เดินทางวันที่13-15 ธันวาคม 62
เราใช้บริการรถทัวร์ของเพชรประเสริฐเส้นทางกทม.-หล่มสัก เราเลือกรถรอบ 23.30 น. ของวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม เพื่อให้เดินทางถึงบขส.หล่มสักตี 5 ของวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม ถ้าพร้อมแล้วเราไปลุ้นดูหมอกครั้งแรกที่เขาค้อกันเลยจ้า ⛅
เช้าวันแรก : วันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม
เราเดินทางถึงบขส.หล่มสักประมาณตี 5 กว่า ๆ เราก็ทำธุระล้างหน้าแปรงฟัน และรอรับรถที่บขส.หล่มสัก ซึ่งเรานัดรถไว้ 6 โมงเช้า
หลังจากรับรถเสร็จก็ไปลุยกันเลยยยย 🚎 สถานที่แรกที่เราตั้งใจจะแวะก็คือ อนุสาวรีย์พ่อขุนผาเมืองซึ่งตั้งอยู่ตรงสี่แยกพ่อขุนและอยู่ใกล้กับบขส.หล่มสัก ไปไหว้เอาฤกษ์เอาชัย ขอพรให้เราเดินทางปลอดภัยกันตลอดทั้งทริป 😊
จากนั้นเราไปแวะกินข้าวเช้ากันที่ตั๊กม้อคอฟฟี่&โรงเตี๊ยมสุดขอบฟ้า ซึ่งเป็นร้านที่แบ่งออกเป็น 2 โซน มีทั้งร้านกาแฟและร้านอาหารสไตล์จีน สามารถไปนั่งชิล ๆ จิบกาแฟ เครื่องดื่ม หรือทานอาหารไปพร้อมกับวิวที่สวยงามได้บรรยากาศมากๆ ไม่ว่าจะไปเป็นครอบครัว ไปกันเป็นแก๊ง ไปกันเป็นคู่ได้หมดเลยจ้าา เพราะวิวดีเหมาะกับทุกเพศทุกวัยทุกคู่จ้ะ
โซนกาแฟ จะเปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น ส่วน โซนอาหาร จะเปิดสายหน่อยประมาณ 9 โมง
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จก็ไปต่อกันที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพราะตัววัดตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้านตั๊กม้อ แต่ แต่ แต่... สิ่งที่เราไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ! วันที่เราไปนั้นคนเยอะจัดดดดด เยอะมากกกก เยอะแบบอึดอัดไปเลย ดังนั้นเราและเพื่อนเลยตัดสินใจว่าไว้มาแวะใหม่ตอนขากลับ เวลานั้นสู้คนไม่ไหวจริง ๆ แนะนำว่าควรไปเช้าๆเลยค่ะ 😁
จากนั้นเราก็ไปต่อที่ทุ่งเว่อบีน่าซึ่งตั้งอยู่ภายในไร่ GB อยู่ติดกับทุ่งกังหันลมเขาค้อค่ะ บัตรเข้าทุ่งเว่อบีน่าราคา 10 บาทต่คน เมื่อเข้ามาก็จะพบกับทุ่งดอกเวอบีน่าสีม่วงกำลังบานสะพรั่ง ตอนนั้นเราไปช่วงกลางเดือนธันวาคม ดอกไม้อาจจะมีร่วงโรยไปแล้วบ้างแต่ก็ยังคงความสวยไว้อยู่ 🌸🌸
ภายในพื้นที่ของไร่ GB นอกจากมีทุ่งดอกไม้แล้ว ยังมีชิงช้า และร้านกาแฟให้เลือกนั่งชิล ๆ ภายในพื้นที่เดียวกันอีกด้วย ไปถ่ายรูปมุมสวย ๆ ได้ตามชอบเลย
นอกจากดอกเว่อบีน่าก็ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นด้วย ถ่ายมุมไหนก็วิวสวยไปหมด (เราไปสายแล้วคนจะเยอะหน่อย)
