[CR] ภูกระดึง ตึงทั้งตัว

ภูกระดึง...ตึงทั้งตัว

หนาวที่เเล้ว 18-21 ม.ค.2562
๑.การเดินทาง

การเดินทาง คือ การเคลื่อนย้ายของคนจากที่ที่หนึ่ง ไปยังอีกที่นึง โดยจุดประสงค์ของการเดินทาง อาจเพื่อการท่องเที่ยว การเยี่ยมญาติมิตรและเพื่อน 
การค้าขาย การติดต่อ การอพยพ และ การจาริกแสวงบุญ (wiki) ของแต่ละคนแตกต่างกัน
กานต์เดินทางครั้งนี้ ก็คงจะเหมือนหลายๆ ครั้งที่ไม่ได้คาดหวังอะไรมากไปกว่า การพาร่างกายที่หมดพลัง หัวใจที่ไร้ซึ่งแรงบันดาลใจหรืออะไรก็ตามที่กำลังจะหมดลง ไปให้ธรรมชาติเยียวยาให้กลับมาปกติอย่างเช่นเคย...

๒.งงในงง

อะไรจะสนุกไปกว่าการที่เรามีแผนแต่เอาเข้าจริงไม่ได้ทำตามเลย ตั๋วออนไลน์เหรอคงไม่ทัน โทรติดต่อเจ้าหน้าที่ก็สนุกสนานด้วยบทสนทนาที่ดุเดือด ถามว่ารถไปยังที่หมายมีกี่โมงครับ คุณเธอก็ตอบด้วยเสียงชัดถ้อยชัดคำ แบบขวานผ่าซาก “สามทุ่มครึ่ง” (ซากนี้มันคือซากอะไรนะ) ดังนั้นเราก็ต้องไปซื้อตั๋วก่อนใช่มะ จึงถามกลับไปอีกครั้งว่าสามารถซื้อได้เร็วสุดกี่โมงครับ “ก็ก่อนสามทุ่มไงคะ” เอ่อ..ครับแต่หมายถึง ไปซื้อได้เร็วสุดตอนไหนครับ ไม่ค่ะน้องก็มาซื้อก่อน สามทุ่มไงคะ เอ่อ...ครับคือประเด็นกูแค่อยากรู้ว่าเปิดซื้อเวลาแรกกี่โมงคือกลัวตั๋วหมดไง....

๓.เริ่ม...

ที่นี่หมอชิต นั้นมันรายการ!! แต่ ณ ที่นี้สถานีขนส่งหมอชิต สถานการณ์ยังคงคับคั่งไปด้วยผู้คนที่เดินทางไปยังที่ต่างๆ รถทัวร์คงตอบโจทย์การเดินทางที่คนส่วนใหญ่นิยม ด้วยความสะดวกและราคาไม่แพง ก็ถ้าไปเทียบกับตั๋วเครื่องบินแบบไม่ใช่โปรโมชั่น ซึ่งยังเร็วกว่ารถไฟแต่ช้ากว่าเครื่องบิน หรือมีกรณีเร็วกว่าเเบบไหนนะ...คิดเหมือนกันไหม… จึงเลือกเดินทางด้วยความมึนงงจากพนักงานที่คอยเดินมาต้อนเราเข้าตู้ ตั้งแต่ลง taxi จนได้ตั๋วแสงสุวรรณทัวร์ในราคา ๔๕๔ บาท รถออก ๒๑.๕๕ ชานชลา ๑๒๔ เป้าหมายเมื่อตื่นมาผานกเค้า...

