[CR]วิธีการดำรงชีวิต 14วัน ระหว่างเข้ารับการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษด้วยการกลืนแร่ไอโอดีนค่ะ

สวัสดีชาวพันทิปทุกท่าน วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการดำรงชีวิต 14วัน ระหว่างเข้ารับการรักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษด้วยการกลืนแร่ไอโอดีนค่ะ
      ก่อนอื่นเราจะบอกเล่าอาการแสดงของเราก่อนนะคะ

      มีช่วงหนึ่งเราลดน้ำหนักอย่างหักโหมเอาเป็นเอาตายค่ะ ถึงขนาดไปสมัครเรียนเทควันโด เรียนมันทุกวันที่มีเวลา ขนาดว่าเราได้มีโอกาสนอนพักแค่หกชั่วโมงต่อวัน เราก็ยังดั้นด้นไปเรียน แน่นอน น้ำหนักเราลงอย่างใจหวัง ใส่เสื้อผ้าอย่างสบายใจ จนกระทั่งเดือนกุมภาพันธ์ 2559 เราประสบอุบัติเหตุเข่าพลิกขณะกระโดดเตะ เราพักเข่าอยู่เดือนนึง เราก็หอบสังขารไปเรียนว่ายน้ำสลับกับมวยไทย สรุป...ไม่ไหวค่ะ555+ เลิกออกกำลังกายกลับมาใช้ชีวิตแบบเวรี่แฮปปี้ กินทุกสิ่งอย่างที่ขวางหน้า กินอย่างบ้าคลั่ง และถ่ายวันละหลายครั้งอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน น้ำหนักเราลงสวนทางกับการกินชัดเจน จนพี่ที่ทำงานทักว่า กินอย่างไม่เคยพบเคยเจอ กินตลอดเวลา และกินเสร็จก็ไปเข้าห้องน้ำ เราเป็นอย่างนี้ตั้งแต่พ.ค.-ปลาย ต.ค. ค่ะ คิดว่าตัวเองปกติไม่เป็นอะไร มีเวียนๆหัวบ้าง อ่อนแรงบ้าง ก็คิดว่าตัวเองกินไม่พอ ก็กินเข้าไปอีก คือแฮปปี้เว่อร์ ชดเชยช่วงเวลาระหว่างที่เราไปลดน้ำหนักให้เป็นอย่างดี และคิดว่าเป็นเหมือนรุ่นพี่ที่สนิทกัน แล้วเขาลาออกไปแล้ว ก็เลยคิดว่าไม่เป็นไรมั้ง ขนาดพี่เขาไม่เป็นอะไรเลย

     จนกระทั่งวันนึง ขณะเรากำลังทำงานเราเวียนหัวหนักมาก เหมือนจะเป็นลม แล้วก็เหนื่อย หายใจไม่อิ่ม พี่เลยบ่นว่า ถ้าไม่ไหว ก็ไปหาหมอซะ เพราะถ้าแกตายเขาไม่คลุมธงชาตินะ เราเลยไปหาหมอค่ะ สรุปพอไปหาหมอก็มีอาการปวดหัว หัวใจเต้นเร็ว และเหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ เลยได้เข้าไปนอนห้องสังเกตอาการ แพทย์มาตรวจฟังชีพจร ถามว่าเราตื่นเต้นรึเปล่า เราก็ตอบว่าไม่ หมอฟังแล้วก็บอกว่า ผิดจังหวะจริงๆ  ถามว่าน้ำหนักลดมั้ย  ถ่ายบ่อยรึเปล่า ซึ่งน้ำหนักเราก็ประมาณเดิม ส่วนการขับถ่ายก็เฉลี่ย2-3 ครั้งต่อวัน หมอเลยให้เจาะเลือดตรวจค่าไทรอยด์ และตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า ความดันโลหิตเราประมาณ 140/90 mmHg และ ชีพจรประมาณ 140 ครั้ง/นาที ผลสรุปออกมาว่า เรามีภาวะไทรอยด์เป็นพิษค่ะ
     ดังนั้นหากท่านมีอาการดังกล่าวคล้ายๆเราแนะนำว่าควรไปพบแพทย์ เพื่อเข้าการรับการรักษานะคะ เพราะผลข้างเคียงที่ตามว่า ถ้ารักษาไม่ทันการ ความพินาศของร่างกายจะเกิดขึ้นทุกระบบ โดยเฉพาะหัวใจเราอาจจะล้มเหลวได้เลยทีเดียว
เรากินยาแค่สองตัวค่ะ คือ Methimazole ซึ่งเป็นยารักษาโรคไทรอยด์เป็นพิษ และ Propanolol ที่ควบคุมระดับความดันโลหิตและอาการใจสั่น คอเราค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆ เราก็กังวลเนอะ เป็นผู้หญิงก็รักสวยรักงามอยู่แล้ว หมอก็เลยอัลตร้าซาวด์คร่าวๆที่คอก็พบว่า มีแค่ต่อมไทรอยด์ที่โตเท่านั้น ไม่มีเนื้องอกหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ หมอเลยแนะนำให้เรากลืนแร่ไอโอดีน เพื่อรักษาค่ะ เราก็เลยหาข้อมูลจากเน็ตมากมายก็มีทั้งคัดค้าน และสนับสนุน แต่เราเลือกจะเชื่อใจหมอค่ะ เอาว่ะ กลืนก็กลืน

