หลังจากเดินทางมา 2 ชม เราก็มาถึงสนาบบินของ Murmansk
เมื่อลงจากเครื่องบินก็ต้องขึ้นรถบัสของสนามบินไปที่อาคารผู้โดยสาร
แนะนำให้ใส่เสื้อกันหนาวลงเครื่องด้วยเพราะอากาศข้างนอกหนาวมาก
ถึงแม้จะเป็นระยะสั้นๆระหว่างเรื่องบินกับรถบัสก็ตาม
สนามบินที่ Murmansk เป็นสนามบินไม่ใหญ่มาก หลังจากมาถึงอาคารผู้โดยสาร
ก็มารับของที่โหลดมาใต้เครื่องบิน แล้วก็ออกมาข้างนอก
การเดินทางไปตัวเมือง Murmansk ส่วนใหญ่ถ้าเดินทางสะดวกคือเดินทางโดยเหมา
รถไปหรือแท็กซี่ ซึ่งราคาค่อนข้างสูง ถ้ามีคนไปหลายคนหารกันก็ค่อนข้างคุ้ม
แต่ผมเดินทางคนเดียวก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไปอ่านเจอรีวิวมาว่าสามารถโดยสารรถบัสเข้าเมืองได้
จากที่อ่านรีวิวมาป้ายรถบัสอยู่หน้าสนามบินเลย ผมก็เดินๆดู แต่ก็หาไม่เจอ
ก็เลยเข้าไปถามพนักงานข้างในสนามบิน ก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่
เขาก็เลยเดินออกมาส่งข้างนอก แล้วก็ชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งก็อยู่ข้างหน้าสนามบินเลย
ซึ่งผมเดินผ่านไปแต่ไม่รู้ว่าเป็นป้ายรถเมล์ จากนั้นผมก็ไปนั่งรอรถบัส ซึ่งไม่มีใครนั่ง
รอที่ป้ายรถบัสเลย สักพักรถบัสก็มา
มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมา แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ารถบัสคันไหนจะเข้าตัวเมืองได้
หรือไปยังที่พักที่ผมจองไว้ได้ จากในรีวิวบอกว่ารถบัสเล็กสาย 106 ไปได้
แต่ตอนนั้นเห็นรถบัสเล็กวิ่งผ่านมา จำไม่ได้แล้วว่าสายอะไร ผมเลยเดินขึ้นไปถาม
บนรถบัสเลย เดินขึ้นไปตรงประตูก็จะเจอกับคนขับรถบัส
คำถามง่ายๆคือ ก็บอกชื่อที่พักที่ผมจองไว้ไป ไม่ต้องใช้ประโยคภาษาอังกฤษยืดยาว
ถ้ามีรูปก็แสดงให้เขาดู ปรากฎว่าเขาไม่รู้จัก ดังนั้นเราต้องบอกสถานที่ใกล้เคียงที่เขา
น่าจะรู้จักคือ โรงแรม AZIMUT ซึ่งเขาก็รู้จัก ซึ่งรถบัสคันนี้สามารถไปได้
ตอนผมขึ้นไปนั่งบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารเลย ผมคิดว่าน่าจะเป็นสถานีต้นทาง
จากนั้นรถบัสคันนี้ก็วิ่งออกจากสนามบิน ระหว่างทางก็รับผู้โดยสารมาเรื่อยๆ ระหว่างนั่งผมก็เปิด
Google Map ไปด้วยเพื่อดูว่ารถบัสยังอยู่ในเส้นทางที่ผมจะไปไหม ซึ่งก็ยังคง
อยู่ในเส้นทางนั้น
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถบัส ผมก็มองออกไปด้านนอก ซึ่งบรรยากาศข้างนอกนั้นมืดมาก
ตอนนั้นดูนาฬิกาประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในฤดูหนาว
ถ้าเป็นที่ Saint Petersburg จะไม่มืดขนาดนี้ แต่ที่ผมเห็นตอนนี้เหมือนอยู่กลางดึกเลย
รถบัสค่อยๆแล่นฝ่าความมืดไปตามถนน
การเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศรัสเซียครั้งแรก ไปเมืองที่ไม่เคยไปมาก่อนในชีวิต
นั่งรถบัสที่ไม่รู้ว่าจะไปถูกไหม บรรยากาศหนาวเหน็บและมืดครึ้มของด้านนอก
ก็ถือเป็นประสบการณ์ผจญภัยในต่างประเทศที่สนุกไปอีกแบบ
ประมาณอีกเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมารถบัส ก็มาถึงตัวเมือง Murmansk
ซึ่งปัญหายังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น
ที่พักที่ผมจองไว้อยู่ใกล้ๆโรงแรม Azimut เป็นห้องพักที่อยู่ใน Apartment
ที่เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวพัก ก่อนมาที่ Murmansk ผมก็ส่งข้อความไปบอกที่พัก
ว่าผมจะเดินทางไปในวันพรุ่งนี้นะ ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่าเขาเตรียมห้องให้ผม
เสร็จแล้ว ถ้ามาถึงก็เข้าพักได้เลยไม่มีปัญหา ซึ่งก็ไม่คิดว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไร
จนมาถึงที่ Murmansk
เมื่อมาถึงผมก็เปิดแผนที่แล้วก็เดินเท้าไปยังที่พัก ก็เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึง
ซอยที่มืดและเปลี่ยวซอยหนึ่ง ในแผนที่ระบุว่าที่พักนี้ให้เดินเข้าไปซอยนี้
ซัก 100-200 เมตรก็จะถึง ผมยืนอยู่หน้าปากซอยแต่ไม่กล้าเดินเข้าไป
ซอยนั้นไม่ได้เล็ก เป็นซอยที่มีถนนให้รถขนาดเล็กสวนทางได้ แต่ค่อนข้างมืดมาก
ด้านซ้ายเป็นอาคารธรรมาดาไม่เปิดไฟ แต่ส่วนด้านขวาเหมือนอาคารร้าง
ผมยืนลังเลอยู่หน้าปากซอย อากาศก็หนาวมาก ลมก็พัดมาไม่หยุด ซักพักหนึ่ง
ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากซอย ซึ่งในมือก็อุ้มลูกน้อยมาด้วย ลูกน้อย
ที่เขาอุ้มมา ปกปิดด้วยเครื่องกันหนาวทั้งตัวโพล่มาแค่หน้า แต่ผมมองไม่เห็นหน้าเด็ก
เพราะแถวนั้นค่อนข้างมืด แต่ดูจากขนาดเด็กแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 1 ปี
แถวนั้นไม่มีใครเดินผ่านมาเลย ผมก็เลยเดินเข้าไปถามชายคนนั้น
ผมก็เปิดรูปและชื่อที่พักให้เขาดู เขามองดูซักพักก็บอกว่าข้างในซอย
ไม่มีชื่อที่พักที่ผมบอก เอาหล่ะซิเป็นเรื่องแล้วไง ชายคนนั้นก็ถามว่ามีเบอร์โทร