๔.เจ้กิมตีห้า

รถจอดที่ร้านค้าแบบกึ่งผูกขาด ข้าวแกง โจ๊ก ขนม น้ำ และห้องสุขา สุครับก็มีนะ(กรณีผู้ชายอยากพูดบ้าง) ฟรีอาบน้ำได้ (ก็ตามความฟรีอะนะของดีมากไม่มีฟรีของที่ฟรีก็ใช้ไปเถอะเนอะ) จัดการหาของลงท้องพอประมาณ รถแดงพร้อมส่งทุกท่านที่ยอดดอย..เหรอฝันไปเถอะแค่ตีนเขาที่ทำการอุทยานนั้นแหละ ราคาถ้าเหมา ๓๐๐ แต่ไม่ต้องห่วง เรารอสิครัชคนเต็มไม่เกิน ๑๐ คนรถออก ก็จะได้ราคา ๓๐ บาท ก็เป็นไปตามระเบียบ เอาเชิญท่านทั้งหลายมาหารกัน...และอย่าลืมจองตั๋วกลับกทม.ไว้เลยขึ้นที่เนี่ยแหละ...

๕.อุทยาน

มองซ้ายทีขวาทีระหว่างต่อแถว หน้าตาดูลูกคุณหนูกันทั้งน้าน สาวๆขาวใสดีต่อใจ ชายหนุ่มท่าทางสดชื่นแสดงความฟิตกันออกมาโชว์ คิดในใจ (เหอะๆ : )เดี่ยวก็รู้) ค่าเข้าอุทยาน ๔๐ บาท ค่าเช่าพื้นที่กางเต็นท์ ๓๐ บาทต่อคืนต่อคน กรณีเอาเต็นท์มาเอง แต่ถ้าเช่าเต็นท์อุทยานไปกางก็ต้องเสียอยู่ดี หืมก็ยังต้องจ่ายอยู่ไงอย่างงดิ...

๖.ซำไปซ้ำมา

อุทยานแห่งชาติแห่งนี้ มีพื้นที่... เดี่ยวเหมือนคนอื่นเขาจะแบบมีเกิ่นประวัติก่อนแต่ช่างมันเอาเป็นว่า (ประวัติไปอ่านเอาเอง) ๕๕๕ เส้นทางเดินเท้า ประมาณเกือบ ๙ กิโลเมตรตามป้าย หรือระยะ ๙ กิโลแม้วตามเดินจริง จะเดินผ่าน ซำ ต่างๆ เกิดสงสัยเลยถามป้า ณ ซำหนึ่งว่า ทำไมต้องเป็นซำ แกบอกว่า ซำหมายถึงบริเวณที่มีน้ำผุดขึ้นมา ก็เรียกว่าซำชื่อนั้นโน้นไป เราก็อ๋ออ่าๆครับ ( แต่ยังไม่ได้ศึกษาเพิ่มเติม..) ฉะนั้น เราจะเดิน ซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่
ซำแฮก คำว่า แฮก นักท่องเที่ยวทั่วไปมักล้อเลียนว่ามีความหมายถึงอาการหอบ (ซึ่งคนเรามักจะออกเสียง แฮกๆ) แต่ในความเป็นจริงแล้ว คำว่า แฮก นี้หมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในภาษา
- ซำบอน หมายถึงบริเวณที่ต้นบอนขึ้นเยอะ
- ซำกกกอก หมายถึงบริเวณที่ต้นมะกอกขึ้นเยอะ
- ซำกกหว้า หมายถึงบริเวณที่ต้นหว้าขึ้นเยอะ
- ซำกกไผ่ หมายถึงบริเวณที่ต้นไผ่ขึ้นเยอะ
- ซำกกโดน อันนี้ไม่รู้
- ซำแคร่ อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
จากตีนเขาเดินไปโดยประมาณ ๕ กิโลแม้ว เริ่มก้าวเท้ากับไม้กายสิทธิ์ตั้งแต่ ๘.๐๐ น. จนถึงหลังแปร ๑๔.๔๐ แต่เดี่ยวก่อน ยังไม่ถึงที่กางเต็นท์นะครัช ยังต้องเดินต่อไปอีกประมาณ ๓.๖ กิโลเมตร ตลอดระยะทางมีกาลังใจและรอยยิ้มจากคนเดินลงสวนลงมา อีกไม่ไกลแล้ว สู้ๆ... เฮ้อไหนไม่ไกลคุณหลอกดาว !!

