Day 1: Buenos Aires /. southern part
Day 2: Buenos Aires / northern part
Day 3: Buenos Aires - Ushuaia ( อูช-ชู-เอ-ย่า )
Day4: Ushuaia / Beagle channel navigation and walk with penguin at Martillo island
Day5: Ushuaia - El Calafate - El Chalten
Day6 : El Chalten ( Cerro Fitz Roy / Laguna de Los tres )
Day7: El Chalten to El calafate / Perito Moreno Glaciares
Day8:El calafate / Upsala - Spegazzini glaciares
Day9: From Argentina ( El Calafate ) to Chile ( Puerto Natales )
Day10: Puerto Natales : Balmaceda - serrano glaciares in Bernado O' Higgins park
Day11: Puerto Natales :/ Torres del Paine national park
Day12-13 : Puerto natales to Santiago ( Santiago-Valparaiso )
ตื่นมาอาบน้ำอาบท่า โรคจิตต้องอาบแม้ว่าอากาศจะเยือกแค่ไหน......ตีสี่รถมารับ ตื่นกันตีเท่าไหร่คิดดู 03:40ลงมาแจ้งทางreception โรงแรมไว้ว่าเราขอbreakfast boxเผื่อไปกินที่สนามบินไว้. ปรากฎว่าเค้าไปตามพ่อครัว พ่อครัวต้มกาแฟให้เรากะเอา ขนมปังเดนิช. ครัวซองท์ ร้อนๆมาให้เรากินก่อนไปแทน. ก็สะดวกดีไม่ต้องแบกไปสนามบิน กินร้อนๆพอแก้หนาวก่อนไป. สนามบินที่เราจะไปขึ้นเครื่องไม่ใช่ Ezeiza airportเหมือนตอนที่เราบินมาจากปารีสมาลงบัวโนส ไอเรส. แต่เป็น. Aeroparque Jorge Newbery เป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของบัวโนส ไอเรสไม่ใหญ่มาก เราจะบินไปเมือง Ushuaia. ซึ่งอยู่ท่างทิศใต้ของเกาะ Tierra del Fuego
เราใช้สายการบิน Aerolineas Argentinas ถึงจะเช็คอินprint. boarding passมาก่อน แต่ก็ต้องมารอคิวรวมๆกันระหว่างพวกที่รอเช็คอินกับพวกที่จะมา back drop แต่ไม่นานเราก็ได้loadกระเป๋า. สายนี้ซื้อกระเป๋าได้ใบละ15กิโล พวกเราซื้อกัน15กิโลสองใบ กระจายของจากกระเป๋าใหญ่ไปกระเป๋าcabin sizeแล้วload ไปทั้งสองใบ. ใช้เวลาในการบิน 3 ชม.35 นาทีมีเสริฟน้ำกับsnack bar ตอนเครื่องใกล้ลง
บนเครื่องตอนใกล้ถึงภูเขาตรงหน้าเป็นเทือกเขาAndes ฝั่งตรงข้ามเป็นซีกทางประเทศชิลี
สนามบินที่ Ushuaia บนเกาะ Tierra del Fuego ( เทียร่า เดอ ฟู เอ โก้ ) เล็กมาก ข้างขวาของสายพานเค้าให้เราscanกระเป๋าสะพายเราก่อนเข้ามาเอากระเป๋า แต่ไม่จริงจังมาก. ได้กระเป๋าก็ออกไป เจอคุณ Sabastian จากบริษัท Latitudushuaia มารับเรา และมีรถอีกคันมาเอากระเป๋าพวกเราไปโรงแรม. เพราะเราจะเริ่มทัวร์ที่แรกใน Tierra del Fuego national parkเลย
ขับผ่านบ้านเรือนต่างๆก่อนถึง national park
ลมแรงมาก คุณเซบาสเตียนเล่าระหว่างทางไป national parkว่าที่นี่อากาศเปลี่ยนเร็วทุก5-10 นาทีเดี๋ยวลมเดี๋ยวฝนเดี๋ยวแดด อุณหภูมิทั้งปีอยู่ราว10องศา แต่ถ้าหน้าหนาวจะ-0ถึง-5องศา. อาชีพหลักๆก็ท่องเที่ยว เที่ยวได้ทั้งปี จับปลา และส่งปลาไปที่ต่างๆของประเทศ มีบริษัทจากประเทศจีนมาตั้งโรงงานที่นี่ด้วยนะจ๊ะ. พี่จีนเราไปทุกที่
ระหว่างทางไป Tierra del Fuego national park เราปล่อยไก่บอกSebastianว่าที่นี่น่าจะนกเยอะเห็นรังนกเต็มไปหมด แต่ไม่ใช่แฮะ คำตอบกลายเป็นมันคือ parasiteของต้นไม้ชื่อ Micodendraciae
คุณเซบาสเตียนเอาแผนที่ให้ดูบอกว่าTierra del Fuegoครึ่งซ้ายมือเราเป็นของชิลี ครึ่งขวาเป็นของอาร์เจนติน่า ดูในแผนที่จะเห็นเส้นแบ่งกลางเกาะ
และตรงช่องเล็กๆใต้เส้นสีแดงเป็น Beagle channel ที่เราจะล่องเรือกันพรุ่งนี้. เกาะนี้ยังมีอีกหลายเมืองนอกจาก Ushuaia ( ปลายสุดของเส้นแดง ) แต่ไม่ได้เป็นจุดhigh lightเท่าเมืองนี้.
