ขอแยกเป็นพาร์ทที่แม่เล่าให้ฟัง และพาร์ทที่เราจำความได้เองนะคะ
ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ
พศ.2534 (แม่เล่าให้ฟัง)
แม่เราถูกพ่อแท้ ๆ เราทิ้งไป มีลูกด้วยกัน 2 คน
ตอนนั้นเรา 2 ขวบ น้องสาวเราเพิ่งจะเริ่มคลาน
(พ่อกับแม่เราไม่ได้จดทะเบียนสมรส)
จนแม่เราต้องเอาเราไปฝากไว้บ้านคุณยายที่สมุทรปราการ เอาน้องสาวเราไปฝากไว้ที่บ้านยายทวด อ.บึงกาฬ จังหวัดหนองคาย (ตอนนี้เป็น จังหวัดบึงกาฬ)
เพื่อที่แม่เราจะได้เริ่มทำงานใหม่หาเงินดูแลลูก
พศ.2535 พอเราเริ่มอายุ3ขวบ แม่ก็พบรักใหม่ในที่ทำงาน เป็นโรงงานเกี่ยวกับอาหารสด
เขาอายุน้อยกว่าแม่ 3 ปี ตอนนั้นก็ตกลงปลงใจแต่งงาน
กัน จากนั้นเราก็เรียกเขาว่าพ่อเป็นต้นมา
พศ.2538 (เราอยู่ในเหตุการณ์)
แม่กับพ่อเลี้ยงก็มีน้องด้วยกันอีก 1 คน เป็นน้องชาย เอาไปฝากย่าเลี้ยงที่จังหวัดสกลนคร
พศ.2542 เราต้องขึ้น ป.4 พ่อเลี้ยงกับแม่ก็ย้ายไปทำงานก่อสร้างในวัดย่านพระราม3 มีแคมป์คนงานในวัดพ่อเลี้ยงกับแม่จึงรับลูกทั้ง3คนไปอยู่ที่แคมป์คนงานในวัดด้วย ตอนนั้นเราก็ยังเด็กค่ะ ทำหมดทุกอย่างเลย งานบ้าน ไปเอากับข้าวหลังพระฉันเพล เตรียมรอพ่อกับแม่กลับมาบ้าน พ่อเลี้ยงในความรู้สึกเราตอนนั้นคือเขาเป็นคนดีมาก ไม่ดุ ไม่ตี แถมปกป้องเราด้วย ตอนเราโดนเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน เขาก็บุกเข้าไปเอาเรื่องถึงในโรงเรียน คือชีวิตครบครัวค่อนข้างเติมเต็มถึงจะจนก็เถอะ จนเราจบ ป.6 ด้วยความที่ยายคิดถึงยายจึงมาขอรับเราไปอยู่ด้วย เราก็เต็มใจไป เพราะยายใจดีตามใจเรามาก
พศ.2545 (แม่เล่าให้ฟัง)
ตอนนั้นงานก่อสร้างที่วัดเสร็จหมดแล้ว พ่อเลี้ยงกับแม่และน้องอีกสองคนก็ขยับขยาย ไปอยู่มหาชัย
พ่อเลี้ยงทำงานโรงไม้เฟอร์นิเจอร์ แม่เราทำขนมถ้วยขาย น้องสาวเราขึ้น ป.6 เรียนได้เทอมเดียว
พ่อก็สมัครได้เป็น นักการภารโรง(ลูกจ้างประจำ กทม)
ก็พากันย้ายไปอยู่บ้านพักในโรงเรียนแถววัดที่ดราม่าเรื่องเสียงระฆัง ตอนนั้นแม่บอกว่าเริ่มเห็นอาการแปลกๆของพ่อเลี้ยง กลางคืนชอบขึ้นไปบนห้องที่น้องสาวนอนกับน้องชาย พอแม่ถามก็ตอบมาแค่ว่าไปห่มผ้าให้ลูก
แม่เราเริ่มรู้แต่อารมณ์ยังไม่ยอมรับความจริง
ประมาณว่ารักเขา เขาเป็นคนดี มันบังตา บังความรู้สึกไปหมด
