น่าเป็นห่วง!เพื่อไทยเพิ่งรู้เสียบบัตรแทนกัน กระทบต่อมาตรฐานจริยธรรมของส.ส. ทำให้กฎหมายเป็นโมฆะ



21 ม.ค.63-  นายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน แถลงข่าวภายหลังประชุมวิปฝ่ายค้านว่า พรรคร่วมฝ่ายค้าน 7 พรรค ติดตามการกดบัตรแทนกัน 

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่นอกจากกระทบต่อมาตรฐานจริยธรรมของส.ส.แล้ว ยังมีผลอาจทำให้กฎหมายหลายฉบับ ถูกตีความว่าเป็นโมฆะหรือไม่ โดยเฉพาะพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 

เพราะหากเทียบเคียงกับกรณีการเสียบบัตรแทนกัน ในการพิจารณาร่างพรบ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำให้กฎหมายดังกล่าวเป็นโมฆะ ดังนั้นในแง่มุมนักกฎหมายมองว่าเรื่องการกดบัตรแทนกันก็น่าเป็นห่วง มีผลกระทบอย่างกว้างขวาง และยังมีกรณีซ้ำซ้อนมาอีกด้วยว่า หากสถานภาพ ส.ส.อนาคตใหม่ ถูกขับออก 4 คน ถ้าถูกตีความหมดสมาชิกภาพไปแล้ว แต่ยังไปกดบัตรโหวตอีก อาจทำให้ต้องถูกตีความกันอีก


เครดิต: สำนักข่าวอิศรา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาดำเนินการถอดถอนหรือไม่ถอดถอนนายนริศร ทองธิราช อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย กรณีเสียบบัตรลงคะแนนแทนบุคคลอื่น ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่มาของ ส.ว. และนายอุดมเดช รัตนเสถียร กรณีสลับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับประเด็นที่มาของ ส.ว. โดยเป็นการดำเนินการสืบเนื่องจากที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด

โดยก่อนเริ่มการลงคะแนนนเสียง นายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช. กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ประธาน สนช. ประสานแจ้งไปยังสมาชิก สนช. ที่ยังประชุมอยู่ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ต่าง ๆ ทุกคนให้พักการประชุม กมธ. ไว้ก่อน แล้วกลับเข้ามาร่วมลงคะแนนเสียง เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญด้วย

ล่าสุด ที่ประชุม สนช. มีมติเสียงข้างมากถอดถอนนายนริศร ด้วยคะแนน 221 เสียง ไม่ถอดถอน 1 เสียง งดออกเสียง 2 ราย จากทั้งหมด 224 เสียง

และมีมติเสียงข้างมากถอดถอนนายอุดมเดช ด้วยคะแนน 206 เสียง ไม่ถอดถอน 15 เสียง บัตรเสีย 3 ใบ จากทั้งหมด 224 เสียง
เท่ากับว่านายนริศร และนายอุดมเดช ถูกถอดถอนจากการดำรงตำแหน่ง ส.ส. เนื่องจากคะแนนเสียงเกิน 3 ใน 5 ของสมาชิก สนช. เท่าที่มีอยู่ และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี

นอกจากการถูก สนช. ถอดถอนแล้ว คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนให้อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อฟ้อง นายนริศร และนายอุดมเดช ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในกรณีนี้ด้วย

“อยากให้รัฐบาลเคลียร์เรื่องเหล่านี้ให้จบ ไม่อยากให้นำขึ้นทูลเกล้าฯทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท เพราะวันนี้มีทั้งเรื่อง สมาชิกภาพพรรคอนาคตใหม่จะหาทางออกอย่างไร เรื่องนายฉลอง ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย กับนายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการกดบัตร ซึ่งเป็นเรื่องที่ประธานสภาฯต้องสะสาง หาคำตอบ นอกจากหาใครทำผิดยังไม่พอ แต่ยังต้องดูว่า ส่งผลถึงพรบ.งบประมาณด้วยหรือไม่ แม้พรรคฝ่ายค้าน จะอยากให้พรบ.งบประมาณมีผลบังคับใช้ แต่มาเกิดกรณีนี้ก่อน จึงมีความกังวล อยากให้รัฐบาลเคลียร์เรื่องเหล่านี้ให้จบก่อน อย่างไรก็ดีหากพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะต้องโมฆะจริง จะต้องกลับมาที่วาระ3พิจารณากันอีกหรือไม่ หรือจะต้องลงมติใหม่ไปเลย ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจ แต่เรื่องนี้คาดว่า ประธานสภาฯคงน่าจะมีทางออก”นายสุทินกล่าว 