๗.ป้ายวิเศษ

ก็กว่าจะลั่นชัตเตอร์กันเสร็จกับแถวที่ต้องต่อคิวตามมารยาท มิเช่นนั้นคงมี ค้อน ตะปู หรือ คำสบท มากมายตามมา กับการรอถ่ายภาพกับป้ายหิน “ครั้งหนึ่งในชีวิตเราคือผู้พิชิตภูกระดึง” ที่ต้องแลกมาซึ่งกำลังวังชา หยาดเหงื่อ หรือน้ำตาเพื่อมาถ่ายกับป้ายนี้ ก็ต้องเอาหน่อยเอาให้คุ้ม...


๘.ตัดสินใจ

คงลืมไปแล้วว่าเรายังไม่ถึงลานกลางเต็นท์ ต้องพาสัมภาระอันหนักอึ้งบนบ่าที่แบกไว้ตั้งแต่ตีนดอย เพราะเราไม่ได้ใช้บริการลูกหาบ ก็หนักตามความต้องการของเเต่ละคนนั้นแหละ ต้องการมากก็หนักมาก ต้องการน้อยก็หนักน้อย เป็นเงื่อนไขของชีวิต รวมไปถึงคิวที่ต้องสลับกันแบกเต็นท์เปลี่ยนกันเเต่ละซำ เพื่อความเสมอภาค...

นาฬิกาบอก ๑๗.๐๐ น. รังนอนน้อยๆได้ถูกกางอยู่ในพื้นที่ ที่ลงความเห็นว่าดีที่สุด เราจะไปทันพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูกไหม...มีสองทางคือ ๑ รอให้พระอาทิตย์ตกโดยไม่ได้แม้แต่จะลองเดินไป หรือ ๒ ลองเสี่ยงเดินไปอย่างน้อยก็ได้ลองเดิน...



๙.ลึกลับ

ถ้าจะพูดถึงสิ่งที่มองไม่เห็น นอกจากถ้าเราหลับตาไม่เห็นอะไรแล้ว (อันนี้กวนเฉยๆ) ก็คงไม่พ้นเรื่องราวผีๆสางๆ และเราก็เชื่อว่าผีก็เหมือนกับความรัก 
ที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้...ผ่าม!!! (ต่อจากนี้โปรดใช้วิจารณญาณ และถ้าให้ดี โปรดใช้จักรยานในการปั่นไปดูพระอาทิตย์ตก
เพราะระยะทางประมาณ ๒.๕ กิโลเมตร ไปกลับก็ เกือบ ๕ กิโลมตร เลยนะ) ๕๕๕ เอาจริงๆ ละหลังจากที่เดินกลับจากดูพระอาทิตย์ที่อัสดงไปแล้ว
เราเดินรั้งท้าสุด ความมืดปกคลุมไปนานแล้วมีแสงแค่จากปากกระบอกไฟฉาย สองข้างทางเป็นต้นไม้สูงท่วมหัว ต้นสนสูงมีเป็นระยะๆ ทางเดินเป็นพื้นทรายสีขาวสะอาด แคบๆ ทุกเสียงก้าวเท้าที่เดินเรียงต่อกัน เหมือนมีเสียงเดินตามหลังทุกครั้ง เเละเมื่อหันกลับไปมองตามเสียงที่ตามมา ความว่างเปล่าเท่านั้นคือคำตอบ...

