อธิบายนิดหนึ่ง ช่วงการปฏิบัติธรรมที่นี่จะมีเหมือนกันทุกเดือนคือ 

- วันที่ 1-11 ของทุกเดือนจะเป็นของชาวต่างชาติ

- วันที่ 19-27 ของทุกเดือนจะเป็นของชาวไทย

และมีช่วงพิเศษต่างๆ อีกคือ 

- วันที่ 11-15 เมษายน ของทุกปี จะเป็นการปฏิบัติธรรมแบบครอบครัว

- วันที่ 15-27 เมษายน ของทุกปี จะเป็นโครงการต้นกล้าศีลธรรม รับเฉพาะเยาวชนอายุ 11-13 ปี

- วันที่ 28-30 พฤษภาคม ของทุกปี จะเป็นการอาจริยบูชาท่านพุทธทาส

และบริษัทต่างๆ โรงเรียน องค์กร ห้างร้านต่างๆ สามารถติดต่อเข้ามาเพื่อขอมาปฏิบัติธรรมที่นี่ได้ค่ะ 

ทุกกิจกรรมไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายค่ะ ยกเว้นของชาวต่างชาติเสียค่าใช้จ่าย 2,000 บาท ค่ะ

เว็บไซต์หลักรายละเอียดกิจกรรมค่ะ :: รายละเอียดกิจกรรม

ทุกกิจกรรมสามารถมาลงทะเบียนในตอนเช้าของวันรับสมัครได้ถึงเวลา 16.00 น. ค่ะ ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนมาก่อน แต่ถ้าอยากมั่นใจว่ามาแล้วมีที่ให้ปฏิบัติธรรมแน่ๆ ก็สามารถลงทะเบียนได้ที่ link นี้ค่ะ :: ใบสมัครปฏิบัติธรรมสวนโมกข์ อ.ไชยา จ.สุราษฏร์ธานี

สำหรับคนที่ไม่เคยเดินทางมาเลยช่วงหาข้อมูลอาจจะมึนๆ งงๆ กันได้ เราจะแบ่งการเดินทางง่ายๆ ตามที่เคยไปมานะจ๊ะ

- ทางรถไฟ >> ลงสถานีไชยา อยู่ใกล้สวนโมกข์ที่สุด

- ทางเครื่องบิน >> ลงสนามบินสุราษฎร์ธานี ต่อรถเหมามาที่สวนโมกข์ประมาณ 500-600 บาทต่อเที่ยว

- ทางรถทัวร์ >> ลงหน้าสวนโมกข์นานาชาติ **ต้องดูรอบดีๆ เพราะบางทีก็มาถึงเช้ามืดมากค่อนข้างอันตรายค่ะ ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางคนเดียว

- รถยนต์ส่วนตัว >> เอารถมาจอดไว้ที่ปฏิบัติธรรมได้เลยค่ะ  ปักหมุดตาม GPS โลด สวนโมกข์นานาชาติ

ซึ่งเราเคยมาแล้วรอบแรกเลือกเดินทางทางเครื่องบิน แต่รอบนี้เราเลือกเดินทางทางรถไฟ เพราะด้วยราคาไม่แพงและนอนเหยียดขาได้สบายตลอดการเดินทาง แต่ก็หลับบ้างไม่หลับบ้างเพราะรถมันสั่นตลอดทาง 5555

- การเดินทางทางรถไฟ (สำหรับเราทางนี้ถือว่าสะดวกสุดกับการมาคนเดียว) **จองผ่านเว็บไซต์อย่าลืมปริ้นตั๋วไปเด้อออ เดี๋ยวจะอดขึ้น

โดยเราสามารถเลือกเที่ยวรถไฟได้จากเว็บไซต์หลักของการจองรถไฟ :: จองตั๋วรถไฟ

เราเลือกสถานีที่ลงเป็น สถานีไชยา ก็จะมีรายละเอียดดังนี้ เวลายอดนิยมในการเดินทางคือ ขบวนที่ 85, 39, 41 เพราะจะมาถึงไชยาวันรุ่งขึ้นในตอนเช้าพอดีจ้า ซึ่งเราไม่ต้องกลัวจะหลับเพลินเลยสถานีที่จะลงนะ เพราะเจ้าหน้าที่จะเดินมาปลุกเราตอนก่อนถึงสถานีปลายทางก่อนเวลาประมาณ 10 นาทีค่ะ

// ขบวนที่เราเลือกคือ ด่วน 85 เป็นแบบขบวนรวมชายหญิง เราเลือกเตียงล่างเพราะขี้เกียจปีนและจะได้นั่งยาวๆด้วย 5555555 แต่บรรยากาศบนรถไฟไม่น่ากลัวเลย เขาจะเปิดไฟไว้ตลอด ขบวนที่เราไปก็จะมีแต่นักท่องเที่ยว นี่เจอครอบครัวชาวจีนไปเที่ยวชุมพรกันโดยรถไฟ คือมาทั้งครอบครัวจริงๆ มีครบทุก Generation น่ารักดี ไม่ค่อยเจอคนไทยเดินทางแบบนี้ (ตอนนั้นยังไม่มีข่าวไวรัสโคโรน่าค่ะ ช่วงหายเข้าไปปฏิบัติธรรมออกมาก็งงเลย เกิดไรขึ้นมากมายเต็มไปหมดดดด) รูปภาพรีวิวรถไฟเบาๆ ขบวนนี้ไม่มีปลั๊กเด้ออออ แต่ความสะอาดก็โออยู่ไม่ได้แย่ มีแอร์เย็นสบายตลอดทริป และออกตรงเวลาม๊วกกกกกก สองทุ่มก็เริ่มปูเตียงให้และ ป.ล. แนะนำให้เลือกกลางๆขบวน กลิ่นห้องน้ำและคนเดินไปเดินมาน้อยจะสงบหน่อย