ที่พักไหม เดี๋ยวเขาจะโทรไปถามให้ ผมก็หาเบอร์อยู่สักพักและก็กดโทร
แล้วเขาก็คุยให้เป็นภาษารัสเซีย
เมื่อวางสาย เขาก็บอกว่าให้ผมรอยู่ตรงนี้สัก 10-15 นาที แล้วจะมีเจ้าของที่พัก
จะมารับผมไป อีกสักประมาณ 10 นาที แฟนของผู้ชายคนนี้ก็มาแล้วก็เดินจากไป
ตอนนี้ก็เหลือผมคนเดียวอยู่หน้าปากซอย นานๆจะมีคนเดินผ่านซอยนี้ซักครั้งหนึ่ง
ผมก็ยืนรอไป ซักพักก็มีรถเก๋งสีดำมาจอดที่หน้าปากซอย
รถที่มาจอดเป็นของเจ้าของที่พัก เขาก็บอกให้ผมขึ้นรถแล้วจะพาไปที่พัก
ผมก็กล้าๆกลัวๆ แต่ก็จำเป็นต้องขึ้นรถไป รถก็มุ่งหน้าไปทางโรงแรม Azimut
แล้วก็ไปจอดที่อาคาร อาคารหนึ่ง
เจ้าของที่พักเป็นคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งมากับลูกเล็กของเขาประมาณ 5 ขวบ
พาผมขึ้นไปยังที่พัก แล้วก็แจ้งกับผมว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนที่พักให้ผมเพราะ
ที่พักที่ผมจองไว้เครื่องทำความร้อนเสีย
จากนั้นเขาก็ขอให้ผมไป cancel ที่พักของเขาที่ผมจองไว้ที่ Booking
ตอนแรกผมก็สงสัยเขาว่า ทำไมต้องเจ้าของที่พักพยายามให้ผมไป cancel ที่พักของเขา
มาคิดๆดูเขาคงจะกลัวว่าผมจะไปเขียน comment ว่าเขาใน Booking แน่เลย
จริงๆเขาก็สมควรโดนว่าแหละ เพราะก่อนมาที่ Murmansk ผมก็แจ้งเขาไปแล้ว
ว่าจะมา เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร พอมาถึงก็ไม่มีข้อความใดๆมาบอกผมเลย
ถ้าไม่ได้คนรัสเซียคนนั้นช่วยพูดให้ ป่านนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะมีที่พักในคืนนี้ไหม
แต่ห้องที่เขาเปลี่ยนให้ก็ค่อนข้างดูดี ผมก็ยังพอให้อภัยได้ ไม่อยากเรื่องมาก
จากในภาพ ทางขึ้นห้องเป็นประตูทางฝั่งซ้าย
หลังจากที่ลงเครื่องบินมาผมยังไม่ได้กินอะไรเลย ต้องออกไปหาอะไรกินแถวนั้นหน่อย
ที่พักที่เขาเปลี่ยนให้จะอยู่ใกล้โรงแรม Azimut มากกว่าที่เก่า เมื่อเดินออกมา
ก็เห็นห้างๆหนึ่งก็เลยเข้าไปหาอะไรกิน จากรูปเป็นด้านหน้าห้าง
เดินไปเดินมาไม่รู้จะกินอะไร สุดท้ายก็มาจบที่เบอร์เกอร์ง่ายดี
เมื่อกินอิ่มก็เดินสำรวจห้าง ห้างนี้ไม่ใหญ่มากแต่มีหลายชั้น มีขายเสื้อผ้าและของใช้หลายอย่าง
ชุดนี้ 304 rub
จุดประสงค์ที่มา Murmansk ก็คือมาดูแสงเหนือ การมาดูแสงเหนือต้องไปกับทัวร์
เท่านั้น จะจองทัวร์ในเวป หรือจะมาจองที่ Murmansk ก็ได้ ส่วนผมมีจองและติดต่อ
ทัวร์ผ่านเฟสบุ๊ค เขาบอกว่ามาถึง Murmansk แล้วค่อยแจ้งเขาอีกครั้ง
