▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศชิลี
One Day Trip
[CR] Patagonia Day 12-13
Day 2: Buenos Aires / northern part
Day3: BA to Ushuaia / Tierra del Fuego national park
Day4: Ushuaia / Beagle channel navigation and walk with penguin at Martillo island
Day5: Ushuaia - El Calafate - El Chalten
Day6 : El Chalten ( Cerro Fitz Roy / Laguna de Los tres )
Day7: El Chalten to El calafate / Perito Moreno Glaciares
Day8:El calafate / Upsala - Spegazzini glaciares
Day9: From Argentina ( El Calafate ) to Chile ( Puerto Natales )
Day10: Puerto Natales : Balmaceda - serrano glaciares in Bernado O' Higgins park
Day11: Puerto Natales :/ Torres del Paine national park
Day12-13 Puerto Natales - Santiago - Valparaiso
Day12...วันนี้เราต้องบินไป Santiago เราต้องไปขึ้นที่ Punta Arena airport เราต้องนั่งรถไปประมาณสามชั่วโมง เราCheck out และรับlunch boxที่โรงแรมจัดเอาไว้ให้เราไปด้วย. รถมารับเราแต่ตอน8:30 และพาเราไปที่คิวรถ
คิวรถที่เราต้องมารอรถอยู่ไม่ไกล เจ้าหน้าที่บอกให้รอเวลาเค้าออกตรงเวลาเป๊ะ เราไปรอกันข้างในเพราะอากาศเย็น เราเอาvoucherไปถามคนขับรถbusที่จอดอยู่ เค้าบอกให้รอดูรถที่จะมาเทียบที่จอดตรงช่องหมายเลขสี่ รถเราจะออกตอน9โมงเช้า
มีคนรออยู่ประปราย
แล้วก็มีที่ขายทัวร์แบบต่างๆให้เลือกเผื่อใครมาถึงอยากหาทัวร์ ก็ติดต่อได้เลย
อันนี้น่าจะเป็น trail W ที่มีชื่อของที่นี่ ได้เวลาก็เอากระเป๋าให้เก็บใต้ท้องรถและขึ้นรถนั่งตามเลขที่นั่ง นั่งมาสามชม.ก็ถึงสนามบิน
เนื่องจากที่แรกตกลงกันจะบินเวลา14:45สายการบิน Latam airline เราจองตั๋วก่อนตอนเช้าสายการบิน Latam airline เพื่อนที่เหลือซื้อตอนกลางคืนแพงไปอีก100เหรียญเลยขอเลือกjetsmartที่บินก่อน1ชม. เราเลยแยกกันบินและนัดเจอกันที่Santiago ส่งเพื่อนขึ้นเครื่องแล้วเราก็ไปรอที่gate. ดีว่าใกล้เวลาไม่เห็นใครเลยเช็ค flight tracker เค้าเปลี่ยนgateแต่ไม่แจ้งเลย เราก็เดินไปนั่งรออีกgate เห็นป้ายFlightเดียวกับที่เราจะขึ้นก็OK ซักพักก็เรียกขึ้นเครื่อง
เครื่องค่อนข้างว่างเลยได้นั่งนอนยาวตลอดสามชม.
พอใกล้ถึงตอนจะลง. คุณพระคุณเจ้า. เล็งดีๆนะน้อง ไม่ต้องเสยเขาโชว์นะ
พอไปถึงก็ใช้ netสนามบินโทรหาเพื่อนรถจากagency มารอรับเราทั้งguideทั้งคนขับเลย. ท่าทางใช้ได้เพราะปกติถ้าไม่มีรายการเที่ยวมักจะมีแต่คนขับมารับ. เค้าแนะนำตัวMr.Rodriago ช่วยเราส่งโรงแรม และแนะนำร้านอาหารให้เรา มีทั้งตั้งแต่อยู่บนตึกดูวิว360องศา และอีกมากมาย ก่อนเอากระเป๋าลงที่รร.เลยบอกช่วยวนไปดูหน่อยร้านอยู่ไหน. แม้Rodriagoจะออกตัวว่าทางเดินกับทางรถวิ่งอาจจะคนละทางทำให้ดูไกล. หลังจากพาไปวนดูแล้ว. พวกเราก็เล็งร้านหัวมุมใกล้โรงแรม เพราะเดินถึงและดูคนเยอะดีน่าจะอร่อย. โรงแรมเราชื่อ Panamericana Providencia หลังจากส่งเราเรียบร้อยก็นัดกันพรุ่งนี้มารับ9โมงเช้า อีกอย่างเรื่องความปลอดภัย เพื่อนมาเมื่อเดือนพย.ถูกกระชากสร้อย และขนาดโรงแรมเราเข้าออกยังมีประตูremoteให้เจ้าหน้าที่เปิดปิดทุกครั้งที่แขกเข้าออก รอบด้านก็มีรั้วเหล็กปิดไว้อีกชั้น หลังจากทานอาหารแล้วก็กลับโรงแรมพักผ่อน......
