คำเตือน : สปอยล์เยอะและไม่ปิดการสปอยล์เพราะมีการวิจารณ์การเล่าเรื่องค่อนข้างยาว
.
.
.
.
.
เริ่มที่ข้อเสียของหนังก่อนเลยแล้วกัน
การเล่าเรื่อง
ทั้งที่การเล่าเรื่องค่อนข้างเป็นเส้นตรงมากๆแท้ๆ แต่ตรงนี้กลับเป็นพาร์ทที่คะแนนติดลบมากสำหรับเรา อาจจะยาวหน่อยเพราะมีหลายจุดมากที่ทำให้หนังมีข้อสงสัย ไม่เคลียร์ หรือเล่าน้อยเกินไปจนน่าหงุดหงิด เช่น
- ช่วงต้นมีช่วงที่เจ้ก้องคุยโทรศัพท์กับใครบางคน แล้วมีการพูดทำนองว่าให้ทำๆไปเถอะโปรเจคนี้ แค่ทำเพื่อเอาเงินมาก็พอ ไอ้เราก็นึกว่าอ้าว เจ๊ก้องจะมาแนวหลอกลวงเอาเงินแต่งานปล่อยเบลอเหรอ จริงๆเป็นตัวร้ายเหรอ ก็น่าสนใจนี่ (แต่กลายเป็นว่าจริงๆก็ไม่ได้ร้ายอยู่ดี...) แล้วที่ร้อนเงินนี่จะเอาไปทำอะไร แต่ประเด็นนี้ก็ไม่ได้เฉลย เจ๊ก้องกลับมาตั้งใจทำงานเฉย แล้วก็มีฉากเจ้ก้องยืนคุยกับลุงคนนึง ซึ่งดูแล้วไม่รู้ว่าคือพวกคุณทำอะไรกัน คุยกันประเด็นอะไร ได้แต่เดาๆว่าคงจะเอาเงินมาใช้หนี้มั้ง (หรือมันมีบอกแต่เราดูไม่ทันก็ไม่แน่ใจ)
- ก่อนจ็อบซังจะตัดสินใจลงเงิน4ล้านให้ก้องมาช่วยทำเพลง ต้องขอทางญี่ปุ่นก่อนอยู่แล้วไหม ถ้างั้นทำไมมีคลิปหลุดแล้วต้องถึงกับให้ล้มโปรเจค แล้วไอ้คลิปหลุดนี่แค่หลุดตอนซ้อมร้องเพลงใหม่เอง ต้องถึงกับล่มโปรเจ็กเลย? (ตอนแรกนึกว่าจะเป็นคลิปหลุดตอนอยู่กับจ่าลอดแล้วแฟนคลับเข้าใจผิดซะอีก)
- จ่าลอดกับมืดไปถึงกรุงเทพแล้ว แต่คอนล่ม จริงๆอุตส่าห์มาแล้วแค่ไปทักทายหน่อย แวะไปฝากแตงโมให้น้อง ก็ไม่น่าเสียหายอะไร นี่มาแล้วกลับเลยมันก็แปลกๆนิดหน่อย จะว่าไม่มีสิทธิ์ไปเจอน้องๆก็ไม่น่าขนาดนั้น คอนที่จัดตอนท้ายเรื่องยังเข้าไปได้ถึงข้างเวทีเลย
- ตอนแรกจะให้ทำเพลงโดดดิดง แต่อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเพลงจากใจผู้สาว ทำเอางงไปช่วงใหญ่ๆว่าอ้าว จะทำสองเพลงเลยเหรอ เอ๊ะ ทำไมซ้อมกันแต่เพลงนี้หว่า พักหนึ่งเลยถึงจะเข้าใจว่าอ๋อ คงเปลี่ยนเพลงไปเลยแหละ คือไม่ทำโดดดิดงแล้ว คือหนังมันไม่บอกตรงๆเลยงงไปหมด
- ตอนที่แก้วเดินมาเห็นจ่าลอดร้องเพลงอยู่กับ BNK แล้วโกรธ นี่งงมาก โกรธไรหว่า ไม่ได้อยู่กันสองต่อสองเลย มืดกับก้องก็อยู่ ก็คือร้องเพลงอยู่กับคนที่ทำงานด้วยกัน ไม่ได้ทำท่าใกล้ชิดหญิงอื่นด้วย เป็นการงอนที่โคตรจะดูไม่มีเหตุผลเกินไป หรือโกรธที่กลับดึก ก็ควรให้ตัวละครแก้วพูดออกมาเลยว่า 'ไหนว่าจะกลับก่อนสี่ทุ่มไง เพลินเลยนะ' คนจะได้เข้าใจว่าอ๋อ มันมีประเด็น แต่พอหนังถ่ายมาแบบไม่ให้ตัวละครพูดไรเลย เลยกลายเป็นซีนที่แบบ อิหยังวะ...