 

ถึงแล้ววว สถานีไชยาในยามเช้าตรู่  6.28 น. เราเลือกเดินไปหาของกินก่อนค่ะ ของขายเยอะมากแต่เช้าไม่ต้องกลัวอดตายเลย แล้วจึงถามทางไปต่อรถสองแถวเพื่อไปลงหน้าสวนโมกข์นานาชาติค่ะ แถวนั้นจะมี 7-11, Big C mini และตลาดสด จะซื้อของใช้อะไรก็หาซื้อไปได้เลยจ้า แต่ไม่ต้องเอาของกินไปนะคะ ที่สวนโมกข์ช่วงปฏิบัติธรรมไม่ให้นำของกินเข้าไปจ้า

- นั่งสองแถวสีฟ้าออกทุกชม. ราคา 20 บาท จะส่งตรงปากทางสวนโมกข์นานาชาติ เราต้องเดินต่อเข้าไปอีกประมาณ 1.4 กิโลเมตรค่ะ (แต่ถ้าโชคดีจะมีรถชาวบ้านแวะรับเราเข้าไปส่งค่ะ ซึ่งเราโชคดีค่ะติดรถชาวบ้านเข้าไป ชาวบ้านน่ารักมากค่ะจอดถามเองเลยว่าจะเข้าไปสวนโมกข์ไหม ขึ้นกะบะโลดดดด)

- มอเตอร์ไซด์วิน 60-80 บาท ส่งถึงด้านใน เราไม่แน่ใจราคาเพราะไม่ได้ถามราคาเอง แต่แม่ค้าแถวนั้นบอกว่าประมาณนี้

- ถ้าไม่อยากรอและอยากนั่งไปสบายๆ เหมารถสองแถวไปได้เลยจ้า 200 บาท ส่งถึงด้านในเลย

แผนที่บริเวณสถานีรถไฟไชยาค่ะ : เราสามารถเดินไปที่จุดขึ้นรถสองแถวได้เลยไม่กี่สิบเมตรค่ะ หรือจะติดต่อพี่วินก็ใกล้ๆ ได้เลยค่ะ

นุ้งสีฟ้าคันนั้นไง :: ทางจากสถานีรถไฟไปถึงหน้าสวนโมกข์นานาชาติใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีค่ะ รถขับไม่เร็วมาก ระยะทางประมาณ 6.8 กิโลเมตร นั่งไปชิวๆสบายๆ รถออกทุก 1 ชม.ค่ะ มีตั้งแต่เช้าตรู่ค่ะ

สวนโมกข์นานาชาติ :: ตำแหน่งสวนโมกข์นานาชาติ

ตอนมารอบแรกเราเลือกเดินทางมาทางเครื่องบิน เพราะมาคนเดียว แต่ค่าใช้จ่ายในการต่อรถค่อนข้างแพง จะเลือกมารถทัวร์ก็นอนไม่ค่อยสบาย จะเพลียได้ รอบนี้เลยลองเดินทางทางรถไฟดู ตอนแรกก็หวั่นใจเหมือนกันค่ะ เพราะเป็นผู้หญิงเดินทางคนเดียว แล้วข่าวต่างๆที่ผ่านมาก็ค่อนข้างน่ากลัว แต่พอได้มาจริงๆแล้วพบว่าการเดินทางโดยรถไฟง่ายมาก แถมเป็นการเดินทางแบบ local ค่าใช้จ่ายไม่แพง ประทับใจสุดๆ

การเดินทางกลับก็สามารถขึ้นรถไฟกลับ 11.00 โมงเช้า จะไปถึงกรุงเทพดึกๆหน่อย หรือรอบ 23.00 น. จะไปถึงกรุงเทพตอนเช้าค่ะ

เราสามารถเดินทางกลับไปสถานีรถไฟได้โดยการข้ามถนนไปรอรถสีฟ้ากลับเข้าไชยา หรือรอติดรถคนที่วัดกลับสถานีรถไฟได้ค่ะ เพราะส่วนใหญ่เขาจะเข้าไปซื้อไข่เค็มกัน ส่วนเราก็ขอติดรถไปสถานีรถไฟเหมือนกันแต่รอบนี้เราไม่ได้กลับกรุงเทพ เราเดินทางต่อไปสมุย เป็นการเดินทางไปสมุยแบบ local และถามการเดินทางจากชาวต่างชาติ 555555 เออแปลกมะ คนไทยแท้ๆแต่ไปถามชาวต่างชาติว่าจะไปสมุยถูกๆ ยังไง แล้วเวลาเราไปถามทางคนไทย เขาก็จะให้ขึ้นรถตู้ ไม่ก็นั่งมอเตอร์ไซด์ไปเลย แต่ไม่แนะนำทางแบบรถสองแถวที่คนท้องที่ใช้กัน แล้วพวกนั้นมันแพงไง มันไม่เข้ากับเรา 5555555

ถ้ามีข้อสงสัยอะไรสอบถามได้นะคะ จะ comment หรือ inbox มาก็ได้ค่ะ ถามเถอะอยากตอบ ถ้าข้อมูลไหนผิดพลาดทักท้วงกันได้นะจ๊ะ

ส่งท้ายนิดหนึ่ง :: สุราษฎร์ธานีเป็นเมืองใหญ่มาก รอบนี้เป็นครั้งแรกแบบที่ได้เที่ยวในตัวเมืองคือตกใจเลย ทำไมเมืองใหญ่ขนาดนี้ ประทับใจ ของกินทั่วไปก็ไม่แพงด้วย Happyyyyyyyyyyy