[CR] ~~ “ดูแสงเหนือ ใต้คำว่าไม่ต้องขอวีซ่า มันจะสวยเบอร์ไหน” ~~ [รูปเยอะ]

~~ “ดูแสงเหนือ ใต้คำว่าไม่ต้องขอวีซ่า มันจะสวยเบอร์ไหน” ~~


สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก ยืมAccountเพื่อนมาใช้ เพราะสมัครของตัวเองแล้ว รอการยืนยันไอดีอยู่ รอไม่ไหวเลยยืมเพื่อนมาก่อน



ตอนนี้เมื่อเอ่ยถึง “แสงเหนือ” คงจะไม่มีใครไม่รู้จัก มันอาจเป็นทริปในฝันของใครหลายๆคนเลย เราก็เหมือนกันมีความฝันอยากไปเห็นแสงเหนือกับตาตัวเอง ทริปนี้จึงบังเกิดแบบกะทันหัน เรามีเวลาในการเตรียมตัว 2 อาทิตย์ เพราะช่วงเลาที่เหมาะกับการดูแสงเหนือคือเดือน ตค.- มีค. เราคิดทริปกันตอนกลางเดือนกุมภา และแพลนว่าจะไป 8-17 มีค. เราคิดว่าน่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด เราจึงมีเวลาเตรียมตัวกัน 2 อาทิตย์ ครั้นจะไปขอวีซ่าไปไอซ์แลนด์ หรือประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ก็คงกินเวลาไปเป็นอาทิตย์ 2 อาทิตย์ เราเลยกูเกิ้ลสิค่ะ หาๆๆๆๆๆ ประเทศที่มีแสงเหนือ เปิดแผนที่โลกประกอบด้วย สุดท้ายก็เจอเมืองนี้ค่ะ


MURMANSK


Murmansk  (เมอร์มรังส์ หรือ มูร์มรังส์) เป็นเมืองท่า ตั้งอยู่ในเขต Arctic Circle  ภายในคาบสมุทรโคล่า ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย ทางด้านทิศเหนือติดกับประเทศนอร์เวย์ ทางด้านทิศตะวันตกติดกับ ประเทศฟินแลนด์ และถ้าเดินทางด้วยรถยนต์ จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก็จะถึงชายแดนของนอร์เวย์ และฟินแลนด์ ซึ่งดูตามหลักลองติจูด ละติจูดแล้ว มันก็น่าจะเห็นแสงเหนือเหมือนกัน

แผนที่ตั้งของ Murmansk


พอได้ขอมูลเกี่ยวกับเมืองนี้พอสมควร เราก็พยายามหารีวิวเกี่ยวกับแสงเหนือที่เมืองนี้ หาทั้งภาษาไทย ภาษาอังกฤษ แต่ก็มีน้อยมาก
จนสุดท้ายหาไปหามา เจอเว็บศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวของเมืองนี้ ในเว็บก็มีรายชื่อบริษัททัวร์หลายๆแห่ง      
เราติดต่อไปขอโปรแกรมเกี่ยวกับทัวร์แสงเหนือประมาณ 3-4 บริษัท สุดท้ายเลยเลือกทัวร์ชื่อ V-leto เราคุยรายละเอียดกันผ่าน Skype
ทำให้ได้ข้อมูลเยอะมาก แต่คนรัสเซียพูดอังกฤษไม่เก่ง กว่าจะเข้าใจกันก็นานอยู่ สุดท้ายก็ตกลงค่าใช้จ่าย นัดวันเวลาที่จะไปถึง      

ตอนแรกเค้าจะให้เรามัดจำค่าทัวร์ 10% แต่การโอนเงินมันยุ่งยาก เราเลยบอกเค้าขอเป็นส่งหน้า booking ตั๋วเครื่องบินกับหน้าพาสปอร์ตไปให้เค้าแทน
เค้าก็โอเค ที่พวกเราตัดสินใจซื้อทัวร์ท้องถิ่น เพราะคนรัสเซียพูดอังกฤษได้น้อยมาก มันเป็นอุปสรรคอย่างแรกเลยถ้าจะไปเที่ยวกันเอง ทำให้กลัวว่าจะไปไม่ถึงแสงเหนือ

บรรยากาศเมือง Murmansk



ทริปนี้เราไปกัน 3 คน เรา แฟน และน้องสาวเรา ขอลงรายละเอียดทริปคร่าวๆเลยละกันนะ

เราแพลนเที่ยว ทั้งหมด 3 เมืองคือ เมอร์มรังส์ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และมอสโค