หลังจากซื้อตั๋วผ่านเข้า Tierra del Fuego National park จุดแรกก็ที่นี่ Beagle channel แบ่งระหว่างฟากอาร์เจนตินาที่เรายืนอยู่ กับภูเขาฟากตรงข้ามในประเทศชิลี เทือกเขาที่เห็นอยู่คือเทือกเขาAndesที่ทอดยาวจากประเทศVenezualaที่ทอดยาวทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ลงมาถึงUshuaia ถัดไปอีกจากชิลีก็เดินทางไป. Antarctica ได้ นั่งเรือจาก Ushuaiaใช้เวลา2วัน แต่ถ้าบินก็ไปบินจากPunta Arena. ในการเที่ยวantarctica ใช้เวลา5วันในการเที่ยว รวมนั่งเรือไปกลับก็ควรมีอีก10วันเพื่อถึงantarctica เราไม่มีเวลาขนาดนั้นลำพังไม่ไปทริปนี้ก็ใช้เวลาจากบ้านมา19วันเต็มๆ ก็ได้แต่ทำใจ.
ที่เกาะนี้มีคนเคยอาศัยอยู่ 10,000กว่าปีมาแล้ว ชนเผ่าแรกๆที่อยู่คือพวก Yamana พวกนี้ล่าสิงโตทะเลไว้กินแล้วก็เอาไขมันมันทาตัว
ชนเผ่าพวกนี้ค่อยๆหายไปเนื่องจากโรคระบาดและพวกยุโรปที่เข้ามาในเกาะ
มีtrailสั้นๆไม่โหดให้เดินลัดเลาะดูทะเล ดูต้นไม้ ดอกไม้ป่าตามทางหลายtrailในnational parkนี้ . อันนี้เรียก. Langas เป็นพืชที่ขึ้นตามต้นไม้ในที่ที่มีอากาศดี. บริสุทธิ์มากๆ. สูดเข้าไปพี่น้องหาไม่ได้บ้านเรา....
รวมทั้งต้นไม้ที่แห้งตายจำนวนมาก เป็นฝีมือของตัวบีเว่อร์ที่ชาวอังกฤษเคยเดินทางและเอามาทำธุรกิจที่นี่. พอเลิกทำก็ไม่เอากลับมันเลยแพร่พันธุ์
มากมาย. ต้นไม้ที่นี่รากค่อนข้างอยู่ตื้นๆไม่เกิน 50ซม. มันเลยล้มง่ายจากลมพัดแรงๆและจากถูกตัวบีเว่อร์แทะราก.
