เรามีเรื่องอยากจะเล่าให้เพื่อนๆฟังคะ เป็นอุทาหรณ์ให้ทำดีแก่กันในทุกๆวันที่อยู่ด้วยกัน
ยายเราเป็นโรคไต ต้องฟกไตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ท่านฟอกไตคือวันที่ 29 ธ.ค. 2562 ท่านได้ช๊อคอยู่บนเตียงที่ฟอกไต ทางห้องฟอกไตได้ส่งเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ก็ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา ซึ่งโดยปกติเนี่ย ยายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตมาได้ 10 กว่าปีแล้ว โดยจะมีตาอยู่ข้างๆเสมอไม่ว่าจะไปเฝ้าที่ห้องฟอกไต หรือทำอะไรก็ตาม ทั้งตาและยายรักกันมาก ไม่เคยห่างกันเลย
ปกติที่ยายนอนโรงพยาบาล ตาจะไปเฝ้าตลอดเวลา โดยลูกๆจะมาเปลี่ยนเวรให้ตาไปทานข้าว อาบน้ำ มารับมาส่ง แต่เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2563 อะไรดลใจให้ตาขับมอเตอร์ไซค์ไปหายายไม่รู้ ทั้งๆที่ปกติแกจะรอลูกๆมารับ อาจจะเป็นเพราะว่าวันนั้นยายทรุดหนักก็ได้ ตาเลยเป็นห่วง จะขับรถไปหายายที่โรงพยาบาล ท่านขับมอเตอร์ไซค์ออกมา ชนกับรถกระบะ อาการค่อนข้างสาหัส ตาสลบ เลือดออกปาก เมื่อฟื้นขึ้นมาก็หายใจไม่ออก
วันที่ 6 ม.ค. 2563 หมอส่งตัวตาไปรักษาต่อที่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากเส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจฉีกขาด ซี่โครงหัก 11 ซี่ และปอดช้ำ ค่อนข้างเป็นเรื่องที่สะเทือนใจสำหรับครอบครัวเรามาก ยายที่อยู่โรงพยาบาลก็ถามหาตา ตาที่ยังนอนไม่ได้สติก็เพ้อหายาย ท่านทั้งสองยังไม่ได้เจอกัน อีกทั้งลูกสาวของท่านที่ไปเฝ้าก็ยังขับรถหลับในหลังจากไปเฝ้าที่โรงพยาบาลอีกด้วย
วันที่ 21 ม.ค. 2563 ยายทนไม่ไหว ได้สิ้นใจ ซึ่งก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตก็ได้ถามหาตาตลอดเวลา ทางลูกๆก็บอกว่า ตาไม่สบายมาไกลไม่ได้ เดี่ยวติดไข้ จนนาทีสุดท้ายของชีวิตท่านก็ไม่ได้เจอกัน ลูกหลานจัดงานศพให้ยายเรียบร้อย
วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ครบ 1 เดือนที่ตาถูกชน หมอถอดท่อช่วยหายใจออก คำแรกที่ท่านถาม "ยายอยู่ที่ไหน" เราได้แต่กลั้นน้ำตา ตอบไปว่ายายอยู่บ้าน หายดีแล้ว เนื่องตายังไม่สามารถหายใจเองได้ อาการยังไม่ดีขึ้น จึงยังไม่กล้าบอกความจริง
ท่านคงทำใจไม่ได้ เมื่อตื่นมาก็พบว่า คู่ชีวิตของท่านได้จากไปแล้ว ไม่ได้แม้แต่จะเจอกัน แม้แต่จะเผาศพกัน
เราไม่รู้ว่าชีวิตเราและคนที่เรารักจะจากไปวันใด จงทำดีต่อกันในทุกๆวันนะคะ
เมื่อตื่นขึ้นมา ... แล้วพบว่าคู่ชีวิตได้จากไปแล้ว
ยายเราเป็นโรคไต ต้องฟกไตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ท่านฟอกไตคือวันที่ 29 ธ.ค. 2562 ท่านได้ช๊อคอยู่บนเตียงที่ฟอกไต ทางห้องฟอกไตได้ส่งเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ก็ต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา ซึ่งโดยปกติเนี่ย ยายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตมาได้ 10 กว่าปีแล้ว โดยจะมีตาอยู่ข้างๆเสมอไม่ว่าจะไปเฝ้าที่ห้องฟอกไต หรือทำอะไรก็ตาม ทั้งตาและยายรักกันมาก ไม่เคยห่างกันเลย
ปกติที่ยายนอนโรงพยาบาล ตาจะไปเฝ้าตลอดเวลา โดยลูกๆจะมาเปลี่ยนเวรให้ตาไปทานข้าว อาบน้ำ มารับมาส่ง แต่เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 2563 อะไรดลใจให้ตาขับมอเตอร์ไซค์ไปหายายไม่รู้ ทั้งๆที่ปกติแกจะรอลูกๆมารับ อาจจะเป็นเพราะว่าวันนั้นยายทรุดหนักก็ได้ ตาเลยเป็นห่วง จะขับรถไปหายายที่โรงพยาบาล ท่านขับมอเตอร์ไซค์ออกมา ชนกับรถกระบะ อาการค่อนข้างสาหัส ตาสลบ เลือดออกปาก เมื่อฟื้นขึ้นมาก็หายใจไม่ออก
วันที่ 6 ม.ค. 2563 หมอส่งตัวตาไปรักษาต่อที่ รพ.ศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เนื่องจากเส้นเลือดใหญ่ที่หัวใจฉีกขาด ซี่โครงหัก 11 ซี่ และปอดช้ำ ค่อนข้างเป็นเรื่องที่สะเทือนใจสำหรับครอบครัวเรามาก ยายที่อยู่โรงพยาบาลก็ถามหาตา ตาที่ยังนอนไม่ได้สติก็เพ้อหายาย ท่านทั้งสองยังไม่ได้เจอกัน อีกทั้งลูกสาวของท่านที่ไปเฝ้าก็ยังขับรถหลับในหลังจากไปเฝ้าที่โรงพยาบาลอีกด้วย
วันที่ 21 ม.ค. 2563 ยายทนไม่ไหว ได้สิ้นใจ ซึ่งก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตก็ได้ถามหาตาตลอดเวลา ทางลูกๆก็บอกว่า ตาไม่สบายมาไกลไม่ได้ เดี่ยวติดไข้ จนนาทีสุดท้ายของชีวิตท่านก็ไม่ได้เจอกัน ลูกหลานจัดงานศพให้ยายเรียบร้อย
วันนี้ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ครบ 1 เดือนที่ตาถูกชน หมอถอดท่อช่วยหายใจออก คำแรกที่ท่านถาม "ยายอยู่ที่ไหน" เราได้แต่กลั้นน้ำตา ตอบไปว่ายายอยู่บ้าน หายดีแล้ว เนื่องตายังไม่สามารถหายใจเองได้ อาการยังไม่ดีขึ้น จึงยังไม่กล้าบอกความจริง
ท่านคงทำใจไม่ได้ เมื่อตื่นมาก็พบว่า คู่ชีวิตของท่านได้จากไปแล้ว ไม่ได้แม้แต่จะเจอกัน แม้แต่จะเผาศพกัน
เราไม่รู้ว่าชีวิตเราและคนที่เรารักจะจากไปวันใด จงทำดีต่อกันในทุกๆวันนะคะ