สวัสดีครับ มีปัญหาอยากจะลองปรึกษาพี่ๆในพันทิปหน่อยครับ
เรื่องมีอยู่ว่าแฟนเป็นพนักงานโรมแรมในตำแหน่ง Reception  ในโรงแรมแห่งหนึ่ง
แล้วเรื่องมันมีอยู่ว่า มีลูกค้ามาแจ้งเรื่องว่ากับทางโรงแรมนั้นได้เก็บเงินเกิน  ซึ่งในการจองเข้าพักของลูกค้าท่านนี้ คือการจองผ่าน booking จำนวนเงิน 7500 บาท ซึ่งทางโรงแรมมีนโยบายต้องตัดบัตรลูกค้า 50 % ก่อนเข้าพัก 

ซึ่งในวันเข้าพักต้องจ่ายอีก 50 % ที่เหลือในกรณีนี้ลูกค้าสามารถเลือกจ่ายได้เป็นแบบเงินสด เงินโอนหรือบัตรเครดิต
แล้ว เหตุมันมีอยู่ว่า ลูกค้าบอกว่ามีพนักงานแจ้งว่าไม่สามารถตัดบัตรเครดิตได้ ลูกค้าจึงต้องควักจ่ายเป็นเงินสดจำนวน 7500 บาท
โดยทางด้านของพนักงานได้ลงเอกสารรับเงินเป็นจำนวน 3450 บาท ในส่วนที่เหลือ ต้องบอกก่อนว่าลูกค้านั้นเข้าพักกับทางโรงแรมในเดือน ธันวาคม 2562
แล้วทางด้านของลูกค้านั้นได้ statement ย้อนหลังว่ามีการตัดเงินจากบัตรเครดิตจริง แล้วจึงมาแจ้งกับทางโรงแรมเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อจะขอเงินคืนในส่วนเกิน  
ซึ่งทางโรงแรมก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าในตอนเข้าพักลูกค้านั้นได้ชำระเงิน 7500 บาท ตามที่แจ้งมาหรือเปล่า เพราะตามเอกสารรับเงินนั้นได้ระบุไว้เพียง 3450 บาทเท่านั้น  ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ถ้ารับเงิน 7500 บาทจริง แล้วลงในเอกสารรับเงิน 3450 บาท นั้นคือเจตนาโกง ซึ่งตรงนี้ไม่สามารถตรวจสอบได้เลยว่า ใครเป็นคนเอาไปหรือลูกค้าหลงเองว่าได้ชำระเงิน 7500 บาท เพราะกล้องวงจรปิดนั้นสามารถบันทึกข้อมูลได้เพียง 15 วันย้อนหลังเท่านั้น

จึงมาขอคำแนะนำเพื่อนๆพี่ๆในพันทิปว่าต้องดำเนินการอย่างไร เพราะว่าลูกค้าได้กล่าวว่าจะฟ้องทางกับโรงแรมที่ได้เก็บเงินเกิน ซึ่งในความคิดเห็นของเจ้ากระทู้เองแล้ว ทางโรงแรมคงให้เงินคืนกับทางลูกค้าไปเพื่อที่จะไม่ให้โดนลูกค้าฟ้องจนเสียชื่อโรงแรม ซึ่งต้องบอกว่าพนักงานที่เซ็นรับเงินยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร แต่ถ้าเป็นแฟนผมหรือคนไหนก็แล้วแต่คงต้องรับผิดชอบความเสียหายตรงนี้ ร้ายแรงสุดก็คือโดนไล่ออก

ขอบคุณครับ ถ้าได้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วจะมาแจ้งบอกล่าวกันอีกที่ ต้องขอโทษด้วยนะครับทางเจ้าของกระทู้เขียนกระทู้ไม่ค่อยเก่งถ้าผิดพลาดตรงไหนก็ลองสอบถามมาใหม่หรือพยายามเข้าใจให้ด้วยนะครับ

ปล.แฟนเครียดมากเลยครับ โดยจากที่รู้จักกับพี่ๆกลุ่มนี้แล้วไม่ใช่คนขี้ลักขโมยนะครับไม่ได้เข้าข้างนะครับ  แค่ความคิดเห็นส่วนตัว