บางแห่งก็มีกิจกรรมพายเรือKayak. canoe Iglooที่เห็นไว้ให้คนที่ทำกิจกรรมเหล่านี้หลบพักริมน้ำ
หลังจากแวะทานข้าวกล่อง ทีแรกเรากะหาที่สวยๆนั่งปิกนิก. แต่ลงรถปุ๊บฝนกระหน่ำเลยต้องหาที่ใหม่นั่งทานกัน. จากนั้นก็ขับไปดูจุดสุดท้ายที่ถนนต้นทางจาก Alaska มาสิ้นสุดที่นี่ Bahia Lapatia เป็นอันสิ้นสุดทัวร์วันนี้. คุณเซบาสเตียนนัดมารับเราพรุ่งนี้ 9โมงเช้า ก่อนส่งโรงแรมเราบอกให้ช่วยขับรถวนในเมืองและแนะนำร้านอาหารที่อร่อยๆ ให้เรา
พอเข้าเขตตัวเมืองเราเห็นป้ายชื่อเมืองริมทะเลบวกกับฝนเริ่มซา. เลยขอแวะถ่ายภาพหมู่กับป้ายนิดนึง. จากนั้นก็พาเราไปส่งโรงแรม จากร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกในเมืองถ้าจะเดินแล้วเกิดฝนตกก็ไกลอยู่ เลยกะว่าให้รร.เรียกTaxiมาส่งในเมืองดีกว่า แล้วเราก็เดินเล่นกันก่อนไปร้านอาหาร
ระหว่างรอสมาชิกอันนี้ก็เป็นเก้าอี้นั่งรอหน้าLobby ทิวทัศน์แจ่มมาก. อ้อ โรงแรมเราชื่อ Las Lengus อยู่บนเนินเขานิดๆ ห้องเราจะอยู่ชั้นต่ำลงไปจาก lobby
มีหลากหลายมุมดูกันไม่เบื่อ
เนื่องจากร้านอาหารที่จะไป คุณเซบาสเตียนแนะนำ. เพื่อนที่เคยมาเมื่อพฤศจิกายน ก็แนะนำเป็นร้านเดียวกัน เราเลยให้โรงแรมช่วยโทรจองให้ receptionโทรมาบอกร้านไม่รับจองแต่เปิดตอน1ทุ่ม พวกเราเลยนัดให้เรียกtaxi มารับพวกเราตอน5โมงครึ่ง. taxiที่นี่หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ให้เรานั่งเบียดห้าคนในรถ แม้จะเห็นหุ่นบางๆของพวกเราก็ตาม. เลยต้องไปกันสองคันรถ ไปจอดที่ร้านขายSouvenir เดินเล่นใกล้ 6โมงครึ่งเราก็เริ่มเดินไปยังร้านอาหารซึ่งอยู่blockริมสุด.
มิน่าร้านไม่รับจอง แค่คนมายืนรอคิวก่อนร้านเปิดก็ไม่รู้ต้องรอรอบต่อไปมั้ย. พอร้านเปิดโชคดีว่าเราได้เข้าไป. อาหารไม่แพง. อร่อย
และเจ้าของร้านน่าร๊าก. ยิ้มแย้มแจ่มใส
เมนูแรก. KIng crab soup ซดร้อนๆกลบความหนาวได้เลย
grill Black Hake fish. ไม่ต้องสั่งเมนูแปลกๆเลย. grillๆ. นี่แหละ สั่งชื่อแปลกๆมาทีไร รสชาดก็แปลกๆ กินไม่ค่อยได้ทุกที
เราไม่รู้ตัวใหญ่แค่ไหนก็. 5 คนหนึ่งตัวมาก่อนเพราะดูจากที่แหวกว่ายอยู่หน้าร้านก็ตัวใหญ่อยู่. สรุปเราโซ้ยกันไปอย่างละสองที่ จุกถึงกล่องเสียงเลย
จำไม่ได้อะไร เพราะเราแพ้กุ้งสองเมนูนี้กุ้งปนเปื้อนเลไม่ได้จดจำ.