พศ.2547 พ่อเลี้ยงกับแม่จดทะเบียนสมรส พ่อเลี้ยงก็ได้บรรจุแล้วได้ย้ายโรงเรียนแต่ไม่ไกลทางที่เดิมมากตอนนั้นแม่ก็เริ่มมีอาชีพขายลูกชิ้นในตลาด พ่อเลี้ยงขยันมากวันหยุดก็ใช้วิชาจากการเคยทำก่อสร้างรับจ๊อบต่อเติมบ้านครูเป็นรายได้เสริมครอบครัวสงบสุขดี ที่บ้านเริ่มมีเงินเก็บมากขึ้น ตัวเราเองก็ไปหาบ้างมีความสุขกันไป
พศ.2550 จนน้องสาวเราขึ้น ม.5 ความบรรลัยในครอบครัวเริ่มประทุขึ้นมาหน่อยๆ แม่เราเห็นพ่อเลี้ยง คร่อมน้องสาวในมุ้ง แม่เราเล่าว่าเหตุการณ์ตอนนั้นเหมือนน้องสาวจะสมยอม พ่อเลี้ยงก็เริ่มเปย์น้องสาวเรามากขึ้น ขโมยตังแม่ไปซื้อโทรศัพท์มือถือให้ ไปรับไปส่ง ตอนนั้นน้องสาวเราทำงานพาร์ทไทม์เซเว่น พากันนัดไปกินข้าวสองคน หนักขึ้นพ่อกับแม่และน้องสาวก็พากันทะเลาะมีปัญหากันบ่อยมากขึ้น จนน้องสาวเราหนีออกจากบ้านไปมีสามีไม่ติดต่อกลับมาหาแม่อีกเลยจนถึงตอนนี้ หลังจากน้องสาวหนีไป พ่อกับแม่ก็ใช้ชีวิตคู่กันปกติ พ่อเลี้ยงเริ่มหาเศษ หาเลยนอกบ้าน แม่ก็รู้ แต่ก็ยังไม่ยอมรับความจริง ถึงขึ้นมีสัมพันธ์กับลูกสะใภ้ของภารโรงอีกคน แม่กับพ่อก็แค่ทะเลาะกัน สุดท้ายก็ดีกันเหมือนเดิม
จนปี 2558 โดยประมาณ (เราอยู่ในเหตุการณ์)
เรากลับมายู่กับแม่เนื่องจากปัญหาส่วนตัวเราเอง
และน้องชายก็ติดทหาร ตอนนั้นเราทำงานแล้ว แม่เราเป็น แม่บ้าน ในห้องแล็ป พ่อเลี้ยงก็เหมือนเดิม รับจ๊อบไปด้วย พ่อกับแม่มีเงินเก็บค่อนข้างเยอะ 1-3 แสนได้
พ่อกับแม่ก็กลับไปซื้อที่ที่สกลนคร เกือบๆ 2ไร่ ซื้อเป็นชื่อพ่อเลี้ยง แล้วก็มีส่วนที่เป็นที่นาของปู่แบ่งให้ลูก ๆ 55 คน คนละ 1 ไร่ พ่อเลี้ยงก็ขอซื้อต่อจากพี่ๆตัวเอง 3ไร่
จ่ายเงินเรียบร้อย แต่ที่ผืนนั้นยังเป็นชื่อของปู่ค่ะ
พศ.2559 พ่อกับแม่ก็ตกลงกันกลับไปปลูกบ้านที่ สกลนคร พ่อก็ปลูกไว้หลังเล็กๆ แล้วตกลงกับแม่ให้แม่กลับมาอยู่ทำสวนดอกขจร ดูแลปู่กับย่าด้วย แม่เราก็ตกลง หลังจากแม่กลับมาอยู่สกลนคร พ่อเลี้ยงเราก็กลายร่าง เริ่มมีกิ๊ก 3คน ขอใช้ A/B/C แทนกิ๊กของพ่อเลี้ยงนะคะ เราไปขายของช่วยน้าแถวสาย3
ไม่รู้บังเอิญหรือตั้งใจนะคะ เขานัดเจอกิ๊กA หน้าร้านของน้าเรา น้าเรา กะแฟนของน้าเราก็เห็น นั่งกอดกัน ตอนนั้นเราเลือกที่จะไม่สนใจเพราะกลัวครอบครัวมีปัญหา
แถมยัง Video call กับกิ๊กB ให้เราดูด้วย แนะนำให้เรารู้จักไปอีก ส่วนกิ๊กC เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียนที่พ่อเลี้ยงเราทำงาน สืบทราบมาว่าเขานัดกันเอามันส์เฉย ๆ เรื่องมันเริ่มจะพีคตรงนี้ เมื่อพ่อเลี้ยงกลับไปเยี่ยมแม่ แล้วกิ๊กA+B โทรหาพ่อ จนแม่จับได้
