'เพื่อไทย' ขอคะแนนชาวกำแพงเพชร เลือก 'กัมพล' เข้าสภา ตรวจสอบรัฐบาล
https://voicetv.co.th/read/-woYjM3AJ
เลือกตั้งซ่อมกำแพงเพชร "กัมพล" พรรคเพื่อไทยมั่นใจเพิ่มทุกวัน ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ขอประชาชนกาเบอร์ 3 เปลี่ยนชีวิต ระบุเศรษฐกิจแย่ทั้งจังหวัด ด้านสมพงษ์ เชื่อผู้สมัครเพื่อไทยมีคุณภาพจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
ที่วัดแก้วสุริย์ฉาย อำเภอลานกระบือจังหวัดกำแพงเพชร นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นาย
ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.จังหวัดนครพนมพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ นำนาย
กัมพล ปัญกุล ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายเลข 3 จากพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียง ขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน ชาวกำแพงเพชร ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 2 จังหวัดกำแพงเพชร
นาย
สมพงษ์และคุณหญิง
สุดารัตน์ ได้เดินขอคะแนน ภายในตลาดวัดแก้วสุริย์ฉาย ซึ่งระหว่างการหาเสียง ได้สอบถามถึงปัญหาการค้าขาย และเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งพบว่าการค้าขายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากผู้ซื้อมีกำลังในการจับจ่ายน้อยลง คุณหญิง
สุดารัตน์ รวมถึงนาย
สมพงษ์จึงได้กล่าวให้กำลังใจ ในการต่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหน่วงมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันได้ตั้งคำถาม ไปยังพี่น้องประชาชนว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา กินดีอยู่ดีมีความสุขนอนหลับสบายดีหรือไม่ ถ้าคิดว่าตลอด 6 ปีมีความสุขดี และยังสามารถอยู่ต่อไปได้ ก็เป็นสิทธิที่พี่น้องจะเลือกผู้สมัครแบบเดิม แต่หากพี่น้องเห็นว่าวันนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หลากหลายนโยบายต้องได้รับการผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรม ขอให้ช่วยเลือกผู้สมัครหมายเลข 3 จากพรรคเพื่อไทย เข้าไปติดตามสิ่งที่ผู้มีอำนาจได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้แต่ไม่สามารถทำได้ คุณหญิง
สุดารัตน์ได้เน้นย้ำว่าขอให้พี่น้องประชาชน กาเปลี่ยนชีวิตเลือกเบอร์ 3 กาเข้าไปเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ กาเอาคนคุณภาพ เข้าไปตรวจสอบรัฐบาล เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชน
ต่อมานาย
สมพงษ์ ให้สัมภาษณ์โดยเปิดเผยว่า หลังเริ่มรณรงค์หาเสียงมาประมาณ 2 สัปดาห์ กระแสตอบรับที่มีให้พรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมั่นใจในศักยภาพ ของผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยว่าไม่เป็นรองผู้สมัครของพรรคอื่นๆ แต่ห่วงเรื่องการทำงานทางการเมืองที่เจ้าของพื้นที่เดิม ได้ย้ายไปอยู่กับพรรคของผู้มีอำนาจ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจึงทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเตรียมคนได้ทัน แต่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เพื่อไทยได้ หารือและคัดเลือกผู้สมัครจนได้ บุคลากรที่มีคุณภาพ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งนี้
ด้าน คุณหญิง
สุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า กระแสตอบรับของพรรคเพื่อไทยดีขึ้น ดีขึ้นเพราะประชาชนรู้สึกถึงความลำบาก ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พรรครัฐบาลได้สัญญาไว้ในตอนหาเสียง ทั้งราคาข้าวราคาอ้อย ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