นี่เลยชื่อร้าน. ตำแหน่งแห่งหน. เบอร์โทร แต่ไม่ต้องโทร.เค้าไม่รับจอง. แถมร้านนี้รับ. US และให้แลก US. rate 1us=62 peso อีกต่างหาก. แล้วเราก็บอกให้ร้านช่วยโทรเรียกTaxi ให้เราสองคันเพื่อไปส่งโรงแรม. แม้ร้านจะยุ่งแต่เค้าก็ยินดีโทรให้. เราหลบในร้านสักแพร่บเพราะข้างนอกหนาว. สักพักก็มาตามว่ารถมาแล้ว. ประทับใจ Ushuaia ตั้งแต่วันแรก.....พรุ่งนี้เราจะลงเรือล่อง. Beagle Channel และไปเกาะMartillo island หรือ อีกชื่อ. Hammer island เพื่อไปดูวิถีชีวิตเจ้า Penguin น้อยๆ....วันนี้อิ่มท้อง นอนหลับฝันดีในวันแรกที่เมืองใต้สุดของโลก. Fun Del Mundo ( the end of the world )
[CR] Patagonia day 3
Day 2: Buenos Aires / northern part
Day 3: Buenos Aires - Ushuaia ( อูช-ชู-เอ-ย่า )
Day4: Ushuaia / Beagle channel navigation and walk with penguin at Martillo island
Day5: Ushuaia - El Calafate - El Chalten
Day6 : El Chalten ( Cerro Fitz Roy / Laguna de Los tres )
Day7: El Chalten to El calafate / Perito Moreno Glaciares
Day8:El calafate / Upsala - Spegazzini glaciares
Day9: From Argentina ( El Calafate ) to Chile ( Puerto Natales )
Day10: Puerto Natales : Balmaceda - serrano glaciares in Bernado O' Higgins park
Day11: Puerto Natales :/ Torres del Paine national park
Day12-13 : Puerto natales to Santiago ( Santiago-Valparaiso )
ตื่นมาอาบน้ำอาบท่า โรคจิตต้องอาบแม้ว่าอากาศจะเยือกแค่ไหน......ตีสี่รถมารับ ตื่นกันตีเท่าไหร่คิดดู 03:40ลงมาแจ้งทางreception โรงแรมไว้ว่าเราขอbreakfast boxเผื่อไปกินที่สนามบินไว้. ปรากฎว่าเค้าไปตามพ่อครัว พ่อครัวต้มกาแฟให้เรากะเอา ขนมปังเดนิช. ครัวซองท์ ร้อนๆมาให้เรากินก่อนไปแทน. ก็สะดวกดีไม่ต้องแบกไปสนามบิน กินร้อนๆพอแก้หนาวก่อนไป. สนามบินที่เราจะไปขึ้นเครื่องไม่ใช่ Ezeiza airportเหมือนตอนที่เราบินมาจากปารีสมาลงบัวโนส ไอเรส. แต่เป็น. Aeroparque Jorge Newbery เป็นสนามบินนานาชาติอีกแห่งทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือของบัวโนส ไอเรสไม่ใหญ่มาก เราจะบินไปเมือง Ushuaia. ซึ่งอยู่ท่างทิศใต้ของเกาะ Tierra del Fuego
เราใช้สายการบิน Aerolineas Argentinas ถึงจะเช็คอินprint. boarding passมาก่อน แต่ก็ต้องมารอคิวรวมๆกันระหว่างพวกที่รอเช็คอินกับพวกที่จะมา back drop แต่ไม่นานเราก็ได้loadกระเป๋า. สายนี้ซื้อกระเป๋าได้ใบละ15กิโล พวกเราซื้อกัน15กิโลสองใบ กระจายของจากกระเป๋าใหญ่ไปกระเป๋าcabin sizeแล้วload ไปทั้งสองใบ. ใช้เวลาในการบิน 3 ชม.35 นาทีมีเสริฟน้ำกับsnack bar ตอนเครื่องใกล้ลง
บนเครื่องตอนใกล้ถึงภูเขาตรงหน้าเป็นเทือกเขาAndes ฝั่งตรงข้ามเป็นซีกทางประเทศชิลี
สนามบินที่ Ushuaia บนเกาะ Tierra del Fuego ( เทียร่า เดอ ฟู เอ โก้ ) เล็กมาก ข้างขวาของสายพานเค้าให้เราscanกระเป๋าสะพายเราก่อนเข้ามาเอากระเป๋า แต่ไม่จริงจังมาก. ได้กระเป๋าก็ออกไป เจอคุณ Sabastian จากบริษัท Latitudushuaia มารับเรา และมีรถอีกคันมาเอากระเป๋าพวกเราไปโรงแรม. เพราะเราจะเริ่มทัวร์ที่แรกใน Tierra del Fuego national parkเลย
ขับผ่านบ้านเรือนต่างๆก่อนถึง national park
ลมแรงมาก คุณเซบาสเตียนเล่าระหว่างทางไป national parkว่าที่นี่อากาศเปลี่ยนเร็วทุก5-10 นาทีเดี๋ยวลมเดี๋ยวฝนเดี๋ยวแดด อุณหภูมิทั้งปีอยู่ราว10องศา แต่ถ้าหน้าหนาวจะ-0ถึง-5องศา. อาชีพหลักๆก็ท่องเที่ยว เที่ยวได้ทั้งปี จับปลา และส่งปลาไปที่ต่างๆของประเทศ มีบริษัทจากประเทศจีนมาตั้งโรงงานที่นี่ด้วยนะจ๊ะ. พี่จีนเราไปทุกที่
ระหว่างทางไป Tierra del Fuego national park เราปล่อยไก่บอกSebastianว่าที่นี่น่าจะนกเยอะเห็นรังนกเต็มไปหมด แต่ไม่ใช่แฮะ คำตอบกลายเป็นมันคือ parasiteของต้นไม้ชื่อ Micodendraciae
คุณเซบาสเตียนเอาแผนที่ให้ดูบอกว่าTierra del Fuegoครึ่งซ้ายมือเราเป็นของชิลี ครึ่งขวาเป็นของอาร์เจนติน่า ดูในแผนที่จะเห็นเส้นแบ่งกลางเกาะ
และตรงช่องเล็กๆใต้เส้นสีแดงเป็น Beagle channel ที่เราจะล่องเรือกันพรุ่งนี้. เกาะนี้ยังมีอีกหลายเมืองนอกจาก Ushuaia ( ปลายสุดของเส้นแดง ) แต่ไม่ได้เป็นจุดhigh lightเท่าเมืองนี้.
