สวัสดีค่ะ เราตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา เพื่ออยากเป็นกำลังใจให้แม่คลอดก่อนกำหนดและกังวลเรื่องลูกแบบที่เราเคยกังวลมาก่อน อยากบอกว่าไม่จำเป็นเสมอไปที่เด็กคลอดก่อนกำหนดจะต้องอ่อนแอทุกคน แต่การดูแลเค้านี่แหละค่ะที่เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกแข็งแรงและเติบโตได้ดี
ขอเล่ายาวๆตั้งแต่แรกเลยนะคะ ก่อนหน้าที่จะมีลูกเรากับสามีแต่งงานมาได้สักพักแล้วเรากับสามีตั้งใจว่าจะมีลูกกันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่แต่งงานแล้ว แต่ปล่อยตามธรรมชาติยังไงก็ไม่ท้องสักที จนสุดท้ายเรากับสามีก็เลยตัดสินใจจูงมือพากันไปปรึกษากับคุณหมอตรงๆ หมอก็มาบอกว่าตัวเรามีลูกยากนะ แล้วร่างกายเราก็อ่อนแอด้วย หมอก็ได้แนะนำว่าให้ลองใช้วิธี IUI เข้ามาช่วยก่อน ซึ่งเราก็ยอมค่ะ ยังไงก็ได้ขอแค่ได้มีลูกก็พอ
จะเรียกว่าโชคดีก็ได้มั้ง เพราะหลังทำวิธี IUI ไปรอบเดียว เราก็ท้องสักทีค่ะ พอท้องแล้วก็ต้องดูแลตัวเอง สารพัดของบำรุงต่างๆ ที่ดีกับแม่ตั้งท้อง แต่ด้วยความที่เราอายุเยอะและร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรามีปัญหาแพ้ท้องหนักแล้วก็มีเรื่องโรคเบาหวานระหว่างท้องด้วย เลยทำให้เราต้องคลอดก่อนกำหนดด้วยอายุครรภ์ 7 เดือนกว่าๆเท่านั้น ตอนคลอดแล้วเราก็ไม่ได้อุ้มลูก เพราะลูกต้องถูกเอาเข้าเตาอบ เราเลยได้แต่ดูลูกอยู่ห่างๆ เห็นเขาตัวเล็กมากๆ แล้วร้องไห้เลย สงสารลูกมาก กลัวลูกจะแย่เพราะเรา
จากวันนั้นเราเลยหันมาทุ่มเทเทตั้งใจดูแลลูก เพราะเรื่องเดียวเลยคืออยากให้ลูกโตมาแข็งแรง จากเด็กที่คลอดก่อนกำหนดและไม่แข็งแรงตั้งแต่เกิด จนปัจจุบันนี้ลูกอายุ 4 ขวบแล้วค่ะ โตมาเป็นเด็กแข็งแรงและสดใสมาก ไม่เคยป่วยเลยสักครั้ง
มาเริ่มที่เคล็ดลับแรกก่อนเลย เป็นสิ่งที่คุณแม่ทุกคนต้องทำกันอยู่แล้ว นั่นก็คือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่ะ เพราะว่าลูกเราคลอดก่อนกำหนด ทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่ำและสุขภาพไม่แข็งแรง เราเลยตั้งใจตั้งแต่แรกๆว่าจะให้ลูกกินแต่นมแม่เท่านั้น เพราะอย่างที่รู้กันว่านมแม่มีประโยชน์มากๆ เป็นสารอาหารสำคัญของทารกเลย มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ครบถ้วนซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตและพัฒนาการของเด็ก
แต่ก็มีปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่งคือช่วงแรกๆเราไม่มีน้ำนมค่ะ ใครหลายคนก็บอกเราว่าถ้าไม่มีน้ำนมจริงๆ ก็เลี้ยงนมผงเอาก็ได้นะ แต่เราไม่ยอมค่ะ เราอยากเลี้ยงนมด้วยตัวเอง เราเลยไปสรรหาเอาสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มน้ำนมมารับประทานค่ะ ที่เรากินแล้วคิดว่าเวิร์ค น้ำนมมาเยอะ มีหลักๆ อยู่สามตัวตามนี้เลยค่ะ
