กกต. ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 72 พรบ.พรรคการเมือง 2560
กรณีกู้เงินธนาธร 191 ล้านบาท
.
มาตรา 72 ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด
โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(
มาตรา 4
“บริจาค” หมายความว่า การให้เงินหรือทรัพย์สินแก่พรรคการเมืองนอกจากค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมือง
และให้หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมืองบรรดาที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ตามที่คณะกรรมการกำหนดด้วย
“ประโยชน์อื่นใด” หมายความรวมถึง การให้ใช้ทรัพย์สิน การให้บริการ หรือการให้ส่วนลดโดยไม่มีค่าตอบแทน
หรือมีค่าตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า และการทำให้หนี้ที่พรรคการเมืองเป็นลูกหนี้ลดลงหรือระงับสิ้นไปด้วย )
.
แค่นี้ ก็น่าจะจบแล้วครับ
มาตรา 72 ห้ามไม่ให้รับบริจาค พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้รับบริจาค แต่เป็นการกู้
และเงินกู้ ไม่ใช่รายได้ ไม่ใช่เงินบริจาค ไม่ใช่ผลประโยชน์อื่นใด
หาข้อผิดตามกฎหมายไม่ได้เลย
ตามหลักที่ว่า "ไม่มีกฎหมาย ไม่มีความผิด"
เช่น ถ้าไม่มีกฎหมายเรื่องฆ่าคนตาย ฆ่ากันโครม ๆ ตายเท่าไรก็ไม่ผิดกฎหมาย
หรือ เมื่อก่อนผู้หญิงข่มขืนผู้ชายไม่มีความผิด เพราะไม่มีกฎหมายบังคับไว้ แต่ตอนนี้มีแล้ว (เสียดายจัง ไม่น่าเลย
)
.
แล้วการกู้เงินของพรรคการเมือง ผิดเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ ?
กฎหมาย มีเจตนารมณ์ให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วม ปราศจากการครอบงำจากผู้ใด หรือสิ่งใด
การกู้เงิน ตรวจสอบได้ มีที่มาที่ไปชัดเจน
พรรคการเมืองมีหนี้ พรรคการเมืองกู้เงิน พรรคการเมืองต้องใช้การมีส่วนร่วมจากประชาชนในการหาเงินชำระหนี้
หาเงินชำระหนี้จากกิจกรรมทางการเมือง จากการบริจาคสนับสนุน นี่คือการมีส่วนร่วมของประชาชน เหมือนประชาชนเป็นเจ้าของพรรค
.
กฎหมายบังคับให้พรรคการเมืองต้องใช้จ่ายเงินในทางการเมืองเท่านั้น ดอกเบี้ยเงินกู้ ถือเป็นค่าใช้จ่ายทางการเมืองหรือไม่ ?
คำตอบ ไม่ว่าโดยหลักใด ๆ คือ ใช่
ดอกเบี้ยคือผลพวงที่เกิดจากการกู้เงินมาใช้จ่ายทางการเมือง ก็เป็นค่าใช้จ่ายทางการเมือง
หากไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าตอบแทนการกู้ ก็จะผิดกฎหมายเรื่องให้ผลประโยชน์อื่นใดตามมาตรา 4
.
ดังนั้น มองไม่เห็นเหตุผล ไม่เห็นแง่ทางกฎหมายเลยครับ ว่าพรรคอนาคตใหม่จะโดนยุบเพราะอะไร
.
ประเด็นที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอ้างประจำ คือ แบบนี้ พรรคการเมืองก็กู้นายทุนมาเป็นพันล้านสิ นายทุนคอยรับผลประโยชน์ผ่านทางอำนาจรัฐสิ
เป็นตรรกะสิ้นคิดครับ เป็นวิธีคิดแบบเด็กเถียงเอาชนะ ไม่มีความสมเหตุสมผล และองค์ประกอบทางข้อเท็จริงและข้อกฎหมาย
พรรคการเมือง มีใครเชื่อบ้างว่า ใช้เงินตามกฎหมายกำหนด ? มีรายได้ใช้จ่ายตามกฎหมายกำหนด ?
