Day1:Buenos Aires / Southern part
Day2: Buenos Aires / Northern part
Day3: BA to Ushuaia / Tierra del Fuego national park
Day4: Ushuaia / Beagle channel navigation and walk with penguin at Martillo island
Day5: Ushuaia - El Calafate - El Chalten
Day6 : El Chalten ( Cerro Fitz Roy / Laguna de Los tres )
Day7: El Chalten to El calafate / Perito Moreno Glaciares
Day8:El calafate / Upsala - Spegazzini glaciares
Day9: From Argentina (El Calafate) to Chile ( Puerto Natales )
Day10: Puerto Natales : Balmaceda - serrano glaciares in Bernado O' Higgins park
Day11: Puerto Natales :/ Torres del Paine national park
Day12-13 : Puerto natales to Santiago ( Santiago-Valparaiso )
       วันนี้เราต้องอำลาประเทศอาร์เจนตินาแล้ว. หลงรักประเทศนี้เลยมีหลากหลายบรรยากาศในการท่องเที่ยวจริงๆ. ผู้คนก็น่ารัก ค่าครองชีพไม่แพง ข้อสำคัญถ้ามาอย่าลืมทาน steak argentina เนื้อที่นุ่ม ไม่สาบ อร่อยจริงๆ. ส่วนของฝากเราได้แต่ ถ้วยชา Matteมาเป็นของฝากกับตุ๊กตาไม้ชนเผ่าดั้งดิมของที่นี่
 
วันนี้เราต้องไปขึ้นรถบัสเที่ยว7.30. เพราะฉะนั้นรถจะมารับเราประมาณ6:30-6:45 เราเจรจากับทางโรงแรมว่าเปิดเร็วกว่า6.30เพื่อให้เราได้ทานอะไรตามสิทธิ์ซักนิด เพราะเราต้องเดินทางกันอีก 5ชม. ทางโรงแรมก็ใจดี อนุญาตและเตรียมทุกสิ่งอย่างพร้อมให้เราได้ทานกัน.  หลังจากรถมาส่งเราที่คิวรถแล้วก็เอา voucherกลุ่มเราไปให้เจ้าหน้าที่. เราต้องเอาpassportจนท.กรอกข้อมูลบางอย่างและจ่ายค่า International tax อะไรซักอย่างอีกคนละ5 Pesoจากนั้นก็ได้ตั๋วไปขึ้นรถ โชคดีที่เรามาถึงเร็วเป็นกลุ่มแรก เจ้าหน้าที่keyช้ามาก. 
 
เราได้นั่งกันที่ชั้นล่าง หน้าห้องน้ำ โชดีไม่ต้องปีนปันไดและลงรถสะดวกมาก. และเนื่องจากนั่งหน้าห้องน้ำ. กลิ่นไม่มี แต่มีหน้าที่สงเคราะห์คนที่จะมาเข้า คอยบอกว่าห้องน้ำมีคนใช้อยู่ เพราะไม่มีป้าย  occupied หรือ vacancy อย่างในบนเครื่องบินบอก. อีกอย่างเรากลัวถ้าเกิดข้างใน lockไม่ดีแล้ว คนจะเข้าดึงประตูแรงๆ  เราคงได้ดูseries rate R rate X ไปตลอดทางแน่
 
นั่งดูวิวกันเพลินๆ. เราสงสัยถามagencyเราว่าเราออกตั้ง7:30 ใช้เวลา 5ชม. ไปถึงก็เที่ยง บ่ายโมง ทำไมออกช้ากว่านี้ไม่ได้ ได้คำตอบว่ารอบถัดไป ห้าโมงเย็น และเราคงถึงราวเที่ยงคืน  เราเลยสงบปากสงบคำ ก็จริงนะอยู่ที่รร.ในEl calafateก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะdown townต้องนั่งรถไปอีก
น    
พักใหญ่ๆ นั่งสบายๆเพราะที่นั่งค่อนข้างกว้าง มีที่พักเท้ากว้างขวาง เราก็ถึงด่านฝั่งอาร์เจนตินา รอในรัถพักใหญ่คนขับก็มาบอกให้เราลงไป stampข้ามแดน. เพราะถึงคิวคันรถเรา 
 