หัวปลี ขิง และก็กุ่ยช่าย สามอย่างนี้ นอกจากช่วยเรื่องน้ำนมเยอะแล้ว ยังช่วยบำรุงร่างกายให้เราด้วย อย่างกุยช่ายก็มีวิตามินและธาตุเหล็ก ขิงก็ช่วยให้เลือดลมดี หัวปลีก็มีธาตุเหล็กและแคลเซียมช่วยรักษาเบาหวานและบำรุงเลือดไปด้วย ดีต่อคุณแม่มากๆ
นอกจากนมแม่ที่เราต้องใส่ใจมากๆแล้ว นมกล่องทั่วไปเราก็ใส่ใจไม่แพ้กัน พอลูกได้ 1 ขวบโตพอจะหย่านมแม่แล้ว เราก็ให้ลูกกินนมกล่องต่อทันที เพราะอยากให้ลูกตัวสูงๆ ร่างกายแข็งแรง ส่วนตัวให้ลูกกินนมโฟร์โมสต์ เพราะเป็นนมวัวแท้ 100% ที่มีสารอาหารธรรมชาติสูงครบสำหรับนมเลย ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน แล้วก็วิตามินบี 2 กับวิตามินบี 12 อีก แต่ละอย่างดีกับร่างกายลูกหมด
ส่วนเคล็ดลับที่สอง ตรงนี้จะเริ่มจากตอนที่ลูกอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว ซึ่งช่วงวัยนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เห็นพัฒนาการของเขาชัดเจนมาก เพราะลูกเริ่มจะโตและแข็งแรงขึ้นแล้ว และเขาจะสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้นกว่าเดิม และต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น เราเลยได้เริ่มทำอาหารให้ลูกกินช่วงนี้แหละ พวกอาหารสำหรับลูกเราก็จะดูสูตรจากในเน็ตอีกทีหนึ่งค่ะ โดยจะมีวัตถุดิบหลักๆ ที่เราทำให้ลูกประจำก็จะเป็นผักที่มีรสชาติออกหวาน ไม่ขมหรือฉุน ผสมกับข้าวซ้อมมือ และเนื้อสัตว์ที่กินง่ายย่อยง่าย เช่นปลาค่ะ
เคล็ดลับที่สาม อันนี้จะเป็นสำหรับลูกที่รู้ความบ้างแล้ว คือช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นเด็กแล้วไม่ใช่ทารก อาหารการกินก็เปลี่ยนไปกินแบบผู้ใหญ่มากขึ้น มีความหลากหลายขึ้น ตรงนี้อยากแนะนำแม่ๆ ให้ลองดูการจัดเมนูอาหารเด็กจากต่างประเทศดูค่ะ นอกจากจะเป็นอาหารมีประโยชน์แล้ว ยังได้เรื่องความสวยงามด้วย ซึ่งก็จะดึงดูดให้ลูกอยากกินอาหารขึ้นไปด้วย
นอกจากเรื่องอาหารหลักแล้ว เราก็จะมีเสริมของว่างเช่นพวกขนมและนมมาให้ลูกกินเพิ่มด้วย บางคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเราให้ลูกกินขนมด้วย คือเราไม่ได้ให้ลูกกินของไม่ดีอะไรนะคะ เราก็ต้องคัดเอาของกินที่มีประโยชน์จริงๆ มาให้ลูกกินอยู่ดี ถ้าได้กินอะไรดีๆ ร่างกายก็จะดีตามไปด้วย
ของกินเล่นที่เราให้ลูกกิน(และลูกชอบ)ก็มีตามนี้ค่ะ
-Apple Monkey ข้าวอบกรอบออร์แกนิค
อันนี้เป็นขนมอบกรอบสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 8 เดือนขึ้นไป มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะกับเด็กทั้งจากข้าวหอมมะลิออร์แกนิค และฝักทอง แล้วยังมี DHA ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองด้วย ขนมอันนี้ชิ้นใหญ่หน่อยแต่ละลายในปากง่ายค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะติดคอ
-Peachy คุกกี้ธัญพืชสำหรับเด็ก