"
ราคาสินค้าเกษตรเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ตามคำมั่นสัญญา เมื่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำการค้าขายจึงเงียบไปทั้งตลาด เศรษฐกิจแย่ทั้งจังหวัด ทั้งต้องเจอกับสถานการณ์ภัยแล้งเพิ่มเติมอีก น้ำกินน้ำใช้ ก็เริ่มประสบปัญหา ขาดการเหลียวแลขาดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน รวมทั้งนโยบายที่เคยสัญญาว่าจะมาช่วยชาวบ้าน โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรผู้สูงอายุ ก็ไม่มีประสิทธิภาพชาวบ้านจึงยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เขารู้ว่าถ้าให้คนเดิมพรรคเดิม เศรษฐกิจก็จะแย่แบบนี้ความเป็นอยู่ของเขาก็จะถูกทอดทิ้งแบบนี้เขาจึงอยากเห็นคนของพรรคเพื่อไทยเข้าไปทำหน้าที่ อย่างน้อยเพื่อทวงสัญญา และสิ่งที่ประชาชนควรได้รับการดูแลแก้ไข" คุณหญิง
สุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิง
สุดารัตน์ ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ทำงานท้องถิ่นมาถึง 17 ปี จึงมองเห็นปัญหาและคลุกคลีกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งมีหลายนโยบาย แก้ไขปัญหาในอดีตเมื่อครั้งรับตำแหน่งการเมืองท้องถิ่น ประชาชนจึงอยากได้คนที่รู้ปัญหามีประสบการณ์เข้าไปแก้ไข ดังนั้นคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยจึงดีขึ้นตามลำดับแม้จะไม่ใช้เจ้าของพื้นที่ แต่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเพราะประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างไรก็ตามสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลคือการใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของประชาชนในพื้นที่ว่ามีการใช้อำนาจเงินอำนาจรัฐอย่างไม่เกรงกลัวจึงฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ลงมาตรวจสอบ
ขณะที่นายกัมพล ระบุว่ามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทุกวันเพราะรู้และเข้าใจปัญหา โดยยอมรับว่ามีความกังวล ว่าบางพรรคการเมืองจะใช้กลไกของภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ แต่เมื่อประชาชน เข้าใจ ถึงสถานการณ์เหล่านี้กลับมาเห็นใจเรามากขึ้น เช่นการถูกทำลายป้ายหาเสียง
"
ประชาชนเห็นยิ่งเห็นใจยิ่งสงสารเรา คิดว่าไม่กังวล จึงขอฝากพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งช่วยเป็นหูเป็นตา รักผมรักพรรคเพื่อไทย ช่วยเป็นหูเป็นตา ในสิ่งที่บางพรรคได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง บอกมาทางผู้นำของท่าน หรือมาบอกกับผมโดยตรง" นาย
กัมพลกล่าว
ทั้งนี้ระหว่างการหาเสียง ขบวนหาเสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ได้เจอกันกลางตลาด นาย
วราเทพ รัตนากร แกนนำจังหวัดกำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเดินสายช่วยนาย
เพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ หาเสียง เข้ามาทักทายและพูดคุยกับนาย
สมพงษ์และคุณหญิง
สุดารัตน์ จากนั้นทั้งสองพรรคจึงได้แยกย้ายหาเสียงต่อ
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมกำแพงเพชร จะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.พ. นี้
โลกโซเชียลรณรงค์ร่วมลงชื่อคัดค้านการยุบอนค.
https://www.innnews.co.th/politics/news_599642/
เว็บไซต์ www.change.org มีการรณรงค์ร่วมลงชื่อ คัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยกว่า 150 รายชื่อเบื้องต้นที่ร่วมลงชื่อ ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ เช่น นาย
สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม, ดร.