https://www.thaipost.net/main/detail/55123

คะแนนเสียงโหวตงก็ชนะขาด ทำไมต้องบังอาจเสียบบัตรแทนกัน

เพื่อแม้วเพิ่งรู้ว่า  ทำอย่างนี้กระทบมาตรฐานจริยธรรมของส.ส.

ก็ในอดีตเสียบบัตรแทนกัน หลักฐานชัดๆ ยังไม่เห็นว่าอะไร

ยุคนี้ก็มีเพื่อไทยเสียบบัตรแทนกันแต่จับตัวคนทำแทนไม่ได้



"ขจิตร" แจงเหตุเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาล เพราะเสียบบัตรทิ้งไว้ ปัดเป็นงูเห่าเพื่อไทย ยันไม่เคยปันใจให้รัฐบาล



“ชวน”สั่งเลขาธิการสภาฯ สอบ “ฉลอง”เด็กภูมิใจไทย ปมให้สิทธิส.ส.เสียบบัตรโหวตร่างพ.ร.บ.งบประมาณแทน

 กรณีนายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ แถลงผลการตรวจสอบการทำหน้าที่ส.ส. พบการให้สิทธิเสียบบัตรแสดงตนและกดบัตรออกเสียง ของนายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ส.ส.พัทลุง พรรคภูมิใจไทย กับบุคคลอื่นระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563  ซึ่งอาจทำให้ร่างกฎหมายดังกล่าวมีปัญหาและส่อเป็นโมฆะนั้น 



ล่าสุด  นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร  เปิดเผยว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เรียกตนเข้าพบและสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว 

“ผมจะเรียกประชุมคณะทำงานด้านกฎหมาย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ในวันที่ 21 มกราคม เวลา 09.30 น. เบื้องต้นจะตรวจสอบว่าการเสียบบัตรแทนกันจริงหรือไม่ โดยจะดูให้ละเอียดรอบคอบ ส่วนจะแล้วเสร็จภายในวันเดียวหรือไม่ ผมไม่ทราบแต่พยายามจะทำให้เร็วที่สุด” นายสรศักดิ์ ระบุ

https://www.thansettakij.com/content/419335

เป็นที่ทราบกันค่ะ ว่าการกดบัตรแทนกันเป็นการขาดจริยธรรมของส.ส.ที่เพื่อไทยเคยทำมาแล้ว และเกิดผลต้องถูกถอดถอนไปแล้ว

ทำให้กฎหมายที่โหวตเป็นโมฆะไปด้วย

แต่คราวนี้ส.ส.เพื่อไทยที่เสียบบัตรไว้ มีคนกดบัตรแทน แต่ไม่มีหลักฐานว่าใครทำแทน  คราวนี้เจอส.ส.ภูมิใจไทยอีกคน ที่มีคนกดบัตรให้แต่ยังจับไม่ได้ว่าใครทำแทน

ปัญหาคือจับตัวคนกดบัตรแทนไม่ได้  และก็ไม่เห็นส.ส.เพื่อไทยโดนถอดถอนอะไรเลย 

การไม่มีหลักฐานทำให้รอดตัวไปหรือเปล่า  และทำให้การโหวตที่ผ่านมาไม่กระทบไปด้วย

 แต่ขอตำหนิส.ส.ที่ขาดจริยธรรมทุกคน   

อย่าทำอีกนะคะ ไม่สนับสนุนค่ะ