สำหรับผู้ที่กำลังคิดแพลนการเดินทางเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เราขอแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวที่หลายท่านยังอาจะไม่ค้นเคยอบย่างเส้นทาง SAIYUKIKOU หรือทางตอนใต้ของญี่ปุ่นนั่นเอง การเดินทางสามารถเดินทางจากภูมิภาคคันไซไปสิ้นสุดที่คิวชูค่ะ คือ จากสถานีชินโอซาก้า (Shin-Osaka) ไปจบที่สถานีฮากาตะ (Hakata) ภายในเส้นทางนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีเสน่ห์อยู่มากมาย เรามาดูกันว่ามีที่เที่ยวที่นาสนใจอะไรบ้างไปดูกันเลยค่ะ

จังหวัดโอกายาม่า (OKAYAMA) เมืองเก่าคุราชิกิ (Kurashiki)
จังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอย่าง เมืองเก่าคุราชิกิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจากหลายประเทศเดินทางมาเยี่ยมเยือนกันอย่างมากมายในแต่ละปี ด้วยความงดงามของสถาปัตยกรรมโบราณและโกดังเก่าที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ ที่เรียงรายไปตามแม่น้ำ ให้ความรู้สึกถึงบรรยากาศและวัฒนธรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่นได้ เพียงมาเดินชมที่นี่ค่ะ

จังหวัดฮิโรชิมะ (Hiroshima) ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima)
ศาลเจ้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ที่มิยะจิมะ (Miyajima)ซึ่งเป็นเกาะที่มีบรรยากาศโรแมนติกด้วยความงดงามของอ่าวทะเลเซโตะไน ภายในศาลเจ้าอิสึคุชิมะ (Itsukushima) มีการผสมผสานระหว่างธรรมชาติและตัวอาคารที่มีการตกแต่งอย่างงดงามและลงตัว

นอกจากนั้นที่ฮิโรชิม่ายังมีเส้นทางเซโตอุจิ ชิมานามิไคโด เชื่อมต่อจากจังหวัดฮิโรชิม่าไปจังหวัด เอฮิมะ ทั้งหมด9สะพาน ซึ่งเส้นทางนี้มีเส้นทางสำหรับผู้ที่หลงใหลการปั้นจักรยานเป็นอย่างมากเพราะมีเลนสำหรับจักรยานโดยเฉพาะ และด้วยความงดงามของทะเลและวิวทิวทัศน์จะทำให้ทริปการปั่นจักรยานของท่านน่าประทับใจในทุกครั้งที่มาเยือน

จังหวัดเอฮิเมะ (EHIME) บ่อน้ำพุร้อนโดโกออนเซ็นฮงคัง
บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้เป็นสถานที่ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นบ้อน้ำพุร้อนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และมีประวัติยาวนานกว่า3,000ปี ตัวอาคารโดโกออนเซ็นฮงคัง หรืออาคารหลักนั้นมีความเก่าแก่และงดงามตามสถาปัตยกรรมท้องถิ่นที่นี่ และสถานที่แห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 3 ดาว เป็นระดับสูงสุดของคู่มือนำเที่ยว มิชลินกรีนไกด์ เจแปน ในปี 2009 อีก รูปแบบของอาคารยังสร้างเลียนแบบอาคารของโรงอาบน้ำร้อนที่เกิดขึ้นในช่วงประมาณปี ค.ศ. 600-700เป็นอาคารพิเศษที่เดียวของญี่ปุ่นที่มีห้องอาบน้ำแบบที่คนในราชวงศ์ใช้อาบ มีชื่อว่า "Yushinden”คุณจึงสามารถแช่อ่างที่เหมือนกับคนในราชวงศ์ในสมัยโบราณได้ที่นี่อีกทั้งที่ออนเซนนี้ยังตั้งอยู่ใกล้กับอาคารสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญของประเทศคุณสามารถเข้าชมมรดกทางวัฒนธรรมได้ที่นี่อีกด้วย