หลังจากซื้อตั๋วผ่านเข้า Tierra del Fuego National park จุดแรกก็ที่นี่ Beagle channel แบ่งระหว่างฟากอาร์เจนตินาที่เรายืนอยู่ กับภูเขาฟากตรงข้ามในประเทศชิลี เทือกเขาที่เห็นอยู่คือเทือกเขาAndesที่ทอดยาวจากประเทศVenezualaที่ทอดยาวทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ลงมาถึงUshuaia ถัดไปอีกจากชิลีก็เดินทางไป. Antarctica ได้ นั่งเรือจาก Ushuaiaใช้เวลา2วัน แต่ถ้าบินก็ไปบินจากPunta Arena. ในการเที่ยวantarctica ใช้เวลา5วันในการเที่ยว รวมนั่งเรือไปกลับก็ควรมีอีก10วันเพื่อถึงantarctica เราไม่มีเวลาขนาดนั้นลำพังไม่ไปทริปนี้ก็ใช้เวลาจากบ้านมา19วันเต็มๆ ก็ได้แต่ทำใจ.
ที่เกาะนี้มีคนเคยอาศัยอยู่ 10,000กว่าปีมาแล้ว ชนเผ่าแรกๆที่อยู่คือพวก Yamana พวกนี้ล่าสิงโตทะเลไว้กินแล้วก็เอาไขมันมันทาตัว
ชนเผ่าพวกนี้ค่อยๆหายไปเนื่องจากโรคระบาดและพวกยุโรปที่เข้ามาในเกาะ
มีtrailสั้นๆไม่โหดให้เดินลัดเลาะดูทะเล ดูต้นไม้ ดอกไม้ป่าตามทางหลายtrailในnational parkนี้ . อันนี้เรียก. Langas เป็นพืชที่ขึ้นตามต้นไม้ในที่ที่มีอากาศดี. บริสุทธิ์มากๆ. สูดเข้าไปพี่น้องหาไม่ได้บ้านเรา....
รวมทั้งต้นไม้ที่แห้งตายจำนวนมาก เป็นฝีมือของตัวบีเว่อร์ที่ชาวอังกฤษเคยเดินทางและเอามาทำธุรกิจที่นี่. พอเลิกทำก็ไม่เอากลับมันเลยแพร่พันธุ์
มากมาย. ต้นไม้ที่นี่รากค่อนข้างอยู่ตื้นๆไม่เกิน 50ซม. มันเลยล้มง่ายจากลมพัดแรงๆและจากถูกตัวบีเว่อร์แทะราก.
