สวัสดีค่ะ คือเราลองทำเเบบทดสอบโรคซึมเศร้า มันขึ้นมาซึมเศร้าระดับปานกลาง เลยไม่แน่ใจว่าควรพบจิตเเพทย์ไหม
อาการของเราคือ
- รู้สึกไร้แรงบันดาลใจ ไร้ความหวัง เคยเป็นเด็กเรียนเก่งมีเป้าหมายในชีวิตมาก่อนอยากทำอะไรต้องพยายามให้สำเร็จ แล้วเจออุปสรรคระหว่างทาง จนล้มแต่ก็ลุกขึ้นมาได้ทุกครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุดที่เจอเข้าอย่างจังจนต้องตัดสินใจเลี่ยงปัญหา เดินออกจากความฝันหาสิ่งที่ใกล้เคียงที่เรารักรองลงมาแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังปล่อยเป้าหมายเดิมไม่ขาด คือพยายามกับเป้าหมายใหม่แต่มันเหมือนมันล้า มันท้อ พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้ดี (เรากำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวเรียนต่อตปท.ค่ะ) จนตอนนี้รู้สึกเหมือนหลงทางไม่รู้จะไปทางไหนดี ขาดความมั่นใจในตัวเองแต่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง(แต่ไม่เคยหยุดฝึกฝนนะคะ แค่คิด เครียด แต่ก็พยายามทำต่อไป)
-ทำอะไรช้าค่ะ โดยเฉพาะเรื่องงาน ถ้าคุณภาพไม่ดีก็ไม่ปล่อยออกไป หรือบ้างครั้งไม่มีสมาธิคิดไม่ออกก็คืองานไม่เดินเลย และเหม่อลอยบ่อย
-ไม่อยากติดต่อ พูดคุยกับใคร คือดองแชท ใครชวนไปไหนไม่ไป จะอุดอู้อยู่ในบ้าน ปาร์ตี้ไม่ไป สังคมไม่เข้า คือเบื่อค่ะ เสียใจกับการเจอเพื่อนหักหลังมา จนไม่อยากไว้ใจใครอีกแล้ว เลยห่างจากทุกคน ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ชอบคิดว่า เราไม่ได้มาหวังอะไรจากเราหรอหรือ เดียวเขาก็เอาไปเล่าต่อ ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว เที่ยวคนเดียว กินคนเดียว เพราะรู้สึกไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องกดดันใคร หรือลำบากใคร เหมือนไม่อยากให้ใจใครแล้วรู้สึกแย่ หรือแคร์เขาจนเราเครียดเอง จนตอนนี้เหลือเพื่อนสนิทแค่คนเดียวที่กล้าพูดทุกอย่าง
-ร้องไห้บ่อย เครียดง่าย มีอะไรเข้ามานิดหน่อยคือเครียดแล้วค่ะ เช่น ทำงานแล้วผลงานแย่ 2-3 ครั้งติดทั้งที่พยายามเต็มที่ หรือ ใช้เงินที่บ้านจำนวนมากๆเพื่อเรียนต่อ(ที่บ้านฐานะปานกลางค่อนไปทางมีเงิน) ก็จะรู้สึกผิดมากๆ แม้กระทั่งมีคนมาชอบเเต่เราไม่ได้ชอบเราก็รู้สึกผิดมากๆจนร้องไห้ไปหลายครั้ง เหมือนทำร้ายจิตใจเขา เฉลี่ยแล้วร้องไห้อาทิตย์ละวันขั้นต่ำ
-รู้สึกโลกมันไม่น่าอยู่ไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่ คิดว่าจะอยู่ไปทำไม แต่ไม่คิดว่าอยากตายหรือต้องตายให้ได้ เพราะคิดว่าใครจะเลี้ยงดูพ่อแม่ยามท่านแก่
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นมาเกือบปีแล้วค่ะ ถึงแม้จะฮึบขึ้นมาได้ ตั้งเป้าหมาย คิดจะเปลี่ยนนั่นนี่ ก็ได้ช่วงสั้นๆ สุดท้ายก็กลับมารู้สึกแบบเดิมอีก แต่ไม่มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ กินไม่ได้นะคะ และไม่ได้บอกที่บ้านเพราะกลัวเขาผิดหวัง(เคยจะปรึกษาแล้วแต่ยิ่งท้อกว่าเดิมเลยไม่บอกดีกว่า)มีแค่เพื่อนสนิทเราคนเดียวที่รู้ แบบนี้เราควรจบแพทย์ไหม หรือหาทางแก้ด้วยตัวเองพอคะ