ก่อนมาถึง Murmansk ผมก็ติดต่อไปยังทัวร์ที่ผมจองไว้แล้ว แต่เขาตอบกลับมาช้ามาก
จนผมมาถึง Murmansk ก็ลองติดต่อไปอีก คราวนี้เงียบหายไปเลย ไม่รู้จะทำไงต่อดี
ก็เลยลองไปถามที่โรงแรม azimut
ไปถึงก็ถามพนักงานโรงแรมว่ามีทัวร์ที่ไป Murmansk ไหม เขาก็ติดต่อให้
ซึ่งมี แต่ทัวร์เต็มแล้ว ก็นั่งงงๆอยู่ที่ Lobby โรงแรม ไม่รู้จะไปไหนต่อดี
ระหว่างนั่งอยู่ก็ได้ยินเสียงคนพูดภาษาไทย ผมจึงเข้าไปทักทาย ได้ความว่า
เขาก็มาดูแสงเหนือเหมือนกัน ก็ติดต่อไว้กับทัวร์หลายเจ้า ถ้าผมไปด้วยก็จะดีมาก
ค่าทัวร์ก็จะลดลง ตอนแรกเขามี 2 คน ถ้ารวมผมด้วยก็ 3 คน แต่สุดท้ายวันนั้น
ก็ไม่ได้ไปดูแสงเหนือ เพราะหลายๆทัวร์แจ้งมาว่าอากาศไม่ค่อยดี ไม่แนะนำให้ไป
การไปทัวร์แสงเหนือก็เหมือนวัดดวง ถ้าอากาศไม่ดี ทัวร์เห็นว่าไปก็ไม่เห็นแสงเหนือ
เขาก็จะไม่ออกทัวร์ ถึงแม้ว่าอากาศดีก็ไม่การ์รันตีว่าจะเห็นแสงเหนือเหมือนกัน
ดังนั้นถ้าต้องการเห็นแสงเหนือ แนะนำว่าให้เผื่อเวลาไว้หลายวันหน่อย
การจะออกทัวร์นั้น หัวหน้าทัวร์จะตัดสินใจกันวันต่อวัน พรุ่งนี้ค่อยติดต่อทัวร์อีกครั้ง
วันนั้นกลับมาที่ที่พัก พบว่าที่ห้องมีเครื่องซักผ้าให้ด้วย
แต่ไม่มีผงซักฟอก ก็เลยต้องออกไปซื้อ
ระหว่างเดินหาที่พักจำได้ว่าเห็นร้านขายของคล้าย Supermarket ก็เลยกลับไปที่นั่น
จากรูปคือด้านหน้าร้าน
ข้างใน Supermarket มีทั้งของกินของใช้หลายชนิด ผมก็ซื้อทั้งน้ำดื่ม ขนม อาหารต่างๆ
ไปกินที่ห้อง และสิ่งที่สำคัญคือผงซักฟอก ต้องซื้อไปซักผ้า เดินหาอยู่นานก็ไปเจอ
กล่องๆหนึ่งคล้ายๆแฟ้บซักผ้า ก็เลยซื้อมาลองใช้ดู ตอนซื้อมาก็ยังไม่แน่ใจว่า
เป็นผงซักฟอกไหม เพราะข้างกล่องเป็นภาษารัสเซียหมดเลย อ่านไม่ออก
ตรงชั้นวางของของ Supermarket ที่นี่มีแว่นขยายให้ด้วย คงไว้อ่านตัวหนังสือเล็กๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ตั้งใจจะไป Teriberka ที่ตั้งอยู่ริมฝั่ง Barents Sea
ซึ่งอยู่ชายขอบเหนือสุดของรัสเซีย ก็ส่งข้อความไปหาทัวร์ ตอบช้าเหมือนเดิม
เหมือนทัวร์นี้เขาไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ อาจเพราะมีคนน้อยแล้วไม่ค่อยคุ้ม
จนเกือบๆเที่ยงค่อยตอบกลับมาว่า ไปไม่ได้เพราะอากาศไม่ดี
วันนี้ก็เลยต้องเดินเที่ยวในตัวเมือง ระหว่างรอไปดูแสงเหนือตอนกลางคืน
จากรูปเป็นรูปปั้นที่อยู่ข้างทาง ตอนเช้ามืดเขายังเปิดไฟ แต่พอสายๆเขาก็จะปิดไฟ
