...สีซอให้แมวฟัง...

กระทู้คำถาม
เมื่อไม่นานมานี้ได้ดูคลิปสส. พรรคอนาคตใหม่ท่านหนึ่งอภิปรายเรื่องการจัดของบประมาณซื้อคอมพิวเตอร์เซิฟเวอร์และอื่นๆ ของแต่ละแผนกแต่ละกระทรวงแล้ว   เสียดายที่คนฟังบางส่วนซึ่งอาจจะเป็นส่วนใหญ่อาจจะไม่เข้าใจกระจ่าง     และถ้าเข้าใจกระจ่างก็จะเห็นว่าที่สส. ท่านนี้อภิปรายไปนั้น   เป็นผลประโยชน์มากมายต่อประเทศไทยทีเดียวในด้านเทคโนโลยี่และการประหยัดงบประมาณมหาศาลต่อปี

จับประเด็นการอภิปรายของสส. ท่านนั้นอย่างคร่าวๆ ทำให้รู้ว่าแต่ละหน่วยงานของภาครัฐมีการใช้งบซื้อเซิฟเวอร์และฐานเก็บข้อมูลทุกปี!!  ในราคาสูงด้วย    โดยทั่วๆ ไปการจัดซื้อเซิฟเวอร์มักจะทำทุกๆ 3-5 ปี   ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี   เพราะอายุการทำงานและบริษัทผู้ผลิตกำหนดมาว่าควรจะมีอายุการใช้งานอย่างน้อยๆ ก็ 5 ปี     บางแห่งในประเทศที่ผมอยู่เห็นมาเขาใช้เซิฟเวอร์ตัวเดิมมา 20 ปีก็มี    

ปัจจุบันนี้แค่เซิฟเวอร์ตัวเดียวเราสามารถสร้างเซิฟเวอร์เสมือน (virtualisation) ภายในตัวมันเองได้เป็นสิบๆ  ซึ่งเซิฟเวอร์เสมือนเหล่านี้ทำงานได้เหมือนเซิฟเวอร์จริงได้ 99.99%  ทำให้ประหยัดงบประมาณและค่าไฟฟ้าได้อย่างมหาศาล  จึงไม่มีความจำเป็นซื้อมาเป็นสิบๆ ตัว   ยกตัวอย่างเช่น ระบบเน็ตเวิร์กของพันทิปนี่ถือว่ายังไซส์เล็ก   ซึ่งใช้เซิฟเวอร์ตัวเดียวก็ได้อย่างสบายๆ  จากนั้นก็สร้างเซิฟเวอร์อื่นๆ ขึ้นในนั้น   แต่จริงๆ หรือโดยทฤษฏีก็ใช้สองตัวขึ้นไปเพื่อป้องกันตัวหนึ่งล่ม (Failover Cluster)  กระทรวงบางกระทรวง หรือหน่วยงานรัฐบางหน่วยอาจจะไม่ใหญ่เท่าระบบของพันทิปด้วยซ้ำ  แต่ใช้งบประมาณเยอะไปไหม???     

ที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือ  สส.ท่านนั้นอภิปรายต่อว่าพบระบบ cloud ยังไม่ได้ติดตั้งอย่างจริงจังเลย   ทำให้การสื่อสารระหว่างระบบเน็ตเวิร์คต่อเน็ตเวิร์คยังคงเป็นไปอย่างเอกเทศ    จึงไม่แปลกหรอกครับที่หน่วยงานแต่ละหน่วยงานยังคงสนุกสนานกับการใช้งบประมาณมาซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ มาไว้แผนกตน   ภาครัฐควรจะศึกษาเทคโนโลยี Cloud  ตามที่ส.ส ท่านนั้นแนะนำ    หากนำระบบ Cloud มาใช้   ภาครัฐจะประหยัดงบประมาณได้อย่างมากมาย     บริษัทที่ผมทำงานอยู่มีสาขาทั่วโลกและมีสตาฟ รวมทั้งหมดเกือบสองแสนเจ็ดหมื่นกว่าคน  เขาใช้ระบบ Cloud ในเรื่องฐานเก็บ/ติดต่อ/และเข้าถึงฐานข้อมูล   ซึ่งจะดีกว่าปล่อยให้แต่ละประเทศมีเน็ตเวิร์คเป็นของตัวเองเป็นอย่างมาก   

เมื่อหากรัฐบาลติดตั้งระบบ Cloud แล้ว    ก็สามารถแบ่งหรือจัดโควต้าพื้นที่ให้ทุกกระทรวง  ทบวง กรม หรือแม้แต่ละจังหวัดได้  ซึ่งพื้นที่ของแต่ละกระทรวงหรือจังหวัดสามารถโยงข้อมูลบางส่วนเข้ากันได้และง่ายกว่าปัจจุบันและบางส่วนก็สงวนเฉพาะกระทรวงนั้นๆ ก็ได้   ระบบCloud จะช่วยกันการเน็ตล่ม (down time) และการเข้าถึงข้อมูลอย่างต่อเนื่อง  ที่สำคัญจะประหยัดงบประมาณและค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่นค่าไฟ ค่าแอร์  ฯลฯ ได้อย่างมากมายมหาศาลเลยทีเดียว   ไม่ใช่เหมือนปัจจุบันที่ต่างคนต่างซื้ออุปกรณ์ของตัวเอง   การเข้าถึงข้อมูลจากต้นทางที่อยู่คนละแผนกกับปลายทางก็ตะกุกตะกัก   

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่