จังหวัดคางาวะ (Kagawa)สวนสาธารณะริสึริน (Ritsurin park)
เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในเมืองทะกะมะสึ (Takamatsu) ใจกลางของเกาะชิโกะกุซึ่งถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้วเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดในสวนที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้รับเลือกให้เป็นจุดชมวิวพิเศษของประเทศ และในหนังสือนิตยสารแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของต่างประเทศ อย่าง "Michelin Green Guide Japan" ก็ได้แนะนำที่นี่ และเขียนเนื้อหาไว้ว่า“คุ้มค่าแก่การมาที่นี่” พร้อมกับให้3ดาวบ่งบอกว่าสวนที่มีชื่อเสียงและเป็นตัวแทนของประเทศแห่งนี้ ได้รับการยอมรับจากต่างประเทศเป็นอย่างดีจึงยิ่งทำให้เราต้องรักษาความงดงามของสวนแห่งนี้ไว้ให้คงอยู่ต่อไปภายในสวนมีต้นสนที่เรียงรายอยู่ถึงพันต้น มีพืชพันธุ์ดอกไม้นานาชนิดของทั้งสี่ฤดูกาลอยากให้คุณได้มาลองสัมผัสบรรยากาศของสวนที่มีเสน่ห์ตลอดทั้งสี่ฤดูกาลของสวนแห่งนี้อีกทั้งที่ร้านน้ำชา คิคุเกะสึ (Kikugetsu) คุณสามารถทดลองการทำชาเขียวและลองนั่งเรือแบบญี่ปุ่นได้ที่นี่แถมบรรยากาศของสวนแห่งนี้ในฤดูใบไม้ร่วงนั้นงดงามเป็นอย่างมากเพราะมีน้ำตาลและสีส้มของใบไม้เปลี่ยนสีที่ตัดกับสีเขียวของต้นสน จึงทำให้งดงามกว่าที่ไหนๆ

จังหวัดยามากุจิ (Yamaguchi) สะพานคินไตเคียวแห่งเมืองอิวะคุนิ (Kintaikyo)
สะพานคินไตเคียว เป็นสะพานไม้ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1673 เป็นสะพานที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น เป็นสะพานทอดข้ามแม่น้ำนิชิกิ แห่งเมืองอิวะคุนิ (Iwakuni) ในจังหวัดยามากุจิ มีลักษณะเป็นสะพานไม้ 5 โค้ง ความกว้าง 5 เมตร ความยาว 193.3 เมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ สะพานนี้มีความสวยงามและเก่าแก่ด้วยค่ะ ยิ่งได้ชมไปพร้อมๆ กับทัศนียภาพโดยรอบที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาลทั้ง 4 ฤดูแล้ว ก็ยิ่งน่าสนใจมากเลยทีเดียว

จังหวัดทตโตริ (TOTTORI) เนินทรายทตโตริ
เนินทรายทตโตะริอีกหนึ่งที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ สถานที่แห่งนี้ว่ากันว่าเป็นเนินทราบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของญีปุ่น มีระยะทางจากเหนือจรดใต้ประมาณ 2.4 กิโลเมตร และจาก ตะวันออกไปตะวันตกถึง 16 กิโลเมตร เมื่อมาที่นี่ท่านจะได้สัมผัสเสน่ห์ของเนินทรายใกล้ทะเลแห่งนี้ ด้วยความสวยงามของร่องทราบที่เกิดตามธรรมชาติ รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น การนั่งรถม้าหรือขี่อูฐเพื่อชมทิวทัศน์ของเนินทราย ปั่นจักรยานบนเนินทราย และแซนด์บอร์ด หรือกระดานทรายซึ่งสมารถไถลไปบนเนินทรายอย่างสนุกสนานค่ะ

จังหวัดชิมาเนะ (SHIMANE) ศาลเจ้าอิซุโมะ ไทชะ (Izumo Taisha)
ศาลเจ้าแห่งนี้ในเมืองอิซุโมะของจังหวัดชิมะเนะ(Shimane) เป็นศาลเจ้าขนาดใหญ่ที่ชาวญี่ปุ่นต่างเชื่อกันว่าเทพเจ้าจากทั่วทุกแห่งของญี่ปุ่นมารวมตัวกันที่ศาลเจ้าแห่งนี้ในเดือนตุลาคมของทุกปี และเชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะช่วยเสริมดวงชะตาด้านความรักและการงานให้กับผู้ที่เดินทางมาสักการะ และเครื่องรางที่นี่ก็เป็นที่นิยมอย่างมากอีกด้วย

สามารถหาซื้อ JR Pass ทั้งหมดนี้ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายและบริษัททัวร์ในไทยได้เลย

[Advertorial]