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นาย
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นาย
โคทม อารียา อดีตกรรมการการเลือกตั้ง, นาย
ปรีดา เตียสุวรรณ์ นักธุรกิจ, “ครูยุ่น” นาย
มนตรี สินทวิชัย ผู้ก่อตั้งมูลนิธิคุ้มครองเด็ก, นาง
ทิชา ณ นคร นักสิทธิเด็ก เยาวชน และสตรี, “ต้อม”
ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์, “มะเดี่ยว”
ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์, “มดดำ”
คชาภา ตันเจริญ พิธีกร, “จิ๊บ”
ปกฉัตร เทียมชัย ดารานักแสดง เป็นต้น
โดย แคมเปญรณรงค์ระบุว่า
ประเทศไทยต้องไปข้างหน้า การเมืองต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย ร่วมลงชื่อ #คัดค้านยุบพรรคอนาคตใหม่ ฟังก่อน! ไม่ได้บอกว่าพรรคอนาคตใหม่ดีงามสมบูรณ์แบบจนทุกคนต้องลุกขึ้นมาเป็นปากเป็นเสียงต่อสู้ให้
สิ่งที่กำลังจะบอกก็คือ ไม่ว่าจะมีความเชื่อแบบไหนก็ตาม จะมีคนที่เชื่อไม่เหมือนกันอยู่ร่วมสังคมเดียวกันเสมอ ไม่มีวันหายไป
การลงชื่อครั้งนี้ เป้าหมายคือ การปกป้องวันนี้และอนาคตของประเทศไทย
การเมืองที่ดีควรเป็นระบบที่เปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาต่อสู้แข่งขันกันได้อย่างเสรีเป็นธรรม โดยมีประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ส่วนการมุ่งกำจัดกลุ่มการเมืองใดๆ ให้สิ้นซากนั้น มีแต่จะทำให้สังคมตึงเครียดรอวันระเบิด
ช่วยกันหยุดการทำลายล้างทางการเมืองครั้งใหม่ที่จะไม่เหลืออะไรนอกจากความพัง
ความสงบจบที่อยู่ร่วมกัน
ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กว้างที่สุด สนับสนุนให้พรรคการเมืองของประชาชนเข้มแข็ง เลิกคิดเสียทีว่า การยุบพรรคการเมืองหรือตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคนที่คิดไม่เหมือนกันจะนำไปสู่ความสงบในสังคม
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่ชั่วโมงของการเปิดลงชื่อ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมาเข้ามาร่วมลงชื่อและแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์รณรงค์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
https://www.change.org/p/สังคมไทย-เปิดพื้นที่ทางการเมืองให้ทุกฝ่าย-ลงชื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่-4e44bfba-5015-4ac0-89e8-09237f25668d
JJNY : พท.ขอคะแนนชาวกำแพงเพชร/โซเชียลรณรงค์ค้านการยุบอนค./ศรีสุวรรณซัดผบ.ทบ.คำสั่งเลือกปฏิบัติ/แบงก์มึน NPL ย้อนกลับ
https://voicetv.co.th/read/-woYjM3AJ
เลือกตั้งซ่อมกำแพงเพชร "กัมพล" พรรคเพื่อไทยมั่นใจเพิ่มทุกวัน ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ขอประชาชนกาเบอร์ 3 เปลี่ยนชีวิต ระบุเศรษฐกิจแย่ทั้งจังหวัด ด้านสมพงษ์ เชื่อผู้สมัครเพื่อไทยมีคุณภาพจะเห็นการเปลี่ยนแปลง
ที่วัดแก้วสุริย์ฉาย อำเภอลานกระบือจังหวัดกำแพงเพชร นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์หัวหน้าพรรคเพื่อไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.จังหวัดนครพนมพรรคเพื่อไทย พร้อมคณะ นำนายกัมพล ปัญกุล ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หมายเลข 3 จากพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียง ขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน ชาวกำแพงเพชร ในการเลือกตั้งซ่อมส.ส.เขต 2 จังหวัดกำแพงเพชร
นายสมพงษ์และคุณหญิงสุดารัตน์ ได้เดินขอคะแนน ภายในตลาดวัดแก้วสุริย์ฉาย ซึ่งระหว่างการหาเสียง ได้สอบถามถึงปัญหาการค้าขาย และเศรษฐกิจปากท้อง ซึ่งพบว่าการค้าขายเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากผู้ซื้อมีกำลังในการจับจ่ายน้อยลง คุณหญิงสุดารัตน์ รวมถึงนายสมพงษ์จึงได้กล่าวให้กำลังใจ ในการต่อสู้กับปัญหาเศรษฐกิจที่หนักหน่วงมากขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันได้ตั้งคำถาม ไปยังพี่น้องประชาชนว่าตลอด 6 ปีที่ผ่านมา กินดีอยู่ดีมีความสุขนอนหลับสบายดีหรือไม่ ถ้าคิดว่าตลอด 6 ปีมีความสุขดี และยังสามารถอยู่ต่อไปได้ ก็เป็นสิทธิที่พี่น้องจะเลือกผู้สมัครแบบเดิม แต่หากพี่น้องเห็นว่าวันนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หลากหลายนโยบายต้องได้รับการผลักดันให้เห็นเป็นรูปธรรม ขอให้ช่วยเลือกผู้สมัครหมายเลข 3 จากพรรคเพื่อไทย เข้าไปติดตามสิ่งที่ผู้มีอำนาจได้ให้คำมั่นสัญญากับประชาชนไว้แต่ไม่สามารถทำได้ คุณหญิงสุดารัตน์ได้เน้นย้ำว่าขอให้พี่น้องประชาชน กาเปลี่ยนชีวิตเลือกเบอร์ 3 กาเข้าไปเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจ กาเอาคนคุณภาพ เข้าไปตรวจสอบรัฐบาล เข้าไปเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องประชาชน
