไม่ต้องถึงกับ7วัน หลังจากนั้นกินทุกอย่างได้ปกติ
5.ข้อเสียข้อเดียวคืออาจจะทำให้เราเป็นไฮโปไทรอยด์ตามมา เพราะหมอไม่สามารถหาค่ารังสีที่พอดีเป้ะๆให้ได้ในการรักษาค่ะ เรื่องนี้ต้องรอดูอีกที เพราะต้องมาตามนัดของคุณหมอ
พอคุยเสร็จ ก็รอกลืนค่ะ ของเราหมอบอกว่าประมานบ่ายสองรังสีจะพร้อม งดข้าว 3ชั่วโมง เมื่อพร้อมแล้ว ก็เริ่มค่ะ
เข้าห้องไป ห้องธรรมดาค่ะไม่มีไรพิเศษ หมอก็ใส่ชุดหมอทั่วไป ไม่มีชุดอวกาศแบบที่เคยฟังๆมา ยาอยู่ในนี้ค่ะ 1เม็ด ของเรากลืน 12หน่วย พอกินเสร็จแล้วจ่ายตังกลับบ้านได้ค่า
แค่นี้เอง งงมาก อ่านมาเยอะเราก็จะกลัวเยอะค่ะ แต่ที่จริงแล้วไม่มีไรเลยสักกะนิด
เรื่องค่าใช้จ่าย วันแรก 7900 วันที่สอง 7000 โรงพยาบาลเอกชน แต่เราเบิกได้เลยโอเคมากๆ55555
สุดท้าย ผลข้างเคียงของเรา และผลการรักษาจะเป็นยังไง ก็ต้องรอดูอีกที ฝากไว้เพียงเท่านี้ค่าาา
กลืนแร่รักษาไทรอยด์เป็นพิษ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
เนื่องจากเราเป็นโรค ไทรอยด์เป็นพิษหรือ hyper thyriod
อาการก็คือตาโปน กินเยอะแต่ผอม หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ คอบวม มือสั่น
เราไปหาหมอ จึงได้ยาต้านฮอร์โมนไทรอยด์มากิน กินมา3ปีค่ะ ร่างกายไม่ตอบสนองต่อยา กินยาเยอะ ค่าไทรอยด์ก็ปกติ แต่ถ้ากินน้อย ค่าไทรอยด์ก็สูงเหมือนเดิม หมอจึงให้เรา กลืนรังสีไอโอดีน จะดีกว่า
ก่อนกลืนงดอาหารที่มีไอโอดีนสูง เช่น อาหารทะเล และเกลือที่เสริมไอโอดีน และยาต้านไทรอยด์1สัปดาห์ค่ะ ที่ให้งดไอโอดีน เพราะถ้ากินเข้าไป มันจะไปเกาะที่ต่อมไทรอยด์ของเรา ทำให้ไม่เหลือพื้นที่ให้รังสีอยู่นั่นเอง
เรื่องอาหารไม่เป็นปัญหาสำหรับเราเลย กินปกติแค่งดอาหารทะเล เราใช้เกลือสินเธาว์ ,โชยุของทาคูมิอายิ แทนน้ำปลา รสชาติไม่ต่างค่ะ ทำปลานึ่งมะนาว ยำ ส้มตำ อร่อยเหมือนกัน เราเคยอ่านมาจากบางกระทู้ว่าหักดิบ กินจืดๆไปเลย มันจะทำให้เรากินอะไรไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นมีเครื่องปรุงพวกนี้ ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวนี้มีเยอะนะคะลองเดินดู ยี่ห้อทาคูมิ เกลือสินเธาว์ หรือ คิวพี น้ำสลัดญี่ปุ่นก็ทานได้หาอะไรที่เขียนว่า"สำหรับผู้ที่ต้องจำกัดการบริโภคไอโอดีน"แค่นี้เลยค่ะง่ายๆ
เราไปกินข้าวนอกบ้านด้วยซ้ำ สั่งเค้าไม่ใส่น้ำปลา เรามาใส่ซอสของเราเอง กินส้มตำก็ใส่เกลือเอาค่ะ อยากกินมาก5555
ออ แล้วก็มีอกไก่ในเซเว่นช่วยชีวิตได้นะคะ ถ้าเราไม่สะดวกทำกับข้าวเอง