ก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นคุกกี้ธัญพืชที่มีส่วนผสมของคีนัวและเมล็ดแฟลกซ์ มีโปรตีนสูง มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย และคุกกี้ของเขาเป็นรูปการ์ตูน ลูกเลยจะชอบมากเป็นพิเศษ
และไม่ใช่แค่เรื่องการกินที่ต้องเปลี่ยน กิจกรรมที่เราใช้กับลูกก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะพอลูกโตร่างกายเขาก็เปลี่ยนไป อย่างตอน1ขวบเขาจะยืนได้ด้วยตัวเอง เราเลยเริ่มพาลูกออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้านค่ะ ให้เขาได้เห็นและเรียนรู้โลกภายนอกค่ะ
ในช่วงเสาร์อาทิตย์ เราจะพาลูกไปเรียนว่ายน้ำค่ะ อันนี้เราศึกษามาเองจากในเน็ตว่าการว่ายน้ำนี่ดีกับเด็กที่กำลังโตค่ะ เพราะการว่ายน้ำจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านสมองและร่างกายทุกส่วน ทำให้ลูกร่างกายแข็งแรง แต่ที่สำคัญเลยคือเราอยากให้ลูกว่ายน้ำเป็นค่ะ เผื่อเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินอะไรในอนาคตจะได้เอาตัวรอดได้ด้วย
ปัจจุบันนี้ลูกเราอายุ 4 ขวบแล้วค่ะ ร่างกายแข็งแรงดีสมวัย ไม่เจ็บไม่ป่วยเลยสักครั้ง แล้วก็เป็นเด็กที่มีอารมณ์แจ่มใสมากด้วย เล่นกับลูกทีไรเราเหนื่อยเองทุกที เพราะวิ่งไล่ลูกไม่ทันเลยค่ะ
ถึงเหนื่อยหน่อยแต่ก็มีความสุขค่ะ สำหรับคนเป็นแม่ ไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าเห็นลูกเติบโตแข็งแรงแบบนี้แล้วล่ะค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งใจเขียน(มาก) ถ้าเกิดมีตรงไหนที่อ่านแล้วงงๆ ไปบ้างก็ขออภัยนะคะ พึ่งเคยตั้งกระทู้พันทิปครั้งแรกเลย 555 หวังว่าวิธีการของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณแม่คนอื่นๆ นะคะ ใครที่เจอปัญหาคล้ายกันเราก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ
แชร์ประสบการณ์เลี้ยงลูก จากเด็กคลอดก่อนกำหนดร่างกายไม่แข็งแรง วันนี้วิ่งแซงแม่แล้วจ้า
ขอเล่ายาวๆตั้งแต่แรกเลยนะคะ ก่อนหน้าที่จะมีลูกเรากับสามีแต่งงานมาได้สักพักแล้วเรากับสามีตั้งใจว่าจะมีลูกกันตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่แต่งงานแล้ว แต่ปล่อยตามธรรมชาติยังไงก็ไม่ท้องสักที จนสุดท้ายเรากับสามีก็เลยตัดสินใจจูงมือพากันไปปรึกษากับคุณหมอตรงๆ หมอก็มาบอกว่าตัวเรามีลูกยากนะ แล้วร่างกายเราก็อ่อนแอด้วย หมอก็ได้แนะนำว่าให้ลองใช้วิธี IUI เข้ามาช่วยก่อน ซึ่งเราก็ยอมค่ะ ยังไงก็ได้ขอแค่ได้มีลูกก็พอ
จะเรียกว่าโชคดีก็ได้มั้ง เพราะหลังทำวิธี IUI ไปรอบเดียว เราก็ท้องสักทีค่ะ พอท้องแล้วก็ต้องดูแลตัวเอง สารพัดของบำรุงต่างๆ ที่ดีกับแม่ตั้งท้อง แต่ด้วยความที่เราอายุเยอะและร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรามีปัญหาแพ้ท้องหนักแล้วก็มีเรื่องโรคเบาหวานระหว่างท้องด้วย เลยทำให้เราต้องคลอดก่อนกำหนดด้วยอายุครรภ์ 7 เดือนกว่าๆเท่านั้น ตอนคลอดแล้วเราก็ไม่ได้อุ้มลูก เพราะลูกต้องถูกเอาเข้าเตาอบ เราเลยได้แต่ดูลูกอยู่ห่างๆ เห็นเขาตัวเล็กมากๆ แล้วร้องไห้เลย สงสารลูกมาก กลัวลูกจะแย่เพราะเรา