     เราก็ไปพบเจ้าหน้าที่รังสีรักษาเพื่อนัดแนะการเตรียมตัวกลืนแร่ ก็ได้วันนัดเป็นที่เรียบร้อย 6-8 ก.ย.2560 ก็มีแนะนำให้งดอาหารทะเล และอาหารที่มีส่วนผสมของไอโอดีนตั้งแต่วันที่ 27 ส.ค.2560 และงดยาไทรอยด์ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2560
จากนั้นเราก็ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เน็ตค่ะ ซึ่งมีข้อปฏิบัติดังนี้

วิธีปฏิบัติตัวก่อนกลืนแร่
1.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูงอย่างน้อย 7วันก่อนกลืนแร่  ได้แก่ อาหารทะเล เกลือที่เสริมไอโอดีน นม โยเกิร์ต ชีส ไข่แดง อาหารดอง ยาที่มีส่วนผสมของไอโอดีน(เช่น ยาแก้ไอ) วิตามินรวมและเกลือแร่อัดเม็ด
2.หยุดยา Anti-thyroid 3-7 วัน
3.สามารถทานยา Beta Blockers อย่างต่อเนื่องตลอดการรักษา

วิธีปฏิบัติตัวหลังกลืนแร่
1.เนื่องจากรังสีไอโอดีนจะขับออกทางน้ำลาย ปัสสาวะ และอุจจาระ ดังนั้นให้ใช้ช้อนกลางขณะรับประทานอาหาร ดื่มน้ำมากๆ และกดชักโครก 2 ครั้งหลังเข้าห้องน้ำในช่วง 2-3 วันแรก
2.นอนแยกเตียง งดการกอดจูบ หรือ มีเพศสัมพันธ์ ในช่วง2-3 วันแรก
3.ลดระยะเวลาที่ต้องสัมผัสกับผู้อื่นโดยเฉพาะเด็กและสตรีมีครรภ์ เป็นระยะเวลาประมาณ 7 วัน
4.หลีกเลี่ยงการนั่งรถขนส่งมวลชนรวมทั้งเครื่องบิน ถ้าจำเป็นไม่ควรเกิน1.5 ชั่วโมงในช่วงวันแรก ถ้านั่งรถส่วนตัวนั่งได้ถ้านั่งห่างเกิน 1 เมตร ใน2-3 วันแรก
5.ลดระยะเวลาในการอยู่ที่สาธารณะ เช่น ศูนย์การค้า โรงภาพยนตร์ 2-3 วันแรก
6.หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไอโอดีนสูงอย่างน้อย 7วันหลังกลืนแร่  ได้แก่ อาหารทะเล เกลือที่เสริมไอโอดีน นม โยเกิร์ต ชีส ไข่แดง อาหารดอง ยาที่มีส่วนผสมของไอโอดีน(เช่น ยาแก้ไอ) วิตามินรวมและเกลือแร่อัดเม็ด
7.เริ่มทานยา Anti-thyroid หลังกลืนแร่ตามแพทย์สั่ง หลังกลืนแร่ไปแล้ว 7วัน หรืออาจจะเร็วกว่านั้น แล้วแต่แพทย์เห็นสมควร
8.แนะนำให้คุมกำเนิดทั้งเพศหญิงและชาย 6เดือน หลังเข้ารับการรักษา
ซึ่งเราผลิตภัณฑ์มาแนะนำให้ท่านได้รู้จัก ในการดำรงชีวิต 14วัน ดังต่อไปนี้ค่ะ


