ประสบการณ์ผ่าตัดไส้ติ่ง ที่ไม่คิดว่าจะเป็นไส้ติ่ง

กระทู้สนทนา
ประสบการณ์ผ่าตัดไส้ติ่ง
      วันศุกร์ที่ 18 ก.พ. 3 ทุ่มกำลังขับรถไปกทม. เริ่มมีอาการปวดท้องนิดหน่อยในใจคิดว่าอาการเดิมอีกแล้วขออย่าให้ปวดเยอะเลยมันทรมาน ถึงกทม. 4ทุ่มกว่าๆ อาการเริ่มหนักขึ้น อ้วกรอบแรกอาหารที่กินมาออกมาหมดเลย อาการปวดท้องเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆแต่ยังพอทนได้ นอนได้ถึงตี1 ต้องลุกมาอ้วกรอบที่2  หลักจากนั้นแทบไม่ได้นอนเลย อ้วกตลอดอีกประมาน 5-6 รอบ จนถึงตี5 ต้องบอกแฟนให้พาไปโรงบาลหน่อย ไปถึงโรงบาลเกือบ6 โมงเช้า เข้าไปที่ฉุกเฉินเหมือนเคย หมอก็ฉีดยาให้เหมือนเดิม2 เข็ม อาการปวดท้องเริ่มดีขึ้นนิดหน่อย คิดในใจว่าเด๋วคงจะดีขึ้นเลยรับยาแล้ว กลับบ้าน
      กลับมาบ้านอาการปวดท้องเริ่มน้อยลง แต่กินอะไรไม่ลงไม่รู้สึกหิวอะไรเลย คิดว่าเด๋วคงจะดีขึ้นเหมือนทุกรอบ พอสัก10-11 โมง เริ่มอ้วกอีกแล้ว กินแต่น้ำเปล่าก็ยังอ้วกออกมาหมด ถึงประมาน4 โมงเย็น แค่ช่วง 5-6 ชั่วโมงอ้วกไปอีกประมาน10กว่าครั้ง อาการปวดท้องยังปวดเหมือนเดิมแต่ไม่มาก เริ่มมีไข้ อาการเริ่มแปลกทุกรอบที่เป็นจะหายภายใน12 ชม. แต่นี้เกินแล้วแถมยังมีไข้เพิ่มมาอีก แฟนบอกให้ไปนอนโรงบาลสักคืนให้น้ำเกลือน่าจะดีขึ้น ใจหนึ่งก็ไม่อยากจะไปเป็นห่วงลูกๆ แต่ก็ว่าตัวเองไม่น่าจะไหวแล้วหละ ไปอยู่โรงบาลน่าจะดีกว่า
       เลยไปโรงบาลอีกรอบถึงโรงบาลประมาน6โมงเย็นกว่าๆ (วันเสาร์) เข้าที่ฉุกเฉินเหมือนเดิม รอบนี้ถูกส่งมาที่แผนกอายุรกรรม หมอตรวจดูก็บอกว่าน่าจะเป็นลำไส้อักเสบ (ไม่มีอาการของไส้ติ่งเลยกดที่ท้องก็ไม่เจ็บ) หมอถามว่าจะให้ฉีดยาแล้วกลับบ้าน หรือจะนอนดูอาการที่โรงบาล เลยขอหมอว่าขอนอนโรงบาลดีกว่าจะได้ตรวจให้ละเอียดไปเลยว่าเป็นอะไรกันแน่  สรุปได้แอดมิต แต่กว่าจะได้ขึ้นห้องต้องไปตรวจโควิดก่อน แล้วรอจนกว่าผลจะออกถึงจะได้ขึ้นห้อง  ผลออกประมาน4 ทุ่มถึงได้ขึ้นห้อง  5ทุ่มกว่าๆได้เจอหมอเจ้าของไข้ หมอเลยส่งให้ไปอัลตร้าซาวด์ช่องท้อง ผลออกมาก็ไม่เจออะไรผิดปกติ  วันอาทิตย์อาการปวดท้องน้อยลงมาก ไม่อ้วกแล้ว แต่ยังมีไข้อยู่ เที่ยงกว่าๆหมอขึ้นมาบอกว่าน่าจะเป็นแค่ลำไส้อักเสบ อาการเริ่มดีขึ้นพรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้ เลยขอหมอว่าจะขอCT-Scan ได้ไหมอยากจะตรวจให้ละเอียดไปเลย ในใจแค่ว่าจะขอคิวตรวจอาจจะนัดวันหลังก็ไม่เป็นไร หมอบอกว่าจะCT-Scanเลยหรอ ไม่ต้องถึงขั้นนั้นก็ได้นะ แต่ถ้าคนไข้อยากตรวจหมอขอดูเวลาให้นะ สักพักหมอบอกว่าให้อดข้าวอดน้ำเลยเด๋วได้คิวตรวจ5โมงเย็น (คิดในใจทำไมเร็วจังคิวว่าจะได้ตรวจหลังจากออกจากโรงบาล)
       ก่อนจะเข้าเครื่อง CT-Scan ต้องกินน้ำเปล่า3 ขวดให้หมดก่อนถึงจะได้ลงไป  5โมงเย็นไปลงไปCT-Scan ใช้เวลาไม่นานประมาน15-20 นาที ก็กลับขึ้นห้อง ถึงห้องนั่งพักเด๋วว่ากินข้าวเย็น หมอรีบขึ้นมาถามกินข้าวกินน้ำไปยัง ผลCT-Scan เหมือนมีไข้ติ่งอักเสบ ให้อดข้าวอดน้ำต่อเลยเผื่อต้องผ่าตัด เด๋วหมอให้หมออีกคนเป็นหมอศัลยมาดูผลอีกที สักพักมีหมออีกคนคือหมอศัลยมาบอกว่าไส้ติ่งอักเสบแน่นอน แต่ไส้ติ่งมันดันไปแอบอยู่ด้านหลัง เวลากดท้องทำให้ไม่เจ็บหมอถามต่อจะผ่าที่นี้ไหมหรือจะไปโรงบาลอื่น บอกไปว่าผ่าที่นี้เลยครับ หมอถามต่อว่าจะผ่าแบบไหนมี2 แบบ 1.แบบปกติแผลจะมี1 แผลจะยาวประมาน10-12 ชม. แบบที่2 ผ่าแบบส่องกล้องจะมี3 แผล ยาวแค่แผลละ1-2 ซม. แผลจะเล็กกว่า เจ็บน้อยกว่า ไม่ต้องคิดนานเลยครับแบบที่2 เลยครับหมอ หมอบอกนั้น4 ทุ่มเข้าผ่าได้เลย
         3ทุ่มครึ่ง พยาบาลห้องผ่าตัดมารับไปเตรียมตัวบอกว่าหลังจากหมอวางยาสลบ จะสอดเครื่องช่วยหายใจไปทางปาก ถ้าตื่นมาแล้วมีเครื่องอยู่ในปากไม่ต้องตกใจนะ  4ทุ่มตรง ไข้ก็ยังมีอยู่ประมาน38  เตียงถูกเข็นเข้าไปอยู่ในห้องผ่าตัด หมอวิสัญญีเข้ามาบอกเด๋วจะฉีดยาแล้วจะหลับไปเลยนะ ไม่ถึง5 วินาที หลับไปเลย หลับไปประมาน 2.5 ชม.ตื่นมาอีกที เที่ยงคืนครึ่ง ยังเบลอๆอยู่ พยาบาลบอกเด๋วพากลับขึ้นห้องพักนะ หลับๆตื่นๆรู้สึกตัวแต่ไม่มีแรงขยับตัวเลย จนเช้าวันจันทร์อาการทุกอย่างหายไปหมด ยกเว้นเจ็บแผลที่ผ่าตัดอย่างเดียว นอนดูอาการต่ออีก1 คืน ได้กลับบ้านวันอังคาร
      สรุปนอนโรงบาลไปทั้งหมด 3 คืน แต่กว่าจะได้ผ่าไส้ติ่งก็คืนที่2 แล้ว จ่ายค่ารักษาไปทั้งหมด 19x,xxx
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่