จากวันนั้นเราเลยหันมาทุ่มเทเทตั้งใจดูแลลูก เพราะเรื่องเดียวเลยคืออยากให้ลูกโตมาแข็งแรง จากเด็กที่คลอดก่อนกำหนดและไม่แข็งแรงตั้งแต่เกิด จนปัจจุบันนี้ลูกอายุ 4 ขวบแล้วค่ะ โตมาเป็นเด็กแข็งแรงและสดใสมาก ไม่เคยป่วยเลยสักครั้ง
มาเริ่มที่เคล็ดลับแรกก่อนเลย เป็นสิ่งที่คุณแม่ทุกคนต้องทำกันอยู่แล้ว นั่นก็คือการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ค่ะ เพราะว่าลูกเราคลอดก่อนกำหนด ทำให้เขามีภูมิคุ้มกันต่ำและสุขภาพไม่แข็งแรง เราเลยตั้งใจตั้งแต่แรกๆว่าจะให้ลูกกินแต่นมแม่เท่านั้น เพราะอย่างที่รู้กันว่านมแม่มีประโยชน์มากๆ เป็นสารอาหารสำคัญของทารกเลย มีทั้งวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ครบถ้วนซึ่งจำเป็นต่อการเติบโตและพัฒนาการของเด็ก
แต่ก็มีปัญหาใหญ่อยู่อย่างหนึ่งคือช่วงแรกๆเราไม่มีน้ำนมค่ะ ใครหลายคนก็บอกเราว่าถ้าไม่มีน้ำนมจริงๆ ก็เลี้ยงนมผงเอาก็ได้นะ แต่เราไม่ยอมค่ะ เราอยากเลี้ยงนมด้วยตัวเอง เราเลยไปสรรหาเอาสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มน้ำนมมารับประทานค่ะ ที่เรากินแล้วคิดว่าเวิร์ค น้ำนมมาเยอะ มีหลักๆ อยู่สามตัวตามนี้เลยค่ะ
หัวปลี ขิง และก็กุ่ยช่าย สามอย่างนี้ นอกจากช่วยเรื่องน้ำนมเยอะแล้ว ยังช่วยบำรุงร่างกายให้เราด้วย อย่างกุยช่ายก็มีวิตามินและธาตุเหล็ก ขิงก็ช่วยให้เลือดลมดี หัวปลีก็มีธาตุเหล็กและแคลเซียมช่วยรักษาเบาหวานและบำรุงเลือดไปด้วย ดีต่อคุณแม่มากๆ
นอกจากนมแม่ที่เราต้องใส่ใจมากๆแล้ว นมกล่องทั่วไปเราก็ใส่ใจไม่แพ้กัน พอลูกได้ 1 ขวบโตพอจะหย่านมแม่แล้ว เราก็ให้ลูกกินนมกล่องต่อทันที เพราะอยากให้ลูกตัวสูงๆ ร่างกายแข็งแรง ส่วนตัวให้ลูกกินนมโฟร์โมสต์ เพราะเป็นนมวัวแท้ 100% ที่มีสารอาหารธรรมชาติสูงครบสำหรับนมเลย ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส ไอโอดีน แล้วก็วิตามินบี 2 กับวิตามินบี 12 อีก แต่ละอย่างดีกับร่างกายลูกหมด
ส่วนเคล็ดลับที่สอง ตรงนี้จะเริ่มจากตอนที่ลูกอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว ซึ่งช่วงวัยนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เห็นพัฒนาการของเขาชัดเจนมาก เพราะลูกเริ่มจะโตและแข็งแรงขึ้นแล้ว และเขาจะสามารถย่อยอาหารได้ดีขึ้นกว่าเดิม และต้องการพลังงานเพิ่มขึ้น เราเลยได้เริ่มทำอาหารให้ลูกกินช่วงนี้แหละ พวกอาหารสำหรับลูกเราก็จะดูสูตรจากในเน็ตอีกทีหนึ่งค่ะ โดยจะมีวัตถุดิบหลักๆ ที่เราทำให้ลูกประจำก็จะเป็นผักที่มีรสชาติออกหวาน ไม่ขมหรือฉุน ผสมกับข้าวซ้อมมือ และเนื้อสัตว์ที่กินง่ายย่อยง่าย เช่นปลาค่ะ