ต่อมานายสมพงษ์ ให้สัมภาษณ์โดยเปิดเผยว่า หลังเริ่มรณรงค์หาเสียงมาประมาณ 2 สัปดาห์ กระแสตอบรับที่มีให้พรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมั่นใจในศักยภาพ ของผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยว่าไม่เป็นรองผู้สมัครของพรรคอื่นๆ แต่ห่วงเรื่องการทำงานทางการเมืองที่เจ้าของพื้นที่เดิม ได้ย้ายไปอยู่กับพรรคของผู้มีอำนาจ การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาจึงทำให้พรรคเพื่อไทยไม่สามารถเตรียมคนได้ทัน แต่การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้เพื่อไทยได้ หารือและคัดเลือกผู้สมัครจนได้ บุคลากรที่มีคุณภาพ ทำให้เชื่อมั่นว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในการเลือกตั้งครั้งนี้
ด้าน คุณหญิงสุดารัตน์ ให้สัมภาษณ์ ระบุว่า กระแสตอบรับของพรรคเพื่อไทยดีขึ้น ดีขึ้นเพราะประชาชนรู้สึกถึงความลำบาก ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ พรรครัฐบาลได้สัญญาไว้ในตอนหาเสียง ทั้งราคาข้าวราคาอ้อย ไม่ได้เป็นไปตามความต้องการของประชาชน
"ราคาสินค้าเกษตรเหล่านี้ไม่สามารถทำได้ตามคำมั่นสัญญา เมื่อราคาสินค้าเกษตรตกต่ำการค้าขายจึงเงียบไปทั้งตลาด เศรษฐกิจแย่ทั้งจังหวัด ทั้งต้องเจอกับสถานการณ์ภัยแล้งเพิ่มเติมอีก น้ำกินน้ำใช้ ก็เริ่มประสบปัญหา ขาดการเหลียวแลขาดการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน รวมทั้งนโยบายที่เคยสัญญาว่าจะมาช่วยชาวบ้าน โดยเฉพาะบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ บัตรผู้สูงอายุ ก็ไม่มีประสิทธิภาพชาวบ้านจึงยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เขารู้ว่าถ้าให้คนเดิมพรรคเดิม เศรษฐกิจก็จะแย่แบบนี้ความเป็นอยู่ของเขาก็จะถูกทอดทิ้งแบบนี้เขาจึงอยากเห็นคนของพรรคเพื่อไทยเข้าไปทำหน้าที่ อย่างน้อยเพื่อทวงสัญญา และสิ่งที่ประชาชนควรได้รับการดูแลแก้ไข" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยมีประสบการณ์ทำงานท้องถิ่นมาถึง 17 ปี จึงมองเห็นปัญหาและคลุกคลีกับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งมีหลายนโยบาย แก้ไขปัญหาในอดีตเมื่อครั้งรับตำแหน่งการเมืองท้องถิ่น ประชาชนจึงอยากได้คนที่รู้ปัญหามีประสบการณ์เข้าไปแก้ไข ดังนั้นคะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยจึงดีขึ้นตามลำดับแม้จะไม่ใช้เจ้าของพื้นที่ แต่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเพราะประชาชนรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างไรก็ตามสิ่งที่พรรคเพื่อไทยกังวลคือการใช้อำนาจรัฐ อำนาจเงิน ซึ่งตรงกับคำบอกเล่าของประชาชนในพื้นที่ว่ามีการใช้อำนาจเงินอำนาจรัฐอย่างไม่เกรงกลัวจึงฝากถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ให้ลงมาตรวจสอบ
ขณะที่นายกัมพล ระบุว่ามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นทุกวันเพราะรู้และเข้าใจปัญหา โดยยอมรับว่ามีความกังวล ว่าบางพรรคการเมืองจะใช้กลไกของภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือ แต่เมื่อประชาชน เข้าใจ ถึงสถานการณ์เหล่านี้กลับมาเห็นใจเรามากขึ้น เช่นการถูกทำลายป้ายหาเสียง
"ประชาชนเห็นยิ่งเห็นใจยิ่งสงสารเรา คิดว่าไม่กังวล จึงขอฝากพี่น้องประชาชนในเขตเลือกตั้งช่วยเป็นหูเป็นตา รักผมรักพรรคเพื่อไทย ช่วยเป็นหูเป็นตา ในสิ่งที่บางพรรคได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง บอกมาทางผู้นำของท่าน หรือมาบอกกับผมโดยตรง" นายกัมพลกล่าว
ทั้งนี้ระหว่างการหาเสียง ขบวนหาเสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐ ได้เจอกันกลางตลาด นายวราเทพ รัตนากร แกนนำจังหวัดกำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเดินสายช่วยนายเพชรภูมิ อาภรณ์รัตน์ ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ หาเสียง เข้ามาทักทายและพูดคุยกับนายสมพงษ์และคุณหญิงสุดารัตน์ จากนั้นทั้งสองพรรคจึงได้แยกย้ายหาเสียงต่อ
สำหรับการเลือกตั้งซ่อมกำแพงเพชร จะมีขึ้นในวันที่ 23 ก.พ. นี้
โลกโซเชียลรณรงค์ร่วมลงชื่อคัดค้านการยุบอนค.