วันที่1 กรุงเทพ-มอสโค นอนมอสโค 1 คืน
วันที่2 มอสโค-เมอร์มรังส์ : City tour
วันที่3 เมอร์มรังส์ : Sami Village, Husky Farm
วันที่4 เมอร์มรังส์ : Snowmobile, Ski
วันที่5 เมอร์มรังส์ - เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
วันที่6 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก : Peterhof Palace, Peter and Paul Fortress, Savior on the Spilled Blood
วันที่7 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก : Catherine Palace, St. Issac Catherdral, Kazan Cathedral
วันที่8 เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก - มอสโค : Hermitage Palace
วันที่9 มอสโค : Red Square, Kremlin Palace, St.Basil’s Cathedral, Arbat St. and City Tour
วันที่10 มอสโค - กรุงเทพ : Gum

ในรีวิวนี้เราขอรีวิวแค่เมอร์มรังส์นะ เพราะเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก กับ มอสโค มีคนเขียนรีวิวไว้เยอะแล้ว      แล้วก็ส่วนพวกวิชาการการเกิดแสงเหนือ
หรือทฤษฎีต่างๆขอไม่พูดถึง อันนั้นก็หาอ่านได้ง่ายๆ เพราะการเกิดแสงเหมือนกันทั่วโลก
ขอเป็นรีวิวแนะนำสถานทีใหม่ในการดูแสงเหนือละกัน เผื่อไว้ เป็นตัวเลือกให้คนที่จัดทริปกะทันหัน ขอวีซ่าไม่ทัน หรือขี้เกียจขอวีซ่า
เวิ่นมานาน เริ่มทริปกันเลย.......

วันแรก Bkk – Moscow

  ทริปนี้เราใช้บิน Aeroflot ตลอดค่ะ เป็นสายการบินประชาติของรัสเซีย ตอนแรกจะนั่งการบินไทย แต่ว่าการบินไทยไม่มีบินไปรัสเซียละ ยกเลิกทุกเที่ยวบิน เหลือแค่ Aeroflot  เท่านั้นที่บินตรง แต่ก็มีสายการบินอื่นที่ไปรัสเซียเหมือนกัน แต่ต้องเปลี่ยนเครื่อง พวกเราเห็นว่าเสียเวลา เลยเลือกบินตรงดีกว่า

เราออกจากสุวรรณภูมิ 10.15 ถึงมอสโค 16.00 เวลาที่รัสเซียช้ากว่าไทย 4 ชม. แนะนำว่าควรจะมาลงที่มอสโคนะค่ะ เพราะเราต้องต่อเครื่องไปเมอร์มรังส์ที่นี่ สนามบินชื่อ Sheremetyevo (SVO) อ่านยากใช่มะ เราก็อ่านไม่ถูกสักที เที่ยวบินของ Aeroflot ที่เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศจะลงที่ Terminal F
ครั้งนี้ก็เราก็ลงที่นี่ พอรับกระเป๋าเสร็จก็ออกมาซื้อซิม เราเลือกใช้ Megaphone สัญลักษณ์สีเขียว มีบูทขายซิมอยู่ตรงกลางโซนที่เป็นพวกร้านอาหารเลย หลังจากซื้อซิมเสร็จก็นั่ง Shuttle bus ไปโรงแรม เราจะนอนแถวสนามบิน 1 คืน เพราะพรุ่งนี้ต้องมาเชคอินตอน 6 โมงเช้า เรานอนกันที่ Sheraton เพราะมี ห้องขนาดใหญ่ นอน 3 คนได้ โรงแรมอื่นห้องจะเล็กๆ หลังจากเข้าโรงแรมเสร็จก็หาไรกินกันแล้วก็เข้านอน  

**ถ้าใครอยากเข้าไปเที่ยวในเมืองก็ได้ นั่ง Aero Express ไปประมาณ 30 นาที  ค่าตั๋วไป - กลับ 900 rub รถไฟออกทุกครึ่งชั่วโมง

นางแบบประจำทริป



วันที่2 Moscow - Murmansk

    เราตื่นกันตั้งแต่ ตี 4.30 ออกจากโรงแรมมาเชคอินได้ตอน 6.30 เชคอินเสร็จก็หาอะไรรองท้องหน่อย เครื่องออก 7.15 ยังพอมีเวลาเหลือ
ถึงเวลาก็เข้าเกทไปรอขึ้นเครื่อง เราใช้เวลาบินประมาณ 2.30 ชั่วโมง ก็ถึงเมอร์มรังส์ วิวก่อนเครื่องลงสวยมากกกกกกกก ทุกอย่างเป็นสีขาวไปหมด
ตื่นเต้นกันใหญ่ สนามบินที่นี่เล็กๆ ไม่มีงวงช้างให้เราเดินเข้า เครื่องบินจอดกลางรันเวย์ให้เราเดินเข้าอาคารเอง อาคารก็มีอยู่ 2-3 ตึก เตี้ยๆ 2-3 ชั้น

