สารานุกรมปืนตอนที่ 326 Combat Elite Commander โคลท์ คอมแพ็ค 9 มม. สเตนเลสล้วน

โคลท์ คอมมานเดอร์ เป็นปืน “คอมแพ็ค” กระบอกแรกที่โรงงานนำปืนมาตรฐานทหารมาตัดแต่งเพื่อเสนอขายให้กองทัพสหรัฐในปี 1950 ตามโครง การเปลี่ยนปืน 1911 ขนาด .45 มาเป็น 9 มม. ทางกองทัพกำหนด สเป็คตัวปืนให้สั้นและเบากว่าของเดิม



 โคลท์ คอมมานเดอร์ เป็นปืน “คอมแพ็ค” กระบอกแรกที่โรงงานนำปืนมาตรฐานทหารมาตัดแต่งเพื่อเสนอขายให้กองทัพสหรัฐในปี 1950 ตามโครง การเปลี่ยนปืน 1911 ขนาด .45 มาเป็น 9 มม. ทางกองทัพกำหนด สเป็คตัวปืนให้สั้นและเบากว่าของเดิม นอก จากโคลท์จะตัดลำกล้องและด้ามสั้นลงแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่ใช้วัสดุอลูมินัมอัลลอยด์ทำโครงปืนแทนเหล็กของเดิม แม้ว่าโครงการนั้นจะยกเลิกไปในปี 1954 แต่โคลท์เห็นศักยภาพของปืนที่คล่องตัว พกพาสะดวกจึงนำออกขายในตลาดเอกชน ต่อมาในปี 1970 ผลิตรุ่นโครงเหล็กเป็นตัวเลือกสำหรับงานหนัก เรียก ชื่อว่า “Combat Commander” โดยย้อนกลับไปเรียกรุ่นโครงอัลลอยด์ว่า “Lightweight Commander” ให้แตกต่างชัดเจน น้ำหนักตัวของคอมมานเดอร์สองรุ่นนี้ต่างกันอยู่ประมาณ 100 กรัม



ช่วงทศวรรษ 1980 จนถึงสิ้นศตวรรษ วงการปืนเกิดกระแสนิยม “เก้าลูกดก” ตามด้วย “คลั่งกล็อก” ซึ่งเป็นระยะที่โคลท์มีปัญหากับแรงงานสมาชิกสหภาพ ปืนที่ออกแบบตามกระแสคือ “ดับเบิลอีเกิล” ระบบนกสับไกดับเบิล กับ “ออล-อเมริกัน 2000” เข็มพุ่งโครงโพลิเมอร์ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง ยอดขายตกจนบริษัทเกือบล้มละลาย ต้องขอพิทักษ์ทรัพย์ปรับโครงสร้างถึงสองครั้ง จนกระทั่งปี 2016 ได้ผู้บริหารชุดปัจจุบันจึงกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้ง ล่าสุดในแคตตาล็อกออนไลน์ของโคลท์มีปืนพกให้เลือกได้ถึงกว่า 50 แบบ แต่สังเกตได้ว่ายังไม่ผลีผลามทำปืนรูปแบบใหม่ เกือบทั้งหมดใช้ระบบ 1911 เป็นพื้นฐาน เพียงปรับแบบให้แตกต่างในรายละเอียดสำหรับใช้งานต่าง ๆ ตั้งแต่ยิงเป้า ต่อสู้ จนถึงพกพาแนบเนียน



ในปี 2018 โคลท์ เปิดตัวปืนชุดใหม่ใช้ชื่อ “คอมแบ็ตเอลีท” (Combat Elite Series) เป็นการนำชื่อเดิมจากปืนสองรุ่นมารวมกัน คำแรกจาก Combat Commander ที่กล่าวข้างต้น ส่วนคำหลังมาจาก Delta Elite ของยุค 1980 ปืนในชุด คอมแบ็ตเอลีท มีครบสามความยาวลำกล้อง คือ กัฟเวิร์นเม้นท์, คอมมานเดอร์ และดีเฟนเดอร์ แต่ละแบบมีทั้งขนาด 9 มม. พาราฯ และ .45 ACP ให้เลือก รวมเป็นหกรุ่นย่อย ทุกรุ่นเป็นสเตนเลสล้วน แต่งผิวทูโทนโดยเคลือบผิว DLC ดำด้าน แล้วขัดผิวแบนสองข้างเป็นสีเงินตัดกัน ใส่ประกับด้าม G10 หน้าด้ามหลังด้ามแกะลายกันลื่น 25 เส้นต่อนิ้ว ติดศูนย์ต่อสู้ของ Novak ฝังจุดขาวสามจุด โดยศูนย์หน้าเพิ่มหลอดตรีเตียมเรืองแสงสีเขียวไว้ตรงกลาง



ปืนนายแบบของสัปดาห์นี้ เป็นคอมแบ็ตเอลีท คอมมานเดอร์ ลำกล้อง 4.25 นิ้ว ระดับ National Match, ไกทึบ นกรูปห่วง ติดตั้งคันนิรภัยทั้งซ้ายขวา ใส่หลังอ่อนหางยาวหุ้มนกเมื่อง้างสุด มีสันกดอุ้งมือให้ทำงานได้มั่นใจ บริเวณโครงปืนหน้าด้ามส่วนใต้โกร่งไกปาดเว้า ทำ ให้จับปืนได้สูงลดอาการสะบัด เรือนสปริงนกสับหลังด้ามแบบตรง ซองกระสุนจุ 9 นัด บวก 1 ในลำกล้อง กลไกภายใน เป็นแบบซีรีส์ 80 มีสมอล็อกเข็มแทงชนวน ซึ่งเมื่อรวมกับคันนิรภัย, หลังอ่อน, ร่องรับนกตก จะเป็นระบบความปลอดภัยสี่ชั้น ป้องกันปืนตกลั่นได้แน่นอน ใช้สปริงลำเลื่อนสองชั้น แกนสั้นตามแบบดั้งเดิม



ลักษณะตัวปืนโดยรวม มุ่งให้เป็นปืนใช้งานอเนกประสงค์ สำหรับเจ้าหน้าที่พกซองนอกได้ดี และสั้นพอให้พกแบบใช้ชายเสื้อคลุมได้แนบเนียน ตัวปืนค่อนข้างหนักเมื่อเทียบกับปืนโครงโพลิเมอร์ แต่มีข้อดีคือช่วยลดรีคอยล์ ยิงได้นิ่มนวล กระสุนขนาด 9 มม. มาตรฐานทหาร จุ 9+1 นัด เพียงพอสำหรับงานปราบปราม/ต่อสู้ป้องกันตัวภายใต้สถานการณ์ส่วนใหญ่ ระบบความปลอดภัยสี่ชั้น ไว้ใจได้เต็มที่ ยี่ห้อโคลท์เจ้าเก่า ขายต่อง่ายราคาไม่ตก.

https://www.dailynews.co.th/article/754893

...........................................................
ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช


สวัสดีครับ






แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่