พอปิดไฟแล้วมืดเลย เพราะ Murmansk ไม่มีแสงแดดเลย ถ้าไม่ดูนาฬิกาก็ไม่รู้ว่า
ตอนไหนแล้ว เพราะมืดเหมือนกัน
เมื่อปิดไฟ ก็ยังมืดเหมือนเดิม
[CR] เที่ยวรัสเซีย 12 วัน #17 (Murmansk)
เมื่อลงจากเครื่องบินก็ต้องขึ้นรถบัสของสนามบินไปที่อาคารผู้โดยสาร
แนะนำให้ใส่เสื้อกันหนาวลงเครื่องด้วยเพราะอากาศข้างนอกหนาวมาก
ถึงแม้จะเป็นระยะสั้นๆระหว่างเรื่องบินกับรถบัสก็ตาม
สนามบินที่ Murmansk เป็นสนามบินไม่ใหญ่มาก หลังจากมาถึงอาคารผู้โดยสาร
ก็มารับของที่โหลดมาใต้เครื่องบิน แล้วก็ออกมาข้างนอก
การเดินทางไปตัวเมือง Murmansk ส่วนใหญ่ถ้าเดินทางสะดวกคือเดินทางโดยเหมา
รถไปหรือแท็กซี่ ซึ่งราคาค่อนข้างสูง ถ้ามีคนไปหลายคนหารกันก็ค่อนข้างคุ้ม
แต่ผมเดินทางคนเดียวก็ไม่ดีเท่าไหร่ ไปอ่านเจอรีวิวมาว่าสามารถโดยสารรถบัสเข้าเมืองได้
จากที่อ่านรีวิวมาป้ายรถบัสอยู่หน้าสนามบินเลย ผมก็เดินๆดู แต่ก็หาไม่เจอ
ก็เลยเข้าไปถามพนักงานข้างในสนามบิน ก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่
เขาก็เลยเดินออกมาส่งข้างนอก แล้วก็ชี้ไปที่ป้ายรถเมล์ ซึ่งก็อยู่ข้างหน้าสนามบินเลย
ซึ่งผมเดินผ่านไปแต่ไม่รู้ว่าเป็นป้ายรถเมล์ จากนั้นผมก็ไปนั่งรอรถบัส ซึ่งไม่มีใครนั่ง
รอที่ป้ายรถบัสเลย สักพักรถบัสก็มา
มีคำถามหนึ่งผุดขึ้นมา แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่ารถบัสคันไหนจะเข้าตัวเมืองได้
หรือไปยังที่พักที่ผมจองไว้ได้ จากในรีวิวบอกว่ารถบัสเล็กสาย 106 ไปได้
แต่ตอนนั้นเห็นรถบัสเล็กวิ่งผ่านมา จำไม่ได้แล้วว่าสายอะไร ผมเลยเดินขึ้นไปถาม
บนรถบัสเลย เดินขึ้นไปตรงประตูก็จะเจอกับคนขับรถบัส
คำถามง่ายๆคือ ก็บอกชื่อที่พักที่ผมจองไว้ไป ไม่ต้องใช้ประโยคภาษาอังกฤษยืดยาว
ถ้ามีรูปก็แสดงให้เขาดู ปรากฎว่าเขาไม่รู้จัก ดังนั้นเราต้องบอกสถานที่ใกล้เคียงที่เขา
น่าจะรู้จักคือ โรงแรม AZIMUT ซึ่งเขาก็รู้จัก ซึ่งรถบัสคันนี้สามารถไปได้
ตอนผมขึ้นไปนั่งบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารเลย ผมคิดว่าน่าจะเป็นสถานีต้นทาง
จากนั้นรถบัสคันนี้ก็วิ่งออกจากสนามบิน ระหว่างทางก็รับผู้โดยสารมาเรื่อยๆ ระหว่างนั่งผมก็เปิด
Google Map ไปด้วยเพื่อดูว่ารถบัสยังอยู่ในเส้นทางที่ผมจะไปไหม ซึ่งก็ยังคง
อยู่ในเส้นทางนั้น
ระหว่างที่นั่งอยู่บนรถบัส ผมก็มองออกไปด้านนอก ซึ่งบรรยากาศข้างนอกนั้นมืดมาก
