▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
แผนการเดินทางและท่องเที่ยว
[CR] มือใหม่หัดรีวิว Russia-Murmansk ฉบับคนดวงตก
รูปก็แบบบ้านๆเลย ไม่มีผ่าน process ใดๆทั้งสิ้น
รีวิวทริป รัสเซีย 8-15 Feb 2020
เริ่มเกริ่นก่อนว่าเรามีความอยากเห็นแสงเหนือมานานหลายปีแล้ว เริ่มตั้งแต่เห็นรูปสวยๆจากรีวิวในพันทิป แสงเขียวๆเป็นริ้วๆ บางคนโชคดีได้เห็นเป็นสีม่วง เลยเกิดอยากรู้ว่าถ้าเห็นด้วยตาตัวเองมันจะเหมือนในรูปมั้ย
ตอนนั้นรีวิวส่วนใหญ่จะเป็นที่ไอซ์แลนด์ ราคาก็แรงมาก ประมาณแสนนึง ยังต้องยุ่งเรื่องทำวีซ่าอีก เราก็พยายามเก็บเงินมาเรื่อยๆ ระหว่างนี้ก็ป้ายยาคนรอบข้าง แต่ก็มีทริปมาคั่นอยู่เรื่อยๆจนเก็บเงินเก็บวันลาไม่ได้ซักที ระหว่างนี้ก็มีคนชิงไปไอซ์แลนด์ก่อน 😢 สมาชิกเริ่มหดหาย สมาชิกที่เหลือก็เที่ยวเก่งจนวันลาหมดเกลี้ยง ตอนนี้เริ่มเบนมารัสเซียเนื่องจากถูกกว่าครึ่งนึง+ไม่ต้องทำวีซ่า ก็บ่นอยากไปอยู่หลายปี ดูตั๋วโปรก็ไม่โปรจริงนี่หว่า ยังแพงกว่ารีวิวเยอะ จนกระทั่งมีน้องคนนึงทักว่า นี่พี่ยังไม่ได้ไปอีกเหรอ..เราก็เริ่มรู้สึกว่าไม่ไหวแล้ว ตั๋วโปรอะไรไม่สนใจละ จองทัวร์เลยละกัน แพงแค่ไหนก็ยอม จะได้มีคนถ่ายรูปให้ด้วย ไปเดินงานท่องเที่ยว ทัวร์ส่วนใหญ่จะล่าแสงเหนือ 2 คืน แต่เราอยากได้ที่มากกว่านั้น จนมาเจอเพจๆนึง โปรแกรมล่า 4 คืน ไกด์เป็นคนไทย แต่ก็แพงกว่าที่อื่นพอสมควร ตัดใจ เอาวะ ไม่งั้นก็ไม่ได้ไปซักที เลือกได้เป็น 8-15 กุมภา เพราะลาแล้ววันทำการครบ 15 วันพอดี
หลังจากจองไป ก็เริ่มเตรียมตัว ซื้อของหลายอย่างมาก ซื้อกล้องด้วย อ่านรีวิวการแต่งตัวการตั้งค่ากล้อง ยังต้องยืมขาตั้งกล้องแบกไปอีก
วันแรก 8 กพ 2020
ไปถึงมอสโก สี่โมงเย็นกว่าๆ ผ่านตม.มาอย่างสบายๆ มาเจอไกด์คนไทยที่รอรับ หันซ้ายหันขวา มีแต่คนเอเชียที่ใส่ mask ฝรั่งหัวทองไม่ใส่กันเลย วูบแรกที่ออกจากสนามบิน โคตรหนาว เริ่มเห็นหิมะที่ถูกกวาดไปไว้ข้างทาง แต่พอได้ขึ้นรถก็ค่อยยั่งชั่ว มีฮีตเตอร์ จากสนามบินไปโรงแรม 20กว่ากิโล แต่รถติดมาก ชั่วโมงกว่าๆ
ถึงโรงแรมล้างหน้าล้างตา ลงมากินข้าวเย็นที่ร้านใต้โรงแรม จะเรียกว่าข้าวเย็นก็รู้สึกแปลกๆเพราะมันเป็นมื้อที่สี่ของวัน (กินข้าวเช้าที่สนามบิน+อีกสองมื้อบนเครื่องบิน)เนื่องจากเวลาที่รัสเซียช้ากว่าที่ไทย 4 ชม. แสดงว่าทุ่มนึงที่นี่ก็ห้าทุ่มไทย จะให้กินข้าวอีก มันก็จะอืดๆหน่อย ไกด์ก็พยายามบอกว่าปลามาจากทะเลสาบ สดนะ มีแต่ที่รัสเซียนะ กลับไทยไม่มีแน่นอน เราก็ลอง..หืมม ทำไมมันเค็มล่ะ รสชาติประมาณปลาซาบะดอง มีปลาเนื้อขาวอีกสามสี่อย่าง ตอนแรกคิดว่าจะเป็นแบบซาชิมิแต่พอลองมันก็ออกเค็มๆเหมือนกัน ปิดท้ายด้วยขนมหวาน signature รูปหมีขาว น่ารักมาก เสร็จก็ออกไปเดินเล่นแถวถนนอารบัต เป็นวันที่อากาศหนาวสุดคือ -8 °C