เพราะ A บอกว่าขอผัวแม่นะ ส่วน B พ่ออ้างว่าเป็นเพื่อนหมู่บ้านข้างๆสมัยเด็ก หลังจากนั้น B ก็เริ่มติดต่อเข้าหาแม่เรา ยุยงให้แม่เราเลิกกะพ่อเลี้ยง อ้างสาระพัดว่าพ่อเลี้ยงเราแย่อย่างนั้นอย่างนี้ พยายามพูดให้แม่เราเลิกให้ได้ "อย่าไปสนใจผู้ชายเลวๆแบบนั้นเลยพี่"
ซึ่งแม่เราก็หัวอ่อน เพราะนัง A โทรมาขอผัวตัวเอง
แม่เลยโฟกัสที่นัง A ไม่ได้ระแวง B เลย จนผัวนัง A จับได้ว่านัง A เล่นชู้กับพ่อเลี้ยงเรา พ่อเลี้ยงเราเลยตัดขาดนัง A หลังจากนั้น พ่อเลี้ยงก็ทำตัวแปลกไป ไม่สนใจ แท่อีกเลย จนแม่ทนไม่ไหวเลยทิ้งทุกอย่างกลับมาบ้านพักที่ กทม จึงมาสืบสาบว่าคนที่พ่อเลี้ยงพามานอนกันบนอาคารเรียนคือ นังB แม่กะพ่อเริ้มทะเลาะหนักขึ้นเรื่อยๆ
พ่อเริ่มลงไม้ลงมือกับแม่ตอนเราไม่อยู่ ไปทำงาน ตอนเราอยู่เขาก้อปกติ มีเหตุการณ์นึงที่เราเห็นกับตาคือ เราตื่นมา เห็นพ่อกำลังตบหน้าแม่อยู่เราเลยไปผลักเขาออก
พ่อเริ่มกดดันแม่ไม่จ่ายค่าข้าวให้แม่ ไม่เข้าบ้าน ทุบตี จนแม่ต้องหนีออกไปอยู่กับเพื่อน พอแม่ไม่อยู่เราก็ไม่กล้าอยู่ต่อจึงย้ายของออกมาเช่าห้องอยู่ เราจึงไปรับแม่มาอยู่ที่ห้องเช่าด้วย ตอนนั้นแม่รู้สึกว่าอยากจะอย่าจึงพยายามโทรไปต่อรองพ่อเลี้ยงว่าให้โอนที่บ้านให้แม่ เพราะพ่อก็ได้ส่วนที่ปู่แบ่งให้กับที่ซื้อจากพี่ ๆ เขามาอีก
แต่ก็ตกลงกันไม่เคยได้ จนพ่อเลี้ยงเคยโทรมาต่อรองว่าให้ออกไปเจอที่เขต เพื่ออย่ากัน แล้วจะให้เงิน 5 หมื่น
เราเตือนแม่นะ ว่าไม่ไปนะแม่ แต่แม่ก็ไปเวลาเราไปทำงาน ผลสุดท้ายกลายเป็นไปให้เขาซ้อมกลับมา ไม่ได้อย่า ไม่ได้เงินสักบาท เราก็หาทางให้แม่ฟ้องอย่า จ้างนักสืบ หาทนาย จ่ายค่าทนายไปได้ครึ่งเดียว เราก็มีปัญหาตกงานค่ะ ตกงานมา 6 เดือนแล้ว ตอนนี้เรากลับแม่มีแค่เงินกินไปวัน ๆ ตัวแม่เองด้วยความกดดัน ด้วยความแค้น เขาก็อยากอย่า อยากแบ่งสินสมรสมาไว้ทำทุน ตอนนี้ออกมาจากตรงนั้นได้ 2ปีแล้ว
ล่าสุดที่รู้มา พ่อเลี้ยงปลอมลายเซนต์แม่เพื่อกู้สหกรณ์ กทม แล้วก็ยังอยู่กินกับนังB ทั้งๆที่ยังไม่อย่ากะแม่เรา
ตอนนี้เราอยากให้แม่หลุดพ้นจากตรงนี้
มีเพื่อนๆ ท่านใดมีคำแนะนำ หรือสามารถหานักสืบกับทนาย ที่สามารถช่วยทำเรื่องให้ก่อนไหมคะ กำลังเราคนเดียวก็ไม่ไหว หาได้ก็กินก็ใช้กัน