https://www.innnews.co.th/politics/news_599642/
เว็บไซต์ www.change.org มีการรณรงค์ร่วมลงชื่อ คัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยกว่า 150 รายชื่อเบื้องต้นที่ร่วมลงชื่อ ล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการ เช่น นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม, ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายโคทม อารียา อดีตกรรมการการเลือกตั้ง, นายปรีดา เตียสุวรรณ์ นักธุรกิจ, “ครูยุ่น” นายมนตรี สินทวิชัย ผู้ก่อตั้งมูลนิธิคุ้มครองเด็ก, นางทิชา ณ นคร นักสิทธิเด็ก เยาวชน และสตรี, “ต้อม” ยุทธเลิศ สิปปภาค ผู้กำกับภาพยนตร์, “มะเดี่ยว” ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ผู้กำกับภาพยนตร์, “มดดำ” คชาภา ตันเจริญ พิธีกร, “จิ๊บ” ปกฉัตร เทียมชัย ดารานักแสดง เป็นต้น
โดย แคมเปญรณรงค์ระบุว่า
ประเทศไทยต้องไปข้างหน้า การเมืองต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่าย ร่วมลงชื่อ #คัดค้านยุบพรรคอนาคตใหม่ ฟังก่อน! ไม่ได้บอกว่าพรรคอนาคตใหม่ดีงามสมบูรณ์แบบจนทุกคนต้องลุกขึ้นมาเป็นปากเป็นเสียงต่อสู้ให้
สิ่งที่กำลังจะบอกก็คือ ไม่ว่าจะมีความเชื่อแบบไหนก็ตาม จะมีคนที่เชื่อไม่เหมือนกันอยู่ร่วมสังคมเดียวกันเสมอ ไม่มีวันหายไป
การลงชื่อครั้งนี้ เป้าหมายคือ การปกป้องวันนี้และอนาคตของประเทศไทย
การเมืองที่ดีควรเป็นระบบที่เปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามาต่อสู้แข่งขันกันได้อย่างเสรีเป็นธรรม โดยมีประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ส่วนการมุ่งกำจัดกลุ่มการเมืองใดๆ ให้สิ้นซากนั้น มีแต่จะทำให้สังคมตึงเครียดรอวันระเบิด
ช่วยกันหยุดการทำลายล้างทางการเมืองครั้งใหม่ที่จะไม่เหลืออะไรนอกจากความพัง
ความสงบจบที่อยู่ร่วมกัน
ทางออกที่ดีที่สุดคือการเปิดพื้นที่ทางการเมืองให้กว้างที่สุด สนับสนุนให้พรรคการเมืองของประชาชนเข้มแข็ง เลิกคิดเสียทีว่า การยุบพรรคการเมืองหรือตัดสิทธิ์ทางการเมืองของคนที่คิดไม่เหมือนกันจะนำไปสู่ความสงบในสังคม
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่ชั่วโมงของการเปิดลงชื่อ ปรากฏว่ามีผู้คนจำนวนมาเข้ามาร่วมลงชื่อและแสดงความคิดเห็นในเว็บไซต์รณรงค์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
https://www.change.org/p/สังคมไทย-เปิดพื้นที่ทางการเมืองให้ทุกฝ่าย-ลงชื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่-4e44bfba-5015-4ac0-89e8-09237f25668d