ขอเกริ่นก่อนว่า เรื่องเหมือนแต่งแต่มันคือเรื่องจริง
เมื่อประมาณ 10 ปีกว่า ที่แล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งจะทำแทงลูกตัวเอง ด้วยความเป็นวัยรุ่น ไม่อยากเก็บเด็กไว้เพราะไม่มีปัญญาเลี้ยง
เขาได้มาปรึกษา แม่ของดิฉัน แม่ดิฉันให้เก็บไว้และหาคนรับเลี้ยงดู ซึ่งคือเพื่อนของแม่ดิฉัน เนื่องจากเขาไม่สามารถมีลูกเองได้
เพื่อนของแม่ดิฉันได้รับเลี้ยงเด็ก และให้เงินผู้หญิงคนนั้นไปจำนวนหนึ่ง และพาเด็กไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัด
เด็กคนนี้น่ารักมาก ตอนนั้นฉันอายุประมาณ 10 ขวบ ได้เห็นตั้งแต่เขาคลอดจนส่งเด็กให้กับผู้รับเลี้ยง
ครอบครัวที่รับเลี้ยงค่อนข้างมีฐานะ เลี้ยงเด็กคนนี้อย่างตามใจมาตลอด ทรัพย์สมบัติก็พร้อมยกให้เด็กคนนี้
แต่เด็กไม่รู้ว่าตนเองเป็นลูกที่ถูกอุปถัมป์มา ตอนนี้เด็กคนนี้อยู่ ม.1 ค่อนข้างติดเพื่อน และไม่กลับบ้าน พ่อแม่ที่รับเลี้ยงก็เป็นห่วง
มีอยู่ครั้งหนึ่ง แม่ฉันเล่าให้ฟังว่า ครอบครัวที่รับเลี้ยง เคยพูดกับเด็กว่า รู้งี้ไม่เก็บมาเลี้ยงหรอก เด็กก็มาพูดกับแม่ฉันว่า แม่ก็มีการศึกษาทำไมพูดกับหนูแบบนี้
ทางครอบครัวที่รับเลี้ยง เครียดมาก ที่เด็กดื้อมาก ไม่เชื่อฟัง อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาตามใจตลอด และเด็กเริ่มโตถึงวัยอยากรู้อยากลอง เขามาปรึกษาแม่ของดิฉันว่า จะบอกความจริงเด็กดีไหม เผื่อเด็กจะเห็นใจและรู้สึกว่าตัวเองโชคดีบ้างที่มีขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวเด็กจะคิดลบ และกลายเป็นเด็กมีปัญหา ทางครอบครัวที่รับเลี้ยงถึงขนาดว่า ไม่ไหวแล้ว ถ้าพ่อแม่ที่แท้จริงอยากได้กลับไปก็จะให้เลย ไม่คิดอะไรแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ดื้อมากๆ
ทางเราและครอบครัวเห็นน้องเขามาตั้งแต่เป็นทารก เป็นห่วงน้องเหมือนกัน ถึงขนาดคิดว่า ถ้ามันสุดจริงๆ ป้าของดิฉันจะส่งเสียเอง แต่คงให้ไปอยู่ รร. ประจำทางใต้ แต่ตอนนี้ไม่ถึงขั้นนั้น
ตอนนี้ก็ได้แต่คิดว่าจะทำยังไง เด็กไม่ยอมรับสาย ตัดสายทิ้ง ไม่กลับบ้าน ไปกับเพื่อน เราก็คิดต่างๆนานๆ กลัวเพื่อนพาเสีย กลัวไปกับผู้ชาย จะบอกความจริงดีไหม เด็กจะเปิดใจไหม เด็กจะคิดยังไง สถานการณ์จะแย่กว่าเดิมไหม
เด็ก ม.1 ติดเพื่อน ไม่ยอมกลับบ้าน
เมื่อประมาณ 10 ปีกว่า ที่แล้ว มีผู้หญิงคนหนึ่งจะทำแทงลูกตัวเอง ด้วยความเป็นวัยรุ่น ไม่อยากเก็บเด็กไว้เพราะไม่มีปัญญาเลี้ยง
เขาได้มาปรึกษา แม่ของดิฉัน แม่ดิฉันให้เก็บไว้และหาคนรับเลี้ยงดู ซึ่งคือเพื่อนของแม่ดิฉัน เนื่องจากเขาไม่สามารถมีลูกเองได้
เพื่อนของแม่ดิฉันได้รับเลี้ยงเด็ก และให้เงินผู้หญิงคนนั้นไปจำนวนหนึ่ง และพาเด็กไปเลี้ยงที่ต่างจังหวัด
เด็กคนนี้น่ารักมาก ตอนนั้นฉันอายุประมาณ 10 ขวบ ได้เห็นตั้งแต่เขาคลอดจนส่งเด็กให้กับผู้รับเลี้ยง
ครอบครัวที่รับเลี้ยงค่อนข้างมีฐานะ เลี้ยงเด็กคนนี้อย่างตามใจมาตลอด ทรัพย์สมบัติก็พร้อมยกให้เด็กคนนี้
แต่เด็กไม่รู้ว่าตนเองเป็นลูกที่ถูกอุปถัมป์มา ตอนนี้เด็กคนนี้อยู่ ม.1 ค่อนข้างติดเพื่อน และไม่กลับบ้าน พ่อแม่ที่รับเลี้ยงก็เป็นห่วง
มีอยู่ครั้งหนึ่ง แม่ฉันเล่าให้ฟังว่า ครอบครัวที่รับเลี้ยง เคยพูดกับเด็กว่า รู้งี้ไม่เก็บมาเลี้ยงหรอก เด็กก็มาพูดกับแม่ฉันว่า แม่ก็มีการศึกษาทำไมพูดกับหนูแบบนี้
ทางครอบครัวที่รับเลี้ยง เครียดมาก ที่เด็กดื้อมาก ไม่เชื่อฟัง อาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาตามใจตลอด และเด็กเริ่มโตถึงวัยอยากรู้อยากลอง เขามาปรึกษาแม่ของดิฉันว่า จะบอกความจริงเด็กดีไหม เผื่อเด็กจะเห็นใจและรู้สึกว่าตัวเองโชคดีบ้างที่มีขนาดนี้ แต่อีกใจหนึ่งก็กลัวเด็กจะคิดลบ และกลายเป็นเด็กมีปัญหา ทางครอบครัวที่รับเลี้ยงถึงขนาดว่า ไม่ไหวแล้ว ถ้าพ่อแม่ที่แท้จริงอยากได้กลับไปก็จะให้เลย ไม่คิดอะไรแล้ว ไม่ไหวจริงๆ ดื้อมากๆ
ทางเราและครอบครัวเห็นน้องเขามาตั้งแต่เป็นทารก เป็นห่วงน้องเหมือนกัน ถึงขนาดคิดว่า ถ้ามันสุดจริงๆ ป้าของดิฉันจะส่งเสียเอง แต่คงให้ไปอยู่ รร. ประจำทางใต้ แต่ตอนนี้ไม่ถึงขั้นนั้น
ตอนนี้ก็ได้แต่คิดว่าจะทำยังไง เด็กไม่ยอมรับสาย ตัดสายทิ้ง ไม่กลับบ้าน ไปกับเพื่อน เราก็คิดต่างๆนานๆ กลัวเพื่อนพาเสีย กลัวไปกับผู้ชาย จะบอกความจริงดีไหม เด็กจะเปิดใจไหม เด็กจะคิดยังไง สถานการณ์จะแย่กว่าเดิมไหม