รบกวนด้วยนะคะ
พ่อเลี้ยงมีเมียน้อย คุณแม่อยากจะฟ้องร้องอย่าร้าง ทำยังไงดี
ขอเริ่มเรื่องเลยนะคะ
พศ.2534 (แม่เล่าให้ฟัง)
แม่เราถูกพ่อแท้ ๆ เราทิ้งไป มีลูกด้วยกัน 2 คน
ตอนนั้นเรา 2 ขวบ น้องสาวเราเพิ่งจะเริ่มคลาน
(พ่อกับแม่เราไม่ได้จดทะเบียนสมรส)
จนแม่เราต้องเอาเราไปฝากไว้บ้านคุณยายที่สมุทรปราการ เอาน้องสาวเราไปฝากไว้ที่บ้านยายทวด อ.บึงกาฬ จังหวัดหนองคาย (ตอนนี้เป็น จังหวัดบึงกาฬ)
เพื่อที่แม่เราจะได้เริ่มทำงานใหม่หาเงินดูแลลูก
พศ.2535 พอเราเริ่มอายุ3ขวบ แม่ก็พบรักใหม่ในที่ทำงาน เป็นโรงงานเกี่ยวกับอาหารสด
เขาอายุน้อยกว่าแม่ 3 ปี ตอนนั้นก็ตกลงปลงใจแต่งงาน
กัน จากนั้นเราก็เรียกเขาว่าพ่อเป็นต้นมา
พศ.2538 (เราอยู่ในเหตุการณ์)
แม่กับพ่อเลี้ยงก็มีน้องด้วยกันอีก 1 คน เป็นน้องชาย เอาไปฝากย่าเลี้ยงที่จังหวัดสกลนคร
พศ.2542 เราต้องขึ้น ป.4 พ่อเลี้ยงกับแม่ก็ย้ายไปทำงานก่อสร้างในวัดย่านพระราม3 มีแคมป์คนงานในวัดพ่อเลี้ยงกับแม่จึงรับลูกทั้ง3คนไปอยู่ที่แคมป์คนงานในวัดด้วย ตอนนั้นเราก็ยังเด็กค่ะ ทำหมดทุกอย่างเลย งานบ้าน ไปเอากับข้าวหลังพระฉันเพล เตรียมรอพ่อกับแม่กลับมาบ้าน พ่อเลี้ยงในความรู้สึกเราตอนนั้นคือเขาเป็นคนดีมาก ไม่ดุ ไม่ตี แถมปกป้องเราด้วย ตอนเราโดนเพื่อนแกล้งที่โรงเรียน เขาก็บุกเข้าไปเอาเรื่องถึงในโรงเรียน คือชีวิตครบครัวค่อนข้างเติมเต็มถึงจะจนก็เถอะ จนเราจบ ป.6 ด้วยความที่ยายคิดถึงยายจึงมาขอรับเราไปอยู่ด้วย เราก็เต็มใจไป เพราะยายใจดีตามใจเรามาก
พศ.2545 (แม่เล่าให้ฟัง)
ตอนนั้นงานก่อสร้างที่วัดเสร็จหมดแล้ว พ่อเลี้ยงกับแม่และน้องอีกสองคนก็ขยับขยาย ไปอยู่มหาชัย
พ่อเลี้ยงทำงานโรงไม้เฟอร์นิเจอร์ แม่เราทำขนมถ้วยขาย น้องสาวเราขึ้น ป.6 เรียนได้เทอมเดียว
พ่อก็สมัครได้เป็น นักการภารโรง(ลูกจ้างประจำ กทม)
ก็พากันย้ายไปอยู่บ้านพักในโรงเรียนแถววัดที่ดราม่าเรื่องเสียงระฆัง ตอนนั้นแม่บอกว่าเริ่มเห็นอาการแปลกๆของพ่อเลี้ยง กลางคืนชอบขึ้นไปบนห้องที่น้องสาวนอนกับน้องชาย พอแม่ถามก็ตอบมาแค่ว่าไปห่มผ้าให้ลูก
แม่เราเริ่มรู้แต่อารมณ์ยังไม่ยอมรับความจริง
ประมาณว่ารักเขา เขาเป็นคนดี มันบังตา บังความรู้สึกไปหมด