รู้กันดี
บางพรรคให้ลูกพรรคเซ็นใบกู้เงินไว้ ป้องกันการแข็งข้อ
บางพรรคใครอยากเป็น รมต. ต้องจ่ายหลายสิบล้าน ร้อยล้าน
บางคนในพรรค ต้องควักหลายร้อยล้านสนับสนุนม็อบ เพื่อได้เป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับต้น ๆ ได้เป็นรัฐมนตรี
ทุกพรรค ใช้เงินในการเลือกตั้งเกินกฎหมายกำหนดทั้งนั้น ซื้อเสียงกันระนาว
ทุกพรรค จะมีบิ๊กบราเธอร์คอยคุมพรรค มีสมุนคอยทำหน้าที่จ่าย ทำหน้าที่คุมลูกพรรค
ฯลฯ
การกู้เงินของพรรคอนาคตใหม่ เป็นเงินที่สาธารณะมองเห็น เงินมาจากไหน ไปไหน
โดนจับตา ว่าจะมีการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองเอื้อประโยชน์เจ้าหนี้หรือไม่
หากพรรคไม่มีเงินใช้คืน พรรคโดนยุบ มีบทลงโทษทางการเมืองอื่น ๆ อาจโดนอาญา และ คนให้ยืมมีความเสี่ยง
การพล่ามพูดสร้างตรรกะง่อย ๆ ว่า แบบนี้ก็ให้ยืมกันเป็นพันล้านหมื่นล้าน จึงเป็นเรื่องมโนที่เป็นไปไม่ได้
(ความจริง เขาก็เล่นงุบงิบกันเป็นพันล้านตอนจ่ายอยู่แล้ว และถอนทุนคืนเป็นหมื่นล้านอยู่แล้ว)
หากพรรค ไม่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชน ไม่เห็นด้วยกับการกู้ พรรคก็ไม่มีเงินใช้หนี้ หนี้ท่วม ก็โดนยุบ หนี้สูญ
จึงเป็นภาระรับผิดชอบของพรรคที่ต้องดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทุกเรื่องอย่างโปร่งใส ไม่มีผลประโยชน์ซ่อนเงือนและทับซ้อน
การกู้เงิน จึงไม่ใช่เรื่องสบาย ๆ สนุก ๆ อย่างที่ชอบมโน
แต่คืองานหนักของพรรคการเมือง
.
มองไม่เห็นจริง ๆ ครับ ว่าจะมีเหตุผลใด ข้อกฎหมายไหน ที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่จากกรณีนี้
ยกเว้น แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายพรรคการเมือง ระบุห้ามพรรคการเมืองกู้เงินมาใช้ในกิจกรรมทางการเมือง
.
เข้าใจตรงกันนะ
ข้อกฎหมายบอกชัด เป็นไปไม่ได้ที่อนาคตใหม่จะโดนยุบ .......................... โดย หล่อขวัญ
กรณีกู้เงินธนาธร 191 ล้านบาท
โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
( มาตรา 4
“บริจาค” หมายความว่า การให้เงินหรือทรัพย์สินแก่พรรคการเมืองนอกจากค่าธรรมเนียมและค่าบำรุงพรรคการเมือง
และให้หมายความรวมถึงการให้ประโยชน์อื่นใดแก่พรรคการเมืองบรรดาที่สามารถคำนวณเป็นเงินได้ตามที่คณะกรรมการกำหนดด้วย
“ประโยชน์อื่นใด” หมายความรวมถึง การให้ใช้ทรัพย์สิน การให้บริการ หรือการให้ส่วนลดโดยไม่มีค่าตอบแทน
หรือมีค่าตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามปกติทางการค้า และการทำให้หนี้ที่พรรคการเมืองเป็นลูกหนี้ลดลงหรือระงับสิ้นไปด้วย )