วิวจากระเบียงร้านกาแฟ (จำชื่อร้านไม่ได้ ) ร้านตั้งอยู่ด้านล่างทุ่งดอกเว่อบีน่า
ใครที่ไม่กินกาแฟที่ร้านก็จะมีชานมไข่มุกหรือเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้เลือกเยอะเลยค่ะ มีหลายร้านให้เลือกนั่งกันด้วย
ภายในพื้นที่ติดกับไร่ก็จะมีร้านค้าเยอะแยะมากมาย มีกิจกรรมให้ทำสนุก ๆ ด้วยค่ะ
จุดชมวิวทุ่งกังหันลม
หลังจากที่เราเดินเที่ยว หามุมถ่ายรูปสวย ๆ กันเพลิน ๆ จนถึงเวลามื้อเที่ยง (ถ่ายรูปเพลินจริง ๆ) เรามาทานมื้อเที่ยงกันที่"ร้านขนมจีนเส้นสดแม่หนูครัวแม่หนู" ขนมจีนเส้นสดหลากสี ที่ตั้งของร้านอยู่ตรงข้าม"Story cup"
ที่ร้านจะมีขนมจีนขายเป็นชุด มีชุดเล็ก ชุดใหญ่ ให้เลือก มีน้ำยาให้ 3 อย่าง น้ำยากะทิ,น้ำยาป่าและน้ำพริก รสชาติกลาง ๆ ไม่เผ็ด รวมๆแล้วอร่อยเลยค่ะ ทางร้านยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกอีกด้วยค่า 😊 ใครสนใจก็แวะไปทานกันเด้อ ร้านหาไม่ยากเลยแค่พิมพ์ชื่อร้านใน map เลยจ้า ☺
หลังจากทานมื้อเที่ยงตอนบ่าย ๆ เราก็เดินทางต่อเพื่อเข้าที่พัก ทริปนี้เราเลือกพักกันที่ Lake Hill บนทะเลหมอกเขค้อ & The pug coffee เราไปถึงประมาณบ่ายสามเข้าเช็คอินเรียบร้อย พนักงานก็แนะนำว่าให้เข้ามาพักตอนประมาณ 5 โมงเย็นจะดีกว่า เพราะตอนเราเข้าไปอากาศยังร้อนอยู่ แดดแรงมากกกก 🏜 เราเลยตัดสินใจนั่งเล่นที่คาเฟ่ The pug coffee ซึ่งอยู่ภายในพื้นที่เดียวกันกับที่พัก
เค้กน่าทานทุกอย่างเลยค่ะ เครื่องดื่มก็อร่อยสมราคา นั่งเล่น ๆ ที่คาเฟ่สักพักเราก็ไปเดินเล่นที่จุดชมวิวเขาค้อ ขับรถไปไม่ไกลจากที่พัก ไปง่าย สะดวกมาก
ที่จุดชมวิวสามารถนั่งรอดูพระอาทิตย์ตกได้เลยนะ ฝั่งตรงข้ามจุดชมวิวมีร้านค้าของชุมชนตั้งขายด้วย
บรรยากาศยามเย็น ณ ที่พัก เราเลือกพักแบบกระโจมนอนได้ 3 คน และมีห้องน้ำติดกับตัวกระโจม (มีให้เลือกห้องน้ำรวมด้วยนะ ราคาก็จะถูกลง)
นั่งดูพระอาทิตย์ตกได้จากหน้าที่พักแบบฟิน ๆ วิวจากหน้าที่พัก คือ ประทับใจมากกกกก🌞
ในที่สุดก็มาถึงมื้อค่ำค่ะ จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากหมูกะทะร้อน ๆ กับอากาศเย็น ๆ แบบนี้
เราเลือกที่จะเดินออกไปหาร้านหมูกะทะตรงหน้าไปรษณีเขาค้อ ซึ่งไม่ไกลจากที่พักอีกเช่นเคย สามารถเดินได้ ร้านนี้หัวละ 199 มีอาหารทะเลค่ะ (จำชื่อร้านไม่ได้อีกเช่นเคย 😭) หมูนุ่ม น้ำจิ้มก็อร่อยค่ะ ไปลองทานกันได้ และถ้าใครไม่อยากขับรถออกไปตอนค่ำ ๆ ตรงไปรษณีก็จะมีร้านอาหารไว้บริการด้วย
จบไปสำหรับวันแรกที่เขาค้อ เรามาลุ้นกันค่ะว่าตอนเช้าจะมีหมอกให้เราได้ถ่ายรูปฟิน ๆ กันหรือป่าววว
เช้าวันที่ 2 : 15 ธันวาคม ตื่นมาพร้อมกับหมอกฟิน ๆ ยามเช้า
น้องหมอกมาให้เราเฉยชมกันถึงหน้าที่พักเลยค่ะ
