เป็นที่ทราบกันว่า เกาหลีนั้นมีวัฒนธรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีนและมองโกเลีย ก่อนหน้าสมัยโชซอนการแต่งกายจะคล้ายคลึงกับจีนอย่างมาก แต่ในสมัยโชซอน พ. ศ. 1935 ถึง 2453 มีการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมการแต่งกายที่ดูเป็นเอกลักษณ์มากขึ้น โดยทั้งหญิงและชายจะมีเสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในวาระต่างกัน เรียกว่าชุดฮันบก คำว่าฮันหมายถึงประเทศเกาหลี คำว่าบกหมายถึงเสื้อผ้าชุดสวมใส่ รวมกันแล้วคำว่าฮันบกหมายถึงเสื้อผ้าของชาวเกาหลี โดยผ้าที่นำมาใช้ตัดชุดฮันบกมีหลากหลายชนิด ได้แก่ผ้าป่าน ผ้าฝ้าย ผ้ามัสลิน ผ้าไหม ผ้าแพร โดยการเลือกชนิดของผ้าจะเลือกตามสภาพภูมิอากาศ
ในช่วงยุคอาณาจักรโชซอนเป็นจุดหักเหที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงฮันบก โดยในช่วงแรกชุดของพระราชินีจะยังไม่รูหรามาก และการแต่งกายจะดูคล้ายสมัยโครยอ ชายเสื้อชอโกรีจะทิ้งชายยาวลงมาถึงเขาด้านข้างแหวกถึงเอว ตัวเสื้อยาวได้มากสุดถึง 78 เซนติเมตร วัดจากไหล่ลงมา จนมาถึงสมัยพระเจ้าเซจงมหาราช กษัตริย์องค์ที่ 4 เสื้อของสตรีในราชสำนัก  ก็เริ่มมีชายสั้นขึ้นถึงระดับสะโพก
การแต่งกายของพระราชินีและเหล่าพระราชวงศ์ฝ่ายในของราชสำนัก งั้นจะดูหรูหราต่างจากชุดฮันบกทั่วไป โดยเฉพาะฉลองพระองค์ในงานพระราชพิธีต่างๆ โดยชุดทางการจะเรียกว่า ชุดทังอี ไม่ว่าจะเป็นพระราชวงศ์ขุนนางชนชั้นสูงทั้งหญิงและชาย หรือแม้แต่ชนชั้นกลาง ก็มักจะมีชุดทังอีเตรียมไว้เพื่อใช้ในงานพิธีการ โอกาสพิเศษต่างๆหรือในโอกาสได้เข้าเฝ้าพระราชวงศ์

ส่วนสิ่งที่ทำให้พระราชินีดูต่างจากเหล่าสนมและหญิงสูงศักดิ์อื่นๆ จะมีสัญลักษณ์โพ ติดอยู่ที่หน้าอกกลางหลังและไหล่ทั้งสองข้าง โดยเกิดในยุคสมัยพระเจ้าเซจงมหาราช ซึ่งพระราชินีโซฮอน เป็นคนริเริ่มใช้พระองค์แรก

แต่ในเวลาปกติ ชุดลำลองของราชสำนัก ก็จะไม่ต่างอะไรกับชาวบ้านทั่วไป เพียงแต่เนื้อผ้าจะดีกว่า และการเย็บปักจะวิจิตรมากกว่า