ตอนนั้นดูนาฬิกาประมาณ 4 โมงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในฤดูหนาว
ถ้าเป็นที่ Saint Petersburg จะไม่มืดขนาดนี้ แต่ที่ผมเห็นตอนนี้เหมือนอยู่กลางดึกเลย
รถบัสค่อยๆแล่นฝ่าความมืดไปตามถนน
การเดินทางโดยเครื่องบินในประเทศรัสเซียครั้งแรก ไปเมืองที่ไม่เคยไปมาก่อนในชีวิต
นั่งรถบัสที่ไม่รู้ว่าจะไปถูกไหม บรรยากาศหนาวเหน็บและมืดครึ้มของด้านนอก
ก็ถือเป็นประสบการณ์ผจญภัยในต่างประเทศที่สนุกไปอีกแบบ
ประมาณอีกเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมารถบัส ก็มาถึงตัวเมือง Murmansk
ซึ่งปัญหายังไม่จบแต่เพียงเท่านั้น
ที่พักที่ผมจองไว้อยู่ใกล้ๆโรงแรม Azimut เป็นห้องพักที่อยู่ใน Apartment
ที่เขาเปิดให้นักท่องเที่ยวพัก ก่อนมาที่ Murmansk ผมก็ส่งข้อความไปบอกที่พัก
ว่าผมจะเดินทางไปในวันพรุ่งนี้นะ ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาว่าเขาเตรียมห้องให้ผม
เสร็จแล้ว ถ้ามาถึงก็เข้าพักได้เลยไม่มีปัญหา ซึ่งก็ไม่คิดว่าน่าจะเกิดเรื่องอะไร
จนมาถึงที่ Murmansk
เมื่อมาถึงผมก็เปิดแผนที่แล้วก็เดินเท้าไปยังที่พัก ก็เดินไปเรื่อยๆ จนมาถึง
ซอยที่มืดและเปลี่ยวซอยหนึ่ง ในแผนที่ระบุว่าที่พักนี้ให้เดินเข้าไปซอยนี้
ซัก 100-200 เมตรก็จะถึง ผมยืนอยู่หน้าปากซอยแต่ไม่กล้าเดินเข้าไป
ซอยนั้นไม่ได้เล็ก เป็นซอยที่มีถนนให้รถขนาดเล็กสวนทางได้ แต่ค่อนข้างมืดมาก
ด้านซ้ายเป็นอาคารธรรมาดาไม่เปิดไฟ แต่ส่วนด้านขวาเหมือนอาคารร้าง
ผมยืนลังเลอยู่หน้าปากซอย อากาศก็หนาวมาก ลมก็พัดมาไม่หยุด ซักพักหนึ่ง
ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากซอย ซึ่งในมือก็อุ้มลูกน้อยมาด้วย ลูกน้อย
ที่เขาอุ้มมา ปกปิดด้วยเครื่องกันหนาวทั้งตัวโพล่มาแค่หน้า แต่ผมมองไม่เห็นหน้าเด็ก
เพราะแถวนั้นค่อนข้างมืด แต่ดูจากขนาดเด็กแล้วอายุไม่น่าจะเกิน 1 ปี
แถวนั้นไม่มีใครเดินผ่านมาเลย ผมก็เลยเดินเข้าไปถามชายคนนั้น
ผมก็เปิดรูปและชื่อที่พักให้เขาดู เขามองดูซักพักก็บอกว่าข้างในซอย
ไม่มีชื่อที่พักที่ผมบอก เอาหล่ะซิเป็นเรื่องแล้วไง ชายคนนั้นก็ถามว่ามีเบอร์โทร
ที่พักไหม เดี๋ยวเขาจะโทรไปถามให้ ผมก็หาเบอร์อยู่สักพักและก็กดโทร
แล้วเขาก็คุยให้เป็นภาษารัสเซีย
เมื่อวางสาย เขาก็บอกว่าให้ผมรอยู่ตรงนี้สัก 10-15 นาที แล้วจะมีเจ้าของที่พัก