สนามบินเล็กๆ เตี้ยๆ



เราต้องเดินลงจากเครื่องแล้วเดินเข้าตัวอาคาร ลมแรงมากกก ดูจากหน้านางแบบ



ระหว่างเดินเข้าอาคารก็มีตำรวจเรียกไปดูพาสปอร์ต แล้วก็บอกให้เราไปรอรับกระเป๋า ระหว่างรอกระเป๋าตำรวจก็ดูพาสปอร์ตเราทุกหน้า ทุกเล่ม
ตอนนั้นคิดว่า จะถามไรถามมา ถามให้ถูกนะ กรูฟังรัสเซียไม่รู้เรื่องนะโว้ยย อังกฤษนะจ่ะ 55555
หลังจากได้กระเป๋าเค้าก็พาเราเดินไปอีกอาคาร เหมือนเป็นห้องตรวจคนเข้าเมือง ตอนนั้นเราคิดได้ว่าเจ้าของบริษัททัวร์เค้ามารอรับ เลยให้แฟนโทรไปบอกว่า เราถึงแล้ว แต่โดน ตม. เรียกตัวไว้   ไม่ถึง 3 นาที เจ้าของทัวร์ก็เดินเข้ามา แนะนำตัว เค้าชื่อ Oleg แนะนำตัว เชรคแฮนด์เรียบร้อย เค้าก็เข้าไปคุยกะ ตม. ให้ว่าพวกเราเป็นลูกทัวร์ของเค้า มาเที่ยว เค้าเป็นผู้รับชอบพวกเราเองถ้าเกิดอะไรขึ้น

ตม. เค้าก็โอเค แต่ขอถ่ายพาสปอร์ตไว้ทุกหน้า ย้ำ!!!! ทุกหน้าที่มี การประทับตรา เคยไปประเทศชาติไหนมาบ้าง เอาหมด เราเลยถาม Oleg ว่าทำไมต้องตรวจขนาดนี้ เค้าบอกว่าไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเมืองนี้ เราก็คิดกรูหน้าแปลก ไม่มีดั้ง หน้าเอเชีย หัวดำ เค้าเลยกลัวเราจะหนีเข้า ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เพราะจากเมืองนี้สามารถนั่งไปแค่ 2 ชม. ข้ามไปง่าย ด่านตรวจน้อย เค้าเลยต้องกันไว้ก่อน เราก็อ่อ!!!!!!!!กลัวหลบหนีออกจากเมือง55555 เราใช้เวลารอประมาณ 1 ชม.  ระหว่างรอก็ถ่ายรูปเครื่องบินไป


ถ่ายจากในอาคาร มันเลยมัวๆ แต่ได้ฟีล


ออกจากสนามบินเรานั่งรถเข้าตัวเมือง ใช้เวลาประมาณ 30นาที ก็ถึงโรงแรม Azimut ตั้งอยู่กลางเมืองเลย เป็นโรงแรมใหม่ ข้างใต้มีซุปเปอร์ สะดวกมาก

ระหว่างเข้าตัวเมือง หิมะหนาเป็นระยะ



หลังจากเก็บกระเป๋าเสร็จ เราก็ไป City tour กัน ที่แรกที่เรา ไปคือ เรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ เรือนี้สามารถแล่นอยู่ในทะเลโดยไม่กลับเข้าฝั่งได้ 2ปี อลังการมาก