เคล็ดลับที่สาม อันนี้จะเป็นสำหรับลูกที่รู้ความบ้างแล้ว คือช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไป ถือว่าเป็นเด็กแล้วไม่ใช่ทารก อาหารการกินก็เปลี่ยนไปกินแบบผู้ใหญ่มากขึ้น มีความหลากหลายขึ้น ตรงนี้อยากแนะนำแม่ๆ ให้ลองดูการจัดเมนูอาหารเด็กจากต่างประเทศดูค่ะ นอกจากจะเป็นอาหารมีประโยชน์แล้ว ยังได้เรื่องความสวยงามด้วย ซึ่งก็จะดึงดูดให้ลูกอยากกินอาหารขึ้นไปด้วย
นอกจากเรื่องอาหารหลักแล้ว เราก็จะมีเสริมของว่างเช่นพวกขนมและนมมาให้ลูกกินเพิ่มด้วย บางคนอาจจะแปลกใจว่าทำไมเราให้ลูกกินขนมด้วย คือเราไม่ได้ให้ลูกกินของไม่ดีอะไรนะคะ เราก็ต้องคัดเอาของกินที่มีประโยชน์จริงๆ มาให้ลูกกินอยู่ดี ถ้าได้กินอะไรดีๆ ร่างกายก็จะดีตามไปด้วย
ของกินเล่นที่เราให้ลูกกิน(และลูกชอบ)ก็มีตามนี้ค่ะ
-Apple Monkey ข้าวอบกรอบออร์แกนิค
อันนี้เป็นขนมอบกรอบสำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 8 เดือนขึ้นไป มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะกับเด็กทั้งจากข้าวหอมมะลิออร์แกนิค และฝักทอง แล้วยังมี DHA ที่มีส่วนช่วยในการพัฒนาสมองด้วย ขนมอันนี้ชิ้นใหญ่หน่อยแต่ละลายในปากง่ายค่ะ ไม่ต้องกลัวว่าลูกจะติดคอ
-Peachy คุกกี้ธัญพืชสำหรับเด็ก
ก็ตามชื่อเลยค่ะ เป็นคุกกี้ธัญพืชที่มีส่วนผสมของคีนัวและเมล็ดแฟลกซ์ มีโปรตีนสูง มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายด้วย และคุกกี้ของเขาเป็นรูปการ์ตูน ลูกเลยจะชอบมากเป็นพิเศษ
และไม่ใช่แค่เรื่องการกินที่ต้องเปลี่ยน กิจกรรมที่เราใช้กับลูกก็ต้องเปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะพอลูกโตร่างกายเขาก็เปลี่ยนไป อย่างตอน1ขวบเขาจะยืนได้ด้วยตัวเอง เราเลยเริ่มพาลูกออกไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้านค่ะ ให้เขาได้เห็นและเรียนรู้โลกภายนอกค่ะ
ในช่วงเสาร์อาทิตย์ เราจะพาลูกไปเรียนว่ายน้ำค่ะ อันนี้เราศึกษามาเองจากในเน็ตว่าการว่ายน้ำนี่ดีกับเด็กที่กำลังโตค่ะ เพราะการว่ายน้ำจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านสมองและร่างกายทุกส่วน ทำให้ลูกร่างกายแข็งแรง แต่ที่สำคัญเลยคือเราอยากให้ลูกว่ายน้ำเป็นค่ะ เผื่อเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉินอะไรในอนาคตจะได้เอาตัวรอดได้ด้วย
ปัจจุบันนี้ลูกเราอายุ 4 ขวบแล้วค่ะ ร่างกายแข็งแรงดีสมวัย ไม่เจ็บไม่ป่วยเลยสักครั้ง แล้วก็เป็นเด็กที่มีอารมณ์แจ่มใสมากด้วย เล่นกับลูกทีไรเราเหนื่อยเองทุกที เพราะวิ่งไล่ลูกไม่ทันเลยค่ะ ถึงเหนื่อยหน่อยแต่ก็มีความสุขค่ะ สำหรับคนเป็นแม่ ไม่มีอะไรน่าดีใจไปกว่าเห็นลูกเติบโตแข็งแรงแบบนี้แล้วล่ะค่ะ
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่ตั้งใจเขียน(มาก) ถ้าเกิดมีตรงไหนที่อ่านแล้วงงๆ ไปบ้างก็ขออภัยนะคะ พึ่งเคยตั้งกระทู้พันทิปครั้งแรกเลย 555 หวังว่าวิธีการของเราจะเป็นประโยชน์ให้กับคุณแม่คนอื่นๆ นะคะ ใครที่เจอปัญหาคล้ายกันเราก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