หลังจากชมเรือตัดน้ำแข็งเลนินเสร็จแล้วก็มาเดินกลับกัน ขากลับผมมาอีกทาง
ซึ่งคิดว่าระยะทางน่าจะสั้นกว่าขามา  ซึ่งจะผ่าน MURMANSK RAILWAY STATION

จากรูปจะเห็นว่าสะพานสูงมาก อาจเพราะต้องทำให้สูงเพื่อให้รถไฟรอดผ่านได้

เมื่อมองจากสะพานจะเห็นรถไฟมากมาย
สมัยก่อนที่ MURMANSK เคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดทางแถบขั้วโลก จึงมีรถไฟมากมาย

ทางเดินบนสะพาน

หัวรถจักรของรถไฟ

MURMANSK RAILWAY STATION

เดินผ่านท่ารถบัส ตอนแรกก็หาอยู่ว่าท่ารถบัสอยู่ตรงไหนจะได้ขึ้นรถบัสตอนไปสนามบิน
ท่ารถบัสนี้มีสองที่ใกล้ๆกัน ในภาพเป็นท่าที่อยู่ข้างล่าง ถ้าไปสนามบินต้องขึ้นไปท่ารถบัส
ที่อยู่ถัดไปที่อยู่ด้านบน

*** MONUMENT TO THE VICTIMS OF INTERVENTION 1918-1920
เดินผ่านสวนสาธารณะที่มีอนุสาวรีย์ที่ระลึกอยู่ตรงกลาง

มีการตกแต่งไฟเพื่อความสวยงาม

กลับมาอยู่ที่หน้าโรงแรม azimut แต่ต้นคริสมาสต์ไม่ได้เปิดไฟ  

โรงแรม azimut เป็นโรงแรมเก่าแก่และมีชื่อเสียงของ Murmansk

บริเวณหน้าโรงแรมจะมีการจัดไฟสวยงาม ในรูปน่าจะเป็นดาว

ไฟประดับนี้เป็นเหมือนห้องนั่งเล่น มีเก้าอี้ โต๊ะและเตาผิง ตอนผมมาเมื่อวานเห็นเขากำลังจัดไฟที่นี่พอดี
กำลังวางไฟ วางอุปกรณ์เต็มไปหมด วันนี้ก็เสร็จแล้วดูสวยงามดี

ทำเป็นรูประเบิดขนาดใหญ่ เข้าไปดูไฟจากข้างในได้


เมื่อมองจากด้านใน

มีที่นั่งข้างในด้วย ผมก็เข้าไปนั่งดูอยู่แป๊ปนึง

สวนสาธารณะอีกแห่ง อยู่ใกล้ๆกับโรงแรม azimut เพืยงแค่เดินข้ามถนนมาอีกหน่อย

บริเวณตรงกลางของสวนสาธารณะมีการจัดไฟเป็นรูปน้ำพุ ถ้าดูในวิดีโอ
จะเห็นว่าไฟนั้นเคลื่อนไหวได้เหมือนน้ำพุ

อุณหภูมิตอนนี้ -1 องศา

ไฟครึ่งวงกลมเป็นทางเดินยาว

สี่แยกตรงบริเวณโรงแรม azimut

ห้างสรรพสินค้า หน้าโรงแรม azimu ตอนเพิ่งมาถึงโรงแรม ไม่รู้จะกินอะไรก็มากิน Mc ที่นี่

จากนั้นผมก็กลับห้องพัก เพื่อรอไปดูแสงเหนือตอนกลางคืนโดยนัดทัวร์มาเจอ
ที่หน้าโรงแรม azimut ตอน 3 ทุ่ม

เมื่อกลับถึงห้องก็เปลี่ยนเสื้อผ้าโดยเปลี่ยนจากกางเกงยีนส์เป็นกางเกงกันหนาว
แบบที่ใช้เล่นสกีเพราะคิดว่าระหว่างดูแสงเหนือน่าจะหนาวมาก

เมื่อใกล้ถึงเวลานัดก็ลงมาหาอะไรกินแถวอพาร์ทเมนต์ เพราะไปดูแสงเหนือ
น่าจะดึกซึ่งอาจจะหิวได้  เดินไปเดินมาก็ไปเจอร้านอาหารเล็กๆอยู่ร้านหนึ่ง 
ก็เข้าไปสั่งอาหาร เข้าไปพูดภาษาอังกฤษด้วย เขาก็ทำหน้างงๆ ก็เลยชี้เมนูที่ป้ายเอา 
ก็ได้อาหารค่ำมาชิ้นหนึ่ง