     เริ่มจากซ้ายมือก่อนนะคะ มีข้อแม้ว่า ทุกผลิตภัณฑ์ต้องระบุว่า สำหรับผู้บริโภคที่จำกัดไอโอดีนค่ะ
1.น้ำมัน อันนี้ยี่ห้อไหนก็ได้ค่ะ แล้แต่จะชอบ แต่เคยมีแนะนำว่าน้ำมันรำข้าวดีต่อสุขภาพ เราก็เคยซื้อมาใช้ค่ะ
2.ซอสผัดของทาคุมิ อายิ อันนี้อร่อยมากๆๆๆ เราใส่มันทุกอย่าง แทนน้ำมันหอยได้เป็นอย่างดี ผัดกับผักนี่ไม่ต้องเติมอะไรเลยก็ยังได้ค่ะ
3.ซอสศรีราชาพานิช เอาไว้กินจิ้มอะไรก็แล้วแต่ใจจะไขว่คว้า ที่จริงเขาให้งดเผ็ดนะคะ แต่เราก็เลี่ยงไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ขอนิดนึงล่ะกันนะ
4.ซอสเทอริยากิ ถ้าใครชอบเมนูเทอริยากิ ก็เปิดตำรามาทำเลยล่ะกัน แต่เราคิดว่าหวานไปหน่อย บ่มักๆๆ
5.ซอสพริกไทยเอาไว้หมักหมู หมักไก่ อร่อยดีแท้หลาว
6.ซีอิ๊วดำ อันนี้เอาไว้ทำข้าวผัด พะโล้ ได้ด้วยนะเออ
7. น้ำตาล ก็กินได้ปกติ จะยี่ห้อไหนก็ได้ แต่เราชอบอันนี้ สะดวกดี มีฝาเปิดปิดให้ด้วย
7.ซีอิ๋วตราคิคุแมน ก็ซีอิ๋วทั่วๆไป ใช้แทนน้ำปลา แต่ว่ากลิ่นก็นะ ทดแทนกันไม่ได้จริงๆT^T
8.กระปุกสีขาวๆ คือเกลือค่ะ เกลือสินเธาว์ที่เราสั่งทางเฟสบุ๊ค โดยการค้นหา เกลือสินเธาว์ น่าน ก็ได้มาสองโลค่ะ ราคาถูกมาก กิโลละ15 บาทเอง แต่ค่าส่งจะเป็นลมค่ะ 555+ หลักร้อยอัพ แต่เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเรายอม

      เราทำอาหารทานเองทุกมื้อวันไหนขี้เกียจก็กินน้ำเต้าหู้ กล้วย และผลไม้ต่างๆ วนไปค่ะ ถามว่าทรมานมั้ย
มากกกกกกกกกกกกกกก กอ ไก่ ล้านตัว เราไม่ได้กินขนมเลย ทำเอาเราคลั่ง งอแงกับแฟนบ่อยๆ แต่เขาก็กล่อมว่าจะพาไปกินสิ้นเดือนค่ะ เรานี่นับถอยหลังสู่วันกินขนม และอาหารทะเลก็ว่าได้  แต่ใช่ว่าจะฟาดเรียบนะคะ ต้องค่อยๆไต่ระดับจะซัดอาหารทะเลเป็นโลก็ใช่ที่ กินแต่พอดีก็พอ เพราะเคยมีหมอบอกว่างด 6เดือนเลยนะอาหารทะเล แต่พี่พยาบาลชี้แจงให้เราฟังว่ารังสีจะอยู่ในร่างกายเรา 3 เดือน และอีก 3เดือนหลัง คือการฟื้นฟูร่างกาย ดังนั้นก็กินแต่พอดีจะได้ไม่มีไอโอดีนในร่างกายมากเกินไปจนเกิดผลเสียล่ะกันเนอะ ตัวเราก็พยายามหาข้อมูลแหละแต่หาไม่ได้ รู้แค่ว่า 7วันให้หลังก็สามารถรับประทานอาหารได้ปกติ ถ้าใครสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ก็บอกเราหน่อยนะคะ ส่วนการประกอบอาหาร เราเปิดตำราที่ทำอาหารเจ ช่วยได้มาก เพราะเขาใช้เกลือและซีอิ๋วเป็นหลัก ทำให้อาหารต่างๆก็ถือว่าสามารถดำรงชีวิตได้อย่างสบายๆในช่วง 14 วันระหว่างกลืนแร่ของเรา

จะแนะนำคร่าวๆว่ากลืนแร่มีขั้นตอนยังไงบ้างละกันเนอะ

6 ก.ย. 2560
     เขานัดเราบ่ายโมงค่ะ มากลืนแร่ซึ่งเขาบอกให้ฟังว่าเป็นการกลืนเพื่อวินิจฉัยโรค เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษที่ต้องรักษาด้วยการกลืรแร่จริง ซึ่งวันแรกแร่นั้นมีผลเท่าๆกับรังสีที่คนทั่วไปรับได้ แต่ควรเลี่ยงการเข้าใกล้เด็กเล็กและสตรมีครรภ์ค่ะ ก็มียาอยู่ในขวดแก้ว ให้เราเทใส่ปากแล้วดื่มน้ำตามเลย ห้ามสัมผัสกับเม็ดยา
ต่อมาสี่โมงเย็นเขาก็นัดเรามา scan ดูเปอร์เซ็นต์ที่ไอโอดีนจับไทรอยด์ เราได้ 65% ซึ่งเขาวินิจฉัยว่าเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษที่ต้องได้รับกลืนแร่จริงๆ

7 ก.ย. 2560
     วันนี้นัดเรามาฉีดรังสีเข้าเส้น ซึ่งรังสีนี้จะอยู่ในร่างกายเราประมาณ 6ชั่วโมง เราจะต้องได้รับการตรวจเครื่องที่เหมือนอุโมงค์หลังจากได้รับยาฉีด15-1ชั่วโมง หลังจากนั้นก็พบแพทย์ ซึ่งผลออกมาว่า รังสีไอโอดีนสามารถจับต่อมไทรอยด์เราได้ถึง 91%  ทำให้เรากลืนแร่ในปริมาณที่น้อย 7 MCI เอง

8 ก.ย. 2560
     วันที่เรามากลืนแร่จริงๆ ก็มาบ่ายโมง กลืนแร่ แล้วก็กลับบ้านได้ แล้วก็ปฏิบัติตัวตามวิธีการหลังการกลืนแร่ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น

      หวังว่าข้อมูลของเราจะเป็นประโยชน์ให้แก่คนเป็นไทรอยด์เป็นพิษไม่มากก็น้อย ไม่ว่าคุณจะเลือกการรักษาตัวแบบไหนก็ขอให้คุณโชคดี หายจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆนะคะ สุดท้าย การเป็นโรคไทรอยด์นั้น ไม่ว่าจะฮอร์โมนขาดหรือเกิน การไปเข้ารับการักษาอย่างต่อเนื่อง และรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอคือหัวใจสำคัญที่จะทำให้คุณมีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยมากขึ้นค่ะ และควรสังเกตด้วยว่ารับประทานหรือทำกิจกรรมอะไรก็ตามที่ทำให้อาการกำเริบก็เลี่ยงเสีย ขอให้โชคดีค่ะ ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่