เรือตัดน้ำแข็งพลังงานนิวเคลียร์ ลำนี้ชื่อ  Lenin


ภายในเรือ สวยดี มีหลายชั้น มีหลายห้องมาก



ห้องควบคุมเครื่อง จะเห็นว่ามีเด็กเรือควบคุมอยู่


ห้องบังคับการ อยู่บนสุดของเรือ


หลังจากชมประวัติศาสตร์ความขลังของเรือเสร็จ เราก็ไปกินข้าวเที่ยงกันที่ร้านอาหาร ถ้าให้เปรียบก็เหมือน ฟู้ดคอร์ทตามห้าง แต่ไม่ใหญ่เท่า
ให้เราตักอาหารเอง คิดราคาตามน้ำหนักอาหาร ส่วนใหญ่เป็นอาหารพื้นๆ พวก ซุป ขนมปัง ข้าวผัดกับถั่ว ข้าวผัดกับคีนัว สเต๊ก มันบด
สลัด มื้อเที่ยงแบบพื้นเมือง ง่ายๆ รวดเร็วดี กินเสร็จเราไปขึ้นจุดชมวิวของเมือง บนนั้นมีเหมือนป้อมปราการ โบสถ์ออโทด็อกซ์ อนุสาวรีย์ทหารสูงๆ ใหญ่ๆ
ที่ชาวเมืองเชื่อว่าช่วยปกป้องรักษาเมืองนี้ จากด้านบนนี้สามารถมองเห็นวิวได้ทั่วเมือง วิวท่าเรือ ทะเล ภูเขา

จุดชมวิว


ป้อมปราการ


โบสถ์


จุดชมวิว


อนุสาวรีย์ทหาร


หลังจาก City tour เสร็จก็กลับโรงแรมกัน พักหน่อย คืนนี้ยังต้องอยู่กันอีกยาว น้องแสงเหนือ พี่มาหาละจ่ะ เรากินข้าวเย็นกันที่โรงแรม

มื้อเย็นวันแรก

แพนเค้กไส้ไก่กับเห็ด


สเต๊กไก่ไส้ผักโขม


สเต๊กเนื้อ จานนี้ถือว่าเด็ด


จิบไวน์ไปด้วย กลมกล่อมดีนัก


Oleg มารับตอน 3 ทุ่มเพื่อไปดูแสงเหนือ ตอนแรก Oleg บอกว่าวันนี้อากาศไม่ดี เด่วดูก่อนว่าจะไปดีมั้ย
โวยสิค่ะทั้ง 3 คนเลย บอกว่าต่อให้อากาศไม่ดีก็จะไป สุดท้าย Oleg โทรมาบอกว่าฟ้าเริ่มเปิด ก็เลยนัดเวลากัน
อุปกรณ์ในการล่าแสงเหนือในทริปนี้คือ กล้อง Sony A7s, เลนส์ 16-35, ไฟฉายไว้นำทาง และที่ขาดไม่ได้คือ ขาตั้งกล้อง

ถึงเวลาลุยละ.......เราขับรถขึ้นไปทางเหนือ ออกจากเมืองไปประมาณ 20 นาที เราจะไปดูกันบนเขาอีกฝั่งของเมือง
มีสมาชิกมาเพิ่มอีก 4 คน เป็นสาวอังกฤษ พวกนางมาเที่ยวที่นี่อาทิตย์นึงละ บอกว่าตั้งแต่มา ออกมาล่า 2-3 คืน ยังไม่เจอสักคืนเลย
คืนนี้จะเป็นคืนสุดท้ายเลยอยากมาดู ก่อนจะขึ้นเครื่องตอนเที่ยงคืน

เราขับรถขึ้นเขาไปเรื่อยๆ ช่วยกันมองหาดาว เพราะถ้ามีดาวก็สามารถเห็นแสงเหนือได้ พอเจอดาวเรา ก็จอดรถตั้งกล้องกันเลย
คืนนี้ Kp2 ถือว่าไม่แรง และเกือบจะน้อยไปด้วย ประกอบกับมีเมฆ ทำให้เราพวกนักล่ามือใหม่แยกไม่ออกว่า อันไหนคือเมฆ อันไหนคือแสงเหนือ
Olegจะช่วยชี้ทาง ละบอกว่าน่าจะ อยู่ทางนั้น เราก็คอยลั่นชัตเตอร์ไป

ภาพแรกที่ลั่นไป เห็นค่ะ แจ๊กพอตมาก ตื่นเต้นกันสุดๆๆๆ เรียกพวกนาง มาดู นางดีใจตื่นเต้นกันใหญ่ ทุกคนก็พากันถ่ายรูป สักพักเมฆมาเริ่มไม่เห็นดาว
เราก็ขับรถหนีเมฆกัน เจอดาวตรงไหนก็จอด

ภาพแรกที่ลั่นชัตเตอร์ ตื่นเต้นกันใหญ่เลย


พอตั้งสติได้ก็ลั่นออกมาได้แบบนี้ ตอนนั้นดีใจมาก ถือว่าคุ้มแล้ว
[img]http://
ชื่อสินค้า:   แสงเหนือ, Aurora Borealis, Northern Light
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่