พศ.2547 พ่อเลี้ยงกับแม่จดทะเบียนสมรส พ่อเลี้ยงก็ได้บรรจุแล้วได้ย้ายโรงเรียนแต่ไม่ไกลทางที่เดิมมากตอนนั้นแม่ก็เริ่มมีอาชีพขายลูกชิ้นในตลาด พ่อเลี้ยงขยันมากวันหยุดก็ใช้วิชาจากการเคยทำก่อสร้างรับจ๊อบต่อเติมบ้านครูเป็นรายได้เสริมครอบครัวสงบสุขดี ที่บ้านเริ่มมีเงินเก็บมากขึ้น ตัวเราเองก็ไปหาบ้างมีความสุขกันไป
พศ.2550 จนน้องสาวเราขึ้น ม.5 ความบรรลัยในครอบครัวเริ่มประทุขึ้นมาหน่อยๆ แม่เราเห็นพ่อเลี้ยง คร่อมน้องสาวในมุ้ง แม่เราเล่าว่าเหตุการณ์ตอนนั้นเหมือนน้องสาวจะสมยอม พ่อเลี้ยงก็เริ่มเปย์น้องสาวเรามากขึ้น ขโมยตังแม่ไปซื้อโทรศัพท์มือถือให้ ไปรับไปส่ง ตอนนั้นน้องสาวเราทำงานพาร์ทไทม์เซเว่น พากันนัดไปกินข้าวสองคน หนักขึ้นพ่อกับแม่และน้องสาวก็พากันทะเลาะมีปัญหากันบ่อยมากขึ้น จนน้องสาวเราหนีออกจากบ้านไปมีสามีไม่ติดต่อกลับมาหาแม่อีกเลยจนถึงตอนนี้ หลังจากน้องสาวหนีไป พ่อกับแม่ก็ใช้ชีวิตคู่กันปกติ พ่อเลี้ยงเริ่มหาเศษ หาเลยนอกบ้าน แม่ก็รู้ แต่ก็ยังไม่ยอมรับความจริง ถึงขึ้นมีสัมพันธ์กับลูกสะใภ้ของภารโรงอีกคน แม่กับพ่อก็แค่ทะเลาะกัน สุดท้ายก็ดีกันเหมือนเดิม
จนปี 2558 โดยประมาณ (เราอยู่ในเหตุการณ์)
เรากลับมายู่กับแม่เนื่องจากปัญหาส่วนตัวเราเอง
และน้องชายก็ติดทหาร ตอนนั้นเราทำงานแล้ว แม่เราเป็น แม่บ้าน ในห้องแล็ป พ่อเลี้ยงก็เหมือนเดิม รับจ๊อบไปด้วย พ่อกับแม่มีเงินเก็บค่อนข้างเยอะ 1-3 แสนได้
พ่อกับแม่ก็กลับไปซื้อที่ที่สกลนคร เกือบๆ 2ไร่ ซื้อเป็นชื่อพ่อเลี้ยง แล้วก็มีส่วนที่เป็นที่นาของปู่แบ่งให้ลูก ๆ 55 คน คนละ 1 ไร่ พ่อเลี้ยงก็ขอซื้อต่อจากพี่ๆตัวเอง 3ไร่
จ่ายเงินเรียบร้อย แต่ที่ผืนนั้นยังเป็นชื่อของปู่ค่ะ
พศ.2559 พ่อกับแม่ก็ตกลงกันกลับไปปลูกบ้านที่ สกลนคร พ่อก็ปลูกไว้หลังเล็กๆ แล้วตกลงกับแม่ให้แม่กลับมาอยู่ทำสวนดอกขจร ดูแลปู่กับย่าด้วย แม่เราก็ตกลง หลังจากแม่กลับมาอยู่สกลนคร พ่อเลี้ยงเราก็กลายร่าง เริ่มมีกิ๊ก 3คน ขอใช้ A/B/C แทนกิ๊กของพ่อเลี้ยงนะคะ เราไปขายของช่วยน้าแถวสาย3
ไม่รู้บังเอิญหรือตั้งใจนะคะ เขานัดเจอกิ๊กA หน้าร้านของน้าเรา น้าเรา กะแฟนของน้าเราก็เห็น นั่งกอดกัน ตอนนั้นเราเลือกที่จะไม่สนใจเพราะกลัวครอบครัวมีปัญหา
แถมยัง Video call กับกิ๊กB ให้เราดูด้วย แนะนำให้เรารู้จักไปอีก ส่วนกิ๊กC เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียนที่พ่อเลี้ยงเราทำงาน สืบทราบมาว่าเขานัดกันเอามันส์เฉย ๆ เรื่องมันเริ่มจะพีคตรงนี้ เมื่อพ่อเลี้ยงกลับไปเยี่ยมแม่ แล้วกิ๊กA+B โทรหาพ่อ จนแม่จับได้