มาถึงวันกลืนรังสี ทุกอย่างไม่น่ากลัวเลย ขอย้ำว่าไม่น่ากลัวเลยย เรางดอาหารและยา7วันครบแล้ว งดอาหารก่อนตรวจ 3ชั่วโมง
วันแรก ที่ชั้นใต้ดินของรพ.แห่งหนึ่ง คุณหมอให้กลืนรังสีในปริมาณที่ต่ำมากๆๆๆๆๆมาในรูปแบบแคปซูล ในขวดแก้ว2เม็ด แล้วรอมาตรวจอีกที อันนี้คือการเทสค่ะ ว่ารังสีจับที่ต่อมไทรอยด์ของเรากี่% ถ้าไม่จับจะไม่สามารถรักษาด้วยวิธีนี้ได้ ของเรา 66%ค่ะ
รูปนี้คือบรรจุภัณฑ์ของยาค่ะช
กินยาเสร็จ รอ2ชั่วโมง คุณหมอใช้เครื่องอะไรไม่รู้มาวัดที่ต้นขาและคอของเรา เพื่อนำไปคำนวณหาค่ารังสีที่เหมาะกับเรา เสร็จแล้วกลับบ้านได้
วันที่2 เป็นวันที่มากลืนจริงๆค่ะ จะเริ่มต้นจากคุยกับคุณหมอ เกี่ยวกับคำแนะนำต่างๆเรื่องโรค เรื่องการปฏิบัติตัว เราอ่านมาเยอะค่ะ ทำให้เรากลัว แต่พอเจอหมอจริงๆ อ้าวเห้ย ไม่เหมือนที่อ่านมาเลยนี่นาาา ได้ข้อสรุปมาว่า
1.ผมไม่ร่วงนะคะ ไม่มีผล
2.การไม่ให้เข้าใกล้คน7วัน มันไม่ได้อันตรายต่อคนใกล้ตัวค่ะ แค่เค้าจะได้รับรังสีไปทั้งๆที่ไม่จำเป็นเฉยๆ มันแค่1ส่วนในร่างกายของเราเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นอันตรายใดใดค่ะ จึงอยากให้ห่าง1-2เมตร เพราะเหตุนี้ หลายคนกังวลมากจนไม่กล้าออกจากบ้าน หมอบอกว่าถ้าอันตรายจริงเค้ากักตัวให้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
3.รังสีขับออกมาจากสารคัดหลั่ง เช่น ปัสสาวะ อุจจาระ นั้นมีมาก ส่วนน้ำลาย ลองเทสดูแล้วจากการที่กินข้าว แล้วตรวจรังสีที่ช้อน แทบไม่มีหลงเหลืออยู่เลย
4.หลังจากที่กลืนแล้วในทางทฤษฎี ไม่ได้ห้ามกินไอโอดีนใดใด แต่ในทางปฏิบัติ หมออยากให้งดไป3วันค่ะ ไม่ต้องถึงกับ7วัน หลังจากนั้นกินทุกอย่างได้ปกติ
5.ข้อเสียข้อเดียวคืออาจจะทำให้เราเป็นไฮโปไทรอยด์ตามมา เพราะหมอไม่สามารถหาค่ารังสีที่พอดีเป้ะๆให้ได้ในการรักษาค่ะ เรื่องนี้ต้องรอดูอีกที เพราะต้องมาตามนัดของคุณหมอ
พอคุยเสร็จ ก็รอกลืนค่ะ ของเราหมอบอกว่าประมานบ่ายสองรังสีจะพร้อม งดข้าว 3ชั่วโมง เมื่อพร้อมแล้ว ก็เริ่มค่ะ
เข้าห้องไป ห้องธรรมดาค่ะไม่มีไรพิเศษ หมอก็ใส่ชุดหมอทั่วไป ไม่มีชุดอวกาศแบบที่เคยฟังๆมา ยาอยู่ในนี้ค่ะ 1เม็ด ของเรากลืน 12หน่วย พอกินเสร็จแล้วจ่ายตังกลับบ้านได้ค่า
แค่นี้เอง งงมาก อ่านมาเยอะเราก็จะกลัวเยอะค่ะ แต่ที่จริงแล้วไม่มีไรเลยสักกะนิด
เรื่องค่าใช้จ่าย วันแรก 7900 วันที่สอง 7000 โรงพยาบาลเอกชน แต่เราเบิกได้เลยโอเคมากๆ55555
สุดท้าย ผลข้างเคียงของเรา และผลการรักษาจะเป็นยังไง ก็ต้องรอดูอีกที ฝากไว้เพียงเท่านี้ค่าาา