9 กพ 2020
Enjoy กับอาหารเช้าโรงแรม Azimut แล้วก็ออกไปชมเมืองที่จตุรัสแดง ถ่ายรูปกับปราสาทหัวหอม พระราชวังเครมลิน เดินห้าง GUM ขอสารภาพว่าตอนเดินผ่านครั้งแรกนึกว่าเป็นฟิตเนส เพราะเราอ่านได้ว่า Gym
คราวนี้เดินๆไป เจอผู้หญิงสองคน เอานกพิราบเชื่องๆ 3 ตัวมาให้แฟนเราถ่ายรูป ด้วยความรักสัตว์อยู่แล้ว แฟนเราก็ไม่ขัดข้อง คิดว่าคงแล้วแต่ว่าจะให้เงินเท่าไหร่ เราก็กดชัตเตอร์ไป เค้าก็บอกทำท่านี้สิ ถ่ายวีดีโอแบบนี้สิ จนถึงตอนจ่ายตังค์ แฟนเราควัก สองร้อยรูเบิล(ประมาณร้อยบาท) สองคนนั้นบอกว่าไม่ๆๆ สามพัน แฟนเราหน้าซีด สองคนนั้นก็รุมๆไม่ยอมปล่อย จนแฟนเราตัดใจให้ไปสามพันรูเบิล เจ็บนี้อีกนาน จำไว้เลย คราวนี้เดินถนนไม่มองอย่างอื่นเลย เจ็บใจ
ไปลงรถไฟใต้ดิน ดูสถานีรถไฟที่ว่าสวยๆ ก็ดูขลังๆดี แต่ทึบๆ เพราะลงไปลึกมาก บันไดเลื่อนยาวมาก ลงไปสามสี่ชั้น ขบวนรถไฟน่าจะเป็นรุ่นซักยี่สิบสามสิบปี ดูทรงค่อนข้างโบราณ เสียงดัง ไฟมัวๆ
ช่วงบ่ายๆก็มีรถมารับไปส่งสนามบิน เพื่อบินไป Murmansk ขนาดบินภายในประเทศยังตรวจละเอียดมาก ต้องถอดรองเท้า ถอดเข็มขัด ไกด์เราหิ้วโน๊ตบุคไป ยังต้องเปิดเพื่อให้เจ้าหน้าที่ดูว่าเป็นคอมจริงๆ ใช้งานได้จริง ไกด์เล่าว่า เคยโดนกับกล้องถ่ายรูป มีเลนส์หลายตัว ต้องประกอบแล้วก็ต้องกดถ่ายให้เค้าดูว่าเป็นกล้องจริงๆ
บิน 2 ชม.ครึ่ง มีน้ำมีอาหารเสิร์ฟให้ เป็นขนมปังแข็งๆยาวๆผ่าครึ่งทำเป็นแซนวิช กับแอปเปิ้ลลูกนึง
ถึงมูรมันสก์ เงยหน้าดูท้องฟ้า อดแสงเหนือชัวร์คืนนี้ เมฆหนามาก บนเครื่องบินมองลงมาก็เจอแต่เมฆ ก่อนนอนขอเดินเล่นซุปเปอร์หน่อย ก็เจอหิมะลง รีบช็อปแล้วก็กลับไปนอนเอาแรง
10 กพ 2020
นัดกันประมาณเก้าโมง นั่งรถตู้ไป Teriberka หมู่บ้านริมฝั่งอาร์คติก ระหว่างทางหิมะสุดลูกหูลูกตา ขาวไปหมด ลมก็แรง นั่งๆโขยกๆสองชั่วโมงกว่า ไปเจอรถติด ถนนปิด คนขับรถเปิดหลังรถเอาพลั่วออกมาไปช่วยเค้าตักหิมะ รอจนมีรถมาโกยหิมะออกถึงได้ไปต่อ
ไปถึง Teriberka ก็ได้นั่งเลื่อนที่ผูกไว้กับ snowmobile ไปที่จุดชมวิว โขยกเขยกมาก ขึ้นลงแต่ละทีกระแทกจนเจ็บก้น
ถึงจุดชมวิวก็ลงเดินถ่ายรูป หิมะลื่นมาก พี่ที่ไปด้วยใส่บู้ทแบบสวยๆลื่นเอาๆ เลยให้ใส่ grip ติดรองเท้าไป ก็เดินง่ายขึ้น ถ่ายรูปน้ำตกกับหาดไข่มังกรเสร็จก็นั่งเลื่อนโขยกๆกลับ