- ไม่พอ ซีนที่นางเอกเดินมาหน้าตึงใส่พระเอกแบบนี้ หลังจากนั้นก็ควรมีซีนตามไปง้องอนที่บ้านหรืออะไรก็ว่าไป อันนี้คือเหมือนมีฉากกุ๊กกิ๊กตอนนอนมาเรื่อยๆ แต่ดันข้ามการเคลียร์กันของสองคนนี้ไปเลย เหมือนผูกปมไว้แล้วก็ทิ้งเลย ไปเล่าตอนที่ดีกันแล้วแทน (โดยที่คนดูยังงงอยู่เลยว่านางเอกโกรธเรื่องไรฟะเนี่ย...) ทั้งที่เป็นตัวละครหลักของไทบ้านด้วย คือฉากกุ๊กกิ๊กบางฉากตัดออกก็ได้ หรือจะเอาไปควบรวมกับตอนง้อก็ได้ จริงๆแล้วต่อให้เล่าเรื่องแบบขำขันซิทคอมกว่านี้ ก็ต้องมีการผูกปมคลายปมเหมือนกัน เลยงงว่าจะมาผูกปมเล็กปมน้อยแล้วไม่แก้เพื่ออะไร
- เรื่องนี้มีประโยคให้จำอยู่ 2 ประโยค ปัญหาคือบทสนทนาใดๆของตัวละครไม่ได้ช่วยอธิบาย ส่งเสริม หรือขัดแย้งกับ2ประโยคที่ว่าเลย แล้วเป็นประโยคที่ทำให้งงด้วย ว่านี่คือคำคมที่ให้ถือไว้เป็นคติประจำใจเหรอฟะ... "ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆที่เราต้องเรียนรู้" สอบตกมากในฐานะคติพจน์ประจำใจ แล้วยังไม่ส่งเสริมหรือแม้แต่ขัดแย้งกับประโยคที่2 "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา" อีก แบบมันดูไม่เข้ากัน แทบจะไม่ช่วยเล่าเรื่องอะไรเลย เหมือนให้ท่องจำไปงั้นๆ
- จริงๆมันควรจะมีจุดที่เป็นบทสนทนาของตัวละครที่เกี่ยวข้องกับประโยคนี้บ้างเพื่อให้เกิดข้อขัดแย้ง(คอนฟลิกซ์)ของเรื่องขึ้นมา เช่น ช่วงแรกที่ต้องมาอยู่ตจว. ตัวละครอาจจะถามคนอื่นว่า "ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆที่เราต้องเรียนรู้ แต่ถ้ามันดูไม่เป็นตัวเราเอาซะเลย เราจะต้องฝืนมาเรียนรู้มันจริงๆเหรอ" (แล้วหนังจะไปให้คำตอบช่วงท้ายเรื่องยังไงก็แล้วแต่ เช่น ตัวละครนั้นอาจจะพูดว่า "ดีนะที่เราไม่คิดล้มเลิกไปก่อน") หรืออาจมีตัวละครที่รู้สึกว่า "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเราคืออะไรอ่ะ ถ้าสุดท้ายแล้วทางญี่ปุ่นไม่ให้ทำ เสียงในใจเราจะดังแค่ไหนก็ไร้ค่าหรือเปล่า" (แล้วให้ฉากที่แฟนๆช่วยร้องเพลงตอนท้ายเป็นคำตอบของหนังว่า "เสียงในใจและความตั้งใจของพวกเธอมันไม่ไร้ค่าหรอกนะ") เป็นต้น
- ถ้าจะทำให้เวิร์ค มันควรจะเป็นแบบ เลือกประโยคสำคัญของเรื่องมาแค่ประโยคเดียวพอ อาจให้จ็อบซังคอยสอนน้องๆว่า "เป็นไอดอลต้องรับฟังเสียงคนข้างนอกนะ เพราะเราคือคนของสังคม แล้วต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังความต้องการของอฟช.ฝั่งญี่ปุ่นด้วย คำขาดคือคำขาด ห้ามทำอะไรขัดกับกฏนะ" ถ้าวางเรื่องมาแบบนี้แล้วเจ้ก้องมาสอนในเชิงว่า "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา" มันจะเมคเซนส์กว่ามากในตอนท้าย (ก็คือให้จ็อบซังปูเรื่องมาเป็นลบมาก่อน แล้วเจ้ก้องมาทำให้ความคิดของน้องๆพลิกไปเป็นบวก)
[CR] Review : ไทบ้าน X BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ (Spoilเยอะ)
.