จะมารับผมไป อีกสักประมาณ 10 นาที แฟนของผู้ชายคนนี้ก็มาแล้วก็เดินจากไป
ตอนนี้ก็เหลือผมคนเดียวอยู่หน้าปากซอย นานๆจะมีคนเดินผ่านซอยนี้ซักครั้งหนึ่ง
ผมก็ยืนรอไป ซักพักก็มีรถเก๋งสีดำมาจอดที่หน้าปากซอย
รถที่มาจอดเป็นของเจ้าของที่พัก เขาก็บอกให้ผมขึ้นรถแล้วจะพาไปที่พัก
ผมก็กล้าๆกลัวๆ แต่ก็จำเป็นต้องขึ้นรถไป รถก็มุ่งหน้าไปทางโรงแรม Azimut
แล้วก็ไปจอดที่อาคาร อาคารหนึ่ง
เจ้าของที่พักเป็นคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งมากับลูกเล็กของเขาประมาณ 5 ขวบ
พาผมขึ้นไปยังที่พัก แล้วก็แจ้งกับผมว่าเขาจำเป็นต้องเปลี่ยนที่พักให้ผมเพราะ
ที่พักที่ผมจองไว้เครื่องทำความร้อนเสีย
จากนั้นเขาก็ขอให้ผมไป cancel ที่พักของเขาที่ผมจองไว้ที่ Booking
ตอนแรกผมก็สงสัยเขาว่า ทำไมต้องเจ้าของที่พักพยายามให้ผมไป cancel ที่พักของเขา
มาคิดๆดูเขาคงจะกลัวว่าผมจะไปเขียน comment ว่าเขาใน Booking แน่เลย
จริงๆเขาก็สมควรโดนว่าแหละ เพราะก่อนมาที่ Murmansk ผมก็แจ้งเขาไปแล้ว
ว่าจะมา เขาก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร พอมาถึงก็ไม่มีข้อความใดๆมาบอกผมเลย
ถ้าไม่ได้คนรัสเซียคนนั้นช่วยพูดให้ ป่านนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าจะมีที่พักในคืนนี้ไหม
แต่ห้องที่เขาเปลี่ยนให้ก็ค่อนข้างดูดี ผมก็ยังพอให้อภัยได้ ไม่อยากเรื่องมาก
จากในภาพ ทางขึ้นห้องเป็นประตูทางฝั่งซ้าย
หลังจากที่ลงเครื่องบินมาผมยังไม่ได้กินอะไรเลย ต้องออกไปหาอะไรกินแถวนั้นหน่อย
ที่พักที่เขาเปลี่ยนให้จะอยู่ใกล้โรงแรม Azimut มากกว่าที่เก่า เมื่อเดินออกมา
ก็เห็นห้างๆหนึ่งก็เลยเข้าไปหาอะไรกิน จากรูปเป็นด้านหน้าห้าง
เดินไปเดินมาไม่รู้จะกินอะไร สุดท้ายก็มาจบที่เบอร์เกอร์ง่ายดี
เมื่อกินอิ่มก็เดินสำรวจห้าง ห้างนี้ไม่ใหญ่มากแต่มีหลายชั้น มีขายเสื้อผ้าและของใช้หลายอย่าง
ชุดนี้ 304 rub
จุดประสงค์ที่มา Murmansk ก็คือมาดูแสงเหนือ การมาดูแสงเหนือต้องไปกับทัวร์
เท่านั้น จะจองทัวร์ในเวป หรือจะมาจองที่ Murmansk ก็ได้ ส่วนผมมีจองและติดต่อ
ทัวร์ผ่านเฟสบุ๊ค เขาบอกว่ามาถึง Murmansk แล้วค่อยแจ้งเขาอีกครั้ง
ก่อนมาถึง Murmansk ผมก็ติดต่อไปยังทัวร์ที่ผมจองไว้แล้ว แต่เขาตอบกลับมาช้ามาก
จนผมมาถึง Murmansk ก็ลองติดต่อไปอีก คราวนี้เงียบหายไปเลย ไม่รู้จะทำไงต่อดี
ก็เลยลองไปถามที่โรงแรม azimut