เพราะ A บอกว่าขอผัวแม่นะ ส่วน B พ่ออ้างว่าเป็นเพื่อนหมู่บ้านข้างๆสมัยเด็ก หลังจากนั้น B ก็เริ่มติดต่อเข้าหาแม่เรา ยุยงให้แม่เราเลิกกะพ่อเลี้ยง อ้างสาระพัดว่าพ่อเลี้ยงเราแย่อย่างนั้นอย่างนี้ พยายามพูดให้แม่เราเลิกให้ได้ "อย่าไปสนใจผู้ชายเลวๆแบบนั้นเลยพี่"
ซึ่งแม่เราก็หัวอ่อน เพราะนัง A โทรมาขอผัวตัวเอง
แม่เลยโฟกัสที่นัง A ไม่ได้ระแวง B เลย จนผัวนัง A จับได้ว่านัง A เล่นชู้กับพ่อเลี้ยงเรา พ่อเลี้ยงเราเลยตัดขาดนัง A หลังจากนั้น พ่อเลี้ยงก็ทำตัวแปลกไป ไม่สนใจ แท่อีกเลย จนแม่ทนไม่ไหวเลยทิ้งทุกอย่างกลับมาบ้านพักที่ กทม จึงมาสืบสาบว่าคนที่พ่อเลี้ยงพามานอนกันบนอาคารเรียนคือ นังB แม่กะพ่อเริ้มทะเลาะหนักขึ้นเรื่อยๆ
พ่อเริ่มลงไม้ลงมือกับแม่ตอนเราไม่อยู่ ไปทำงาน ตอนเราอยู่เขาก้อปกติ มีเหตุการณ์นึงที่เราเห็นกับตาคือ เราตื่นมา เห็นพ่อกำลังตบหน้าแม่อยู่เราเลยไปผลักเขาออก
พ่อเริ่มกดดันแม่ไม่จ่ายค่าข้าวให้แม่ ไม่เข้าบ้าน ทุบตี จนแม่ต้องหนีออกไปอยู่กับเพื่อน พอแม่ไม่อยู่เราก็ไม่กล้าอยู่ต่อจึงย้ายของออกมาเช่าห้องอยู่ เราจึงไปรับแม่มาอยู่ที่ห้องเช่าด้วย ตอนนั้นแม่รู้สึกว่าอยากจะอย่าจึงพยายามโทรไปต่อรองพ่อเลี้ยงว่าให้โอนที่บ้านให้แม่ เพราะพ่อก็ได้ส่วนที่ปู่แบ่งให้กับที่ซื้อจากพี่ ๆ เขามาอีก
แต่ก็ตกลงกันไม่เคยได้ จนพ่อเลี้ยงเคยโทรมาต่อรองว่าให้ออกไปเจอที่เขต เพื่ออย่ากัน แล้วจะให้เงิน 5 หมื่น
เราเตือนแม่นะ ว่าไม่ไปนะแม่ แต่แม่ก็ไปเวลาเราไปทำงาน ผลสุดท้ายกลายเป็นไปให้เขาซ้อมกลับมา ไม่ได้อย่า ไม่ได้เงินสักบาท เราก็หาทางให้แม่ฟ้องอย่า จ้างนักสืบ หาทนาย จ่ายค่าทนายไปได้ครึ่งเดียว เราก็มีปัญหาตกงานค่ะ ตกงานมา 6 เดือนแล้ว ตอนนี้เรากลับแม่มีแค่เงินกินไปวัน ๆ ตัวแม่เองด้วยความกดดัน ด้วยความแค้น เขาก็อยากอย่า อยากแบ่งสินสมรสมาไว้ทำทุน ตอนนี้ออกมาจากตรงนั้นได้ 2ปีแล้ว
ล่าสุดที่รู้มา พ่อเลี้ยงปลอมลายเซนต์แม่เพื่อกู้สหกรณ์ กทม แล้วก็ยังอยู่กินกับนังB ทั้งๆที่ยังไม่อย่ากะแม่เรา
ตอนนี้เราอยากให้แม่หลุดพ้นจากตรงนี้
มีเพื่อนๆ ท่านใดมีคำแนะนำ หรือสามารถหานักสืบกับทนาย ที่สามารถช่วยทำเรื่องให้ก่อนไหมคะ กำลังเราคนเดียวก็ไม่ไหว หาได้ก็กินก็ใช้กัน
รบกวนด้วยนะคะ