.
.
.
.
เริ่มที่ข้อเสียของหนังก่อนเลยแล้วกัน
การเล่าเรื่อง
ทั้งที่การเล่าเรื่องค่อนข้างเป็นเส้นตรงมากๆแท้ๆ แต่ตรงนี้กลับเป็นพาร์ทที่คะแนนติดลบมากสำหรับเรา อาจจะยาวหน่อยเพราะมีหลายจุดมากที่ทำให้หนังมีข้อสงสัย ไม่เคลียร์ หรือเล่าน้อยเกินไปจนน่าหงุดหงิด เช่น
- ช่วงต้นมีช่วงที่เจ้ก้องคุยโทรศัพท์กับใครบางคน แล้วมีการพูดทำนองว่าให้ทำๆไปเถอะโปรเจคนี้ แค่ทำเพื่อเอาเงินมาก็พอ ไอ้เราก็นึกว่าอ้าว เจ๊ก้องจะมาแนวหลอกลวงเอาเงินแต่งานปล่อยเบลอเหรอ จริงๆเป็นตัวร้ายเหรอ ก็น่าสนใจนี่ (แต่กลายเป็นว่าจริงๆก็ไม่ได้ร้ายอยู่ดี...) แล้วที่ร้อนเงินนี่จะเอาไปทำอะไร แต่ประเด็นนี้ก็ไม่ได้เฉลย เจ๊ก้องกลับมาตั้งใจทำงานเฉย แล้วก็มีฉากเจ้ก้องยืนคุยกับลุงคนนึง ซึ่งดูแล้วไม่รู้ว่าคือพวกคุณทำอะไรกัน คุยกันประเด็นอะไร ได้แต่เดาๆว่าคงจะเอาเงินมาใช้หนี้มั้ง (หรือมันมีบอกแต่เราดูไม่ทันก็ไม่แน่ใจ)
- ก่อนจ็อบซังจะตัดสินใจลงเงิน4ล้านให้ก้องมาช่วยทำเพลง ต้องขอทางญี่ปุ่นก่อนอยู่แล้วไหม ถ้างั้นทำไมมีคลิปหลุดแล้วต้องถึงกับให้ล้มโปรเจค แล้วไอ้คลิปหลุดนี่แค่หลุดตอนซ้อมร้องเพลงใหม่เอง ต้องถึงกับล่มโปรเจ็กเลย? (ตอนแรกนึกว่าจะเป็นคลิปหลุดตอนอยู่กับจ่าลอดแล้วแฟนคลับเข้าใจผิดซะอีก)
- จ่าลอดกับมืดไปถึงกรุงเทพแล้ว แต่คอนล่ม จริงๆอุตส่าห์มาแล้วแค่ไปทักทายหน่อย แวะไปฝากแตงโมให้น้อง ก็ไม่น่าเสียหายอะไร นี่มาแล้วกลับเลยมันก็แปลกๆนิดหน่อย จะว่าไม่มีสิทธิ์ไปเจอน้องๆก็ไม่น่าขนาดนั้น คอนที่จัดตอนท้ายเรื่องยังเข้าไปได้ถึงข้างเวทีเลย
- ตอนแรกจะให้ทำเพลงโดดดิดง แต่อยู่ๆก็เปลี่ยนเป็นเพลงจากใจผู้สาว ทำเอางงไปช่วงใหญ่ๆว่าอ้าว จะทำสองเพลงเลยเหรอ เอ๊ะ ทำไมซ้อมกันแต่เพลงนี้หว่า พักหนึ่งเลยถึงจะเข้าใจว่าอ๋อ คงเปลี่ยนเพลงไปเลยแหละ คือไม่ทำโดดดิดงแล้ว คือหนังมันไม่บอกตรงๆเลยงงไปหมด
- ตอนที่แก้วเดินมาเห็นจ่าลอดร้องเพลงอยู่กับ BNK แล้วโกรธ นี่งงมาก โกรธไรหว่า ไม่ได้อยู่กันสองต่อสองเลย มืดกับก้องก็อยู่ ก็คือร้องเพลงอยู่กับคนที่ทำงานด้วยกัน ไม่ได้ทำท่าใกล้ชิดหญิงอื่นด้วย เป็นการงอนที่โคตรจะดูไม่มีเหตุผลเกินไป หรือโกรธที่กลับดึก ก็ควรให้ตัวละครแก้วพูดออกมาเลยว่า 'ไหนว่าจะกลับก่อนสี่ทุ่มไง เพลินเลยนะ' คนจะได้เข้าใจว่าอ๋อ มันมีประเด็น แต่พอหนังถ่ายมาแบบไม่ให้ตัวละครพูดไรเลย เลยกลายเป็นซีนที่แบบ อิหยังวะ...
