เมื่อวันศุกร์ที่ 17 มค 63 เราติดต่อร้านแอร์ที่เราใช้บริการประจำมาล้างแอร์ที่ร้านค้าให้
โดยคิดค่าบริการล้างแอร์ 500 บาท ช่างมาล้างแอร์ช่วงสายๆ ล้างเสร็จปรากฎว่าแอร์ใช้งานไม่ได้
ช่างแจ้งว่าน่าจะเกิดจากน้ำเข้าแผงวงจร ช่างบอกจะเปลี่ยนแผงวงจรให้ แต่ต้องรออะไหล่
เราขอให้มาซ่อมด่วนภายในวันนั้น ตกเย็นช่างสั่งแผงวงจรมาทันเวลา จัดการเปลี่ยนให้
แต่แอร์ยังใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม ช่างบอกว่าต้องรอแจ้งศูนย์ให้เข้ามาดูให้วันจันทร์
และอาจต้องรอศูนย์ติดต่อกลับภายใน 3 วัน คือร้านเราเป็นร้านค้าที่จำเป็นต้องใช้แอร์ทุกวัน
เราเข้าใจในมุมช่างว่าเค้าคงไม่อยากให้เกิด แต่เราก็แปลกใจว่าตั้งแต่ล้างแอร์มาก็ไม่เคยมีใครทำแอร์พังได้
เราโทรไปถามร้านว่าเอาช่างที่ไหนมาล้างแอร์ให้เรา ร้านบอกว่าเป็นช่างของร้าน
เมื่อวันศุกร์ก่อนช่างเข้ามา มีผู้หญิงอีกคนโทรมาแจ้งก่อนที่ช่างจะเข้าหน้างาน แล้วพอเกิดปัญหาเราโทรกลับเบอร์นี้
เราถามว่าใช่ร้านแอร์....มั้ย เค้าบอกไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นอีกร้านที่เข้าไปล้างแอร์ให้ เราเลยคิดว่าช่างแอร์คนนี้น่าจะมาจากอีกร้านนึง
ที่ร้านใหญ่ป้อนงานให้อีกที เราเกิดคำถามอยู่ในใจ จนอยากมาขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆในนี้ค่ะ
1. ร้านแอร์ควรจะต้องรับผิดชอบอะไรบ้างมั้ย เพราะเราเกิดความเสียหายที่จะต้องเปิดแอร์ที่ร้านทุกวัน แต่นี่คือแอร์น่าจะใช้งานไม่ได้ร่วม 5-7 วัน
2. แอร์เราเพิ่งซื้อใหม่ได้แค่ 1 ปีกับ 2 เดือน เราว่าใครก็คงไม่ได้อยากให้แอร์ถูกซ่อมเร็วขนาดนี้ และแอร์ที่เราซื้อกับที่ร้านมาก่อนหน้านี้ ใช้งานร่วม 6 ปี ก็ยังไม่เคยต้องซ่อมเลย เรากลัวว่าจากของใหม่พอถูกซ่อมไปแล้ว มันจะมีปัญหาตามมาทีหลังอีกหรือเปล่า อาจจะเกิดปัญหาจุกจิกในอนาคตที่คาดไม่ถึงก็ได้ เราไม่มีความรู้เรื่องแอร์ ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกันมั้ย
3. เราควรต้องแจ้งความอะไรก่อนมั้ย หรือรอจนกว่าการซ่อมจะสิ้นสุดลงแล้วแอร์ใช้งานได้ก็ปล่อยให้มันจบๆไป เราสงสารช่างนะ เรารู้ว่าเค้าก็พยายามรับผิดชอบในสิ่งที่เค้าทำพลาด แต่ในอนาคตถ้าแอร์พังใครจะรับผิดชอบให้เรา ใจจริงคืออยากได้แอร์ใหม่ไปเลย แต่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็คิดเล่นๆว่าควรให้ร้านทำหนังสือแสดงความรับผิดชอบถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตที่เกิดจากความผิดพลาดของการล้างแอร์ครั้งนี้หรือเปล่า ว่าร้านจะส่งช่างมาดูแลหรือซ่อมให้โดยไม่คิดค่าบริการ