Day13....Mr.Rodriagoมารับเราแต่เช้าพูดถึงเรื่องความปลอดภัย เค้าพยายามบอกเหมือนทุกที่ในโลกแต่ก็บอกพาสปอร์ตเก็บไว้ในโรงแรมดีกว่า. ที่นี่ล้อมรอบด้วยภูเขา เพราะฉะนั้นมลภาวธที่ลอยตัวขึ้นก็มักถูกกักไว้ทำให้อากาศไม่ค่อยดี. ที่นี่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยมาก ตอนเราcheckin พนักงานยังแจ้งเราเลยถ้ามีแผ่นดินไหวให้ทำอะไรบ้าง1-4ริกเตอร์มีสม่ำเสมอ. เราอาจแค่งงๆ. 7-9ก็มีไม่น้อย หุบเขาที่นี่ถูกยกขึ้นตลอดเวลาแต่ละปีภูเขาวัดความสูงสูงขึ้นเสมอ. ดังนั้นแผ่นดินไหวจึงเกิดขึ้นบ่อย
ที่แรกที่จะไปเป็น Commune. Vitacura ห่างไปราวครึ่งชม.เป็นสวนสาธารณะใหญ่ๆมีที่ให้เลี้ยงนก เลี้ยงปลา เพลินๆ
หยอดตังค์ก็มีอาหารปลา อาหารเป็ดมา Rodriagoหยอดเอาอาหารมาให้พวกเราเรียกเป็ด
พอเสร็จก็พาเรากลับSantiago
พอถึงSantiago เราจะไป San Cristobal Hill เพื่อไปดูPanoramic viewของเมือง
เราเป็นพวกโชคดี ปกติเราต้องขึ้นcable car และเค้าปิดซ่อมเล็กๆทุกวันจันทร์ สายๆก็ขึ้นได้ ช่วงเรามาปิดใหญ่สามวัน. เราเลยต้องเดิน
ยังไหวอยู่
เห็นวิวและประวัติการค้นพบเมืองSantiago และการสร้างปติมากรรม. การนำStatueต่างๆมาบนภูเขานี้พอสังเขปแล้วเราก็ลงเดินต่อไปที่จอดรถ. จากนั้นจะไปเดินเที่ยวในเมืองกัน
มีจิตรกรพ่นสีเต็มไปหมดทุกที่แย่นะ. ไม่แยกแยะอันไหนมันทำให้คนมาท่องเที่ยวยังเจริญหูเจริญตาที่จะดู
วันที่เราเที่ยวก็มีประท้วง ไม่รุนแรง จะมีพวกประท้วงตามสี่แยกมาขอเหรียญไปสนับสนุนพวกประท้วง
ที่ทำงานของประธานาธิบดี
กระทรวงยุติธรรมและศาลแพ่ง
หน้ารูปปั้นนี้มีหลักที่จะบอกว่าไปเมืองอื่นๆกี่กิโลเมตรจากเมืองนี้. เริ่มหลักกิโลเมตรที่ศูนย์ตรงหน้ารูปปั้นนี้แหละ. แต่ดูตานี่ดันเอาเท้าไปจุ่มล้างเท้าในบ่อซะงั้น
แผนที่เมืองนี้ที่ใช้มาตั้งแต่สเปนมาปกครอง มีแม่น้ำพาดผ่านเมือง แบ่งเป็น block ๆ เป็นระเบียบดี
แวะถ่ายอักษรย่อเมืองนี้จะให้ลุงสองคนช่วยลุกไปก็เกรงใจ. เห็นไม้เท้าอยู่ เอาเป็นว่ามาด้วยกันล่ะกัน
คุณไกด์เราก็ชอบSelfieจัง. แกถ่ายรูปแล้วส่งเข้า whatapps มาให้ด้วยเดินอีกหลายที่ จากนั้นก็เดินไปร้านอาหาร เพราะรถติด พวกเราบอกว่าไหวเลยเดินๆกันไป
ร้านอาหารใน Central fishmarket อาหารทะเลทั้งหมด. เราเลือกปลามาคนละอย่าง ระหว่างนั่งรอROdriago เอารหัสwifiมาให้ มีข้อความจากAgencyเราแจ้งว่าเนื่องจากตอนมาจาก El Calafate ไปกลับ El Chantenมีปัญหาในการประสานงานเลยจะแก้ตัวด้วยการเลี้ยงอาหารเย็นเราที่โรงแรม สบายเลยเย็นนี้ไม่ต้องออกไปหาร้านทาน. ครู่ใหญ่ๆอาหารก็ทะยอยมาก. พอเสร็จพิธีบวงสรวงกระเพาะ. จากนั้นเราก็ไปขึ้นรถเพื่อไปยังเมือง Valparaiso เดินทางกันอีก115กม.