แบบนี้เข้าข่ายโรคซึมเศร้า ควรปรึกษาแพทย์ไหม
อาการของเราคือ
- รู้สึกไร้แรงบันดาลใจ ไร้ความหวัง เคยเป็นเด็กเรียนเก่งมีเป้าหมายในชีวิตมาก่อนอยากทำอะไรต้องพยายามให้สำเร็จ แล้วเจออุปสรรคระหว่างทาง จนล้มแต่ก็ลุกขึ้นมาได้ทุกครั้ง กระทั่งครั้งล่าสุดที่เจอเข้าอย่างจังจนต้องตัดสินใจเลี่ยงปัญหา เดินออกจากความฝันหาสิ่งที่ใกล้เคียงที่เรารักรองลงมาแทน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังปล่อยเป้าหมายเดิมไม่ขาด คือพยายามกับเป้าหมายใหม่แต่มันเหมือนมันล้า มันท้อ พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ได้ดี (เรากำลังอยู่ในช่วงเตรียมตัวเรียนต่อตปท.ค่ะ) จนตอนนี้รู้สึกเหมือนหลงทางไม่รู้จะไปทางไหนดี ขาดความมั่นใจในตัวเองแต่คิดว่าตัวเองไม่เก่ง(แต่ไม่เคยหยุดฝึกฝนนะคะ แค่คิด เครียด แต่ก็พยายามทำต่อไป)
-ทำอะไรช้าค่ะ โดยเฉพาะเรื่องงาน ถ้าคุณภาพไม่ดีก็ไม่ปล่อยออกไป หรือบ้างครั้งไม่มีสมาธิคิดไม่ออกก็คืองานไม่เดินเลย และเหม่อลอยบ่อย
-ไม่อยากติดต่อ พูดคุยกับใคร คือดองแชท ใครชวนไปไหนไม่ไป จะอุดอู้อยู่ในบ้าน ปาร์ตี้ไม่ไป สังคมไม่เข้า คือเบื่อค่ะ เสียใจกับการเจอเพื่อนหักหลังมา จนไม่อยากไว้ใจใครอีกแล้ว เลยห่างจากทุกคน ไม่ไว้ใจใครง่ายๆ ชอบคิดว่า เราไม่ได้มาหวังอะไรจากเราหรอหรือ เดียวเขาก็เอาไปเล่าต่อ ชอบไปไหนมาไหนคนเดียว เที่ยวคนเดียว กินคนเดียว เพราะรู้สึกไม่ต้องรอใคร ไม่ต้องกดดันใคร หรือลำบากใคร เหมือนไม่อยากให้ใจใครแล้วรู้สึกแย่ หรือแคร์เขาจนเราเครียดเอง จนตอนนี้เหลือเพื่อนสนิทแค่คนเดียวที่กล้าพูดทุกอย่าง
-ร้องไห้บ่อย เครียดง่าย มีอะไรเข้ามานิดหน่อยคือเครียดแล้วค่ะ เช่น ทำงานแล้วผลงานแย่ 2-3 ครั้งติดทั้งที่พยายามเต็มที่ หรือ ใช้เงินที่บ้านจำนวนมากๆเพื่อเรียนต่อ(ที่บ้านฐานะปานกลางค่อนไปทางมีเงิน) ก็จะรู้สึกผิดมากๆ แม้กระทั่งมีคนมาชอบเเต่เราไม่ได้ชอบเราก็รู้สึกผิดมากๆจนร้องไห้ไปหลายครั้ง เหมือนทำร้ายจิตใจเขา เฉลี่ยแล้วร้องไห้อาทิตย์ละวันขั้นต่ำ
-รู้สึกโลกมันไม่น่าอยู่ไม่ได้อยากมีชีวิตอยู่ คิดว่าจะอยู่ไปทำไม แต่ไม่คิดว่าอยากตายหรือต้องตายให้ได้ เพราะคิดว่าใครจะเลี้ยงดูพ่อแม่ยามท่านแก่
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เป็นมาเกือบปีแล้วค่ะ ถึงแม้จะฮึบขึ้นมาได้ ตั้งเป้าหมาย คิดจะเปลี่ยนนั่นนี่ ก็ได้ช่วงสั้นๆ สุดท้ายก็กลับมารู้สึกแบบเดิมอีก แต่ไม่มีปัญหาเรื่องนอนไม่หลับ กินไม่ได้นะคะ และไม่ได้บอกที่บ้านเพราะกลัวเขาผิดหวัง(เคยจะปรึกษาแล้วแต่ยิ่งท้อกว่าเดิมเลยไม่บอกดีกว่า)มีแค่เพื่อนสนิทเราคนเดียวที่รู้ แบบนี้เราควรจบแพทย์ไหม หรือหาทางแก้ด้วยตัวเองพอคะ