แวะกินข้าวเที่ยงตอนบ่ายสองหรือบ่ายสามนี่ล่ะ เป็นข้าวกับปลาแซลมอนทอดชิ้นโตๆ มื้อนี้ง่ายๆแต่อร่อย เสร็จแล้วก็นั่งรถกลับที่พัก ขากลับมีติดหิมะอีก แต่รอไม่นานก็ได้ไปต่อ ถึงในเมืองมูรมันสก์ก็แวะกินอาหารเย็น เป็นปูอลาสก้า ตัวใหญ่มาก ก้ามแข็งมาก โลละ 5600 RUB (รวมในค่าทัวร์แล้ว) ก็คุ้มอยู่นะ ควรจะได้ลองซักครั้ง เราพกน้ำจิ้มซีฟู๊ดไปด้วย อร่อยเลย
คืนนี้นัดออกไปล่าแสงเหนือ สี่ทุ่มครึ่ง ดูเมฆเยอะ แต่ก็ยังดีกว่าคืนก่อน เตรียมขาตั้งกล้อง ชาร์จแบตให้พร้อม ออกไปนอกเมือง เห็นพระจันทร์บ้าง แต่เมฆก็ยังเยอะอยู่ดี แป๊บๆเมฆมาบังเต็มฟ้า รอแล้วรออีก หลับรอในรถ สุดท้ายก็ชวด
11 กพ 2020
นัดกันสายๆ เก้าโมงครึ่ง ไปดูฟาร์มหมาไซบีเรียน+กวางเรนเดียร์ นั่งรถไปสองชั่วโมงอีกแล้ว ระหว่างทางแวะจอดให้ถ่ายรูปกับสะพานริมน้ำ หิมะหนาจนลงไปนอนแล้วลุกไม่ขึ้น
ถึงทางเข้าฟาร์มก็จอดรถไว้แล้วไปขึ้นเลื่อน คราวนี้ดีหน่อย มีโช๊ค ไม่โขยกเขยกเหมือนเมื่อวาน สบายกว่ากันเยอะ เริ่มจากไปดูหมาก่อน ที่ฟาร์มตัวไม่ใหญ่มาก เราว่าเล็กกว่าที่เมืองไทยเยอะเลย น้องดู active แต่น้องก็มีกลิ่นเหมือนกันนะ เค้าให้นั่งเลื่อนที่มีน้องหมาลากทีละคู่ คนที่เหลือก็นั่งเลื่อนที่ใช้ snowmobile ลาก พอไปได้ช่วงนึงก็เปลี่ยนกัน จนครบทุกคน ทางฟาร์มเค้าบอกว่าช่วงนี้อากาศอุ่นกว่าปกติ (วันที่ไปประมาณ -1°C) น้องหมาจะเหนื่อยง่าย พอได้หยุด น้องจะกินหิมะบ้าง นอนกลิ้งๆบนหิมะบ้างเพื่อให้หายเหนื่อย
ช่วงที่เราได้นั่ง เจ้าตัวสุดท้ายทำให้เราได้ special photo คือน้องอึไปด้วยวิ่งไปด้วย อึน้องก็ลอยมาให้เลื่อนเหยียบ เราก็ลุ้นไปว่าอึจะไม่กระเด็นขึ้นมา
เสร็จก็ไปกินข้าว ได้กินตอนบ่ายสองอีกแล้ว เมนูที่เราเลือกคือเนื้อกวางเรนเดียร์ เค้าก็ทำอร่อยดีนะ เนื้อกวางผัดกับหอมใหญ่จนสุก แต่มันก็ยังมีกลิ่นของเนื้อกวางอยู่บ้าง สมาชิกในโต๊ะบอกว่ากลิ่นเหมือนพวกเครื่องใน
แล้วเราก็ไปดูกวางเรนเดียร์ตัวเป็นๆกันบ้าง เค้าผูกกระดิ่งอันโตไว้ที่คอ เวลาลากเลื่อนก็มีเสียงดัง ให้ความรู้สึกเหมือนซานต้ากำลังเดินทางออกไปแจกของขวัญเด็กๆ กวางบางตัวมีเขาสองข้าง บางตัวเหลือข้างเดียว บางตัวผลัดเขาออกหมดแล้วจะเห็นเป็นเหมือนแผลมีเลือดซึมๆ ตอนแรกก็ตกใจว่าใครทำร้ายน้องกวาง
เสร็จจากถ่ายรูปเรานั่งรถไปที่เมือง Kirovsk กินอาหารค่ำ แวะ supermarket พอกรุบกริบ
คืนที่สาม คืนนี้ก็ฟ้าปิดสุดๆ หิมะตกทั้งคืน แค่เห็นท้องฟ้าก็รู้ว่าไม่ควรออกแล้ว