เมืองนี้แต่เดิมเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ถูกเรียกว่าเป็น little Sanfrancisco บ้าง Jewel of Pacific บ้าง ได้รับยกย่องเป็น world human heritage ตั้งแต่ปี2003
สีสรรบ้านเรือนที่นี่หลากหลาย เพราะแต่ก่อนมีชนชาติหลากหลายมาอยู่ที่นี่ บ้านที่สร้างก็สร้างตามสถาปัตยกรรมของชนชาตืนั้นแต่วัสดุที่มาสร้างเอามาจากเรือที่ปลดระวาง. เพราะฉะนั้นเรือมีวัสดุอุปกรณ์สีอะไร บ้านเรือนก็สีตามนั้นบางครั้งการต่อเติม ต้องใช้จากเรืออีกลำ สีต่างไป บ้านก็จะหลากหลายสี ข้างนอกจะยังคงเหมือนเดิม แต่ข้างในบางแห่งก็เปลี่ยนแปลงเป็น modernต่างไปจากข้างนอกซึ่งห้ามเปลี่ยนแปลง
ที่นี่ยังมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง ภาพวาดก็เกิดจากนักศึกษาในมหาวิทยาลัยมาสร้างสรรผลงานให้ที่นี่มีอะไรโดเด่นขึ้นอีก
หนูน้อยMalfaidaโด่งดงมาถึงนี่พวกเราถ่านรูปเสร็จเห็นเป็นร้านขายของ เลยมาอยู่ที่นี่กันกว่าชั่วโมงก่อนที่ คุณRodriago ต้องขออนุญาตกวาดต้อนพวกเราออกจากร้าน. เจ้าของวาดผลงานเอง และใจดีมากๆ. ลดแลกแจกแถมจนเราหมดเงินไปพอควร
จากนี้เราก็มุ่งหน้ากลับSAntiago เย็นนี้เรามีdinnerที่โรงแรม พอเราไปแจ้งโรงแรมบอกครัวปิดมีแต่sandwish เราเลยต้องโทรไปคุยกับAgencyว่าโรงแรมบอกdinnerมีแต่แซนวิช Agencyเลยขอคุยกับพนักงานซักพักเราก็ได้ทานอาหารเย็นFull courseเรียบร้อย. พรุ่งนี้เราบินไปต่อเครื่องที่ฝรั่งเศสflightสี่โมงเย็น. Rodriagoนัดมารับเราเที่ยงครึ่งไปสนามบิน. เราเลยขอที่อยู่ shopping mallที่ใกล้โรงแรมเรา พรุ่งนี้จะไปเดินเล่นก่อนเค้ามารับ....เป๋นอันจบทริปที่ประทับใจมากๆ ทริปนึงแต่เพียงเท่านี้.
หมายเหตุ: กลัวว่าจะโดนฉกชิงวิ่งราวที่ปาตาโกเนีย แต่ปรากฏว่าเรา5คน ถูกล้วงกระเป๋าไปสามคนที่ปารีส ....น่ากลัวมากปารีส...
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น