หลังจากผ่านด่านอาร์เจนตินาพักใหญ่  พอรถจอดก็รอสัญญาณจากคนรถให้เราลง. ตอนนี้เราต้องกรอกใบผ่านด่าน กรอกรายละเอียดชื่อ เสียงเรียงนาม คนขับก็บอกว่าข้อ6.  border name ให้กรอก. Rio don Guillermo.  และเอารูปสิ่งของต้องห้ามไม่ให้เอาข้ามแดนไปมาให้ดู ประเภทเนื้อ ผลไม้ อะไรประมาณนั้น เป็นอันเข้าใจรอเวลาคนขับรถก็ให้เราลงไป. ไปถึงดูท่าทางตรวจเข้มกว่าฝั่งอาร์เจติน่า. เข้าคิวstamp แล้วได้ใบเล็กๆมาหนึ่งใบ แล้วก็เดินไปscanเป้ที่เราต้องเอาลงจากรถมาเอกซเรย์ จากนั้นเป็นอันเสร็จพิธี
 
กระดาษแผ่นเล็กๆที่ตม.ชิลีให้มา สำคัญมากต้องเก็บให้ดี. เพราะเวลาเราเช็คอินโรงแรมในชิลีเค้าขอใบ PDI นี้ทุกราย และตอนจะบินออกนอกประเทศต้องเอาใบนี้ให้immigration ด้วย  ทีแรกเราก็จุกๆเข้าไปในกระเป๋าไม่ได้สนใจ. เพื่อนเราวันที่ล่องเรือเอาใบนี้ออกมาเขียนอะไรเล่น. จนท.เรือเดินมาบอกเลยว่าใบนี้สำคัญมากอย่าเอามาเขียนเล่น. พวกเราเลยตะหนักถึงความสำคัญของมันทันที เลยขอเอารูปมาให้ดูกัน เผื่อใครไปจะได้เก็บไว้
 
พอมาถึงโรงแรมซึ่งเราจะพักที่นี่กันสามคืน โรงแรมชื่อSaltos del Paines ไม่ใหญ่Staff พูดอังกฤษไม่ได้ แต่ยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจช่วยเหลือ เราเก็บข้าวของแล้วก็กะว่าจะไปแลกตังค์กัน ฝนเริ่มตกเดินตากฝนไปถามแต่ละร้าน. ไม่พูดอังกฤษกันเลย. กว่าจะเจอร้านเล็กrateที่นี่ไม่แตกต่าง 1 USเท่ากับ 760Peso. หลังจากได้เงินก็ไปซื้อsim กัน. เพราะ sim2Fly ที่ซื้อมาจากกทม.ไม่สามารถใช้ที่ชิลีได้. จากนั้นก็ขอไปทานอาหารกันก่อน. เดินมาเจอร้านนึงชื่อ  Angelina restaurant มีสองส่วน ส่วนนึงเป็น bakery.    Calafate muffin อร่อย เราเลยซื้อตุนไว้เผื่อทานในเรือพรุ่งนี้. เพราะเราจะทานอาหารเที่ยงกันเมื่อจบโปรแกรมประมาณบ่ายสองคิดว่าน่าจะหิว.  หลังจากชิมเบเกอรรี่พอหอมปากหอมคอ. เราก็เดินทะลุอีกฟากมาโซนร้านอาหาร. จากนั้นก็enjoy eating ก่อนที่จะไปเดินย่อย. shoppingกันในตัวเมือง เพราะมีเวลาเหลือเฟือมาก
 
King crab salad

ของที่นี่ไม่แพง ได้รองเท้าสนนราคาแค่ 2000กว่าบาท ของฝากก็ราคาไม่สูงหลังจาก shopping แล้วอากาศเริ่มเย็นเราก็เดินกลับโรงแรม เตรียมเที่ยวในวันพรุ่งนี้