ที่พักบรรยากาศดีมาก ๆ แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงเขาค้อแล้วเราก็ไปถ่ายรูปกับจุดชมวิวกันซะหน่อย
บรรยากาศที่จุดชมวิวก็ดีไม่แพ้กันค่ะ จากนั้นก็กลับมาทานอาหารเช้าที่ที่พักเตรียมไว้ให้ค่ะ (ไม่ได้ถ่ายรูปมาฝาก เพราะหิวมาก😊)
บรรยากาศตอนเช้าหลังจากน้องหมอกไปแล้ว
หลังจากอิ่มเอบกับการชิมบรรยากาศยามเช้าแล้วเราก็ได้เช็คเอ้าออก เพื่อเดินทางไปยังวัดพระธาตุผ่าซ่อนแก้วต่อค่ะ หลังจากที่เราพลาดไปในวันแรก
ระหว่างทางก็ได้แวะ เจดีย์พระบรมสารีริกธาตุเขาค้อ
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปให้ประชาชนได้สักการะบูชา ส่วนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ พระอัฐธาตุของพระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เปิดให้เข้าสักการะทุกวัน เวลา 8.00-17.00 น. ค่ะ
แวะถ่ายรูปวิวจากไร่สตอเบอรี่ ใครชอบไร่ไหนก็แวะได้หมดเลย มีหลายไร่มากจ้า
ในที่สุดก็มาถึงวัดผ่าซ่อนแก้ว คนก็ยังเยอะเหมือนเดิมค่ะ แต่วันนี้เราจะไม่ยอมแพ้ ลุย ! เด่วจะหาว่ามาไม่ถึงเขาค้อ หึหึๆ 😁
ในที่สุดก็ได้เข้าชม ไหว้พระ และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก เสร็จจากวัดผ่าซ่อนแก้ว เราก็เดินทางต่อเพื่อไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านขนมจีนสารัชค่ะ
เส้นขนมจีนหลากสี กับน้ำแกง 3 อย่างค่ะ รสชาติอร่อยเลยค่ะ
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร้จเราก็เดินทางต่อไปบขส.หล่มสัก เพื่อคืนรถและขึ้นรถกลับกทม. กันค่ะ
เราได้จองรถขากลับของเพชรประเสริฐเส้นทางหล่มสัก-กทม. รถรอบ 17.40 น.ค่ะ อ่อลืมบอกไปค่ะ เดินทางถึงบขส.หล่มสักแล้วสามารถจองรถขากลับได้เลยนะคะ รีบๆเด้อเดี๋ยวจะเต็ม
สรุปทริปนี้ก็คงได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่อีกเช่นเคยค่ะ แต่ละทริป ต่างสถานที่กันก็จะให้อารมณ์และความรู้สึกที่ต่างกันออกไป เราอยากให้ทุกคนลองเลือกและไปในสถานที่ ที่ตัวเองไม่เคยไปดูสักครั้งนะคะ อาจจะเป็นเรื่องราวดี ๆ อีกเรื่องหนึ่งในชีวิต 🙂
สรุปค่าใช้จ่ายต่างๆ
ค่าที่พัก : คืนละ 3,900 บ. รวมอาหารเช้า คนละ 1,300
ค่ารถทัวร์ : ขาไปและกลับ คนละ 608 บ.
ค่าเช่ารถ : 2วัน ทั้งหมด 2,300 (หาร 3 ตกคนละ 767 บ.) เบอร์ติดต่อ : 0800840037 หล่มสักรถเช่าเขาค้อ เพชรบูรณ์
ค่าน้ำมันรถ : ประมาณ 600 บ. ตกคนละ 200 บ.
ค่ากินระหว่างทริป : คนละประมาณ 1,000 บ.
โดยรวมแล้วตกคนละประมาณ 4,000 บ.
[CR] รีวิวเที่ยวเขาค้อ 2 วัน 1 คืน ทริปส่งท้ายปี 2562
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้