ไปถึงก็ถามพนักงานโรงแรมว่ามีทัวร์ที่ไป Murmansk ไหม เขาก็ติดต่อให้
ซึ่งมี แต่ทัวร์เต็มแล้ว ก็นั่งงงๆอยู่ที่ Lobby โรงแรม ไม่รู้จะไปไหนต่อดี
ระหว่างนั่งอยู่ก็ได้ยินเสียงคนพูดภาษาไทย ผมจึงเข้าไปทักทาย ได้ความว่า
เขาก็มาดูแสงเหนือเหมือนกัน ก็ติดต่อไว้กับทัวร์หลายเจ้า ถ้าผมไปด้วยก็จะดีมาก
ค่าทัวร์ก็จะลดลง ตอนแรกเขามี 2 คน ถ้ารวมผมด้วยก็ 3 คน แต่สุดท้ายวันนั้น
ก็ไม่ได้ไปดูแสงเหนือ เพราะหลายๆทัวร์แจ้งมาว่าอากาศไม่ค่อยดี ไม่แนะนำให้ไป
การไปทัวร์แสงเหนือก็เหมือนวัดดวง ถ้าอากาศไม่ดี ทัวร์เห็นว่าไปก็ไม่เห็นแสงเหนือ
เขาก็จะไม่ออกทัวร์ ถึงแม้ว่าอากาศดีก็ไม่การ์รันตีว่าจะเห็นแสงเหนือเหมือนกัน
ดังนั้นถ้าต้องการเห็นแสงเหนือ แนะนำว่าให้เผื่อเวลาไว้หลายวันหน่อย
การจะออกทัวร์นั้น หัวหน้าทัวร์จะตัดสินใจกันวันต่อวัน พรุ่งนี้ค่อยติดต่อทัวร์อีกครั้ง
วันนั้นกลับมาที่ที่พัก พบว่าที่ห้องมีเครื่องซักผ้าให้ด้วย
แต่ไม่มีผงซักฟอก ก็เลยต้องออกไปซื้อ
ระหว่างเดินหาที่พักจำได้ว่าเห็นร้านขายของคล้าย Supermarket ก็เลยกลับไปที่นั่น
จากรูปคือด้านหน้าร้าน
ข้างใน Supermarket มีทั้งของกินของใช้หลายชนิด ผมก็ซื้อทั้งน้ำดื่ม ขนม อาหารต่างๆ
ไปกินที่ห้อง และสิ่งที่สำคัญคือผงซักฟอก ต้องซื้อไปซักผ้า เดินหาอยู่นานก็ไปเจอ
กล่องๆหนึ่งคล้ายๆแฟ้บซักผ้า ก็เลยซื้อมาลองใช้ดู ตอนซื้อมาก็ยังไม่แน่ใจว่า
เป็นผงซักฟอกไหม เพราะข้างกล่องเป็นภาษารัสเซียหมดเลย อ่านไม่ออก
ตรงชั้นวางของของ Supermarket ที่นี่มีแว่นขยายให้ด้วย คงไว้อ่านตัวหนังสือเล็กๆ
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ตั้งใจจะไป Teriberka ที่ตั้งอยู่ริมฝั่ง Barents Sea
ซึ่งอยู่ชายขอบเหนือสุดของรัสเซีย ก็ส่งข้อความไปหาทัวร์ ตอบช้าเหมือนเดิม
เหมือนทัวร์นี้เขาไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่ อาจเพราะมีคนน้อยแล้วไม่ค่อยคุ้ม
จนเกือบๆเที่ยงค่อยตอบกลับมาว่า ไปไม่ได้เพราะอากาศไม่ดี
วันนี้ก็เลยต้องเดินเที่ยวในตัวเมือง ระหว่างรอไปดูแสงเหนือตอนกลางคืน
จากรูปเป็นรูปปั้นที่อยู่ข้างทาง ตอนเช้ามืดเขายังเปิดไฟ แต่พอสายๆเขาก็จะปิดไฟ
พอปิดไฟแล้วมืดเลย เพราะ Murmansk ไม่มีแสงแดดเลย ถ้าไม่ดูนาฬิกาก็ไม่รู้ว่า
ตอนไหนแล้ว เพราะมืดเหมือนกัน
เมื่อปิดไฟ ก็ยังมืดเหมือนเดิม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้