บางแห่งก็มีกิจกรรมพายเรือKayak. canoe Iglooที่เห็นไว้ให้คนที่ทำกิจกรรมเหล่านี้หลบพักริมน้ำ
หลังจากแวะทานข้าวกล่อง ทีแรกเรากะหาที่สวยๆนั่งปิกนิก. แต่ลงรถปุ๊บฝนกระหน่ำเลยต้องหาที่ใหม่นั่งทานกัน. จากนั้นก็ขับไปดูจุดสุดท้ายที่ถนนต้นทางจาก Alaska มาสิ้นสุดที่นี่ Bahia Lapatia เป็นอันสิ้นสุดทัวร์วันนี้. คุณเซบาสเตียนนัดมารับเราพรุ่งนี้ 9โมงเช้า ก่อนส่งโรงแรมเราบอกให้ช่วยขับรถวนในเมืองและแนะนำร้านอาหารที่อร่อยๆ ให้เรา
พอเข้าเขตตัวเมืองเราเห็นป้ายชื่อเมืองริมทะเลบวกกับฝนเริ่มซา. เลยขอแวะถ่ายภาพหมู่กับป้ายนิดนึง. จากนั้นก็พาเราไปส่งโรงแรม จากร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกในเมืองถ้าจะเดินแล้วเกิดฝนตกก็ไกลอยู่ เลยกะว่าให้รร.เรียกTaxiมาส่งในเมืองดีกว่า แล้วเราก็เดินเล่นกันก่อนไปร้านอาหาร
ระหว่างรอสมาชิกอันนี้ก็เป็นเก้าอี้นั่งรอหน้าLobby ทิวทัศน์แจ่มมาก. อ้อ โรงแรมเราชื่อ Las Lengus อยู่บนเนินเขานิดๆ ห้องเราจะอยู่ชั้นต่ำลงไปจาก lobby
มีหลากหลายมุมดูกันไม่เบื่อ
เนื่องจากร้านอาหารที่จะไป คุณเซบาสเตียนแนะนำ. เพื่อนที่เคยมาเมื่อพฤศจิกายน ก็แนะนำเป็นร้านเดียวกัน เราเลยให้โรงแรมช่วยโทรจองให้ receptionโทรมาบอกร้านไม่รับจองแต่เปิดตอน1ทุ่ม พวกเราเลยนัดให้เรียกtaxi มารับพวกเราตอน5โมงครึ่ง. taxiที่นี่หัวเด็ดตีนขาดก็ไม่ให้เรานั่งเบียดห้าคนในรถ แม้จะเห็นหุ่นบางๆของพวกเราก็ตาม. เลยต้องไปกันสองคันรถ ไปจอดที่ร้านขายSouvenir เดินเล่นใกล้ 6โมงครึ่งเราก็เริ่มเดินไปยังร้านอาหารซึ่งอยู่blockริมสุด.
มิน่าร้านไม่รับจอง แค่คนมายืนรอคิวก่อนร้านเปิดก็ไม่รู้ต้องรอรอบต่อไปมั้ย. พอร้านเปิดโชคดีว่าเราได้เข้าไป. อาหารไม่แพง. อร่อย
และเจ้าของร้านน่าร๊าก. ยิ้มแย้มแจ่มใส
เมนูแรก. KIng crab soup ซดร้อนๆกลบความหนาวได้เลย
grill Black Hake fish. ไม่ต้องสั่งเมนูแปลกๆเลย. grillๆ. นี่แหละ สั่งชื่อแปลกๆมาทีไร รสชาดก็แปลกๆ กินไม่ค่อยได้ทุกที
เราไม่รู้ตัวใหญ่แค่ไหนก็. 5 คนหนึ่งตัวมาก่อนเพราะดูจากที่แหวกว่ายอยู่หน้าร้านก็ตัวใหญ่อยู่. สรุปเราโซ้ยกันไปอย่างละสองที่ จุกถึงกล่องเสียงเลย
จำไม่ได้อะไร เพราะเราแพ้กุ้งสองเมนูนี้กุ้งปนเปื้อนเลไม่ได้จดจำ.
นี่เลยชื่อร้าน. ตำแหน่งแห่งหน. เบอร์โทร แต่ไม่ต้องโทร.เค้าไม่รับจอง. แถมร้านนี้รับ. US และให้แลก US. rate 1us=62 peso อีกต่างหาก. แล้วเราก็บอกให้ร้านช่วยโทรเรียกTaxi ให้เราสองคันเพื่อไปส่งโรงแรม. แม้ร้านจะยุ่งแต่เค้าก็ยินดีโทรให้. เราหลบในร้านสักแพร่บเพราะข้างนอกหนาว. สักพักก็มาตามว่ารถมาแล้ว. ประทับใจ Ushuaia ตั้งแต่วันแรก.....พรุ่งนี้เราจะลงเรือล่อง. Beagle Channel และไปเกาะMartillo island หรือ อีกชื่อ. Hammer island เพื่อไปดูวิถีชีวิตเจ้า Penguin น้อยๆ....วันนี้อิ่มท้อง นอนหลับฝันดีในวันแรกที่เมืองใต้สุดของโลก. Fun Del Mundo ( the end of the world )
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้