- ไม่พอ ซีนที่นางเอกเดินมาหน้าตึงใส่พระเอกแบบนี้ หลังจากนั้นก็ควรมีซีนตามไปง้องอนที่บ้านหรืออะไรก็ว่าไป อันนี้คือเหมือนมีฉากกุ๊กกิ๊กตอนนอนมาเรื่อยๆ แต่ดันข้ามการเคลียร์กันของสองคนนี้ไปเลย เหมือนผูกปมไว้แล้วก็ทิ้งเลย ไปเล่าตอนที่ดีกันแล้วแทน (โดยที่คนดูยังงงอยู่เลยว่านางเอกโกรธเรื่องไรฟะเนี่ย...) ทั้งที่เป็นตัวละครหลักของไทบ้านด้วย คือฉากกุ๊กกิ๊กบางฉากตัดออกก็ได้ หรือจะเอาไปควบรวมกับตอนง้อก็ได้ จริงๆแล้วต่อให้เล่าเรื่องแบบขำขันซิทคอมกว่านี้ ก็ต้องมีการผูกปมคลายปมเหมือนกัน เลยงงว่าจะมาผูกปมเล็กปมน้อยแล้วไม่แก้เพื่ออะไร
- เรื่องนี้มีประโยคให้จำอยู่ 2 ประโยค ปัญหาคือบทสนทนาใดๆของตัวละครไม่ได้ช่วยอธิบาย ส่งเสริม หรือขัดแย้งกับ2ประโยคที่ว่าเลย แล้วเป็นประโยคที่ทำให้งงด้วย ว่านี่คือคำคมที่ให้ถือไว้เป็นคติประจำใจเหรอฟะ... "ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆที่เราต้องเรียนรู้" สอบตกมากในฐานะคติพจน์ประจำใจ แล้วยังไม่ส่งเสริมหรือแม้แต่ขัดแย้งกับประโยคที่2 "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา" อีก แบบมันดูไม่เข้ากัน แทบจะไม่ช่วยเล่าเรื่องอะไรเลย เหมือนให้ท่องจำไปงั้นๆ
- จริงๆมันควรจะมีจุดที่เป็นบทสนทนาของตัวละครที่เกี่ยวข้องกับประโยคนี้บ้างเพื่อให้เกิดข้อขัดแย้ง(คอนฟลิกซ์)ของเรื่องขึ้นมา เช่น ช่วงแรกที่ต้องมาอยู่ตจว. ตัวละครอาจจะถามคนอื่นว่า "ข้างนอกคือสิ่งใหม่ๆที่เราต้องเรียนรู้ แต่ถ้ามันดูไม่เป็นตัวเราเอาซะเลย เราจะต้องฝืนมาเรียนรู้มันจริงๆเหรอ" (แล้วหนังจะไปให้คำตอบช่วงท้ายเรื่องยังไงก็แล้วแต่ เช่น ตัวละครนั้นอาจจะพูดว่า "ดีนะที่เราไม่คิดล้มเลิกไปก่อน") หรืออาจมีตัวละครที่รู้สึกว่า "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเราคืออะไรอ่ะ ถ้าสุดท้ายแล้วทางญี่ปุ่นไม่ให้ทำ เสียงในใจเราจะดังแค่ไหนก็ไร้ค่าหรือเปล่า" (แล้วให้ฉากที่แฟนๆช่วยร้องเพลงตอนท้ายเป็นคำตอบของหนังว่า "เสียงในใจและความตั้งใจของพวกเธอมันไม่ไร้ค่าหรอกนะ") เป็นต้น
- ถ้าจะทำให้เวิร์ค มันควรจะเป็นแบบ เลือกประโยคสำคัญของเรื่องมาแค่ประโยคเดียวพอ อาจให้จ็อบซังคอยสอนน้องๆว่า "เป็นไอดอลต้องรับฟังเสียงคนข้างนอกนะ เพราะเราคือคนของสังคม แล้วต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังความต้องการของอฟช.ฝั่งญี่ปุ่นด้วย คำขาดคือคำขาด ห้ามทำอะไรขัดกับกฏนะ" ถ้าวางเรื่องมาแบบนี้แล้วเจ้ก้องมาสอนในเชิงว่า "อย่าให้เสียงของคนอื่นมากลบเสียงในใจของเรา" มันจะเมคเซนส์กว่ามากในตอนท้าย (ก็คือให้จ็อบซังปูเรื่องมาเป็นลบมาก่อน แล้วเจ้ก้องมาทำให้ความคิดของน้องๆพลิกไปเป็นบวก)