๑๐.เยียวยา

เขาว่ากันว่า หมูกระทะจะเยี่ยวยาทุกสิ่ง นี้คือจุดประสงค์หลักเลยก็ว่าได้ในทริปนี้ คือการได้มาเจออากาศหนาวๆ สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ 
และได้เจอหมูกระทะบนเตาถ่านร้อนที่ถูกเผาจนหอมกรุ่น เพื่อเยียวยาบาดแผลในใจ หรือให้ลืมความเหนื่อยล้าจากร่างกายมาตลอดทั้งวัน 
ในราคาชุดละ ๕๐๐ บาทที่อิ่มพอประมาณ ตบท้ายด้วยนมสดอุ่นๆ ที่มีไออุ่นๆเวลาจับและมันร้อนผ่าวไหลผ่านไปในลำคอเมื่อยกดื่ม 
ตอนลมเย็นพัดปะทะร่างกาย อืมฟิน...

๑๑.ขาลาก

“กองทัพต้องเดินด้วยท้อง” ผิดแผนอีกแล้วน้องจะทายังไง... ก็อย่างที่เคยบอกแผนที่ดีคือผิดแผน _ _! เดิมนี้ที่ต้องวาดฝันเอาไว้ว่าจะปั่นจักรยานชิวๆ 
ไปยังผาหล่มสัก แต่นั้นไง!! ๓๖๐ บาทต่อคน เห็นราคาแล้ว เอาไปให้ชาบูเยียวยาอีกครั้งเย็นนี้ละกัน เปลี่ยนจากปั่นๆไป เป็นวิ่งแบบพี่ตูน ๆ ก็แล้วกัน
มองแผนที่อีกครั้ง เฮ้อออ!!

เริ่มกันจาก”เมเบิ้ล”งาม ลานกลางเต็นท์ แวะนมัสการเมื่อเห็นองค์พระใหญ่

เดิน เดิน เดิน และก็เดิน เดิน เดินไป น้ำตกสอเหนือสูงใหญ่จกข้าวกัน

มีผึ้งน้อย เริ่มติดตามจากที่นี้ ตามทุกที บินติดตามเหมือนอาถรรพณ์

แผ่เมตตาก็แล้ว อย่าแกล้งกัน อย่าทำฉันไม่ทำเธอคนละทาง

ออกเดินต่อ เดินแล้วเดิน ทางไม่ผิด แดดเผ่าแล้วหน้าดำปิ๊ดเดินชิดผา

ต้องเร่งเดินกว่าจะถึง ที่หมายตา ผาหล่มสักไกลคณาที่หมายเรา

บ่ายสองแก่อาทิตย์คล้อยได้เงาเมฆ เดินต่อเดิน มองปลายเมฆหัวเราะลั่น

ในที่สุดถึงสักที หน้าเริ่มมัน ขาเริ่มสั่น คอเริ่มแห้ง ตาเริ่มมัว

แวะส่ง fax เป็นพิธีสร้างแลนด์มาร์ค แวะชักภาพที่ระลึกที่ผาหิน

แถวต่อยาวเรียงขบวนเป็นอาจิณ ซิกเนเจอร์ ของจริงหล่มสักงาม

๘ โลกว่าระยะทางกว่าจะถึง มองหน้ากันยิ้มแห้งผึ่งเมือนึกออก

ต้องเดินกลับนี่หว่า เดินอีกรอบ ก่อนจะมืดสะก่อนประวัติมี

เลือกเส้นทางเดินเรียบผาทางขากลับ แวะนั่งพักเป็นระยะตามจุดที่

มีร้านค้าแวะรองท้องขนมมี แต่ราคานี่ละซี่ ดุเดือดดัน

๕ โมงแล้วอาทิตย์คล้อย ท้องร้องโครก ขาสั่นโยกแวะพักก่อนจะอาสัญ

ชมอาทิตย์ลานภา เหยียบเมฆกัน สวยสุขสันต์เห็นไข่แดงสุกสกราว

รีบออกเดิน ก่อนจะมืด อีกหลายโยด ผู้คนโบกมือลาผ่านหน้าฉัน

ใช่หละซิเพราะเขาปั่น ใช่เดินกัน มีแต่เราเท่านั้นที่ต้องเดิน ...






....
ชื่อสินค้า:   เที่ยวภูกระดึง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่