อาหารเย็นนี้เป็นผักและเนื้อไก่ ห่อด้วยแป้งบางกรอบ คล้ายๆที่กินที่เซ็นปีเตอร์ สนนราคา 159 rub
รสชาติก็ใช้ได้ แต่อิ่มมากเพราะชิ้นใหญ่ เมื่อท้องอิ่มก็พร้อมออกเดินทาง

เมื่อถึงเวลานัดทัวร์ก็มารอ เป็นชายชาวรัสเซีย มากับรถเก๋งสีดำแบบ 2 ประตู 4 ที่นั่ง
ในทัวร์นี้มีผมและคนไทยที่เจอที่โรงแรม azimut อีก 2 คน รวมกับไกด์อีกคน ก็เป็น 4 คนพอดี
ตอนขึ้นรถเขาก็บอกว่าขอบันทึกวิดีโอด้วยเพื่อเอาไปลงใน youtube พวกเราก็ไม่ขัดข้อง

จากนั้นเขาก็ขับรถออกนอกเมืองไปเรื่อยๆ เขาบอกว่าถ้าจะเห็นแสงเหนือต้องออกไปที่มืดๆ
ถึงจะเห็นชัด ในเมืองค่อนข้างสว่าง ต้องออกไปนอกเมือง สองข้างทางค่อนข้างมืดและดึกแล้ว 
ผมนี่นั่งไปตาจะปิดแล้ว ง่วงนอนมาก

ระหว่างขับเขาก็มีคุยโทรศัพท์ด้วย คิดว่าคงติดต่อกับเพื่อนเขาเพื่อดูว่าที่ไหนมีแสงเหนือ
จะได้ขับไปทางนั้น ไกด์ก็ขับไปเรื่อยๆ ผมเห็นป้ายไปฟินแลนด์ด้วย คือเราขับมาแทบจะออกนอก
ประเทศรัสเซียแล้ว

ขับมาประมาณ 2 ชม. หิมะก็ตกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เราออกจากเมือง ก็ยังไม่เจอแสงเหนือ
ซักพักเขาก็จอดรถที่หนึ่งใกล้ๆถนน ตรงนั้นเป็นเหมือนจุดชมวิวข้างทาง ซึ่งมีรถหลายคันจอด
อยู่ตรงนั้นด้วย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นทัวร์ที่มาดูแสงเหนือเหมือนกัน

เมื่อออกมาจากรถ ก็ได้สัมผัสกับความหนาวนอกรถซึ่งหนาวมาก มองออกไปที่วิวข้างทาง
ก็มืดไปหมดไม่เห็นอะไร แล้วไกด์ก็บอกว่าวันนี้เราโชคไม่ได้ ไม่ได้เห็นแสงเหนือ
แต่ถ้าพวกเราจะมาดูแสงเหนืออีกในวันพรุ่งนี้เขาจะลดค่าทัวร์ให้ 50% ซึ่งผมคงไปทัวร์ไม่ได้แล้ว
เพราะพรุ่งนี้ต้องบินไปมอสโคว์

พวกเราก็ชมวิวที่มืดมิดแถวนั้นสักพัก เอาตัวไปสัมผัสอากาศติดลบสักหน่อย เขาก็ให้ขึ้นรถ
เพื่อเดินทางกลับเข้าเมือง

สำหรับวันนี้ก็ขอจบแต่เพียงเท่านี้ คราวหน้าจะพาไปดูภายในห้องที่ผมพักกัน 
ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องกันตอนเข้าพัก แต่ห้องที่เขาเปลี่ยนให้ผมก็ถือว่าดีและกว้างขวางมาก
ขอบคุณที่ติดตามชมครับ

ตอนต่อไป
https://ppantip.com/topic/39591977

สามารถติดตามทางช่องทางอื่นๆได้ดังนี้ครับ
https://www.facebook.com/photojourneylover/
https://www.youtube.com/channel/UC6YHZIDA0wWJznUI41-5yyQ
https://www.instagram.com/mekabeam/